ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1950 เรื่องน่าสงสัย
การเปลี่ยนเรื่องของฉิวหวังใช้ได้ผล จักรพรรดิหลายคนได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้สนใจเรื่องทีมคังเฉียงอีก พวกเขากังวลเรื่องจักรพรรดิมนุษย์ว่าอยู่ที่ไหนมากกว่า พวกนั้นกำลังวางแผนอะไรกันอยู่ ?
แม้ว่าทะเลโกลาหลจะกว้างใหญ่แต่ยังไงซะก็มีขอบเขต ทั้งทะเลโกลาหลถูกแบ่งให้กับจักรพรรดิทั้ง 9 คน ในแต่ละเขตต่างก็มีคนปกครองอยู่ การที่จักรพรรดิมนุษย์ได้ออกจากมิติลับของตัวเองออกมาไม่ได้โผล่มายังพื้นที่ของพวกเขาแล้วไปที่ไหนกัน ?
มันมีที่เดียวที่พวกเขาคิดออกนั่นก็คือแก่นกำเนิด
มีแค่แก่นกำเนิดเท่านั้นที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของจักรพรรดิ
“ พวกนั้นไปที่แก่นกำเนิดรึไม่ ?” จักรพรรดิคนหนึ่งพูดขึ้นมา “ พวกนั้นไม่น่าจะกล้าพอไม่ใช่รึ ?” จักรพรรดิอีกคนคิ้วขมวด “ ด้วยการที่มีจักรพรรดิกุยหลิงอยู่ แม้ว่าพวกนั้นจะกล้าเข้าไปในแก่นกำเนิดแต่จักรพรรดิกุยหลิงก็เข้าไปได้เช่นกัน…หากพวกนั้นกล้ากันจริงๆแล้ว งั้นก็ยากที่จะปกปิดคลื่นพลังของตัวเองได้ เมื่อโดนจักรพรรดิกุยหลิงหมายหัว งั้นก็มีโอกาสน้อยนิดที่จะรอด พวกนั้นจะยอมเสี่ยงแบบนั้นรึ ?”
ต้องรู้ก่อนว่าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์นั้นกลัวที่จะเข้าไปในแก่นกำเนิดด้วยร่างหลัก
“ เรามาจากแก่นกำเนิด หากพวกนั้นอยู่ในแก่นกำเนิดจริงๆ งั้นเราก็น่าจะรับรู้ได้…”
พวกเขาติดต่อกันตลอดเวลา แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอกว่าจักรพรรดิมนุษย์แต่การรับรู้นั้นกว้างกว่าจักรพรรดิมนุษย์
“ แปลก ไม่ได้อยู่ในทะเลโกลาหล ไม่ได้อยู่ในแก่นกำเนิด แล้วพวกนั้นไปที่ไหนกัน ? มันมีที่ที่เราไม่รู้อยู่อีกรึ ?”
“ พวกนั้นคงซ่อนอยู่สักที่ในทะเลโกลาหลแต่เราแค่ยังหาไม่พบ ยกตัวอย่างเช่นโกลาหลของจ้าวโกลาหล หากพวกนั้นซ่อนอยู่ด้านใน งั้นข้าเกรงว่าคงไม่มีใครหาพวกนั้นพบ…”
“ พวกนั้นไม่กล้าเข้าไปในแก่นกำเนิดแต่กล้าปรากฏตัวในทะเลโกลาหลรึ?”
ต้องรู้ก่อนว่าทะเลโกลาหลนั้นอันตรายยิ่งกว่าแก่นกำเนิดเสียอีก เพราะมีจักรพรรดิกุยหลิงซ่อนตัวในทะเลโกลาหล
จักรพรรดิคนหนึ่งพูดขึ้น “ บางทีพวกนั้นอาจจะเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้เพื่อลูกปัดจิต”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันอึ้ง
“ การต่อสู้ของจิตกินเวลาแค่ไม่กี่ล้านปี ตอนนี้เราต้องหาทางฝึกฝนแม่ทัพเพื่อเพิ่มความได้เปรียบ เดาว่าพวกนั้นเองก็คิดจะทำแบบนั้นเช่นกัน บางทีการที่พวกนั้นหายตัวไปอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ได้” จักรพรรดิคนหนึ่งพูดขึ้น “ บางทีทีมคังเฉียงอาจจะเป็นทีมที่พวกเขาแอบบ่มเพาะขึ้นมา เป้าหมายของพวกเขาคือลูกปัดจิต”
“ ทีมคังเฉียงถูกฝึกขึ้นมาเพื่อแข่งขันแย่งเอาลูกปัดจิตงั้นรึ ?”
“ไม่แปลกเลยที่มีแม่ทัพจำนวนมากแบบนี้โผล่มาจากเขตซื่อเซียว..”
“ งั้นแบบนี้ก็ดูมีเหตุผล”
เหล่าจักรพรรดิคิดว่าพวกเขามองแผนการของจักรพรรดิมนุษย์ออก
“ มนุษย์นี่เจ้าเล่ห์จริงๆ ภายนอกตลอดหลายปีมานี้เหมือนไม่ได้ทำอะไรเพื่อให้เราประมาทแต่กลับแอบฝึกฝนแม่ทัพเอาไว้เพื่อให้เราแปลกใจภายหลัง !”
“ ข้าได้ยินมาว่าทีมคังเฉียงนั้นมีแม่ทัพ 21 คน 4 คนอาจจะเป็นคนของ ซื่อเซียว !”
“ มันต้องใช้ลูกปัดดั้งเดิมเท่าไหร่กันในการฝึกฝนแม่ทัพ ? พันล้าน ? ร้อนล้านรึ ?”
ด้วยลูกปัดจำนวนมากแบบนั้นแต่พวกนั้นก็ยังปิดเป็นความลับได้อีกรึ ? พวกนี้บ้ากันไปแล้ว !”
“ อย่าดูถูกพวกนั้นไป จักรพรรดิมนุษย์อยู่มานานแล้ว เล่ห์เหลี่ยมเราไม่อาจจะเทียบพวกนั้นได้ แม้ว่าเราจะพึ่งจำนวนที่มากกว่าเพื่อคงความได้เปรียบแต่การที่พวกนั้นแข็งแกร่งขึ้นมาได้ในการต่อสู้แย่งลูกปัดจิต เมื่อพวกนั้นได้เปรียบ มันก็หมายความว่าเราไม่อาจจะดูถูกพวกนั้นได้อีก”
ความได้เปรียบนี้ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน !
แม้ว่าเผ่าสวรรค์จะแข็งแกร่งแต่ก็ยากที่จะชดเชยช่องว่างในเวลาอันสั้นได้
มันต้องอาศัยเวลา !
“ ดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกนี้จะทุ่มสุดตัว !เพื่อชิงเอาลูกปัดจิตและทวงคืนความได้เปรียบกลับไป….”
“ บอกกันว่าพวกนี้มีแผนการที่ดี มนุษย์มีแม่ทัพเพิ่มมาอีกกว่า 20 คน การต่อสู้ครั้งนี้เราอาจจะไม่ได้เปรียบดังเดิม เราอาจจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบซะเอง…”
“ เรามีแม่ทัพแค่หลักสิบคน ตอนนี้พวกนั้นกลับมีแม่ทัพเพิ่มอีกกว่า 20 คน สถานการณ์นี้ถือว่าส่งผลเสียต่อเรา…”
“ เจ้าจะกลัวอะไร ? การพึ่งลูกปัดดั้งเดิมนั้นถึงจะพัฒนาระดับการบ่มเพาะขึ้นมาได้แต่แข็งแกร่งแค่ไหนใครจะไปรู้ ? บางทีพวกนั้น 3 คนอาจจะเอาชนะแม่ทัพเราคนเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ ? มันคงอีกไม่นานที่พวกนั้นจะแพ้ภัยตัวเอง”
“ ใช่ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงนั้นเดี๋ยวเราก็รู้เอง ยิ่งไปกว่านั้นการมีคนเยอะกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะชนะ การแข่งขันนี้ขึ้นอยู่กับโชคด้วย แล้วหากพวกนั้นชนะแล้วยังไง ? เราเผ่าสวรรค์มีจักรพรรดิถึง 5 คน แม้ว่าจะแพ้ในครั้งนี้แต่ก็ส่งผลเพียงน้อยนิด อนาคตยังไงก็เป็นชัยชนะของเรา”
“ การดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง” จักรพรรดิอีกคนพูดขึ้น
เมื่อได้ยินที่คนเหล่านั้นบอกมากว่าการหายไปของจักรพรรดิมนุษย์และการปรากฏตัวขึ้นมาของแม่ทัพทั้ง 21 คนนั้นเป็นเพราะการต่อสู้ชิงลูกปัดจิต ฉิวหวังก็ฟังอยู่อย่างเงียบๆ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะพวกนี้เพราะเขารู้ดีว่าเหตุผลที่แท้จริงนั้นต้องเกี่ยวข้องกับจ้าวแห่งทะเลโกลาหล
“ ฉิวหวังเจ้าคิดยังไง ?” จักรพรรดิอีกคนที่เงียบมาโดยตลอดเห็นท่าทีของฉิวหวังก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“ ข้าคิดว่าพวกเจ้าคิดถูกแล้ว” ฉิวหวังพูดขึ้น
จักรพรรดิคนนั้นคิ้วขมวด เขารู้สึกว่าท่าทีของฉิวหวังนั้นผิดปกติ แต่เขาไม่อาจจะบอกได้ว่ามันผิดปกติตรงไหนกัน
“ งั้นข้าขอตัวกลับไปพักฟื้นก่อน” ฉิวหวังไม่อยากเสียเวลาที่นี่อีก ยิ่งทีมคังเฉียงเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่ เขายิ่งรู้สึกว่าเวลาจะหมดลงมากเท่านั้น
จักรพรรดิคนอื่นๆยังไม่ทันได้เปิดปากพูด ฉิวหวังก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“ พวกเจ้าควรจับตาดูฉิวหวังเอาไว้” จักรพรรดิคนเดิมมองไปรอบๆแล้วพูดขึ้นมา “ ท่าทีของเขาระหว่างที่เราคุยกันนั้นแปลกประหลาดราวกับว่าปิดบังบางอย่างจากเราอยู่…” การที่เป็นถึงจักรพรรดิได้นั้นไม่มีใครโง่ “ ทุกคนควรจับตาดู ฉิวหวังเอาไว้ให้ดี”
คนที่เหลือต่างก็พากันแปลกใจ
“ เจ้าหมายความว่าเขา….เป็นคนฝั่งมนุษย์รึ ?”
“ ข้าไม่ได้พูดแบบนั้น” จักรพรรดิคนเดิมพูดขึ้น “ ข้าแค่รู้สึกว่าเขานั้นมีปัญหา แต่ข้าไม่ได้บอกว่าเขาหักหลังเรา”
จักรพรรดิอีกคนเห็นด้วย “ ข้าเองก็รู้สึกว่าฉิวหวังผิดปกติไป ท่าทีของเขาที่มีต่อเรานั้นเปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้หักหลังเผ่าสวรรค์ แต่ก็ต้องมีปัญหาอื่นแน่ๆ ข้าเสนอว่าเราควรจับตาดูเขาเอาไว้ หากเราคิดผิดไป งั้นก็ถือว่าดี แต่หากเขาเข้าร่วมกับมนุษย์…” “ เราก็ไม่อาจจะปล่อยคนทรยศไปได้ !”
ไม่ว่ามนุษย์รึเผ่าสวรรค์ต่างก็ไม่อาจจะยอมรบคนทรยศได้
หากเทียบกับจักรพรรดิมนุษย์แล้ว พวกเขาสนใจปัญหาภายในมากกว่าเพราะตราบใดที่จักรพรรดิเผ่าสวรรค์เป็นหนึ่งเดียวกัน งั้นฝั่งมนุษย์ก็จะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย ไม่ว่ามนุษย์จะมีแผนการแบบไหนแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรรากฐานของเผ่าสวรรค์ได้
จักรพรรดิทั้งห้าร่วมมือกันถือว่าไร้เทียมทาน
นอกซะจากว่าจักรพรรดิกุยหลิงจะลงมือแล้ว งั้นมันก็ไม่มีใครเป็นภัยต่อพวกเขาได้
แต่หากพวกเขามีแตกแยกกันเองแล้ว งั้นทั้งเผ่าสวรรค์ก็ต้องพบกับวิกฤต
“ การต่อสู้เพื่อลูกปัดจิตจะจัดขึ้นทุกๆร้อยล้านปี มันกำลังจะเริ่มขึ้น ไม่นานจะเปิดเผยว่าจักรพรรดิมนุษย์นั้นซ่อนอยู่ที่ไหนและวางแผนอะไรอยู่” จักรพรรดิคนหนึ่งพูดขึ้น “ครั้งนี้เราจะจับตาดูเอาไว้ต่อ จักรพรรดิทั้งสี่ของฝั่งมนุษย์รวมถึงฉิวหวัง เราต้องจับตาดูพวกเขาเอาไว้ เราแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ได้ แต่ไม่อาจจะยอมให้ใครมาหักหลังได้”
ทุกคนมองหน้ากันด้วยสีหน้าจริงจัง
ผ่านไปสักพักเหล่าจักรพรรดิก็หายตัวไป กลุ่มแม่ทัพและนายพลรวมถึงพวกระดับสูงคนอื่นๆก็เริ่มเคลื่อนไหว และทำตามคำสั่ง แม้แต่พวกที่อยู่ในเขตของมนุษย์ก็ยังเริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน มันเริ่มมีควันที่มองไม่เห็นกระจายไปทั่วทะเลโกลาหล