ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 489 : เรื่องน่าตกใจ
ตอนที่ 489 : เรื่องน่าตกใจ
ชายแก่เข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายทันทีแต่เขาก็ยังกังวลอยู่ “ด้วยความแข็งแกร่งของคังแล้ว ข้าไม่ได้กังวลว่าเขาจะทำอะไร แต่หากเขาร่วมมือกับมนุษย์และสัตว์อสูร ข้อมูลของเราอาจจะรั่วไหลออกไป ข้ากลัวว่ามันจะเป็นปัญหา”
“รั่วไปแล้วยังไง?” ชายวัยกลางคนยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ “หากเป็นแต่ก่อนแล้ว เราคงต้องเตรียมตัวรับมือกับเรื่องนี้แต่ตอนนี้ด้วยความแข็งแกร่งของพันธมิตรกลายพันธุ์ที่เพิ่มขึ้นมา แม้ว่ามนุษย์กับสัตว์อสูรจะร่วมมือกันแต่พวกนั้นจะทำอะไรได้?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นชายแก่ก็เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ “ ใช่ เรามียอดฝีมือระดับสูงสุดถึง 32 คน ตามลำดับชั้นแล้วมีขั้นสูง 4 คน, ขั้นกลาง 8 คนและขั้นต่ำ 20 คน แม้ว่าเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ แต่พวกนั้นอาจจะทำอะไรเราไม่ได้…”
“เจ้าไม่ได้โง่นิ” ชายวัยกลางคนเผยรอยยิ้มออกมา “หากข้าไม่มั่นใจ ข้าคงไม่พามายึดเขตใต้แบบนี้ ในทางกลับกันแล้วมันเท่ากับเป็นการประกาศตัวตนของเราออกไป เราหลบซ่อนกันมานาน ตอนนี้ด้วยความแข็งแกร่งที่เรามีนั้นเราไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอีกต่อไป ” ชายวัยกลางคนเงียบไปชั่วครู่และพูดต่อ “ นี่ยังไม่รวมกับการที่ข้ามั่นใจว่าคังไม่กล้าจะก่อเรื่องขึ้น แม้ว่าเขาจะเผยข้อมูลเรื่องพันธมิตรกลายพันธุ์ไป แต่เขาก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะ…..เฉินลู่ลู่ยังอยู่ในกำมือของเรา ตราบใดที่เฉินลู่ลู่ยังมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่กล้าจะทำอะไรโดยไม่คิด อย่างมากเขาก็แค่ทำตัวไม่เชื่อฟัง ในภาพรวมแล้วเขาคงไม่กล้าก่อเรื่องขึ้นมาอย่างแน่นอน”
ชายแก่ตอบกลับด้วยความเคารพ “รองผู้นำช่างปราดเปรื่องเสียจริง!”
“อินทรีย์เทา” ชายวัยกลางคนมองไปที่อีกฝ่ายและพูดขึ้นมา “ข้ารู้ว่าเจ้ามีวันเวลาที่ดีร่วมกับคังก่อนที่จะเป็นผู้กลายพันธุ์แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะมองข้ามมันไป หากแผนการครั้งใหญ่นี้พังลง อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้า”
เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของชายแก่ก็เปลี่ยนไป เขาชะงักทันที “รองผู้นำ ข้านั้นภักดีต่อพันธมิตรกลายพันธุ์ ข้าไม่กล้าจะทำให้แผนการของท่านเสียหาย ! ”
ชายวัยกลางยิ้มออกมา “อย่ากังวลไป ข้าแค่พูดเฉยๆ ข้าไม่คิดสงสัยความภักดีที่เจ้ามี เจ้าสบายใจได้ ตอนนี้เรายังใช้ประโยชน์จากคังได้เพราะภรรยาของเขา อีกไม่นานเขาก็จะหมดค่า ตอนนนั้นข้าคงส่งให้เจ้าจัดการกับนาง ”
“ขอบคุณรองผู้นำ!” ชายแก่ดูคึกขึ้นมาทันที
ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา “ โอ เรื่องของคังค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้มาพูดถึงเรื่องยึดเขตใต้ไว้ก่อน มันมีปัญหาอะไรอีกหรือไม่ ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นชายแก่ก็ตอบกลับทันที “ทุกอย่างราบรื่นดี ตั้งแต่ที่เราลงมือมาก็ใช้เวลาแค่ 2 วันก็ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ มนุษย์และสัตว์อสูรรู้ตัวช้าเกินไป เดาว่าตอนนี้พวกเขาคงได้ข่าวกันแล้ว โชคร้ายที่พวกนั้นมาช้ากันเกินป แม้ว่าจะลงมือตอนนี้ แต่มนุษย์และสัตว์อสูรที่ตายไปในเขตใต้ก็ไม่อาจจะฟื้นคืนกลับมาได้ ”
“ข้าได้ยินเจ้าเพิ่งบอกไปว่ามีคนที่หนีไปได้ จำนวนนั้นเหมือนจะมากอยู่ เกิดอะไรขึ้นกัน?” ชายวัยกลางคนคิ้วขมวด
ตามแผนแล้วเป้าหมายของพวกเขาคือฆ่าทุกชีวิตในเขตใต้โดยไม่ละเว้น
ชายแก่ลังเลขึ้นมา
“พูดมา!” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมย
ชายแก่สูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ แม้ว่าทุกคนจะทำหน้าที่นี้กันอย่างเคร่งครัด แต่ในตอนวิกฤตหลายคนไม่อาจจะฆ่ามนุษย์ได้ ข้าไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่ แต่ส่วนมากพวกนั้นจะไว้ชีวิตมนุษย์ไป…”
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว “ มันยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีกรึ ! ”
เขามองไปที่ชายแก่แล้วถามขึ้นมา “แล้วเจ้าล่ะ ? เจ้าเป็นแบบนั้นด้วยหรือไม่?”
ชายแก่รีบตะโกนออกมา “ข้าทำตามคำสั่งของท่านทุกอย่าง ทุกครั้งที่ลงมือจะไม่เหลือใครรอดไปได้ !”
“ฮี่ฮี่ ไม่ต้องกังวลไป ข้าบอกไปแล้วว่าข้าไม่ได้สงสัยในความภักดีของเจ้า” ชายวัยกลางคนยิ้ม “เจ้าช่วยพูดถึงกลุ่มคนที่เจ้าพูดถึงเมื่อครู่มาได้หรือไม่?”
ชายแก่ตัวสั่นด้วยความกลัว “ตามที่ข้าสังเกตมา คนส่วนมากของเราเป็นแบบนั้น ทั้งป้าหวาง,หัตถ์โลหิต,ทลายสวรรค์,เทพนิรนาม…” เขาบอกชื่อกว่ายี่สิบชื่ออกมา “พวกเขาเป็นแค่พวกดูแล แม้จะรู้ว่าตัวเองทำผิด แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากในเรื่องนี้….”
เมื่อได้ยินรายชื่อนั้น ชายวัยกลางคนก็ครุ่นคิด “พวกนี้คือกลุ่มกลายพันธุ์เมื่อไม่กี่วันก่อน หึหึ น่าสนใจจริงๆ”
ชายแก่ก้มหน้าและไม่ได้กล้าพูดอะไรออกมาอีก
เขาเองก็เป็นผู้กลายพันธุ์ไม่กี่วันก่อนเช่นกัน ตอนที่ชายวัยกลางคนพูดถึงคนกลุ่มเขา แน่นอนว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะแทรกขึ้นมา
“พวกเขาเพิ่งกลายเป็นผู้กลายพันธุ์ และไม่อาจจะปรับตัวเข้ากับตัวตนใหม่ได้ พวกเขายังสงสารมนุษย์ นี่ก็พอเข้าใจได้” ชายวัยกลางคนเผยรอยยิ้มออกมา “พวกเขาคงไม่คิดถึงฐานะในตอนนี้ และคิดว่าตัวเองยังเป็นมนุษย์อยู่…”
“นี่…..” ชายแก่เผยสีหน้าซับซ้อนออกมา
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนดี ในทางกลับกันแล้วเขาเคยทำเรื่องชั่วร้ายมามากมาย แต่การกระทำแบบนี้ยังทำให้ฆาตกรดูเหมือนมนุษย์มากกว่าพวกเขาอีก มันก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมพวกกลายพันธุ์ถึงไม่กล้าฆ่ามนุษย์
ยังไงซะถึงพวกเขาจะเลวแค่ไหน และเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่ในอดีตพวกเขาก็ยังเป็นมนุษย์
พวกคนที่คิดแบบนี้ หากต้องสู้กับคนในตระกูลตัวเอง งั้นก็คงยากที่พวกเขาจะฆ่าคนในตระกูลได้
“เจ้าบอกว่าภูผา, ทลายบูรพา และหมึกเพชรฆาตเองก็เป็นเหมือนกันรึ?” ชายวัยกลางคนถามถึงสามคนนี้
สามคนนี้ไม่เหมือนกับพวกกลายพันธุ์คนอื่นๆ พวกเขาเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูง พวกที่แข็งแกร่งที่สุดในพันธมิตรกลายพันธุ์ นอกจากสามคนนี้แล้วอีกคนที่เหลือก็คืออินทรีย์เทา
อินทรีย์เทาคือชายแก่ที่พูดอยู่ตอนนี้
ชายแก่พยักหน้าและพูดขึ้นมา “ทลายบูรพาและหมึกเพชฌฆาตทำได้ดี แต่ภูผาที่ดูแลส่วนชายแดนระหว่างเขตใต้และกลางนั้นกลับปล่อยให้มนุษย์หนีไปได้…ไม่งั้นแล้วหากเขาเอาจริง มนุษย์คงไม่อาจจะหนีไปจากเขตใต้ได้….”
ชายวัยกลางคนเผยรอยยิ้มออกมา “ข้าเป็นคนส่งให้เขาไปดูแลชายแดนเอง เป้าหมายก็เพื่อให้เขากำจัดพวกมดปลวกที่จะหนีรอดไปได้ แต่เขากลับไม่ทำ เขาจงใจปล่อยมนุษย์พวกนั้นไป…หึหึ ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะไม่คิดใส่ใจคำพูดของข้าเลย ! ”
ชายแก่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาไม่เข้าใจความคิดของชายวัยกลางคน เขาไม่กล้าจะพูดความเห็นของตัวเองออกมาเพราะมันอาจจะสร้างปัญหาขึ้นมาได้
“ข้าจะให้เวลาเจ้า 1 ชม.” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา “เจ้าไปเรียกทุกคนมา”
ชายวัยกลางคนเป็นแค่ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นกลาง แต่ชายแก่กลับกลัวอีกฝ่ายอย่างมาก เขาไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
ชายวัยกลางคนโบกมือและพูดขึ้น “ไปได้”
ไม่นานร่างของชายแก่ก็หายตัวไป จากนั้นชายวัยกลางคนก็ยืนนิ่งอยู่บนยอดเขาราวกับรูปปั้นมองออกไปภายนอกไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย หิมะที่ตกลงมาไม่อาจจะเข้าใกล้ตัวเขาได้ราวกับมีโล่พลังที่มองไม่เห็นคั่นเอาไว้ สุดท้ายมันก็ปลิวไปยังทิศทางอื่น
ชายวัยกลางคนได้บอกชายแก่ให้เรียกทุกคนมาภายใน 1 ชม. อันที่จริงชายแก่ใช้เวลาแค่เพียง 30 นาทีก็เรียกทุกคนมาได้แล้ว
กลุ่มผู้กลายพันธุ์ได้ทำความเคารพต่อชายวัยกลางคนทันทีที่มาถึง
เวลาผ่านไปสักพักแต่ชายวัยกลางคนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจนทำให้พวกกลายพันธุ์เริ่มกลัว บรรยากาศลนลานเริ่มแผ่ครอบคลุมที่นั่น
ผู้กลายพันธุ์ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดกว่า 32 คนต่างก็กลัวชายวัยกลางคนที่เป็นเพียงยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นกลาง หากคนนอกรู้เรื่องนี้คงไม่มีทางเชื่อ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ชายวัยกลางคนค่อยๆหันกลับมาและมองไปยังเหล่าผู้กลายพันธุ์ก่อนจะพูดขึ้นด้วยสีหน้าเฉยชา “พวกเจ้าจำที่ข้าบอกก่อนจะลงมือได้รึไม่?”
ทุกคนพากันมองหน้ากันก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไป
“รองผู้นำ เรา…” ผู้กลายพันธุ์ที่มีผิวสีฟ้าพูดขึ้นมาด้วยความกังวล
เขายังไม่ทันได้พูดจบ ชายวัยกลางคนก็พูดขึ้น “ เจ้าไม่ต้องรีบอธิบาย เจ้าแค่ต้องตอบคำถามของข้า จำได้หรือจำไม่ได้ ”
พวกเขาพากันเงียบลงก่อนจะตอบกลับ “ เราจำได้ ”
“เมื่อพวกเจ้าจำได้ งั้น….ทำไมพวกเจ้าถึงได้สงสารมนุษย์?” ชายวัยกลางคนพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “พวกเจ้าคิดว่าคำพูดข้ามันไร้ค่าหรือไง ? ”
แม้ว่าเสียงของชายวัยกลางคนจะไม่ได้พิเศษอะไรแต่ทุกคนต่างก็กลัว บางคนถึงกับตัวสั่น
ชายวัยกลางคนมองไปที่ผู้กลายพันธุ์ที่มีตัวเหมือนกับหิน เขายิ้มและถามขึ้นมา “ภูผา ข้าให้เจ้าไปดูแลชายแดนระหว่างเขตใต้และกลาง ข้าให้เจ้ากำจัดพวกที่หนีรอดไป พูดถึงภารกิจนี้แล้วมันเป็นยังไงบ้าง ?”
สีหน้าของภูผาซีดลง
เขารีบก้มหน้าและไม่กล้าจะหายใจออกมา
เขาเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดแต่กลับกลัวจนตัวสั่น สายตาเขาเต็มไปด้วยความกลัว
“ดูเหมือนว่าอินทรีย์เทาจะไม่ได้โกหกเรื่องเจ้า” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เจ้าบอกมาทีว่าข้าควรจะจัดการกับเจ้ายังไง?”
ภูผาใจหล่นวูบและพูดขึ้นมา “ รองผู้นำ ข้ารู้ว่าทำผิดไป ข้าจะไม่ทำผิดซ้ำสองอีก ! ข้าขอโอกาสด้วย ! ”
“ โอกาส ? หึหึ…” ชายวัยกลางคนหัวเราะออกมา “เจ้าเพิ่งจะเป็นผู้กลายพันธุ์ เจ้าไม่อาจจะปรับตัวกับตัวตนใหม่ได้ เรื่องนี้พอเข้าใจได้ ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่คิดถือโทษโกรธเจ้าหรอก ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ภูผาก็โล่งอก
รอยยิ้มบนใบหน้าของชายวัยกลางคนดูสดใสยิ่งกว่าเดิม “ ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องกลัว ข้าอารมณ์ดีอยู่ ข้าไม่คิดโกรธเจ้าหรอก ยังไงซะ….แค่ตายมันจะไปแปลกอะไร ? ”
สีหน้าของภูผาเปลี่ยนไปทันที
แต่ก่อนที่เขาจะได้เคลื่อนไหว ชายวัยกลางคนก็ได้สะบัดมือแตะไปที่ร่างของภูผา ในพริบตาร่างกายก็เหมือนกับหุ่นเชิดที่ไร้วิญญาณ ก่อนที่ปราณในตัวจะกระจายออกไปพร้อมกับร่างที่ล้มลงไปบนพื้น
แค่สะบัดฝ่ามือก็ทำให้ภูผา ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูง ถึงกับตายโดยไม่มีโอกาสได้ดิ้นรนเลยแม้แต่น้อย…
น่ากลัวจริงๆ !
ผู้กลายพันธุ์คนอื่นๆต่างก็พากันเปลี่ยนสีหน้าไป และมองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยความกลัว
ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูง กลับตายอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของชายวัยกลางคน มันทำให้ผู้กลายพันธุ์คนอื่นๆต่างก็พากันหวาดกลัว
“ยกโทษให้ข้าด้วย รองผู้นำ!”
นอกจากอินทรีย์เทาแล้ว ผู้กลายพันธุ์คนอื่นๆต่างก็รีบคุกเข่าให้กับชายวัยกลางคนและแสดงสีหน้าหวาดกลัวสุดขีดออกมา
ชายวัยกลางคนไม่ได้สนใจพวกนั้น เขาจับร่างของภูผาขึ้น ก่อนจะยิ้มออกมา “ร่างของยอดฝีมือระดับสูงสุดไม่อาจจะเสียเปล่าได้ ส่งกลับไปที่สำนักงานแล้วใช้มันเป็นวัตถุดิบ…”