ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1933 ตำแหน่งของเสียเทียน
“ ก็ดี” ซื่อเซียวกลัวว่าทุกคนจะเปลี่ยนใจจึงรีบพูดขึ้นมา “ พวกเจ้ารีบจัดแจงตารางของตัวเอง จากนั้นก็ส่งลูกปัดจิตและลูกปัดดั้งเดิมให้กับข้า ข้าจะนำไปให้กับจักรพรรดิคังเฉียง จากนั้นข้าจะให้ร่างแยกของเขาพาพวกเจ้าไปยังทะเลบรรพกาล”
เย่าหยางคิ้วขมวด “ ให้กับเจ้ารึ ? ไม่ใช่ว่าควรจะให้มันกับจักรพรรดิคังเฉียงรึ ?”
“ จักรพรรดิคังเฉียงไม่ได้รู้จักกับพวกเจ้า ข้าต้องติดต่อเขาเอง เขาไว้หน้าข้าจึงใหพวกเจ้าเข้าไปในทะเลบรรพกาล”
ถึงจะสงสัยแต่พวกเขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ยังไงซะหากจักพรรดิคังเฉียงอยู่ในเขตซื่อเซียว ถ้าหากซื่อเซียวไม่ให้พวกเขาเข้าไป งั้นพวกเขาก็ไม่อาจจะได้พบกับจักรพรรดิคังเฉียง
“ งั้นก็ต้องฝากเจ้าด้วย” เย่าหยางพูดขึ้นมา “ ลูกปัดดั้งเดิมและลูกปัดจิตนั้นข้าจะนำมาให้เจ้าโดยเร็วที่สุด”
พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้ล่วงหน้า ดังนั้นจึงไม่ได้เอาลูกปัดดั้งเดิมและลูกปัดจิตติดตัวมาด้วย ลูกปัดดั้งเดิมนั้นไม่ได้มีค่าอะไรมากแต่ลูกปัดจิตนั้นล้ำค่า หากให้ร่างแยกพวกเขาเอามา งั้นมันอาจจะเสี่ยง หากไม่จำเป็นแล้วพวกเขาจะไม่มีทางให้ร่างแยกพกลูกปัดจิตเป็นอันขาด
ไม่นานทุกคนก็แยกย้ายกันออกไปเพื่อเตรียมตัว หวังว่าจะได้ไปพำนักในทะเลบรรพกาล
หลังจากที่พวกนั้นกลับไปแล้ว ซื่อเซียวก็ได้แผ่การรับรู้ไปทั่วโกลาหลก่อนจะปรากฏขึ้นในตึกสูงหลังหนึ่ง
ตึกนี้คือจวนเทพปีศาจ มันคือสำนักงานของทีมเทพปีศาจ
ตอนนั้นเสียเทียนยังนั่งอยู่ในห้องลับ มือของเขาพลิกไปมาตรวจสอบข้อมูลของทีมคังเฉียง เขาคิดไม่ออกว่าทำไมทีมคังเฉียงถึงไม่ร่วมมือกับเขา ต่อหน้าผลประโยชน์ก้อนโตแล้วทีมคังเฉียงไม่สนใจแม้แต่น้อยเลยรึ ?
“ อย่าโทษข้าเมื่อพวกเจ้าไม่ร่วมมือเอง” เสียเทียนหรี่ตาลง การปฏิเสธที่จะร่วมมือกับเขาก็เท่ากับเป็นคู่แข่ง สำหรับคู่แข่งแล้วเสียเทียนไม่มีทางที่จะใจอ่อนให้ แม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจว่าจะเผชิญหน้ากับทีมคังเฉียงได้ แต่เขากับกองทัพทั้งสามก็มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ด้วยเส้นสายที่มี เขาจะสร้างปัญหาให้กับทีมคังเฉียงหรือคอยเอาเปรียบทีมคังเฉียงให้ได้
ตอนที่เสียเทียนกำลังคิดหาทางจัดการกับทีมคังเฉียงอยู่นั้น ห้องลับกลับเปล่งแสงขึ้นมาตามมาด้วยแรงกดดันที่ปกคลุมไปทั่ว
“ เสียเทียน” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากใจกลางแสงนั้น
สีหน้าของเสียเทียนเปลี่ยนไปทันที เขารีบลุกขึ้นยืนและคุกเข่าให้กับแสงนั้น “ จักรพรรดิ !”
แสงนั้นค่อยๆจางไปเผยให้เห็นใบหน้าของซื่อเซียว “ กองทัพสังเกตการณ์ต้องการแม่ทัพคนใหม่ เจ้าอยากรับใช้ข้าในฐานะแม่ทัพของกองทัพสังเกตการณ์รึไม่ ?” ซื่อเซียวถามขึ้น
จากตอนที่จางหยูเอ่ยปากขอ ซื่อเซียวก็ตัดสินใจที่จะทิ้งเก่อเย่ทันที ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหนแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เก่อเย่จะเป็นแม่ทัพของกองสังเกตการณ์ต่อไปได้ ดังนั้นซื่อเซียวจึงต้องมองหาแม่ทัพคนใหม่
และหากมีทางเลือกอื่นซื่อเซียวคงไม่มาหาเสียเทียน เพราะเสียเทียนนั้นเย่อหยิ่งเกินไป แม้ว่าจะแสดงท่าทีเคารพต่อเขาแต่เสียเทียนนั้นมีนิสัยที่เย่อหยิ่งคล้ายกับซุนเหลียนเชิงอยู่ไม่น้อย
โชคร้ายที่ซื่อเซียวไม่มีทางเลือกอื่น ในเขตซื่อเซียวนั้นมีแม่ทัพแค่ 4 คน เมื่อทิ้งเก่อเย่ไปก็มีแค่เสียเทียนเท่านั้น ที่จะมาแทนที่ได้ หากไปเลือกคนจากเขตอื่น ซื่อเซียวอาจจะไม่สบายใจ เมื่อนับองค์ประกอบนี้รวมกันแล้วสุดท้ายซื่อเซียวก็ต้องเลือก เสียเทียนอยู่ดี เมื่อได้ยินที่ซื่อเซียวพูดมา เสียเทียนก็ตื่นเต้นขึ้นมา “ แม่ทัพกองทัพสังเกตการณ์รึ ? จักรพรรดิ ข้าเต็มใจ”
แม้ว่าทีมเทพปีศาจจะไม่ใช่ทีมเล็กๆแต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากองทัพแล้วก็ไม่อาจจะเทียบได้เลย เสียเทียนถึงกับกังวลเรื่องทีมคังเฉียงขึ้นมาทันที เมื่อมีโอกาสได้กลายเป็นแม่ทัพ เขาจะปฏิเสธได้ยังไง ?
การได้เป็นแม่ทัพของกองทัพสังเกตการณ์นั้นจะกลายเป็นหนึ่งในสามคนที่มีอำนาจมากที่สุดในเขตซื่อเซียว ถึงจะไม่ได้ก้าวขึ้นสู่สวรรค์ แต่ฐานะก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เพราะจากตอนที่ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพกองสังเกตการณ์ เขาก็สามารถเผชิญหน้ากับแม่ทัพกองทัพเทียนลั่วและกองทัพซื่อเซียวได้ เขาไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกนั้น แต่ทัดเทียมกับพวกนั้นจริงๆแล้ว
นอกจากอำนาจแล้ว มันอาจจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นไปอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นการเป็นแม่ทัพกองทัพสังเกตการณ์ ก็หมายความว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนโดยจักรพรรดิ เขาไม่ต้องกังวลในเรื่องอันตรายจากแม่ทัพคนอื่น ! นี่คือส่วนที่น่าสนใจที่สุด
เสียเทียนพอใจอย่างมากกับข้อเสนอนี้ !
ซื่อเซียวไม่ได้แปลกใจกับท่าทีของเสียเทียนเลยแม้แต่น้อย เขาแค่พยักหน้า “ หากเช่นนั้นเจ้าก็เตรียมตัว ไม่นานข้าจะประกาศอย่างเป็นทางการ ”
“ นี่..” เสียเทียนลังเลขึ้นมา “ แล้วเก่อเย่ล่ะ ?”
หากเขาขึ้นเป็นแม่ทัพกองทัพสังเกตการณ์แล้วจะเกิดอะไรกับเก่อเย่ที่ดำรงตำแหน่งนี้อยู่ ? เก่อเย่จะแค้นเขารึไม่และคิดว่าเขามาแย่งตำแหน่งของตนหรือไม่ อีกฝ่ายจะรอโอกาสเอาคืนเขารึไม่ ?
เขาไม่ได้กังวลเรื่องเก่อเย่ แต่ห่วงตัวเองมากกว่า หากเก่อเย่แค้นเคืองเขาขึ้นมา เขาก็รู้สึกไม่สบายใจกับตำแหน่งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้จักกับเก่อเย่มากนัก แต่ก็ยังพอรู้จะนิสัยของเก่อเย่ว่าเป็นคนชั่วร้ายและใจแคบขนาดไหน ในทางกลับกันแล้วอำนาจของเก่อเย่ฝังลึกไปทั่วทั้งเมือง แม้ว่าจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ แต่ก็ยังเป็นที่นับถือของหลายคนอยู่
“ เก่อเย่ รึ ?” ซื่อเซียวส่ายหน้า “ หากไม่มีอะไรผิดพลาด เขาคงอยู่ได้ไม่นาน”
เสียเทียนสับสนขึ้นมาทันที เก่อเย่จะตายงั้นรึ ?
หมายความว่ายังไงกัน ?
เก่อเย่ที่ได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิ ใครกันจะกล้าลงมือกับเขาได้ ?
นอกซะจากว่า…เก่อเย่จะไปหาเรื่องจักรพรรดิ!
เสียเทียนกลืนน้ำลาย และไม่กล้าจะถามต่อ เขาไม่สงสัยในคำพูดของซื่อเซียวเลยในตอนนี้ เมื่อซื่อเซียวบอกว่าเก่อเย่ อยู่ได้ไม่นาน งั้นเก่อเย่ก็อาจจะตายในเร็วๆนี้จริงๆ
“ เรื่องเก่อเย่นั้นเจ้าไม่ต้องใส่ใจ เจ้าควรเตรียมตัวให้พร้อม ทันทีที่เก่อเย่ลงจากตำแหน่ง เจ้าก็ขึ้นรับตำแหน่งได้เลย” ซื่อเซียวมองไปที่เสียเทียนก่อนจะพูดขึ้นมาอีกว่า “ ข้าไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก เจ้าแค่ต้องดูแลกองทัพสังเกตการณ์ให้ดีร และอย่าสร้างปัญหาขึ้นมา สำหรับผลงานนั้นข้าไม่ได้เรียกร้องอะไร”
คำพูดนี้ทำให้เกียรติในตัวเสียเทียนลุกฮือขึ้นไปด้วย เขายืดอกแล้วพูดขึ้นมา “ จักรพรรดิ ข้าไม่กล้าบอกว่าข้าเหนือกว่าเก่อเย่ แต่ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง !”
ซื่อเซียวไม่ได้คิดอะไรมาก “ หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
ทันทีที่พูดจบซื่อเซียวก็หายตัวไปทันที
เสียเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆและมองดูจุดที่ซื่อเซียวหายตัวไป ก่อนจะพึมพำออกมา “ จะเกิดอะไรขึ้นกับเก่อเย่กันแน่ ?”
เขาไม่คิดเลยว่าเก่อเย่ที่เป็นคนที่ซื่อเซียวไว้ใจจะโดนยึดตำแหน่งและอาจจะตายในไม่ช้า กบฏรึ ?
เก่อเย่โง่ขนาดนั้นเลยรึ ?
ร่วมมือกับเผ่าสวรรค์รึ ?
เก่อเย่ไม่มีความกล้าเช่นนั้นอย่างแน่นอน
ไม่ว่ายังไงเสียเทียนก็ยังคิดไม่ออกว่าเก่อเย่ไปทำอะไรมา
สักพักเสียเทียนก็ส่ายหน้ากลับไปคึกอีกครั้ง เขาไม่สนใจที่จะคาดเดาในเรื่องนี้ต่อไป ยังไงซะมันก็เป็นเรื่องดีสำหรับเขา เพราะถ้าเก่อเย่ไม่ตายแล้วเขาจะเป็นแม่ทัพคนใหม่ได้รึ ? เขาไม่มีทางที่จะไปอ้อนวอนขอตำแหน่งจากเก่อเย่แน่
เมื่อคิดแบบนั้นเสียเทียนก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมา แม่ทัพกองทัพสังเกตการณ์ !
เมื่อเขารับตำแหน่งนี้ เขาจะกลายเป็นแม่ทัพที่โด่งดังกว่าตอนนี้อย่างมาก เขาจะถือว่ามีหน้ามีตาในหมู่แม่ทัพ แต่เมื่อเทียบกับแม่ทัพของกองทัพเทียนลั่วและกองทัพซื่อเซียวแล้วก็ยังต่างชั้นกันอยู่มาก แต่โชคยังดีที่ช่องว่างนี้กลับลดลง
เสียเทียนไม่อาจจะหุบยิ้มได้ เขาเดินลงมาชั้นล่างและมองไปยังเหล่าลูกน้องก่อนจะพูดขึ้น “ วันนี้ข้าจะเชิญแขกมา”
ทุกคนมองไปที่เสียเทียนด้วยความแปลกใจ พวกเขารู้จักเสียเทียนมานาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเสียเทียน ยิ้มสดใสแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เสียเทียนบอกว่าจะเชิญแขกมา พวกเขาแทบไม่เชื่อว่านี่คือหัวหน้าของพวกเขา