ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1963 จักรพรรดิทะเลบรรพกาล
“เรนไน” ในพื้นที่แห่งหนึ่งในทะเลบรรพกาล หว่านเก่อได้ปรากฏตัวขึ้นมาข้างๆ เรนไน
เรนไนนั่งขัดสมาธิอยู่ เมื่อเห็นหว่านเก่อปรากฎตัวขึ้นมา เขาก็ไม่ได้ลุกขึ้นแต่กลับถามขึ้นมา “ พวกเจ้าคุยกันเสร็จแล้วรึ ?”
หว่านเก่อพยักหน้าและถามขึ้นมาด้วยความกังวล “ มีบางอย่างผิดปกติกับเจ้า เจ้ามีปัญหากับการบ่มเพาะรึ ?”
เมื่อเห็นสายตากังวลของหว่านเก่อ เรนไนก็พูดขึ้นมา “ ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน”
หว่านเก่อคิ้วขมวดและถามขึ้นมา “ ถ้าอย่างงั้นใหข้าตรวจสอบให้เจ้าเอง”
เรนไนยังไม่ทันได้ตกลงรึปฏิเสธ หว่านเก่อก็ได้เข้าไปข้างๆเขาแล้วแผ่การรับรู้เข้าไปในตัวเขาทันที นางมองจิต, พลังและความคิดของเขาออกทั้งหมด
“ พลังโกลาหลยังทำงานอยู่” หว่านเก่อสงสัย “ แต่จิตเจ้าสั่นคลอนอย่างมากไ
โดยทั่วไปแล้วเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดมารึไม่ก็ตอนกำลังจะเลื่อนขั้น
แต่ตอนนี้เรนไนไม่ได้สู้กับใครรึไม่ได้กำลังจะเลื่อนขั้น มันไม่น่าจะมีเหตุผลที่จะเป็นแบบนี้ได้
หว่านเก่อดึงการรับรู้กลับมาและถามขึ้น “ เจ้ามีอาการแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”
“ หลังจากที่เข้ามาในทะเลบรรพกาล” เรนไนตอบกลับ
“ มันเพราะทะเลบรรพกาลงั้นรึ ?” หว่านเก่อไม่มั่นใจและถามขึ้น “ เจ้ามั่นใจรึว่ามันเป็นเพราะทะเลบรรพกาล ?”
เรนไนเงียบไปชั่วครู่และพูดขึ้น “ หลังจากที่เข้ามาในทะเลบรรพกาล พลังของข้าและแม้แต่จิตก็เริ่มผิดปกติ เมื่อรับรู้ได้ว่าจิตสั่นไหว ข้าก็รู้สึกราวกับมีบางอย่างเรียกข้าอยู่..” เขามั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ต้องเกี่ยวข้องกับทะเลบรรพกาลแต่เขาไม่มั่นใจว่ามันเป็นเพราะอะไร
“ แล้วคนอื่นล่ะ ? เจ้าได้ถามแม่ทัพคนอื่นรึไม่ ?” หว่านเก่อถามขึ้นมา
“ ข้าถามไปแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่ามีแค่ข้าคนเดียวที่มีอาการผิดปกติเช่นนี้” เรนไนพูดขึ้น
เขาไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้หมายถึงอะไร มันเป็นเรื่องดีรึแย่กันแน่ ?
หว่านเก่อคิ้วขมวด นางพยายามนึกหาข้อมูลต่างๆเพื่อหาความจริงเกี่ยวกับอาการผิดปกตินีเ
แต่ตอนนั้นเองหว่านเก่อกลับหรี่ตาลงและแผ่การรับรู้เข้าไปในตัวเรนไนอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจนางก็ดึงการรับรู้กลับมาและจ้องไปที่เรนไน “ ข้าอาจจะเดาออกแล้ว”
“ เจ้าเดาว่าอะไร ?” เรนไนถามขึ้นมา“ มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”
“ ข้าไม่มั่นใจว่าข้าคิดถูกรึไม่ แต่สถานการณ์ของเจ้านั้นคล้ายกับคนที่ข้าจำได้” หว่านเก่อสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่น สายตาของนางแสดงความตื่นเต้นออกมา “ จำตอนที่แข่งแย่งเอาก้อนแก่นครั้งแรกในอดีตได้รึไม่ ?”
เรนไนคิ้วขมวด “ เจ้าหมายถึงตอนที่เจ้าขึ้นเป็นจักรพรรดิรึ ?”
การแข่งขันครั้งแรกนั้นมีลูกปัดจิตทั้งหมด 9 ลูก ลูกปัดจิตทั้ง 9 นั้นมีจิตของจักรพรรดิ มันคือลูกปัดจักรพรรดิ จักรพรรดิทั้ง 9 ได้ลูกปัดนั้นไปและดูดซับมันจึงก้าวขึ้นมาเป็นจักรพรรดิได้
หว่านเก่อพยักหน้า “ ตอนนั้นมีแม่ทัพมนุษย์กว่า 20 คนที่แก่งแย่งเอาก้อนแก่น สุดท้ายลูกปัดจักรพรรดิก็ตกอยู่ในมือผู้คน หลายคนได้ทำการดูดซับมันแต่เพราะอ่อนแอเกินไปจึงไม่อาจจะรับพลังของจักรพรรดิได้ บางคนฝืนดูดซับมันแต่กลับโดนจิตของลูกปัดกลืนกิน..”
“ สุดท้ายแล้วลูกปัดจักรพรรดิก็ตกมาเป็นของซื่อเซียว, เย่าหยางและคนอื่นๆรวมถึงเจ้า หลังจากนั้นซื่อเซียวและคนอื่นๆก็ขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ เจ้าได้ยกลูกปัดให้กับข้า….ข้าได้กลายเป็นจักรพรรดิหญิงคนเดียวในหมู่จักรพรรดิทั้ง 9 !”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เรนไนก็เงียบไป
นอกจากหว่านเก่อแล้ว ทั้งทะเลโกลาหลก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เรนไนเคยได้โอกาสขึ้นเป็นจักรพรรดิแต่เขายอมทิ้งโอกาสนี้ให้กับหว่านเก่อ เพราะไม่งั้นแล้วในหมู่จักรพรรดิทั้ง 9 คงไม่มีหว่านเก่อแต่เป็นเขาแทน !
“ อย่าพูดถึงเรื่องอดีตเลย” เรนไนพูดขึ้นมา
เขาเคยเชื่อว่าถึงไม่มีลูกปัดจักรพรรดิ เขาก็สามารถขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ด้วยพรสวรรค์ของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงยกลูกปัดจักรพรรดิให้กับหว่านเก่อ
แต่ผ่านมาหลายปีเขาก็ยังเป็นแม่ทัพสูงสุดอยู่ น้องสาวที่เขาต้องคอยปกป้องในอดีต ตอนนี้กลับเป็นจักรพรรดิของทะเลโกลาหล จักรพรรดิหญิงเพียงคนเดียวในทะเลโกลาหล
มันทำให้เรนไนรู้สึกขัดแย้งในใจอย่างบอกไม่ถูก
“ ข้าเข้าใจว่าหลังจากที่ดูดซับลูกปัดจักรพรรดิไป จักรพรรดิทั้งเก้าเป็นขีดจำกัดของทะเลโกลาหล เรา 9 คนได้ควบคุมอำนาจทั้งหมด ตามกฎของทะเลโกลาหลแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีจักรพรรดิคนที่ 10 …” หว่านเก่อยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ หากข้ารู้ว่าทะเลโกลาหลแบกรับจักรพรรดิได้แค่ 9 คน ข้าคงไม่มีทางรับลูกปัดจักรพรรดิเอาไว้”
ด้วยการมีขุมกำลังมากมายเช่นนั้นในทะเลโกลาหล มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้กำเนิดจักรพรรดิได้อีก
ในอีกความหมายคือไม่ว่าเขาจะบ่มเพาะแค่ไหนแต่แม่ทัพสูงสุดก็เป็นขีดจำกัดของเขา เขาไม่อาจจะพัฒนาต่อได้
หากจำให้กำเนิดจักรพรรดิคนใหม่ จักรพรรดิคนเก่าต้องตายลงไปก่อน ในอดีตที่จักรพรรดิกุยหลิงได้ฆ่าจักรพรรดิทั้งห้า สำหรับเรนไนแล้วคือโอกาสครั้งสำคัญเพราะการตายไปของจักรพรรดิมนุษย์นั้น
หายความว่าทะเลโกลาหลจะให้กำเนิดจักรพรรดิอีก 5 คนแต่ไม่มีใครคิดเลยว่าในเวลาแค่สิบล้านปีแต่กลับมีเผ่าสวรรค์กำเนิดขึ้นมาจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ทั้งห้าได้กำเนิดขึ้นและชิงความได้เปรียบไปจากมนุษย์ !
เรนไนจึงไม่อาจจะขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ !
เขามีโอกาสสองครั้ง ครั้งแรกเขามอบให้กับ หว่านเก่อครั้งที่สองเขาโดนเผ่าสวรรค์แย่งโอกาสนี้ไป
การพลาดโอกาสสองครั้งนี้ทำให้เขายังเป็นแม่ทัพสูงสุด
“ อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย “เรนไน คิ้วขมวด เขาไม่อยากนึกถึงอดีต
หว่านเก่อพูดขึ้นมา “ เหตุผลที่ข้าพูดถึงเรื่องลูกปัดจักรพรรดิก็เพราะสถานการณ์ของเจ้าอาจจะเกี่ยวข้องกับลูกปัดจักรพรรดิ !
“ เจ้าหมายความว่ายังไง ?” เรนไนเงยหน้าขึ้นมาพร้อมเสียงที่สั่นเล็กน้อย
“ ตอนที่ข้าดูดซับลูกปัดจักรพรรดิ ข้าก็มีอาการแบบเดียวกับเจ้า” หว่านเก่อพูดขึ้นมา “ พลังของจิตทำงาน จิตนั้นสั่นไหว วิญญาณเองก็เช่นกัน มันร่าวกับมีเสียงใครเรียกเรา…ใช่ ในตอนที่ได้ลูกปัดจักรพรรดิมา ข้าก็รู้สึกเช่นนี้ !”
ตอนนั้นเองหว่านเก่อก็ตาเป็นประกายขึ้นมา “ หลังจากนั้นร่างกาย, พลัง, จิตของข้าก็ยกระดับขึ้นมา ! ตอนที่ทุกอย่างพัฒนาเสร็จสิ้นแล้วลูกปัดจักรพรรดิก็ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายข้า…”
นางตื่นเต้นยิ่งกว่าเรนไนเสียอีก
เรนไนตาเป็นประกายขึ้นมาแต่ไม่นานก็กลับไปแสดงท่าทีเฉยชาดังเดิม เขาส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ข้าไม่ได้ดูดซับลูกปัดจักรพรรดิ ร่างกายข้ายังไม่ได้รับการยกระดับ…” อันที่จริงสภาพของเขาตอนนี้เหมือนกับตอนที่ลูกปัดเพิ่งเข้าไปในร่างของหว่านเก่อร่างกายกำลังจะยกระดับ
“ เจ้าไม่ได้มีลูกปัดจักรพรรดิแต่อย่าลืมว่าที่นี่คือที่ไหน !” หว่านเก่อมองไปรอบๆ “ ที่นี่คือทะเลบรรพกาล ! ที่ที่มีกฎต่างจากทะเลโกลาหล ! มันไม่ได้มาลูกปัดจิต มันไม่มีจักรพรรดิเผ่าสวรรค์แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังมีจักรพรรดิอยู่ เจ้ารู้รึไม่ว่าหมายถึงอะไร ?”
เรนไนใจสั่น
“ มันหมายความว่าในทะเลบรรพกาลนั้นถึงไม่ได้ดูดซับลูกปัดจักรพรรดิแต่ก็มีโอกาสขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ ! นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าถึงเจ้าไม่ได้ดูดซับลูกปัดจักรพรรดิแต่ร่างกายเจ้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลง!” หว่านเก่อตื่นเต้นอย่างมาก “ บางทีเจ้าอาจจะทะลวงผ่านขีดจำกัดและขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ !”
เรนไนนใจเต้นรัว เขาราวกับกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขาก้มหน้าและมองไปที่มือตัวเองก่อนจะพึมพำออกมา “ ขะ ข้าทำได้จริงๆรึ ?” หว่านเก่อพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ “ ได้ ! ท่านพี่ เจ้าทำได้แน่ !”
“ แต่ข้าควรทำยังไง ?” เรนไนสับสน “ ไม่ต้องดูดซับลูกปัดจักรพรรดิแต่ขึ้นเป็นจักรพรรดิได้รึ ?”
“ บางที…อาจจะมีคนที่ช่วยเจ้าได้” เรนไนพูดขึ้นมา
“ ใครกัน ?”
“ คังเฉียง !” หว่านเก่อสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น “ เขาคือจักรพรรดิของทะเลบรรพกาล เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ทางที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดิของทะเลบรรพกาล ตราบใดที่เขาช่วย เจ้าก็จะขึ้นเป็นจักรพรรดิได้แน่ !”
หว่านเก่อคิดถูกแล้ว แต่เรนไนไม่ใช่คนของสำนักคังเฉียง แล้วจางหยูจะยอมช่วยรึ ?