ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1956 จักรพรรดิกุยหลิง
ซื่อเซียวและคนอื่นๆนั้นรวดเร็วอย่างมาก ไม่ถึงสิบอึดใจทั้งสี่ก็ได้กลับมาพบจางหยูอีกรอบ
หากเทียบกับร่างแยกแล้วพวกเขาเร็วกว่าเป็นสิบเท่า พลังจิตนั้นไม่อาจจะเอาร่างแยกมาเทียบได้
“ พวกเจ้าเองรึ ?” จางหยูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก เขาสงสัยว่าทำไมพวกนี้ถึงได้มาหาเขา
ยังไงซะซื่อเซียวและคนอื่นๆก็เพิ่งตกลงพนันกับเขาไป ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีก 3 ล้านปีกว่าจะถึงเวลาที่ตกลงกันไว้ พวกนี้ยังไม่ต้องรีบเข้ามาหาเขา
นอกซะจากว่า….พวกนี้เปลี่ยนใจ ?
“ คังเฉียง” หว่านเก่อแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ ทะเลโกลาหลเกิดการเปลี่ยนแปลง ฉิวหวังนั้นบ้าไปแล้ว เขาเดินทางออกมาด้วยร่างหลักจนทำให้จักรพรรดิกุยหลิงตื่นขึ้นมา ทะเลโกลาหลอยู่ในอันตราย !”
สีหน้าของจางหยูเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แม้ว่าการตายของทะเลโกลาหลนั้นส่งผลกับเขาเพียงน้อยนิด และไม่อาจจะเป็นภัยต่อชีวิตเขาได้ แต่เมื่อคิดถึงชีวิตของคนมากมายในทะเลโกลาหลแล้ว เขาก็รู้สึกหนักใจขึ้นมาเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ แต่ก็ยากที่เขาจะมองข้ามการที่ทะเลโกลาหลโดนทำลายไปได้
ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิกุยหลิงนั้นน่าทึ่ง และด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้แล้ว เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะรับมือไหว
“ จักรพรรดิกุยหลิงตื่นขึ้นมา เราเกรงว่าพื้นที่ส่วนมากคงตกอยู่ในหายนะ…” หว่านเก่อสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น “ เราหวังว่า…”
หว่านเก่อยังพูดไม่ทันจบ จางหยูกลับคิ้วขมวด “ เดี๋ยว !”
ต่อมาร่างของจางหยูกลับหายไปเหลือทิ้งไว้แค่วังวน ตอนที่ทุกคนได้สตินั้นวังวนก็ได้หายไปแล้ว
ที่โลกป่า…….
โลกป่าราวกับกำลังพบจุดจบ พลังจิตอันน่ากลัวได้ปกคลุมทั่วทั้งโลก ภายใต้แรงกดดันอันน่ากลัวนี้ผู้คนมากมายรวมถึงโลกป่าเองต่างก็สั่นสะท้าน
ตอนนั้นเวลาของโลกป่าเหมือนจะหยุดนิ่ง มิติแข็งทื่อขึ้นมา ทั้งโลกเหมือนกับโดนหยุดเวลาเอาไว้ มีแค่กำแพงโลกที่สั่นไหวอย่างต่อเนื่องเท่านั้นที่แสดงให้เห็นแล้วว่าโลกนั้นต้องรับแรงกดดันมากแค่ไหน มันราวกับว่าจะพังลงตอนไหนก็ได้
“ คังเฉียง !” เสียงตะโกนด้วยความโกรธดังขึ้นมาก้องไปทั่วทั้งโลก
เหนือภูเขาร้างระหว่างท้องฟ้ากับพื้นดินนั้นมีร่างหนึ่งที่เหมือนเป็นต้นเหตุที่ทำให้โลกป่าเป็นแบบนี้ ปรากฏขึ้นมา
ตอนที่เสียงนั้นดังขึ้น ร่างของจางหยูก็ปรากฏตัวขึ้นมาช้าๆ ในเวลาเดียวกันแรงกดดันที่โลกได้รับก็โดนยับยั้งไปก่อนที่โลกจะพื้นฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จางหยูคิ้วขมดและมองไปที่ร่างตรงหน้า “ ฉิวหวัง เจ้าบ้าไปแล้วรึ ?”
แม้ว่าจะแปลกใจกับความแข็งแกร่งที่ฉิวหวังแสดงออกมา แต่จางหยูก็ไม่ได้กลัวอีกฝ่าย แม้ว่าฉิวหวังนั้นจะแกร่งกว่าที่เขาคาดเอาไว้ แต่ก็ยังไม่อาจจะเป็นคู่มือของเขาได้อยู่ดี ช่องว่างนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย
“ ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะรู้สึกผิด” ฉิวหวังมองไปที่จางหยู เขาราวกับคนที่เสียสติ ตาของเขาแดงก่ำ “ ข้าให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ส่งกล่องกระบี่มา บอกความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลมา ไม่งั้นตาย !”
ระหว่างที่พูดนั้นจางหยูก็มองออกไป สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย คลื่นพลังที่ไม่อาจจะอธิบายได้นั้นกำลังเข้ามาที่นั่นแม้แต่เขาก็ยังต้องใจสั่นไปตาม “ คลื่นพลังนี่…มันนี่เอง ! คลื่นพลังที่ข้ารู้สึกตอนที่สู้กับซื่อเซียวแต่คลื่นพลังนั้นเจือจางกว่าตอนนี้อย่างมาก”
ตอนแรกจางหยูไม่เข้าใจว่าคลื่นพลังนี้หมายถึงอะไร ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันคือจักรพรรดิกุยหลิง ตัวตนที่น่ากลัวในตำนาน ตัวตนที่จักรพรรดิต่างก็พากันกลัว
“ เหนือกว่าข้า” แม้ว่าจะยังไม่ได้สู้กับจักรพรรดิกุยหลิง แต่จางหยูก็ตัดสินได้ในทันที “ แต่ใช่ว่าจะรับมือไม่ได้…” เขาไม่กล้าบอกว่าเขาเหนือกว่าจักรพรรดิ แต่อย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับเพดานของจักรพรรดิ
ในอีกความหมายคือแม้ว่าเหล่าจักรพรรดิจะบ่มเพาะไปอีกหลายปีแต่ก็ยากจะขึ้นมาถึงระดับของจางหยูในตอนนี้ได้
ความแข็งแกร่งแบบนี้แม้ว่าจะไม่อาจจะเป็นคู่มือของจักรพรรดิกุยหลิงได้แต่ก็พอรับมือได้บ้าง สำหรับผลลัพธ์แล้วหากไม่ได้สู้กันจริงๆ จางหยูก็ไม่อาจจะบอกได้ เขามีลางสังหรณ์ว่าเขาไม่อาจจะเป็นคู่มือของจักพรรรดิกุยหลิงได้ มันมาจากสัญชาตญาณของเขา
“ ข้าพูดกับเจ้าอยู่ !” เมื่อเห็นว่าจางหยูเหม่อ ฉิวหวังก็โกรธขึ้นมา “ เจ้าได้ยินรึไม่ !”
ฉิวหวังราวกับหมดความอดทน พลังจิตได้ปะทุออกมาจากตัว เขาเองก็รู้สึกได้ว่าจักรพรรดิกุยหลิงกำลังมาที่นี่ หากเขาไม่ลงมือตอนนี้ งั้นเขาอาจจะไม่มีโอกาส
“ ตาย !” พลังจิตที่ราวกับทะเลได้ไหลเข้ามาถาโถมเข้าใส่จางหยู
นี่คือการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของฉิวหวัง พลังอันน่ากลัวที่ได้มาจากชีวิตคนหลายล้านคน แม้แต่จักรพรรดิเก่าแก่อย่าง ซื่อเซียว, เย่าหยาง และคนอื่นๆต่อหน้าการโจมตีนี้ก็ต้องได้รับความเสียหายเกินกว่าจะคาดถึง ทั้งทะเลโกลาหลแล้วนอกจากจักรพรรดิกุยหลิงแล้ว มันไม่มีใครที่กันการโจมตีนี้ได้
แต่…ตอนที่ใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุดออกมา สีหน้าของฉิวหวังกลับแข็งทื่อไป เขามองจางหยูด้วยสีหน้าหวาดกลัว “ จะ เจ้า…” คำพูดเขาติดอยู่ในลำคอ
จางหยูพลิกมือพร้อมกับพลังจิตของฉิวหวังที่สลายไปราวกับควัน และกระจายไปโดยรอบจนไม่อาจจะสร้างอันตรายใดๆได้
“ แกร่งอยู่บ้าง” จางหยูพลิกมือเพื่อซ่อนความเจ็บ มันเห็นได้ว่าการโจมตีของฉิวหวังนั้นก็น่ากลัวกว่าที่เห็น พลังมันถึงขีดจำกัดของจักรพรรดิแต่ไม่อาจจะเป็นภัยต่อชีวิตจางหยูได้
จางหยูหันหน้าหนีไม่ได้สนใจฉิวหวัง เขาสร้างวังวนขึ้นมาก่อนจะหายตัวไป หากฉิวหวังตามเข้ามาก็จะเข้าไปในทะเลบรรพกาล จากนั้นเขาก็ได้ปรากฎตัวขึ้นในโลกป่าแล้วเดินทางออกไป ไม่กี่อึดใจเขาก็ได้เดินทางออกมายังทะเลโกลาหล
ตอนที่จางหยูหยุดนั้น สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ตรงหน้าเองก็หยุดเช่นกัน ตาสีแดงก่ำมันมองมาที่จางหยู
คลื่นพลังอันน่ากลัวกวาดไปทั้งทะเลโกลาหลนั้นมาจากมัน !
ตำแหน่งของสัตว์ประหลาดนี้คือใจกลางของคลื่นพลังอันน่ากลัวนี้ !
ร่างขนาดใหญ่ของมันแผ่นคลื่นพลังออกมาอย่างต่อเนื่อง คลื่นพลังสีดำที่ปกคลุมไปทั่วทะเลโกลาหลราวกับพื้นดินที่ถล่มกลายเป็นหุบเหว จางหยูรู้สึกกดดันเพราะคลื่นพลังนี้แต่ก็ใช่ว่าจะต้านทานไม่ได้ “ จักรพรรดิกุยหลิงในตำนาน ไม่รู้ว่าข้าจะรับมือได้รึไม่…” ร่างของเขาสั่น จิตของเขาเองก็ด้วยแต่สายตาของเขากลับแน่วแน่อย่างมาก