ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 467 : หลุดมือ
ตอนที่ 467 : หลุดมือ
ไป่หลิงมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสีหน้าเย็นชา นางไม่ได้พูดอะไรออกมาต่อ
พ่อ, แม่และคนในเผ่าของนางล้วนตายไปหมดแล้ว นางเองก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
“อย่าว่าแต่เจ้าเป็นศิษย์สายตรงของราชาสัตว์อสูรเลย แม้ว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ของเขาจริงๆข้าก็จะสังหารเจ้า!” ชายแก่ฮึดฮัดออกมาและยื่นมือออกไปเตรียมที่จะลงมือ
แต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงอ่อนแรงเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “หยุด !”
ชายแก่ยิ้มออกมาและหรี่ตาลงมองด้านหลังไป่หลิง “ราชาจิ้งจอก เจ้าไม่คิดจะหนีรึ?”
ในเวลาเดียวกันไป่หลิงก็ดีใจขึ้นมา นางหันหลังกลับไปมองด้านหลังและพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ท่านพ่อ !”
นางคิดว่าพ่อกับแม่นางได้ตายไปแล้ว นางไม่คิดว่าพวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่
ชายวัยกลางคนในชุดที่ขาดรุ่งริ่งเดินเข้ามา ชายวัยกลางคนผู้นี้มีสีหน้าซีดเซียวและดูอ่อนแรง เขาได้รับบาดเจ็บหนัก เขามองไปที่ชายแก่และพูดขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น “เซิงเป่ยซิ่วเจ้าทำลายเผ่าจิ้งจอกไปแล้วยังไม่พออีกรึ ? ทำไมเจ้าต้องเข่นฆ่าเผ่าจิ้งจอกของเราให้หมดสิ้นด้วย ! ”
เซิงเป่ยซิ่ว คือชื่อของชายแก่ผู้นี้
“นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าสมควรได้รับ !” เซิงเป่ยซิ่วพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมย “เมื่อพวกเจ้าข่มเหงลูกของข้า พวกเจ้าก็ควรรู้ผลลัพธ์ของมัน!”
จิ้งจอกดูถูกลูกชายของเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องการเข่นฆ่าจิ้งจอกทั้งเผ่า
สายตาของราชาจิ้งจอกเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “เจ้ายโสเกินไปแล้ว!”
เซิงเป่ยซิ่วพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “หากเจ้ามีพลังทัดเทียมกับยอดฝีมือระดับสูงสุด เจ้าก็จะยโสเช่นนี้ !”
“เจ้าไม่กลัวว่าจะทำให้ราชาสัตว์อสูรขัดเคืองใจรึ?” สีหน้าของราชาจิ้งจอกหมองลง “เผ่าจิ้งจอกของข้าคือส่วนหนึ่งของเผ่าสัตว์อสูร มันถูกให้คุณค่าสูงส่งโดยราชาสัตว์อสูร หากเจ้าทำลายเผ่าจิ้งจอกของเรา ราชาสัตว์อสูรไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”
นี่คือความเป็นจริงที่น่าเศร้า นอกจากการอ้างชื่อเฉินกูแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นเลย
แน่นอนว่าเขากับราชาสัตว์อสูรไม่ได้เป็นญาติกัน ในสายตาของคนทั่วไปแล้วราชาจิ้งจอกกับราชาสัตว์อสูรจะเกี่ยวข้องกันได้ยังไง ?
เซิงเป่ยซิ่วพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “อย่าพูดถึงราชาสัตว์อสูรเลย ข้าไม่กลัวเขาเลยแม้แต่น้อย”
ในความเห็นของเขาแล้ว แม้แต่ราชาสัตว์อสูรก็อาจจะเป็นคู่มือของยอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์ไม่ได้
“เอาล่ะ ข้าไม่มีเวลามาพูดไร้สาระกับเจ้า ให้จิ้งจอกที่เจ้าซ่อนเอาไว้ออกมาให้หมด!” เซิงเป่ยซิ่วแสดงท่าทีเด็ดเดี่ยวออกมา “ข้าบอกว่าจะทำลายทั้งเผ่าจิ้งจอก แน่นอนว่าข้าต้องทำลายให้หมด ทั้งภูเขาจิ้งจอกจะไม่มีจิ้งจอกแม้แต่ตัวเดียวที่รอดไปได้ !”
เขาฮึดฮัดออกมาต่อ “อย่าคิดว่าภาพลวงตาจะขวางทางข้าได้ วันนี้ข้าต้องทำลายภาพลวงตานี้ได้ ! ตอนนั้นจิ้งจอกที่ไปซ่อนตัวจะต้องตายแย่กว่าพวกก่อนหน้านี้!”
ราชาจิ้งจอกสีหน้าหมองลง “เจ้าเป็นบ้าไปแล้ว !”
“ลูกรัก ที่นี่คือพื้นที่แห่งการสืบทอด เจ้ามาได้ครึ่งทางแล้ว ตอนนี้ก็จงไปหาแม่กับคนในเผ่าที่รออยู่ด้านในซะ” ราชาจิ้งจอกส่งข้อความหาไป่หลิง “ชายคนนี้พ่อจะยื้อไว้ให้เจ้าเอง !”
ระดับการบ่มเพาะของราชาจิ้งจอกสูงกว่าไป่หลิงอย่างมาก เขาอยู่เกือบถึงขอบเขตตุ้นซวนขั้นกลาง
หากเขาใช้พลังทั้งหมดออกมา แม้ว่าจะไม่ได้ระเบิดปราณแต่เขาก็ยังมั่นใจว่าจะสู้เพื่อยื้อเวลาให้ไป่หลิงได้บ้าง
“ท่านพ่อ ไม่ ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น !” ไป่หลิงตัวแข็งทื่อ จิ้งจอกน้อยส่งข้อความตอบกลับมา “หากจะต้องตาย เราจะตายด้วยกัน !”
ราชาจิ้งจอกสีหน้าซับซ้อนและตะโกนกลับมา “หยุด! การปลุกสายเลือดจิ้งจอกลวงตาศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมานี้ยากลำบาก เจ้าไม่คิดจะฟังคำพูดของพ่อเลยรึ?” เขาเห็นแล้วว่าไป่หลิงปลุกสายเลือดจิ้งจอกลวงตาศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ เขาพอใจอย่างมากแต่เขาก็ต้องรักษาท่าทีและพูดเสียงแข็งกับนาง
เมื่อเห็นดวงตาที่แดงก่ำของไป่หลิง ราชาจิ้งจอกก็ส่งข้อความออกมาอีก “เด็กน้อย ฟังคำพูดของพ่อ ไปยังดินแดนแห่งการสืบทอดและรับมรดกของผู้อาวุโสจิ้งจอกลวงตาศักดิ์สิทธิ์ ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยทุกคนไว้ได้ ไม่งั้นแล้วหากชายคนนี้ฝ่าออกจากป่าลวงตาไม่รู้จบได้ ทุกคนจะต้องตาย มันจะไม่มีใครรอดไปได้ แม้แต่แม่ของเจ้า, คนในเผ่าและแม้แต่เด็กๆก็ด้วย…”
“เจ้าเป็นความหวังเดียวของเผ่าจิ้งจอก มีแค่เจ้าที่ช่วยทุกคนได้ เด็กน้อย อย่าเศร้าโศกไป คิดถึงแม่เจ้า คิดถึงเด็กๆที่ไร้เดียงสา การเสียสละของพ่อจะสร้างโอกาสให้ทุกคนได้มีชีวิตอยู่ต่อ!”
“ท่านพ่อ !” ไป่หลิงสะอื้น “ขอโทษด้วยท่านพ่อที่ข้ามันไร้ประโยชน์ !”
ราชาจิ้งจอกส่ายหน้าและสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะบอกกับ เซิงเป่ยซิ่ว “เซิงเป่ยซิ่ว ข้าอยากตัดเจ้าออกเป็นหมื่นๆชิ้นแต่ข้าต้องยอมรับว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะ หากไม่ใช่เพราะลูกของเจ้า บางทีสักวันเจ้าอาจจะยิ่งใหญ่แบบท่านเป้ยหลง เจ้าไม่ควรหยุดอยู่แค่นี้ เจ้าไม่ควรจะหยุดเพราะเผ่าจิ้งจอกของเรา….”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ ราชาจิ้งจอกก็หรี่ตาลงและถอนหายใจออกมา “เซิงเป่ยซิ่ว ข้าสาบานว่าเจ้าจะต้องตายอย่างน่าอนาถ ! ราชาสัตว์อสูรไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ ! ”
“ดี ข้าคาดหวังว่าเขาจะมา!” เซิงเป่ยซิ่วพูดด้วยท่าทีเฉยเมย
“ลูกรัก หนีไปซะ !” ราชาจิ้งจอกบอกกับไป่หลิงและระเบิดพลังของตนเองออกมา ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เซิงเป่ยซิ่วโดยไม่ลังเล เขาพุ่งออกไปราวกับแมงเม่าที่บินเข้ากองไฟ แม้ว่ารู้ว่าตัวเองจะต้องตายแต่เขาก็ยังพร้อมจะพุ่งเข้าใส่กองไฟ “เซิงเป่ยซิ่วข้า ไป่หลัว จะต้องตายไปพร้อมกับเจ้า ! ”
หัวใจของไป่หลิงหล่นวูบด้วยความเจ็บปวด
แต่ในหัวนาง คำพูดของบิดานางยังคงดังก้องอยู่ในหัว นางได้แต่เดินหน้าไปตามเส้นทางที่จำได้
ปัง ปัง ปัง !
ด้านหลังนางเกิดเสียงระเบิดดังก้องขึ้น คลื่นอากาศอันน่ากลัวกระจายออกไปทุกทิศทางแต่เรื่องที่แปลกคือต้นไม้รอบๆกลับไม่เสียหายเลยแม้แต่น้อย
แต่แค่อึดใจเดียวร่างของเซิงเป่ยซิ่วก็โผล่มาด้านหลังไป่หลิง เขาฮึดฮัดออกมา “ตายไปด้วยกันรึ ? เจ้าประเมินตัวเองสูงไปหน่อย..”
แม้แต่สัตว์อสูรที่อยู่เกือบขอบเขตตุ้นซวนขั้นสูง ก็ไม่ต่างอะไรจากมด เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์
“สาวน้อย เจ้าต้องตายแล้ว!” เซิงเป่ยซิ่วยื่นมือออกมาหาไป่หลิงที่กำลังหนี
ตอนนั้นมิติรอบตัวเหมือนจะแข็งตัวขึ้นมา ไป่หลิงถึงกับรู้สึกว่านางจะต้องตาย
ตอนนั้นเองไป่หลิงก็ได้ยินเสียงอันนุ่มนวลดังขึ้นมาในหู “ลูกรัก เจ้าจำไว้ว่าเจ้าต้องรอดและมีชีวิตที่สดใส!”
ไป่หลิงหันกลับมาและพบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา ใบหน้าของนางเผยรอยยิ้มอันอบอุ่นอกมา ไป่หลิงอ้าปากจะพูด แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ผู้หญิงคนนั้นกลับพุ่งเข้าใส่เซิงเป่ยซิ่วและระเบิดตัวเอง
เพื่อลูกของนางแล้ว นางยอมเสียสละทุกอย่าง แม้แต่ต้องเสียสละชีวิตตัวเอง นางไม่รู้สึกเสียดายเลยแม้แต่น้อย
ยิ่งกว่านั้นราชาจิ้งจอกก็ตายไปแล้ว นางไม่คิดที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ
“ท่านแม่!” ไป่หลิงกรีดร้องออกมา หัวของนางว่าเปล่าราวกับว่าวิญญาณได้ถูกลบไป
แค่สองอึดใจพ่อกับแม่ของนางได้ตกตายไป คนที่สำคัญที่สุดสองคนของนางได้จากไปตลอดกาล….
“หึหึหึ ความรักของพ่อแม่ แม้แต่ข้าเองก็ยังรู้สึกตะลึงนิดๆ !” เซิงเป่ยซิ่วราวกับผี เสียงของเขายังคงดังก้องในหูไป่หลิง “โชคร้ายที่เจ้ายังต้องตายเช่นเดิม! ”
ในเวลาเดียวกันข้างๆของไป่หลิงก็มีร่างสามร่างโผล่มา พวกนั้นได้พุ่งเข้าใส่เซิงเป่ยซิ่วและตะโกนออกมา “ต้องการจะฆ่าองค์หญิง เจ้าไม่คิดจะถามเราเลยรึ?”
ไป่หลิงตัวสั่น จิตใจนางแทบแตกสลาย “ท่านผู้เฒ่า! ”
ทั้งสามคือสัตว์อสูรขอบเขตหลี่ซวนขั้นสูง ทั้งสามได้ร่วมมือกันระเบิดวังวนในร่างกายออกมา พลังของมันใช่ว่าจะมองข้ามได้
ปัง ปัง ปัง !
เสียงระเบิดดังก้องพร้อมกับคลื่นอากาศกระจายไปทั่วช่วงสุดท้ายของชีวิตทั้งสามคน
เซิงเป่ยซิ่วถูกขวางไว้แค่อึดใจเดียว เขาได้ไล่ตามต่อพร้อมคิ้วที่ขมวด “พวกแมลงวันน่ารำคาญ !”
การที่เขาจะฆ่าไป่หลิงกลับถูกขัดขวางไว้ถึง 4 ครั้ง เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกโกรธแต่ยิ่งคนมากมายมาหยุดเขาเท่าไหร่ เขายิ่งต้องการฆ่าไป่หลิงมากเท่านั้น สิ่งที่เซิงเป่ยซิ่วต้องการจะทำมีใครบ้างที่หยุดเขาได้ ?
ความคิดบ้าคลั่งได้ฝังอยู่ในหัวของเซิงเป่ยซิ่ว
“ข้าอยากเห็นจริงๆว่าจะมีใครช่วยเจ้าได้อีก!” เซิงเป่ยซิ่วแสดงสายตาอาฆาตออกมา ฝ่ามือของเขามีพลังอันน่ากลัวอัดแน่นขึ้นมา เขาได้ปล่อยพลังนั้นเข้าใส่ไป่หลิง พลังที่แม้แต่นักสู้ขอบเขตตุ้นซวนก็ไม่อาจจะรับไหว เขาไม่คิดว่าไป่หลิงที่อยู่ขอบเขตหลิงซวนจะทนรับมันได้ไหว
เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังอันน่ากลัวด้านหลัง ไป่หลิงก็แสดงสายตาที่ดูโล่งอกออกมา “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าจะไปพบท่านแล้ว”
นางมองไปด้านหน้า หากนางก้าวออกไปอีกก้าวเดียว นางก็จะออกจากป่าลวงตาไม่รู้จบนี้ได้ และเข้าสู่ดินแดนแห่งการสืบทอด
แต่เซิงเป่ยซิ่วกลับทำลายความหวังของนาง เขาทำลายความคาดหวังที่พ่อ, แม่และผู้เฒ่าทั้งสามมี….
ปัง !
พลังอันน่ากลัวตัดผ่านระยะเข้ามาและอัดเข้าใส่ไป่หลิงอย่างแม่นยำ
ไป่หลิงหลับลงพร้อมกับความโล่งอก ใจของนางยังรับรู้ถึงความผ่อนคลาย
ไม่คาดคิดว่าตอนที่พลังอันน่ากลัวกลืนกินตัวไป่หลิงนั้น อยู่ๆร่างกายของไป่หลิงกลับระเบิดพลังอันน่ากลัวออกมาและปกป้องนางเอาไว้ในตอนสุดท้าย ตอนนั้นร่างของไป่หลิงได้กระเด็นและหายออกไปทันที
นัยน์ตาของเซิงเป่ยซิ่วหรี่ลง สีหน้าเขาแสดงความแปลกใจออกม า“พลังนี้มันช่างแข็งแกร่งจริงๆ !”
เขาจำที่ไป่หลิงบอกไว้ก่อนหน้านี้ได้ เขาอดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวด“ นางเป็นศิษย์สายตรงของราชาสัตว์อสูรจริงๆรึ ?” พลังที่แปลกประหลาดกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของสัตว์อสูร กลับต้านทานพลังของเขาได้และทำให้พลังของเขาหายไป นี่ไม่ใช่พลังที่สัตว์อสูรขอบเขตหลิงซวนควรจะมี
“แต่เป็นศิษย์สายตรงของราชาสัตว์อสูรแล้วมันยังไง? ราชาสัตว์อสูร ข้าไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย นี่ไม่ต้องนับศิษย์ของเขาเลย ! ” เซิงเป่ยซิ่วสลัดความคิดอื่นๆทิ้งและเมื่อคิดว่าไป่หลิงหนีไปได้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ “น่าเสียดายที่นางหนีไปได้!”
เขามองไปรอบๆและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ป่าลวงตาบัดซบ ข้าจะทำลายที่นี่ให้ได้ !”
เมื่อพูดจบร่างของเซิงเป่ยซิ่วก็ระเบิดพลังอันน่ากลัวออกมา มันทำให้ป่าลวงตาแห่งนี้สั่นไหวเล็กน้อย
ที่ป่าหวงหยวนทางเขตเหนือ เสียงคำรามด้วยความโกรธเคืองดังก้องไปทั่ว “ ใครกันที่กล้าโจมตีศิษย์ของข้า ! ”
พร้อมกับเสียงตะโกนนั้น ก็มีพลังอันน่ากลัวระเบิดออกมา แผ่ออกไปเกือบครึ่งของป่าหวงหยวน แม้แต่ที่เมืองทะเลทรายและริมยอดเขาก็ได้รับผลกระทบจากพลังนี้ สัตว์อสูรและมนุษย์นับไม่ถ้วนต่างก็พากันลนลาน พวกเขาต่างก็มองไปยังทางป่าหวงหยวน
จากนั้นร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากป่าหวงหยวน แค่อึดใจเดียวร่างนั้นก็พุ่งตัดระยะทางไปหลายพันไมล์
พลังของสัตว์อสูรแผ่ออกมา ทุกคนที่รับรู้ได้ถึงพลังนี้ต่างก็พากันตัวสั่น
เหล่าสัตว์อสูรและมนุษย์ที่รับรู้ได้ถึงพลังนี้ต่างก็พากันตัวสั่น