ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 490 : การต่อสู้
ตอนที่ 490 : การต่อสู้
เมื่อเห็นรอยยิ้มของชายวัยกลางคน ทุกคนต่างก็พากันขนลุก
หากเทียบกับผู้กลายพันธุ์คนอื่นๆแล้ว ชายวัยกลางคนนี่แหละที่ดูเหมือนว่าจะมีจิตใจที่บิดเบี้ยวมากกว่าผู้อื่น !
เขาพูดคุยกับภูผาอยู่ดีๆ แต่กลับฆ่าภูผาได้ คนอื่นๆจะไม่กลัวได้ยังไง ?
ต้องรู้ก่อนว่าภูผาเป็นถึงยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูง ! หากมองทั้งพันธมิตรกลายพันธุ์แล้ว ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงนั้นหาได้ยาก !
แต่คนระดับนั้นกลับถูกชายวัยกลางคนฆ่าโดยไม่ลังเล….
ผู้กลายพันธุ์ต่างก็พากันหวั่นใจ พวกเขารู้สึกโกรธชายวัยกลางคน แต่ไม่มีความกล้ามากพอที่จะต่อต้าน เพราะพวกเขารู้ว่าเมื่อต่อต้าน….สิ่งที่รออยู่ก็คือความตาย!
แม้ว่าพวกเขาจะมียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูง 3 คน, ขั้นกลาง 8 คนและขั้นต่ำ 20 คน แต่พวกเขาต่างก็รู้สึกต่ำต้อยต่อหน้าชายวัยกลางคน หากชายวัยกลางคนต้องการจะฆ่าพวกเขา แค่คิดพวกเขาก็ตายได้ ไม่มีใครจะหนีรอดออกไปได้
“พันธมิตรกลายพันธุ์ไม่ได้ขาดยอดฝีมือระดับสูงสุด และในอนาคตก็ใช่ว่าจะขาดแคลน” ชายวัยกลางยกร่างของภูผาขึ้นมา และมองไปยังกลุ่มผู้กลายพันธุ์ด้านหลัง ก่อนจะยิ้มออกมา “หากใครกล้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่า จะลองดูก็ได้”
ผู้กลายพันธุ์ทุกคนต่างก็พากันก้มหน้าด้วยสายตาที่แสดงความกลัวออกมา
แม้แต่ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงทั้ง 3 คนอย่างทลายบูรพา, หมึกเพชรฆาต, และอินทรีย์เทาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“ข้าหวังว่าคำสั่งของข้าในอนาคตนั้น พวกเจ้าจะเชื่อฟังกัน?” ชายวัยกลางคนถามขึ้นมา
ผู้กลายพันธุ์มองหน้ากันก่อนจะตอบกลับ “พวกเราจะทำตามคำสั่งของรองผู้นำ!”
แน่นอนพวกเขารู้จุดประสงค์ของชายวัยกลางคนในการฆ่าภูผาต่อหน้าพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเชื่อฟัง แม้จะรู้ว่าชายวัยกลางคนต้องการจะข่มขู่พวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกันแค่ไหน แต่พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจากมดปลวก แค่ชายวัยกลางคนคิดก็ฆ่าพวกเขาได้ง่ายๆแล้ว
“ดีมาก ดูเหมือนพวกเจ้าจะคิดแบบที่ข้าคิด” ชายวัยกลางคนพยักหน้าอย่างพอใจ “ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจะร่วมมือกับข้าเป็นอย่างดีในอนาคต”
ตอนนั้นไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไรออกมา
ชายวัยกลางคนมองไปยังเหล่ายอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำ จนทำให้พวกนั้นต้องตัวสั่น
ชายวัยกลางคนยิ้มออกมา “ไม่ต้องกลัวไป ข้าไม่ทำร้ายพวกเจ้าหรอก”
ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำตัวสั่น ไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา
“มานี่ ข้ามีภารกิจให้กับพวกเจ้า” ชายวัยกลางพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เอาร่างของภูผาไปส่งที่สำนักงาน มีปัญหาอะไรหรือไม่?”
“ได้!” ผู้กลายพันธุ์ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำคนหนึ่ง ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ชายวัยกลางคนโยนร่างของภูผาไปให้อีกฝ่าย หลังจากที่อีกฝ่ายรับร่างของภูผาเอาไว้ ชายวัยกลางคนก็พูดขึ้นต่อ “จำไว้ว่าส่งเขาไปยังสำนักงาน…หากมีเรื่องอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น เจ้าคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ผู้กลายพันธุ์ตัวสั่นและรีบก้มหน้ารับปากทันที “ข้ารับรองว่าจะทำภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้น หากภารกิจล้มเหลว ข้าจะรับบทลงโทษ!”
หลังจากนั้นผู้กลายพันธุ์ก็ได้อุ้มร่างของภูผามุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อผู้กลายพันธุ์คนนั้นหายไป ชายวัยกลางคนก็ละสายตากลับมา และบอกกับผู้กลายคนพันธุ์อย่างทลายบูรพาและหมึกเพชรฆาตว่า “เดี๋ยวข้าจะมีภารกิจให้กับพวกเจ้า” ชายวัยกลางคนเงียบไปชั่วครู่และพูดต่อ “หลังจากวันนี้ไป ข้าไม่ต้องการให้ภูเขาเขตใต้มีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากพวกเราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์อสูรก็ตาม ข้าต้องการให้เขตใต้อยู่ภายใต้การควบคุมของเราอย่างสมบูรณ์ ข้าหวังว่าพวกเจ้าคงไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องผิดพลาดแบบเดิมซ้ำ..”
ทลายบูรพา,หมึกเพชฌฆาตและคนที่เหลือต่างก็พากันก้มหน้า
มีแค่อินทรีย์เทาเท่านั้นที่ยังใจเย็นอยู่ได้ เขามองไปที่ชายวัยกลางคนและพูดขึ้นมาอย่างลังเล “รองผู้นำ ภูผาตายไปแล้ว ชายแดนนั้น…”
“คงต้องฝากชายแดนให้เจ้าดูแลไปก่อนชั่วคราว” ชายวัยกลางคนยิ้มออกมา “สำหรับพื้นที่ที่เจ้ารับผิดชอบ ทลายบูรพากับหมึกเพชรฆาตจะช่วยกันดูแลให้…”
อินทรีย์เทาตอบกลับทันที “ได้!”
ทลายบูรพาและหมึกเพชรฆาตตอบกลับด้วยความเคารพ “ผู้น้อยรับคำสั่ง!”
“ดี ไปได้แล้ว” ชายวัยกลางคนโบกมือ “ข้าให้เวลาพวกเจ้าวันเดียว!”
ครั้งนี้เวลากระชั้นชิด พวกผู้กลายพันธุ์ไม่กล้าจะเสียเวลาอีกต่อไป เมื่อชายวัยกลางคนพูดจบ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังภูเขาเขตใต้ ไปยังพื้นที่ที่พวกเขารับผิดชอบกันทันที ทุกคนหายตัวไปและไม่นานภูเขาแห่งนั้นก็เหลือเพียงแค่หิมะและชายวัยกลางคนเท่านั้น
ไม่นานหลังจากที่ผู้กลายพันธุ์พากันกลับไป อยู่ๆทางเขตกลางก็มีพลังอันแข็งแกร่งระเบิดออกมา
ชายวัยกลางคนหรี่ตาลงเล็กน้อย “มาเร็วจริงๆ!”
ต่อมาร่างของชายวัยกลางคนก็หายไปจากยอดเขา
หลังจากนั้นประมาณสิบอึดใจ ร่างของชายวัยกลางคนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่เมืองร้างแห่งหนึ่ง
ร่างหลายสิบร่างได้เข้าล้อมจุดที่เกิดการผันผวนของมิติที่เริ่มแตกออกเป็นชิ้นๆ ในเวลาเดียวกันเหล่ายอดฝีมือระดับสูงสุดของผู้กลายพันธุ์ต่างก็แห่กันมาที่นั่นกันอย่างต่อเนื่อง
ไม่นานก็มีผู้กลายพันธุ์มารวมตัวกันกว่า 30 คน เตรียมพร้อมที่จะโจมตี
ร่างที่มีปราณสัตว์อสูรปรากฏตัวขึ้นมาในวงล้อมของผู้กลายพันธุ์ ร่างนั้นได้ปล่อยพลังอันน่ากลัวออกมา พลังของมันมากกว่าพลังของยอดฝีมือระดับสูงสุดกว่าสิบคนรวมกัน มิติราวกับเศษกระดาษที่แตกออกเป็นวงกว้าง ผู้กลายพันธุ์ทุกคนไม่ได้กลัวตาย เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้าใส่กันทันที ถึงมันจะยากที่จะเอาชนะอีกฝ่ายก็ตาม
ชายวัยกลางคนเองก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน เขาได้สั่งเหล่าผู้กลายพันธุ์ “หยุดก่อน”
เมื่อได้ยินคำสั่งนั้น เหล่าผู้กลายพันธุ์กว่า 30 คนก็ถอยกลับมา เว้นระยะห่างจากชายลึกลับ
ชายวัยกลางคนมองไปที่ชายลึกลับด้วยความสนใจ “เจ้าคือราชาสัตว์อสูรที่โด่งดังงั้นรึ?”
การถูกล้อมด้วยเหล่าผู้กลายพันธุ์กว่า 30 คน และถึงจะโดนกดดันก็ไม่ได้เกรงกลัวนี้ หากดูทั้งทวีปป่าแล้วคงมีแค่ราชาสัตว์อสูร ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดเท่านั้นที่ทำได้
“เจ้าคือผู้นำของพันธมิตรกลายพันธุ์รึ?” เฉินกูมองไปที่ชายวัยกลางคน
“ข้าไม่คิดว่าราชาสัตว์อสูรที่โด่งดัง จะรู้จักคนไร้ชื่อเสียงแบบข้า มันเป็นเกียรติของข้าจริงๆ” ชายวัยกลางคนยิ้มออกมา “ข้าขอแนะนำตัวก่อน ข้า อ้าวอู่ซู รองผู้นำของพันธมิตรกลายพันธุ์”
เฉินกูคิ้วขมวด “อ้าวอู่ซู ? เจ้าเป็นคนของเผ่ามังกรรึ?”
อ้าวอู่ซู อ้าวอู่เหยียน สองชื่อนี้มันคล้ายกันไม่ใช่รึ ?
อ้าวอู่ซูยิ้มออกมา “เผ่ามังกรรึ? ราชามังกรคือยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง ส่วนเผ่ามังกรที่สูงส่งนั้นข้าคงไม่กล้าจะยกตัวไปเทียบ ชื่อมันแค่บังเอิญคล้ายกันก็เท่านั้น”
“ใช่ เจ้าไม่ได้มีปราณมังกรอยู่ในตัว เจ้าเป็นมนุษย์” เฉินกูพยักหน้าไม่คิดสงสัย
“ข้าไม่คิดว่าราชาสัตว์อสูรจะมายังเขตของพันธมิตรกลายพันธุ์ มันทำให้ข้าแปลกใจจริงๆ เจ้ามีจุดประสงค์อะไรกัน?” อ้าวอู่ซูยิ้มออกมาและมองไปที่เฉินกู “ราชาสัตว์อสูรคิดจะทำอะไรกับพันธมิตรกลายพันธุ์งั้นร ?”
เฉินกูยักคิ้ว “เขตใต้เป็นพื้นที่ของพันธมิตรกลายพันธุ์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“แต่ก่อนไม่ใช่ แต่ตอนนี้ใช่”
“ช่างเถอะ ไม่ว่าเขตใต้จะเป็นของใคร แต่ราชาผู้นี้ก็รู้ว่าพันธมิตรกลายพันธุ์คือศัตรูของสัตว์อสูร!” เฉินกูไม่สนใจจะโต้เถียงเรื่องไร้สาระกับอ้าวอู่ซู โลกนี้มีคนไม่มากที่จะเทียบเฉินกูได้ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขายังเป็นฝ่ายชอบธรรมอีกด้วย “มาเริ่มกันเลย!”
“ราชาสัตว์อสูรไม่รู้จริงๆหรือว่าข้ามียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงถึง 3 คน, ขั้นกลาง 8 คนและขั้นต่ำ 20 คน” อ้าวอู่ซูไม่ได้รีบร้อน เขายังคงรักษาสีหน้าใจเย็นไว้ดังเดิม และเผยรอยยิ้มมั่นใจออกมา “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน ?”
เฉินกูเผยรอยยิ้มออกมา “มันมีประโยคอยู่ประโยคหนึ่ง ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเคยได้ยินมันมาหรือไม่”
“หือ?” อ้าวอู่ซูถามขึ้นมา “พูดมาสิ ข้าอยากได้ยิน”
“โจรต่ำต้อย…ที่คิดว่าตัวเองเป็นราชา ”
เมื่อพูดจบร่างของเฉินกูก็เปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งเข้าไปทางอ้าวอู่ซุ อาณาเขตทองอันแข็งแกร่งถูกใช้ออกมาปกคลุมเหล่าผู้กลายพันธุ์เอาไว้ เขากำหมัดขวาแล้วต่อยเข้าใส่อ้าวอู่ซูที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้
ปัง ปัง ปัง !
ตอนนั้นโลกกลับเกิดการสั่นไหวขึ้นมา ชั้นมิติแตกออกและสลายออกไป
หมัดนี้มีพลังอันรุนแรงที่ฆ่ายอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นกลางได้
สิ่งที่ทำให้เฉินกูแปลกใจคือเหล่าผู้กลายพันธุ์รอบตัวอ้าวอู่ซู กลับไม่ได้สนใจชีวิตของตัวเอง พวกนั้นไม่ลังเลที่จะไปขวางตรงหน้าอ้าวอู่ซู แม้ว่าจะต้องบาดเจ็บหนักแต่พวกนั้นก็ไม่คิดลังเล
ภายใต้การโจมตีอันน่ากลัวนี้ เหล่าผู้กลายพันธุ์ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำ ถึงกับตัวแตกเป็นละอองเลือดไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว แต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีของเฉินกูก็ถูกพวกนี้กันเอาไว้ได้
“ดูเหมือนว่าราชาสัตว์อสูรจะตัดสินใจมาแล้ว” อ้าวอู่ซูยืนยิ่งอยู่ที่เดิมตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เขาไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย เขาพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “แม้ว่าข้าอยากจะโดนเจ้าฆ่าแต่คนของข้าคงไม่ยอม…”
เฉินกูขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจเรื่องนี้ ชัดแล้วว่าอ้าวอู่ซูเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นกลาง ทำไมเหล่าผู้กลายพันธุ์ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูง,กลางและต่ำถึงต้องยอมเจ็บตัวแทนอ้าวอู่ซูด้วย ? เท่าที่เฉินกูรู้มา เหล่าผู้กลายพันธุ์ต่างก็มีจิตใจที่บิดเบี้ยว,เลือดเย็นและชั่วร้าย พวกเขาฆ่ามนุษย์และทำลายเมืองได้ แต่ทำไมพวกเขาถึงได้ปกป้องอ้าวอู่ซู ?
นี่ชัดแล้วว่าไม่ใช่เรื่องปกติ !
“ราชาอย่างข้าไม่เชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งที่ข้ามี จะไม่อาจฆ่ายอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นกลางได้!” เฉินกูฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา และคิดจะโจมตีอ้าวอู่ซูอีกครั้ง
อ้าวอู่ซูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ราชาสัตว์อสูรห่วงตัวเองเถอะ คนของข้าก็เก่งกาจไม่เบา หากเจ้าไม่ระวังตัว ราชาสัตว์อสูรอาจจะต้องตายไปในวันนี้ก็ได้ ”
คำพูดของอ้าวอู่ซูราวกับเป็นสัญญาณ ตอนที่เขาพูดจบ เหล่าผู้กลายพันธุ์ทั้งหมดที่นั่นก็พุ่งเข้าใส่เฉินกูทันที
ผู้กลายพันธุ์กว่า 30 คน ยกเว้นคนที่ตายไปแล้วนั้น มียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำถึง 20 คน, ขั้นสูง 3 คนและขั้นกลาง 8 คน คนพวกนี้อยู่ในสภาพที่พร้อมสู้ พลังในการต่อสู้ที่พวกเขามียังไม่ถูกใช้ไปเลยแม้แต่น้อย หากถูกล้อมโดยผู้กลายพันธุ์มากมายแบบนี้ แม้แต่เฉินกูที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดีนัก
“ลองดู!” เฉินกูรู้ว่าสถานการณ์ไม่ได้สู้ดีนัก แต่เขายากจะหาตัวพันธมิตรกลายพันธุ์ได้ เขาจึงไม่คิดที่จะหนี แม้ว่าเขาจะรู้ว่าโอกาสที่จะฆ่าอ้าวอู่ซูนั้นจะน้อยนิด แต่เขาก็ยังต้องลอง