ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1958 โต้กลับ
การปะทะกันระหว่างหนวดกับดาบนั้นทำให้เกิดจุดแสงก่อตัวขึ้นมาพร้อมกับอุณหภูมิโดยรอบนั้นเพิ่มขึ้นทันที
ต่อมาแสงก็ได้กระจายออกมาพร้อมกับทำให้พื้นที่รอบๆโดนเผาและบิดเบี้ยว
ทั้งเขตซื่อเซียวสว่างจ้าภายใต้แสงนี้ !
ด้านนอกเขตซื่อเซียวนั้นทะเลโกลาหลก็ได้รับผลกระทบไปในระดับหนึ่ง มันราวกับว่านี่คือจุดจบของทะเลโกลาหล
ปัง ! เสียงดาบกับหนวดปะทะกันดังขึ้นมา ร่างของจางหยูนั้นต้องกระเด็นออกไปเพราะแรงสะท้อน
โชคดีที่ครั้งนี้เขามีเกราะคอยช่วย ร่างของเขาไม่ได้โนทำลายไปด้วยแต่ก็ยังมีเลือดไหลออกมา ผิวของเขาแดงก่ำราวกับเลือดจะทะลุออกมาจากรูขุมขน
จักรพรรดิกุยหลิงรู้สึกได้ถึงแรงต้านก็ได้รีบดึงหนวดกลับไปทันที
ที่หนวดนั้นมีแผลเล็กๆ มันไม่ได้มีเลือดรึเนื้อ มันมีแค่พลั่งจิตที่ไหลเวียนอยู่ด้านในแต่ไม่นานแผลก็ปิดตัวลงและหายไป พลังจิตไม่อาจจะไหลออกมาได้อีก
การปะทะกันครั้งที่สองนั้นแม้ว่าจักรพรรดิกุยหลิงจะเหนือกว่า แต่หากเทียบกับการปะทะกันครั้งแรกแล้ว ผลลัพธ์นั้นต่างจากเดิมอย่างมาก จางหยูไม่ใช่ว่าต้านทานไม่ได้ แม้ว่าการตอบโต้ของเขาจะด้อยกว่าการโจมตีของมัน แต่มันก็ไม่อาจจะมองข้ามได้ ยังไงซะจักรพรรดิกุยหลิงก็บาดเจ็บ ดังนั้นจางหยูก็มีหวังที่จะชนะได้
ดาบบรรพกาลและเกราะบรรพกาลนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านความแข็งแกร่งของจางหยูอย่างมาก
แต่มันแค่ว่า….
“ ร้าวแล้ว” จางหยูก้มลงมองเกราะของตัวเองและพบว่าด้านข้างของเกราะนั้นมีรอยร้าว รอยร้าวนี้ยาวแค่ 3 นิ้วจนแทบจะมองข้ามได้ แต่หากดูดีๆแล้วก็เห็นได้อย่างชัดเจน “ การโจมตีเพียงครั้งเดียวแต่กลับทำให้เกราะบรรพกาลได้รับความเสียหายได้”
โชคดีที่เกราะบรรพกาลนั้นยังอยู่ในสภาพดี มันยังรับความเสียหายแทนจางหยูได้อยู่
ไกลออกไปจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่ต่างก็พากันมองดูฉากนี้ด้วยสีหน้าตะลึง
หากความแข็งแกร่งที่จางหยูแสดงออกมาก่อนหน้านี้นั้นทำให้พวกนี้อึ้ง งั้นจางหยูในตอนนี้ก็ทำให้พวกนี้พลิกมุมมองจากเดิมไป
จักรพรรดิกุยหลิง !
จางหยูถึงกับรับมือกับจักรพรรดิกุยหลิงได้ !
นี่คือพลังที่จักรพรรดิมีได้จริงๆรึ ?”
พวกนี้ถึงกับสงสัยตัวเองว่ามันมีระดับเหนือกว่าจักรพรรดิอยู่ และจางหยูอาจจะไปถึงระดับนั้นแล้ว
“ เป็นสมบัติที่แข็งแกร่งจริงๆ !”จักรพรรดิเผ่าสวรรค์คนหนึ่งพูดขึ้นมา สายตาทั้งสองเต็มไปด้วยความตะลึงและโลภ “ ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาเกือบสองเท่า !”
จากตอนที่จางหยูปะทะกับจักรพรรดิกุยหลิง การโจมตีของจางหยูนั้นมีพลังมากกว่าเก่าถึงสองเท่า การป้องกันของเขาก็เพิ่มเป็นสองเท่าเช่นกัน
ดาบบรรพกาลและเกราะบรรพกาลนั้นหากเทียบกับสมบัติของเหล่าจักรพรรดิแล้วทรงพลังกว่ามาก !
“ ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิกุยหลิงน่ากลัวกว่าที่พวกมนุษย์บอกเอาไว้ !” จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ที่เหลือพากันใจสั่น หากจักรพรรดิกุยหลิงในอดีตมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ งั้นจักรพรรดิมนุษย์ทั้งเก้าอาจจะตายไปหมดแล้ว ซื่อเซียวและคนอื่นๆคงไม่รอด
หลังจากที่บ่มเพาะมาหลายปี ความแข็งแกร่งของพวกนี้ก็เพิ่มขึ้นมาแต่ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิกุยหลิงนั้นเพิ่มขึ้นเร็วกว่า “ ทุกคนเตรียมลงมือ” จักรพรรดิเผ่าสวรรค์พูดขึ้นและบอกกับจักรพรรดิสามคนที่เหลือ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้คิดจะช่วยจางหยู ในทางกลับกันแล้วเขาไม่อาจจะปล่อยให้จางหยูตายได้เร็วนักเพื่อจะฉวยโอกาสนี้ชิงเอาดาบและเกราะของจางหยูมา
แต่ปัญหาคือจางหยูไม่อาจจะตายได้ในตอนนี้เพราะมีแค่จางหยูที่รับมือกับจักรพรรดิกุยหลิงได้ !
และหากจางหยูตายไป งั้นก็ไม่มีใครต้านทานจักรพรรดิกุยหลิงได้ พวกเขาจักรพรรดิเองก็ต้องพบกับความตายเช่นกัน !
ความจริงนี้พวกเขารู้ดี
“ จำไว้ว่าเราไม่อาจจะรับการโจมตีของจักรพรรดิกุยหลิงได้ เราได้แต่ต้องคอยก่อกวนจากด้านนอก” จักรพรรดิเทียนตู่ย้ำกับจักรพรรดิรอบตัวแล้วระเบิดพลังออกมา พลังจิตได้ปะทุออกมาราวกับน้ำหลากไหลเข้าไปในสนามรบ จักรพรรดิคนที่เหลือเองก็ทำการโจมตีออกไปเช่นกัน
พวกเขาไม่กล้าเข้าไปใจกลางสนามรบและไม่กล้าเข้าใกล้จักรพรรดิกุยหลิง พวกเขาได้แต่อยู่นอกระยะของหนวดเพราะพวกเขารู้ดีว่าเมื่อเข้าไปในระยะโจมตีของหนวดแล้ว แค่หนวดนั่นสะบัดเข้าใส่เบาๆ พวกเขาก็ตายได้แล้ว
การโจมตีของจักรพรรดิกุยหลิงนั้นร้ายแรงสำหรับพวกเขา
พวกเขาไม่อาจจะรับมือได้แม้แต่ครั้งเดียว !
ตูม ตูม ตูม….
ร่างของจักรพรรดิกุยหลิงสั่นไหวอยู่หลายครั้ง ที่หลังนั้นมีลำแสงสี่อันยิงเข้ามา ชัดแล้วว่าเป็นการโจมตีที่ทรงพลัง ทะเลโกลาหลโดยรอบสั่นไหวอย่างแรง หลังจากที่ลำแสงทั้งสี่สลายไป ที่หลังของจักรพรรดิกุยหลิงก็มีแค่รอยดำเล็กๆที่ไม่ได้เป็นภัยต่อชีวิตเลย มันไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยด้วยซ้ำ การโจมตีนี้แรงกว่าการเกาเล็กน้อยก็เท่านั้น
การป้องกันน่ากลัวจริงๆ !
การโจมตีของจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่ทำได้แค่สร้างรอยไว้เท่านั้น !
“ จักรพรรดิเผ่าสวรรค์รึ ?” จางหยูยักคิ้ว ไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิเผ่าสวรรค์จะลงมือแต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องแย่สำหรับ จางหยู
บางทีหากทั้งห้าร่วมมือกันอาจจะหยุดจักรพรรดิกุยหลิงไว้ได้
ตอนที่จักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งสี่โจมตี จักรพรรดิกุยหลิงก็ไม่ได้หวั่นไหว มันหันกลับไปมองไปที่ด้านนอกสนามรบก่อนเตรียมบินไปหาพวกนั้นเพื่อจัดการพวกนั้นทิ้ง แต่จางหยูได้ไปขวางหน้ามันไว้แล้วใช้ดาบโจมตีเข้าใส่มันอีกครั้ง
ในพริบตาพลังจิตก็ได้แผ่ออกมาจากดาบบรรพกาลเข้าโจมตีใส่จักรพรรดิกุยหลิง
ตูม !!
การระเบิดอันน่ากลัวที่ทำให้ทะเลโกลาหลสั่นคลอน พลังนี้กระจายออกมาจากตัวจักรพรรดิกุยหลิง มันเกิดรูขนาดใหญ่พร้อมกับพลังจิตที่ไหลออกมาราวกับลูกโป่งที่รั่ว แต่โชคร้ายที่รูนี้อยู่แค่เสี้ยวพริบตาเดียวก็หายไปลดทอนพลังจิตที่ไหลออกมาไปได้อย่างมาก
ฟรึบ ! จักรพรรดิกุยหลิงเลิกสนใจจักรพรรดิเผ่าสวรรค์แล้วใช้หนวดเข้าโจมตีจางหยูต่อ
มันเหมือนไม่มีวิธีโจมตีระยะไกล อย่างน้อยวิธีโจมตีที่มันเผยออกมาก็มีแต่การโจมตีกายภาพที่มีส่งผลต่อพลังจิต พลังป้องกันอันน่ากลัวของมันมีไว้เพื่อจำกัดพลังจิตที่รั่วไหลออกมาเพื่อที่มันจะพึ่งพลังจิตในการใช้หนวดโจมตีออกไปต่อได้
เมื่อเผชิญหน้ากับหนวด จางหยูก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับมือเอาไว้
ตูม ตูม ตูม…หนวดหลายอันได้ฟาดเข้าใส่จางหยู พลังอันน่ากลัวได้ระเบิดออกมาทำให้เกราะบรรพกาลเกิดรอยร้าวขึ้นอีก รอยแตกเดิมนั้นกว้างขึ้นหลายสิบนิ้ว ผิวของเกราะเกิดรอยร้าวราวกับใยแมงมุม พลังของมันลดลงไปกว่าครึ่ง
ร่างกายของจางหยูบิดเบี้ยวผิดรูป อกของเขายุบ บอกได้ว่าสภาพของเขาน่าอนาถอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันดาบบรรพกาลก็ฟันเข้าใส่ที่หนวด ดาบนี้ได้ตัดหนวดตรงหน้าออกและทำให้มีพลังจิตจำนวนมากไหลออกมา พลังจิตที่ราวกับน้ำท่วมได้ไหลออกมากระจายไปทั่ว
จางหยูได้ใช้โอกาสนั้นสลัดตัวออกมาจากหนวดแล้วบินถอยกลับไปก่อนจะกระอักเลือดอกมา “ แค่ก แค่ก…”
จักรพรรดิกุยหลิงเหมือนไม่ได้สนใจจะไล่ตามจางหยูต่อ มันกลับฟื้นฟูแผลของตัวเองแทน ไม่นานแผลมันก็หายดีและเกิดหนวดก็งอกออกมาดังเดิม
ตอนนั้นจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ก็ได้ทำการโจมตีเต็มกำลัง พวกเขาโจมตีเข้าใส่ด้านหลังของจักรพรรดิกุยหลิงราวกับอุกกาบาตที่พุ่งใส่โลก เมื่อแสงจางลงด้านหลังของจักรพรรดิกุยหลิงกลับเกิดรูขึ้นมาจำนวนมากแต่รูเหล่านั้นเล็กเกินไปไม่อาจจะเป็นภัยต่อจักรพรรดิกุยหลิงได้เลย
ไม่นานรูบนหลังของมันก็สมานตัว พลังจิตที่ไหลออกมาช้าก็ได้หยุดไหลออกมา
จักรพรรดิเผ่าสวรรค์เบิกตากว้าง
จางหยูที่เผชิญหน้ากับจักรพรรดิกุยหลิงกลับตัดหนวดของมันได้แต่พวกเขาคอยโจมตีจากด้านหลังทำให้แค่คอยก่อกวนเท่านั้น พวกเขาแทบถือว่าไม่อาจจะทำอะไรได้เลย !
นี่ไม่ต่างจากการกระทืบศักดิ์ศรีของพวกเขาเลย !