ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1955 ตื่น
ที่ทะเลโกลาหล
ฉิวหวังราวกับระเบิดที่พุ่งตัดมิติไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะพยายามปกปิดพลังของตัวเองแค่ไหนแต่ก็ยังสร้างพายุอันน่ากลัวขึ้นมา ไม่ว่าเขาจะผ่านไปที่ไหน ผู้คนที่นั่นก็จะได้รับผลกระทบไปตาม บางที่โดนทำลายไป บางที่สั่นไหวอย่างรุนแรง ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องตายไป
พลังทำลายล้างของจักรพรรดินั้นน่าทึ่ง !
หากฉิวหวังระเบิดพลังทั้งหมดออกมา งั้นทะเลโกลาหลอาจจะไม่อาจจะรับไหว !
โชคดีที่เป้าหมายของ ฉิวหวังไม่ใช่ทำลายทะเลโกลาหล ไม่งั้นแล้วเขาคงโดนจักรพรรดิกุยหลิงฆ่าไปแล้ว มันมีความสามารถในการสร้างความเสียหายให้กับทะเลโกลาหล บางทีการทำลายล้างแบบนี้อาจจะไม่เพียงพอที่จะทำลายทะเลโกลาหลได้แต่ก็เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายได้ในระดับหนึ่ง
ในตอนที่ฉิวหวังเดินทางอยู่นั้น อยู่ๆที่มิติภายนอกแห่งหนึ่งกลับมีคลื่นพลังผันผวนก่อตัวขึ้นมา
ไม่มีใครรู้ว่าแก่นกำเนิดกลับมีมิติภายนอกด้วย แม้แต่จักรพรรดิก็ยังไม่รู้ มิติภายนอกของแก่นกำเนิดนั้นเหมือนกับมิติภายนอกที่จักรพรรดิได้สร้างขึ้นมา แต่มิติภายนอกของแก่นกำเนิดนั้นใหญ่กว่ามาก มันราวกับไม่มีขอบเขต
ใจกลางมิติภายนอกของแก่นกำเนิดนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับตัวหมัดนอนขดตัวอยู่ หมัดนี้ใหญ่กว่าหมัดทั่วไปหลายร้อยล้านเท่า แม้แต่สัตว์อสูรตัวใหญ่ก็ยังไม่อาจจะเทียบกับตัวหมัดนี้ได้
หมัดหลับตาอยู่ ขาของมันขดเข้าหากัน มันดูราวกับไข่ขนาดใหญ่ ไม่รู้เลยว่ามันหลับมานานแค่ไหนแล้ว มันราวกับรูปปั้นหินที่ไม่ขยับและไม่ได้แผ่คลื่นพลังชีวิตออกมา
ตอนนั้นอยู่ๆก็มีเสียงดังคล้ายกับเสียงหัวใจเต้นดังขึ้นมาจากตัวของหมัด ปัง ปัง ปัง…คลื่นพลังของมันค่อยๆแผ่ออกมา คลื่นพลังที่น่าหวั่นใจครอบคลุมไปทั่วทั้งมิติภายนอก มันค่อยๆลืมตาขึ้นมาและตื่นขึ้นจากการหลับใหล
สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดได้ตื่นขึ้นมาแล้ว !
พลังจิตอันน่ากลัวและคลื่นพลังอันน่ากลัวนี้แม้แต่มิติภายนอกของแก่นกำเนิดก็ไม่อาจจะปิดกั้นได้หมด มันได้แผ่ไปที่ทะเลโกลาหลราวกับว่าประกาศถึงการกลับมาของมัน
มันไม่ได้คำรามออกมาแต่แค่คลื่นพลังที่รั่วไหลออกมาเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ทั้งทะเลโกลาหลต้องตกอยู่ในความลนลาน มันราวกับว่ากำลังจะมีหายนะเกิดขึ้น
จักรพรรดิกุยหลิง !
ตัวตนที่น่ากลัวที่สุดในทะเลโกลาหล !
จักรพรรดิ 5 จาก 9 คนต้องตายไปเพราะฝีมือของมัน ! จักรพรรดิกุยหลิงหันหัวกลับและมองออกไปนอกมิติภายนอกผ่านแก่นกำเนิด มันราวกับว่ามองทะลุไปเห็นฉิวหวัง หรือบางทีมันอาจจะไม่เห็นแต่รับรู้ได้ถึงพลังจิตอันแข็งแกร่งที่ส่องแสงออกมาสว่างราวกับดวงอาทิตย์
นี่คือ…จิตของฉิวหวัง!
สายตาของจักรพรรดิกุยหลิงสั่นไหว มันต้องการจิตนี่ !
ต่อมาขาหลายสิบคู่ที่ตัวของมันก็ค่อยๆยืนออก คลื่นพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมแผ่ออกมาจากตัวของมัน
…
ทั้งทะเลโกลาหลตกอยู่ในความลนลาน
จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต่างก็ตื่นขึ้นมา พวกเขารับรู้ได้ถึงคลื่นพลังอันน่ากลัว ตอนนั้นจักรพรรดิถึงกับพากันตัวสั่น จิตของพวกเขาสั่นไหวราวกับว่าได้พบศัตรูทางธรรมชาติของตน “ จักรพรรดิกุยหลิง !”
“ จักรพรรดิกุยหลิงจริงๆ !”
“ มันตื่นขึ้นมาได้ยังไง ?”
“ ใครเป็นคนปลุกมัน ! ใครปลุกมัน !”
เหล่าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ต่างก็พากันลนลานขึ้นมาทันที
ในเวลาเดียวกันร่างแยกของจักรพรรดิมนุษย์ต่างก็หน้าถอดสี สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว
ไม่มีใครรู้จักจักรพรรดิกุยหลิงดีไปกว่าพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่มีทางลืมว่าจักรพรรดิมนุษย์คนอื่นๆตายไปได้ยังไง
พวกเขาคิดว่าตราบใดที่ระวังมากพอ นั่นก็คือไม่ส่งร่างหลักเข้าไปในทะเลโกลาหล มันก็จะไม่ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิกุยหลิง แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะตื่นขึ้นมาแบบนี้ !
“ บัดซบ ใครกันที่ปลุกสัตว์ประหลาดนี้ขึ้นมา !” จักรพรรดิทุกคนอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา ตอนนั้นในเขตซื่อเซียว ร่างแยกของซื่อเซียวรับรู้ได้ถึงตัวตนของฉิวหวังเขาได้เบิกตากว้างทันที “ เป็นฉิวหวังนี่เอง !”
เขาแทบจะไม่เชื่อว่าฉิวหวังจะเข้ามาในทะเลโกลาหลด้วยร่างหลักและได้เข้ามาในดินแดนของเขา
ที่ทะเลบรรพกาล
“ ฉิวหวังรึ ?” เมื่อได้ยินคำพูดของซื่อเซียว เย่าหยางและคนอื่นๆก็พากันอึ้ง “ เขาบ้าไปแล้วรึ !”
อู่หมิงพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ “ เขาหาที่ตายก็ไปตายเองสิ ทำไมต้องลากเราเข้าไปเกี่ยวด้วย !”
ต้องรู้ก่อนว่าเมื่อจักรพรรดิกุยหลิงตื่นขึ้นมา ทั้งทะเลโกลาหลก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย
จักรพรรดิกุยหลิงไม่ได้สนใจฝั่งมนุษย์รึเผ่าสวรรค์แต่อย่างใดอย่างหนึ่ง ทุกคนที่โดนจักรพรรดิกุยหลิงหมายหัวล้วนแต่ต้องตาย
ซื่อเซียวเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้น “ เราได้จ่ายทรัพยากรเพื่อจะหลบอยู่ในทะเลบรรพกาลเพื่ออะไร ? ไม่ใช่ว่าเพื่อการปกป้องตัวเองจากจักรพรรดิกุยหลิงรึ ? หากเรากลับไปตอนนี้ งั้นมันจะมีความหมายอะไรกับการที่เราเข้ามาอยู่ในทะเลบรรพกาล ?”
อู่หมิงพยักหน้าและพูดขึ้น “ ยังไงซะเราก็ได้ทิ้งร่างแยกเอาไว้ ด้วยทักษะอื่นๆรวมถึงพลังที่เราให้แล้ว ร่างแยกนั้นก็แสดงความแข็งแกร่งออกมาได้ในระดับหนึ่งไม่ได้อ่อนแอกว่าร่างหลักมากนัก…หากร่างแยกไม่อาจจะหยุดมันได้ งั้นการที่เราไปที่นั่นก็ไม่มีความหมายอะไร”
“ งั้นตกลงตามนี้ ในชีวิตนี้ข้าจะไม่เผชิญหน้ากับจักรพรรดิกุยหลิงอีกเป็นอันขาด” ซื่อเซียวเห็นด้วย “ นี่ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เราจะจัดการได้”
พวกเขาได้แต่ฝากความหวังไว้กับร่างแยกของตน
หากเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมา พวกเขาก็ได้แต่ต้องยอมรับมัน เมื่อจักรพรรดิกุยหลิงกลับไปนอนหลับ พวกเขาค่อยออกไปสร้างโกลาหลขึ้นมาใหม่
ยังไงซะพวกเขาก็ไม่คิดจะเอาตัวเองไปเสี่ยงเพื่อมดปลวก !
พวกเขาจะสนใจพวกมดทำไมในเมื่อพวกเขายอมทิ้งโกลาหลและสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้ ?
“ ดีที่เรามาอยู่ที่นี่กันก่อน” ซื่อเซียวรู้สึกว่าตัวเองโชคดีแต่ก็ยังรู้สึกกลัวในใจ “ หากช้าไปกว่านี้บางทีเราอาจจะโดนมันฆ่า…”
อู่หมิงเองก็โล่งอก “ ชะตาของเผ่าเทียนคงย่ำแย่อย่างมากแน่ๆ”
เมื่อจักรพรรดิกุยหลิงตื่นขึ้นมา มันก็ไม่มีทางที่จะหลับไปง่ายๆ หากไม่ได้ฆ่าจักรพรรดิแล้ว มันจะนอนหลับได้ยังไง ?“ พวกเจ้า” หว่านเก่อพูดขึ้นมา “ คนอื่นข้าไม่สนใจหรอกแต่ข้าต้องช่วยเรนไนไว้ “ เรนไนคือแม่ทัพสูงสุดที่สำคัญต่อหว่านเก่อ อย่างมาก นางไม่อยากให้เรนไนต้องตาย “ ข้าคิดจะไปพบกับจักรพรรดิคังเฉียงหากทำได้ข้าหวังว่าจะพาเรนไนเข้ามาในทะเลบรรพกาลด้วย”
“ ใช่ เหล่าแม่ทัพ ! “ ซื่อเซียวได้สติขึ้นมา “ก้อนแก่น เราต้องใช้พวกนั้นในการแข่งขันอยู่”
“ พวกนั้นไม่อาจจะตายได้ !” อู่หมิงพูดขึ้นมา “ แม้ว่าจะต้องเสียทรัพยากรไปแต่เราต้องช่วยพวกนั้นให้ได้ !”
พวกเขาไม่ได้สนใจชีวิตของผู้คนในเขต พวกเขาสนใจแค่ลูกปัดจิตเท่านั้น
พวกเขาไม่อาจจะปล่อยให้เหล่าแม่ทัพตายได้ อย่างน้อยก็จนกว่าจะหาคนมาแทนที่ได้ !