ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1940 ผิดคำพูด
วังซื่อเซียวนั้นมีห้องโถงหลักและตึกเป็นร้อยๆหลังรวมกัน ทั้งวังนั้นดูโอ่อ่าอย่างมาก มันสมกับเป็นที่อยู่ของจักรพรรดิ อิฐแต่ละก้อนราวกับแผ่ความสูงส่งของมันออกมาทำให้ผู้คนเคารพ
ที่ด้านนอกวังนั้นมีทหารกลุ่มหนึ่ง พวกนี้ไม่ใช่ทหารของกองทัพเทียนลั่ว, กองทัพสังเกตการณ์รึกองทัพซื่อเซียวแต่เป็นทหารที่คอยดูแลวังแห่งนี้โดยเฉพาะ
บอกได้ว่าหน้าที่สำคัญที่สุดของทหารเหล่านี้คือต้องดูแลวัง
ภายใต้เงื่อนไขปกติแล้ว วังนี้จะไม่เปิดต้อนรับใคร แม้แต่แม่ทัพทั้งสามก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปในวังแต่แม่ทัพทั้งสามต่างก็ถือว่าเป็นคนของซื่อเซียว หากแม่ทัพทั้งสามคิดจะเข้าไปในวัง งั้นทหารเหล่านี้ก็ไม่คิดที่จะห้าม
จางลู่และคนอื่นๆได้ตรงมาถึงวัง พวกเขาตรงเข้าไปด้านในแต่ทหารด้านนอกไม่มีใครกล้าขวางทางพวกเขาเลยสักคน
ยังไงซะกองทัพสังเกตการณ์ก็อยู่ไม่ห่างจากที่นี่นัก พวกเขาได้เห็นทีมคังเฉียงฆ่าเก่อเย่มากับตาตัวเองแล้ว ดังนั้นพวกเขาจะกล้าขว้างทางพวกนี้ได้อย่างไร ?
ตอนนั้นนอกซะจากว่าซื่อเซียวจะออกคำสั่งแล้ว ไม่งั้นแล้วทั้งเขตซื่อเซียวก็เดาว่าคงมีใครกล้าห้ามทีมคังเฉียงไม่ให้เข้าไป ในอีกความหมายคือทั้งเขตซื่อเซียวนั้น ทีมคังเฉียงเข้าถึงได้ทุกที่ แม้แต่สำนักงานของกองทัพซื่อเซียวและกองทัพเทียนลั่วก็เช่นกัน
วังซื่อเซียวนี้มีคลื่นพลังของซื่อเซียวแฝงอยู่การรับรู้นั้นจึงโดนจำกัด จางลู่และคนอื่นๆเดินวนไปรอบๆวังเพื่อตรวจสอบทุกที่แต่ก็ไม่พบอะไร จนกระทั่งพวกเขาเข้ามาถึงห้องโถงหลังสุดท้าย พวกเขาก็พบบางอย่าง
ใจกลางห้องโถงแห่งนี้มีรูปปั้นขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มันสูงประมาณ 30 ฟุตราวกับรูปปั้นยักษ์ รูปร่างของมันเหมือนกับซื่อเซียว และมีคลื่นพลังของซื่อเซียวแผ่ออกมา มันทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่าจักรพรรดิมาอยู่ที่นี่จริงๆ คนทั่วไปคงไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองรูปปั้นนี้ แต่ด้านหลังรูปปั้นมีลำแสงส่องประกายขึ้นมา มันเป็นกล่องยาววางเอาไว้ รูปร่างคล้ายกับกล่องดาบเพราะมีรูปปั้นบังเอาไว้ ทหารจึงไม่อาจจะเห็นมันได้
“ น่าจะเป็นของชิ้นนี้” จางลู่พลิกฝ่ามือก่อนจะมีพลังสูบดึงเอากล่องกระบี่เข้ามาหา
กล่องกระบี่นี้รูปร่างแปลกประหลาด มันรูปร่างคล้ายกับด้ามกระบี่และแผ่พลังผันผวนออกมาแต่มันก็ถูกยับยั้งไว้โดยพลังของซื่อเซียว ดังนั้นจึงยากที่จะตรวจจับพลังของมันได้
พวกเขาไม่ได้ดีใจรึเสียใจแม้แต่น้อยและยังสามารถรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้อยุ่
ความว่างเปล่าจับกล่องกระบี่ขึ้นมาโคจรพลังบรรพกาลเข้าไปเพื่อหวังว่าจะทำลายกล่องกระบี่แต่มันกลับทำอะไรกล่องกระบี่ไม่ได้เลย
“ กล่องกระบี่นี่เป็นของซุนเหลียนเชิง”ความว่างเปล่าพูดขึ้น “ ภารกิจที่ร่างหลักมอบให้กับเราเสร็จสิ้นแล้ว”
แทนที่จะเอากล่องกระบี่นี่ไป พวกเขากลับเปิดวังวนขึ้นมาในห้องโถงและส่งกล่องกระบี่เข้าไปในทะเลบรรพกาล
สำหรับว่าจางหยูจะทำอะไรกับกล่องกระบี่นี้ต่อไป พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจแล้ว
หลังจากที่ส่งกล่องกระบี่เข้าไปในทะเลบรรพกาลแล้ว จางลู่ก็ได้บิดขี้เกียจทันที “ สุดท้ายก็เสร็จภารกิจสักที !”
คนอื่นๆเองก็โล่งอกเช่นกัน
“ เราโชคดีจริงๆ” ความว่างเปล่าหัวเราะออกมา “ ก่อนหน้านี้เราคิดจะใช้ซุนหยานล่อเก่อเย่เข้าไปในวังวนเพื่อเค้นเอาข้อมูล แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเราจะคิดมากเกินไป …”
“ ต้องขอบคุณอู๋ห่าว คนสนิทของเก่อเย่ด้วย “ เซียนกระบี่พเนจรพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
เก่อเย่คงไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่หักหลังเขาจะเป็นคนที่เขาเชื่อใจมากที่สุด ไม่ใช่กวนเหรินรึลั่วเซียง
ถึงจะฉลาดแค่ไหนก็ต้องมีส่วนที่พลาดกันบ้าง เก่อเย่คิดว่าซ่อนกล่องกระบี่ไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่สุดแล้วแต่จากคำพูดของอู๋ห่าวก็ทำให้จางลู่และคนอื่นๆพบกล่องกระบี่ได้ มันเป็นการประหยัดแรงและเวลาสำหรับพวกเขาอย่างมากที่ไม่ต้องค้นหาทั่วทั้งเขต
จางลู่และคนอื่นๆพากันหัวเราะออกมาและเดินออกมาจากห้องโถงหลัก
พวกเขาไม่มีอะไรที่ต้องทำแล้วจึงรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก
เมื่อมาถึงซากโถงของกองทัพสังเกตการณ์พวกเขาก็พบกับคนคุ้นหน้า…เสียเทียน
ก่อนหน้านี้ซื่อเซียวได้ประกาศให้เสียเทียนเป็นแม่ทัพกองทัพสังเกตการณ์ แต่ไม่คิดเลยว่าเสียเทียนจะมาเร็วแบบนี้
ตอนนั้นเสียเทียนสั่งการให้คนจัดการกับซากปรักหักพังและติดต่อช่างเพื่อสร้างโถงกองทัพสังเกตการณ์ขึ้นมาใหม่
“ เจ้าสำนัก” เมื่อเห็นจางลู่และคนอื่นๆ เสียเทียนก็ตัวสั่นและรีบฝืนยิ้มออกมาทักทาย
เขาได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นที่แล้ว เขาเคยมีเรื่องไม่พอใจกับทีมคังเฉียง และเคยหาเรื่องทีมคังเฉียงมาก่อน
แต่ตอนนี้เขาไม่อยากได้ตำแหน่งแม่ทัพแล้วโดนสังหารแบบเก่อเย่
“ ยินดีด้วย แม่ทัพเสียเทียน แม่ทัพคนใหม่ !” ความว่างเปล่ายิ้มออกมา แม้ว่าจะไม่ได้สนิทกับเสียเทียนนักแต่พวกเขาก็ยังแสดงความยินดีกับอีกฝ่ายอยู่
“ ต่อหน้าเจ้าสำนักแล้ว ข้าจะดีใจได้ยังไงกับตำแหน่งนี้ ?” เสียเทียนถ่อมตัวอย่างมาก
เขาไม่ได้โง่ จักรพรรดิปลดเก่อเย่ออกจากตำแหน่งก็เพราะทีมคังเฉียงต้องการจะฆ่าเก่อเย่ หากบอกว่าการที่เก่อเย่ โดนปลดไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทีมคังเฉียงแล้วใครกันจะเชื่อ ?
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทีมคังเฉียงกล่อมจักรพรรดิได้ยังไง แต่แน่นอนว่าหากทีมคังเฉียงคิดจะจัดการกับเขาแล้ว งั้นก็คงง่ายกว่าจัดการกับเก่อเย่เสียอีก
จางลู่และคนอื่นๆจำตอนที่พบกับเสียเทียนที่หมู่บ้านเสี่ยวอันได้ ท่าทีของเสียเทียนในตอนนั้นไม่ได้สุภาพเช่นนี้ แต่ตอนนี้เสียเทียนกลับดูถ่อมตัวอย่างมากราวกับเป็นคนละคน
“ เจ้าจัดการธุระตัวเองต่อเถอะ แม่ทัพเสียเทียน เราไม่รบกวนแล้ว” เมื่อเห็นโถงกองทัพสังเกตการณ์ที่กลายเป็นซาก จางลู่ก็กระแอมออกมาและโบกมือลา
เมื่อเห็นจางลู่และคนอื่นๆเดินทางออกไป เสียเทียนก็ได้แต่ส่ายหน้า ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าการที่เขาได้ตำแหน่งนี้มาเป็นเพราะทีมคังเฉียง บอกได้ว่าทีมคังเฉียงเป็นคนมอบตำแหน่งนี้ให้เขาก็ว่าได้ ไม่งั้นแล้วถึงจะบ่มเพาะไปอีกล้านล้านปีแต่ก็อาจจะทัดเทียมกับเก่อเย่ได้เป็นแน่
สักพักเสียเทียนก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะหันกลับไปบอกทุกคน “ หลังจากนี้ห้ามหาเรื่องทีมคังเฉียงเด็ดขาด”
เขาไม่อยากเป็นแบบเดียวกับเก่อเย่
ความรุ่งโรจน์ของเขาเพิ่งจะเริ่มต้น
…
ที่โถงกองทัพเทียนลั่ว
เมื่อข่าวเรื่องโถงกองทัพสังเกตการณ์ส่งมาถึงโถงกองทัพเทียนลั่ว ซูจิงก็ยากจะทำใจเชื่อได้ “ เก่อเย่ตายแล้วรึ ? เขาโดนฆ่าโดยลูกหลานของข้างั้นรึ ?”
ซุนหยาน, ซุนเหมิง และซุนวูแก้แค้นให้กับซุนเหลียนเชิงและพี่สาวเขาได้แล้ว !
เขากลัวว่าข่าวนี้จะผิดพลาด เขาได้มุ่งหน้าไปที่เมืองซื่อเซียว เมื่อไปถึงโถงกองทัพสังเกตการณ์และเห็นซากปรักหักพัง ซูจิงก็มั่นใจว่าข่าวนี้เป็นความจริง เก่อเย่ได้ตายไปแล้วจริงๆ ! “ ท่านพี่ เจ้าเห็นรึไม่ ?” ซูจิงตาแดงก่ำและพึมพำออกมา “ คนที่ฆ่าเจ้าโดนกำจัดไปแล้ว ลูกหลานของเจ้าได้เติบโตขึ้นมา พี่ พี่เขย พวกเจ้าเห็นรึไม่ ?”
…..
ที่มิติด้านนอกเขตซื่อเซียว
หลังจากที่ประกาศปลดเก่อเย่ออกจากตำแหน่ง ซื่อเซียวก็ได้สนใจเรื่องโถงกองทัพสังเกตการณ์อีก เขาคิดหวังว่า เย่าหยาง, หว่านเกอและอู่หมิงจะมาถึงเมื่อไหร่ นอกจากนี้แล้วร่างแยกของเขาก็ได้ออกจากเขตซื่อเซียวไปยังดินแดนของฉิวหวัง เพราะฉิวหวังรับปากกับเขาไว้ว่าจะคืนลูกปัดจิต 5 ลูกให้ และตอนนี้ก็ได้เวลาไปเอาลูกปัดจิตกลับคืนมาแล้ว
เย่าหยางและคนอื่นๆยังมากันไม่ถึง ซื่อเซียวก็ได้รับข่าวร้ายจากร่างแยกของเขาทันที
ร่างแยกของเขาตอนนี้ไม่อาจจะพบตัวฉิวหวัง เพราะฉิวหวังเหมือนจะหลบหน้าเขาอยู่ ! “ ฉิวหวัง!” ร่างแยกของซื่อเซียวตะโกนขึ้นมา “ ออกมา !”
ทุกอย่างเงียบสนิทราวกับไม่มีใครอยู่
ซื่อเซียวคิ้วขมวดและตะโกนขึ้นอีกรอบ “ จักรพรรดิเผ่าสวรรค์เชื่อถือไม่ได้รึ ? เจ้าคิดจะทำอะไร ฉิวหวัง?” เขามีลางสังหรณ์ว่าฉิวหวังน่าจะผิดคำพูด
เมื่อเห็นว่าฉิวหวังไม่ตอบกลับ ซื่อเซียวก็แสดงสีหน้าเย็นชาออกมา “ เจ้าต้องให้ข้าลงมือก่อนรึถึงจะยอมออกมา ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นสุดท้ายก็มีการเคลื่อนไหวในภูเขาเกิดขึ้น จากนั้นเสียงของฉิวหวังก็ค่อยๆดังขึ้นมา “ ลูกปัดจิตนั้น ข้าจะคืนให้เจ้าภายหลัง…เจ้ากลับไปก่อน”
“ ข้ามาถึงแล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะยอมกลับไปมือเปล่ารึไง ?” ซื่อเซียวพูดขึ้น “ รีบออกมา !”
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ฉิวหวังก็ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นมาและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเฉยเมย“ เมื่อข้าเก็บลูกปัดจิตได้มากพอ ข้าจะคืนให้กับเจ้า” เขาไม่อยากเสียหน้าให้ซื่อเซียว ยังไงซะตอนนี้เขาอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากซื่อเซียวอยู่ เขาไม่อาจจะปล่อยให้ซื่อเซียวไปร่วมมือกับจักรพรรดิคังเฉียงได้
ซื่อเซียวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ เจ้า !”
ฉิวหวังสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น “ จักรพรรดิคังเฉียงได้ทำลายร่างแยกของข้า ข้าต้องดูดซับลูกปัดจิตเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ …แต่เมื่อข้าตกลงกับเจ้าว่าจะคืนลูกปัดจิตให้ แน่นอนว่าข้าจะไม่ผิดคำพูดแต่แค่อาจจะล่าช้ากว่าเดิมไปบ้าง”