ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 500 : น้องสาว
ตอนที่ 500 : น้องสาว
“ ไม่ ! ” อ้าวเสี่ยวหร่านแสดงท่าทีเด็ดขาดออกมา นางไม่คิดจะเปลี่ยนใจเลยแม้แต่น้อย “ แม้ว่าท่านจะขอร้องข้า แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ ข้าไม่อาจจะตกลงได้ ! ”
อ้าวอู่เหยียนกังวลซะจนเหงื่อตก เขาถึงกับส่งข้อความไปหาอู่โม่ “ พวกเจ้า อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุก ช่วยพูดแทนข้าที ! ”
อู่โม่ไม่เคยเห็นอ้าวอู่เหยียนสลดแบบนี้มาก่อน หากเขาไปบอกคนอื่น เกรงว่าคนอื่นคงไม่มีใครเชื่อ ชายคนนี้เป็นถึงองค์รัชทายาทของเผ่ามังกร
อู่โม่พูดขึ้นมา “ เจ้าไม่ต้องคิดมากกับเขาหรอก ยังไงซะ อาจารย์อ้าวอู่เหยียนก็ดีกับพวกเรา ”
เซียวเหยียนพยักหน้า“ อาจารย์อ้าวอู่เหยียนดีกับเราที่สุดรองมาจากอาจารย์โอวและท่านอู่ ”
แม้แต่อู่ซินซินก็ยังสงสารอ้าวอู่เหยียน นางอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “หร่านเอ๋อร์ เจ้าควรช่วยอาจารย์อ้าวอู่เหยียน! ”
เมื่อได้ยินคำพูดของทุกคน อ้าวเสี่ยวหร่านก็ลังเลขึ้นมา และมองไปที่อ้าวอู่เหยียน “ แต่…”
“ หนูน้อย ตราบใดที่เจ้ารับปาก ข้าจะหาของอร่อยๆมาให้เจ้ากิน ” อ้าวอู่เหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆและตัดสินใจ “ อาหารบนทวีปป่านั้นไม่ได้หายาก เจ้าคงไม่เคยกินอาหารของเผ่ามังกรมาก่อน หากเจ้ารับปากกับข้า ข้าจะพาเจ้าไปยังเผ่ามังกรเพื่อกินของอร่อยๆในอนาคต ! แม้ว่ารสชาติจะไม่ได้ดีเท่ากับอาหารที่ท่านอู่ทำ แต่แน่นอนว่ารสชาติของมันจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง ! ”
อ้าวอู่เหยียนถึงกับยอมแบ่งอาหารของเผ่ามังกรที่เขาโปรดปรานที่สุด เพื่อหินไร้ลักษณ์, หินอุกกาบาตและหินหมึก
เมื่อได้ยินแบบนั้น อ้าวเสี่ยวหร่านก็พึมพำออกมา“ ท่าน ท่านเป็นคนจากเผ่ามังกรรึ ?”
อ้าวอู่เหยียนยิ้ม “ เจ้าสำนักไม่ได้บอกเจ้ารึ ? ข้าเป็นองค์รัชทายาทของเผ่ามังกรอ้าวอู่เหยียน! ราชามังกรคือพ่อของข้า ! ”
อู่โม่,เซียวเหยียนและคนอื่นๆต่างก็กังวลกันขึ้นมา พวกเขาเป็นห่วงอ้าวเสี่ยวหร่าน
แต่ความกังวลนั้นไร้ค่า แม้ว่าอ้าวเสี่ยวหร่านจะแปลกใจกับฐานะของอ้าวอู่เหยียน แต่นางก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของนาง นางถามขึ้นมาด้วยความลังเล “ ท่านพาข้าไปยังเผ่ามังกรได้จริงๆรึ ? ”
นางสลด เสียงของนางดูเศร้า นางเศร้าในแบบที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้
“ แน่นอน ไม่มีปัญหาอันใด ” อ้าวอู่เหยียนตอบกลับโดยไม่ลังเล “ ข้าเป็นถึงองค์รัชทายาทเผ่ามังกร ข้าจะพาเพื่อนไปยังเกาะมังกรสักกี่คนก็ได้ไม่มีปัญหา แม้ว่าพ่อข้าจะรู้ แต่พ่อก็ไม่ว่าอะไรข้า ” เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอ้าวเสี่ยวหร่านถึงได้เปลี่ยนท่าทีไปแบบนี้ ดูเหมือนว่านางจะเศร้า แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมาก เขาคิดว่าตัวเองคงคิดไปเอง
“ ได้ ข้าตกลง ” อ้าวเสี่ยวหร่านพยักหน้า “ หลังจากที่ท่านพี่กลับมา ข้าจะขอให้ท่านพี่ส่งข้าไปที่นั่น และนำหินกลับมาให้ท่าน ” นางเงียบไปก่อนจะพูดต่อ “ ตอนนั้นท่านต้องพาข้าไปยังเผ่ามังกร ! ”
นางไม่เคยมีท่าทีสลดแบบนี้มาก่อน แต่พอได้เจอกับคนของเผ่ามังกร นางกลับรู้สึกเศร้า มันดูไม่เข้ากับอายุของนางเลย คนอื่นๆอดไมได้ที่จะรู้สึกเศร้า
“ หร่านเอ๋อร์ ” อู่ซินซินไม่รู้ว่าทำไมอ้าวเสี่ยวหร่านถึงได้รู้สึกแบบนี้ นางเดินเข้าไปหาและจับมือของอ้าวเสี่ยวหร่านเอาไว้ “ ไม่ต้องเศร้าไป ใช่ว่าเจ้าจะไม่มีใคร เจ้ายังมีเจ้าสำนักและข้ารวมไปถึงคนในสำนักที่ห่วงใยเจ้า ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น น้ำตาก็เอ่อนองขึ้นมาในตาของอ้าวเสี่ยวหร่าน “ พี่ซินซิน ”
นางพุ่งเข้าไปซบไหล่อู่ซินซินแล้วสะอื้นออกมา
อันที่จริงตั้งแต่มีความคิดขึ้นมา นางก็รู้ว่านางคือคนของเผ่ามังกร ร่างของนางเป็นมังกรโลหิต และนางก็รู้ว่านางต่างจากมังกรตัวอื่นๆ นางคือมังกรโลหิต มังกรที่ฐานะต่ำต้อยที่สุด มังกรที่น่ารังเกียจสำหรับพวกเผ่ามังกร
ความยิ่งใหญ่ของเผ่ามังกรนั้น นางไม่อาจจะสัมผัสถึงมันได้ นางถูกขับไล่ออกมา !
มันทำให้นางรู้สึกโดดเดี่ยว, หมดหนทางและสลด !
แม้ว่าอู่ซินซินและคนอื่นๆจะดีต่อนาง พวกเขาทั้งเป็นห่วงและให้ความอบอุ่นกับนาง แต่อู่ซินซินและคนอื่นๆนั้นเป็นมนุษย์
ที่สำคัญที่สุดคือ นางต้องการจะรู้ว่าพ่อแม่ของนางเป็นใครกัน พวกเขาอยู่ที่ไหนและทำไมพวกเขาถึงได้ทิ้งนางไว้ ?
“ เด็กน้อย ” อู่ซินซินจับมือของอ้าวเสี่ยวหร่านและรู้สึกสลดขึ้นมา
อ้าวอู่เหยียนรับรู้ได้ถึงความเศร้าของอ้าวเสี่ยวหร่าน “ นางเป็นอะไรไป ? ข้าพูดอะไรผิดรึ ? ”
อู่โม่เงียบและถอนหายใจออกมา “ ท่านไม่ได้พูดอะไรผิดหรอก แค่…เฮ้อ ! ชีวิตของหร่านเอ๋อร์นั้นซับซ้อน บางทีคำพูดของท่านอาจจะไปกระทบความทรงจำที่แสนเศร้าของนาง นางจึงเป็นแบบนี้…”
“ นางไปเจออะไรมา ? ” อ้าวอู่เหยียนแปลกใจ เขาถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “ ใครบอกข้าได้บ้าง ?”
อู่โม่ชะงัก “ นี่….”
เขายิ้มและส่ายหน้า “ขอโทษด้วย อาจารย์อ้าวอู่เหยียนข้าบอกไม่ได้ เจ้าสำนักบอกว่าเราไม่อาจจะพูดเรื่องของหร่านเอ๋อร์ได้ ดังนั้นข้าไม่อาจจะพูดเรื่องนี้ได้จริงๆ ” แม้กับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเผ่ามังกร พวกเขาก็ไม่อาจจะพูดเรื่องนี้ให้ฟังได้ นี่ไม่ต้องนับองค์รัชทายาทเผ่ามังกรเลย
อู่โม่กังวลและกลัวว่า สิ่งที่เขาจะพูดนั้นจะเป็นการเปิดเผยตัวตนของอ้าวเสี่ยวหร่าน และทำให้เผ่ามังกรไม่พอใจขึ้นมา
เขาจำได้ดีว่าทั้งโอวเสินเฟิงและอู่ฉิงฉวนได้บอกว่า มังกรโลหิตนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่น่าอับอายของเผ่ามังกร มันถูกขับไล่ออกมาหรือไม่ก็ถูกกำจัดทิ้ง เขาไม่คิดว่าอ้าวอู่เหยียนจะเป็นข้อยกเว้น
ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุด คือปกปิดตัวตนของอ้าวเสี่ยวหร่านเอาไว้
“ ฐานะที่ลึกลับ ไม่อาจจะพูดเรื่องนี้ได้รึ ? ” เมื่ออู่โม่ไม่พูด อ้าวอู่เหยียนก็ยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม
อู่โม่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ อาจารย์อ้าวอู่เหยียนอย่าถามเลย เราพูดไม่ได้จริงๆ ”
“ เจ้าสำนักกำชับเรื่องนี้กับเรา ใครกันที่กล้าขัดคำสั่ง ?” เซียวเหยียนขัดขึ้นมา “ อาจารย์อ้าวอู่เหยียน อย่ากดดันเราเลย ”
เมื่อเห็นท่าทีที่เด็ดขาดของพวกนั้น ที่ซึ่งไม่เปิดช่องว่างให้ต่อรองได้ อ้าวอู่เหยียนก็ผิดหวังขึ้นมาและไม่คิดที่จะถามต่อ“ ช่างเถอะ ข้าไม่ถามต่อก็ได้ ”
เขาหันกลับไปมองอ้าวเสี่ยวหร่านและพูดขึ้น “ หร่านเอ๋อร์ ข้าเรียกเจ้าแบบนี้ได้หรือไม่ ?”
อ้าวเสี่ยวหร่านมองไปที่อ้าวอู่เหยียน แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
นางยังแสดงสีหน้าเศร้าออกมาอยู่
“ ข้าไม่รู้ว่าข้าทำอะไรให้เจ้าเศร้า แม้ว่าข้าจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ข้าก็ยินดีจะขอโทษเจ้า ” อ้าวอู่เหยียนพูดขึ้นมาด้วยท่าทีจริงใจ “ เจ้าชอบอาหารไม่ใช่รึ ? ตอนที่เจ้าสำนักกลับมา ข้าจะไปหาเจ้าสำนักเพื่อขอพาเจ้าออกไปกินอาหารทั่วโลก หากใครทำให้เจ้าไม่พอใจ ข้าจะช่วยเจ้าสั่งสอนเอง…”
“ ในอนาคตเจ้าจะถือว่าเป็นน้องสาวของข้า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง ! ” อ้าวอู่เหยียนพูดด้วยท่าทีจริงจัง
แต่ตอนที่เขาพูดบนั้นเขาก็เพิ่งได้สติ “ โอ้ …ข้าเกือบลืมไป เจ้าแข็งแกร่งกว่าข้านิ…”
มันไม่ตลกหรือไง กับการที่ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นกลาง ต้องการจะปกป้องยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดรึ?
“ ช่างเถอะ ใครอยากเป็นน้องสาวของท่านกัน ! ” อ้าวเสี่ยวหร่านหัวเราะออกมาและพูดขึ้น “ ข้ามีท่านพี่อยู่แล้ว ท่านพี่น่ะดูแลข้าดีที่สุดแล้ว ท่านคิดว่าท่านจะเทียบกับท่านพี่ได้รึ ? ”
“ เจ้าสำนักรึ ? ” อ้าวอู่เหยียนชะงักแต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
เขาต้องคิดใหม่อีกครั้งและไม่กล้าเอาตัวเองไปเทียบกับเจ้าสำนัก หากเอาเจ้าสำนักมาเทียบกับคนอื่นๆจะเป็นยังไง ? นี่ไม่ต้องนับตัวเขาเองเลย แม้แต่ท่านน้าหรือท่านพ่อของเขา ที่ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก ก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือของเจ้าสำนักได้
“ แต่หากดูจากความจริงใจของท่านแล้ว ข้าคงต้องยอมฝืนใจ ” น้ำเสียงของอ้าวเสี่ยวหร่านเปลี่ยนไป “ ยังไงซะข้ามีพี่สองคนก็ได้ ! ”
อู่โม่พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ ไม่ เจ้ามีพี่มากกว่าสองคน เพราะเจ้ามีพี่อู่โม่, พี่เซียวเหยียน,พี่หลินหมิง และคนอื่นๆ มีคนมากมายที่ห่วงใยและรักเจ้า..”
ตอนที่อ้าวเสี่ยวหร่านอยู่ขอบเขตฉีซวน พวกเขาคือพี่ชายของนาง ตอนนี้ถึงนางจะแข็งแกร่งขึ้นมาแต่นางก็ยังคงเป็นเด็กน้อยในสายตาพวกเขา
แน่นอนว่าพี่ชายเหล่านี้ไม่อาจจะทัดเทียมกับจางหยูได้ แต่ความห่วงใยที่พวกเขามีนั้นเพียงพอที่จะถือว่าเป็นพี่ของนางได้
“ ฮาฮา….การที่มีน้องสาวแข็งแกร่งแบบนี้ ชีวิตข้าคุ้มค่าแล้ว ! ” อ้าวอู่เหยียนหัวเราะออกมา ยิ่งมองอ้าวเสี่ยวหร่านมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งชอบนางมากเท่านั้น “ หากท่านน้ากลับมา ข้าต้องพาหร่านเอ๋อร์ไปพบกับน้าเพื่อบอกว่าข้ามีน้องสาวที่แข็งแกร่ง ! ”
เมื่อคิดถึงจุดนี้ อ้าวอู่เหยียนก็เผยรอยยิ้มออกมา “ ใช่ น้องสาว ฮ่ะฮ่ะ เมื่อเจ้านับถือข้าเป็นพี่ เจ้าช่วยเอาหินกลับมาให้ข้าเพิ่มได้หรือไม่ ? เจ้าสบายใจได้ พี่ไม่ต้องการอะไรมาก ตราบใดที่เอาหินขนาดเท่ากับคนอื่นๆมาข้าก็พอใจแล้ว ”
ทั้งๆที่เพิ่งได้เป็นพี่คน แต่อ้าวอู่เหยียนก็ถึงกับเอ่ยปากขอของ
อู่โม่ได้ยินแบบนั้นก็คิดในใจ “ นี่ไม่หน้าด้านไปหน่อยรึ ? ”
ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร, ความหุนหันและความโลภ ทุกคนต่างก็คิดว่าอ้าวอู่เหยียนนั้นหน้าไม่อาย
ยิ่งรู้จักอ้าวอู่เหยียนมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าอ้าวอู่เหยียนไม่เหมาะที่จะเป็นองค์รัชทายาทของเผ่ามังกรมากเท่านั้น องค์รัชทายาทที่ควรจะสง่า, สูงส่ง, ฉลาดและสุขุม อ้าวอู่เหยียนมีนิสัยตรงข้ามกันหมด !
“ หินพวกนั้นถ้าพี่อู่เหยียนชอบ เสี่ยวหร่านจะนำกลับมาให้” อ้าวเสี่ยวหร่านกระพริบตา “ เอาแบบนี้ไหม เสี่ยวหร่านจะนำหินพวกนั้นมาแล้วสร้างเป็นบ้านให้กับพี่อู่เหยียน?”
อ้าวอู่เหยียนกลืนน้ำลายทันที “ สร้างบ้านรึ ?”
พระเจ้า เอาหินที่หายากพวกนั้นมาสร้างบ้านรึ ?
หากมันมีบ้านแบบนั้น งั้นคงเป็นบ้านที่หรูหราที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปป่า !
นั่นคือภาพที่อ้าวอู่เหยียนไม่กล้าจะนึกถึง
“ แค่ก แค่ก…ช่างเถอะ ไม่ต้องสร้างบ้านให้ข้า บ้านแบบนั้นข้า….ไม่กล้าอยู่หรอก ! ” อ้าวอู่เหยียนถึงกับสำลัก บ้านแบบนั้นแม้ว่าเขาจะได้มันมาแต่เขาก็ไม่กล้าอยู่ เขาสงสัยว่าเมื่อมีบ้านแบบนั้นในโลก มันคงดึงดูดความสนใจจากคนมากมายให้มาสู้เพื่อแย่งชิงมัน แม้แต่พ่อของเขาเองก็ต้องสนใจมันเช่นกัน เขากลัวว่าการอยู่บ้านแบบนั้นคงไม่อาจจะใช้ชีวิตที่สงบสุขได้
แม้ว่าจะโลภมาก แต่อ้าวอู่เหยียนก็คิดว่าตัวเองคงรับมือกับเรื่องนั้นไม่ไหว
“ บ้านหินท่านไม่อยากอยู่รึ ? ” อ้าวเสี่ยวหร่านถามขึ้นมา
“ บ้านหิน ? ” ปากของอ้าวอู่เหยียนกระตุกอยู่หลายครั้ง คำพูดนี้แสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยและสูงส่งของอ้าวเสี่ยวหร่าน
อ้าวเสี่ยวหร่านนี่แหละคือคนที่ร่ำรวยที่สุด !
อ้าวอู่เหยียนตะโกนในใจ “ ข้าเป็นพี่ของคนที่ร่ำรวยแบบนี้เลยรึ ! ”
เขามองไปที่อ้าวเสี่ยวหร่าน ยิ่งเขามองนางเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกพอใจเท่านั้น เด็กน้อยที่น่ารักแบบนี้นี่แหละที่ควรเป็นน้องสาวเขา !
เขาตัดสินได้เลยว่าอ้าวเสี่ยวหร่านคือคนที่เกิดมาอยู่บนกองเงินกองทอง!