ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 503 : ยอดฝีมือกลายพันธุ์ระดับสูงสุดขั้นสูงสุด ถู่มู่
ตอนที่ 503 : ยอดฝีมือกลายพันธุ์ระดับสูงสุดขั้นสูงสุด ถู่มู่
ไม่มีใครกล้าอยู่เฉยเมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับพันธมิตรกลายพันธุ์ นี่ไม่ต้องพูดถึงการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในเขตตะวันออก
ลั่วซู่หยางและคนอื่นๆต่างก็เริ่มหวั่นใจ กับแผนการของพันธมิตรกลายพันธุ์
“ สั่งการลงไป ให้ทุกคนจับตาดูอัจฉริยะในทุกที่เอาไว้และปกป้องพวกเขา ! ” ลั่วซู่หยางสั่งการออกไป “ แม้ข้าจะไม่รู้ว่าทำไม พวกพันธมิตรกลายพันธุ์ถึงได้ออกจับตัวเหล่าอัจฉริยะ แต่เราก็ห้ามให้พวกนั้นทำสำเร็จ ! ”
หงยู่แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ เขตกลางนั้นเราอาจจะดูแลได้ แต่คนในเขตตะวันออก, ตก ใต้และเหนือรวมถึงเขตอื่นๆ มันเกินกว่าความสามารถของพวกเรา ”
“ งั้นก็ทุ่มเทสมาธิไปกับการดูแลอัจฉริยะในเขตกลาง ” ลั่วซู่หยางสูดหายใจเข้าลึกๆและพูดขึ้นมา “ อัจฉริยะเหล่านี้คืออนาคตของมนุษย์ เราห้ามสูญเสียพวกเขาไป ! ”
หงยู่พยักหน้าตอบรับ “ ได้ ! ”
ลั่วซู่หยางโบกมือ “ ไป รีบไปจัดการ ! ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหงยู่ก็ไม่ได้อยู่ต่อ เขารีบเดินออกไปจากห้องโถงและเดินออกไปทันที
เมื่อหงยู่ออกไปแล้ว ลั่วซู่หยางก็มองไปยังเหล่ายอดฝีมือระดับสูงสุดคนอื่นๆรอบตัวและพูดขึ้น “ พวกเจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้ ? ”
ทุกคนต่างก็พากันเงียบ เมื่อไม่มีข้อมูล พวกเขาก็ไม่อาจจะรู้เป้าหมายของพันธมิตรกลายพันธุ์ได้
“ เซียนอักษร เจ้าเดาจุดประสงค์ของพวกนั้นได้หรือไม่ ?” ลั่วซู่หยางมองไปที่หยางเพ้ยอัน
หยางเพ้ยอันคิดและพูดขึ้นมา “ ข้าเดาว่าอัจฉริยะพวกนั้นเกี่ยวข้องกับผู้กลายพันธุ์ ”
ลั่วซู่หยางพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “ ลองพูดเหตุผลของเจ้ามา ”
“ เป้าหมายของพันธมิตรกลายพันธุ์มีอยู่สองอย่าง หนึ่งคือสร้างผู้กลายพันธุ์ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดออกมาจำนวนมาก อีกอย่างคือยึดครองทวีปป่า ” หยางเพ้ยอันพูดขึ้น
“ ข้าเกรงว่ามันยังคงยากกับการยึดครองทวีปป่าด้วยความแข็งแกร่งที่พันธมิตรกลายพันธุ์มีในตอนนี้ ไม่งั้นแล้วพวกนั้นคงไม่หยุดหลังจากที่ยึดภูเขาทางใต้ได้ บางทีพวกนั้นอาจจะกลัวความแข็งแกร่งที่เรามี…” หยางเพ้ยอันเงียบไปชั่วครู่และพูดต่อ “ ดังนั้นเป้าหมายหลักในตอนนี้ควรจะเป็นผลิตยอดฝีมือระดับสูงสุด พวกนั้นต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อจะสร้างยอดฝีมือระดับสูงสุดขึ้นมา ”
สุดท้ายหยางเพ้ยอันก็พึมพำออกมา “ แน่นอนว่านี่แค่ข้อสมมติฐานของข้า ผิดหรือถูกนั้นข้าไม่มั่นใจ ”
“ ใช่ มุมมองของเจ้าดูมีเหตุผล ” ลั่วซู่หยางคิดตามและเห็นด้วย “ บางทีเพื่อจะสร้างยอดฝีมือระดับสูงสุด นอกจากต้องการเลือดเนื้อของมนุษย์กับสัตว์อสูรที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดจำนวนมาก ในการสร้างยาพลิกชีวิตนั้นก็ยังต้องการคนที่มีพรสวรรค์เพื่อจะกินยานี้อยู่..”
เขาคิดถึงลูกของเซิงเป่ยซิ่ว พรสวรรค์ของเซิงเฟิงนั้นต่ำจึงถูกมองว่าเป็นขยะ
มันแสดงให้เห็นว่า ยาพลิกชีวิตมีข้อกำหนดเรื่องพรสวรรค์ในระดับหนึ่ง !
“ ความคิดของเจ้าคงเหมือนกันกับข้า ” หยางเพ้ยอันพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ ไม่ใช่แค่ว่าเราต้องดูแลสุสานศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังต้องปกป้องอัจฉริยะของมนุษย์ด้วย ยิ่งพรสวรรค์สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องสนใจมากเท่านั้น ! ”
“ พูดมันง่าย แต่ทำมันคนละเรื่อง ” ฉินอู่ตี้พูดขึ้นมา “ มีอัจฉริยะมากมายในโลกนี้ หากต้องการปกป้องทุกคน เราจะทำได้รึ? ”
หากต้องใช้ยอดฝีมือระดับสูงสุดในการปกป้องอัจฉริยะทุกคน งั้นยอดฝีมือระดับสูงสุดก็คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
ลั่วซู่หยางคิดสักพักและพูดขึ้นมา “ หากกระจายตัวกันเราคงไม่อาจจะปกป้องได้ แต่หากเรารวบรวมพวกนั้นมาที่สมาคมนักวางค่ายกลล่ะ ? ข้าไม่เชื่อว่าพันธมิตรกลายพันธุ์จะกล้าเข้ามาที่นี่ !”
“ ข้าเสนอว่าพันธมิตรกลายพันธุ์ตอนนี้ยังคงหวั่นเกรงพวกเราอยู่ เราต้องรีบลงมือ ” หยางเพ้ยอันพูดขึ้นมา “ เขตตะวันออก, เหนือและที่อื่นๆอยู่ไกลเกินไป เราไม่อาจจะควบคุมได้ แต่เขตกลางนี้อยู่ในอำนาจของเรา ! ”
ลั่วซู่หยางพยักหน้า “ เจ้าพูดถูก ”
หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว ลั่วซู่หยางก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาได้ส่งข้อความสั่งการเหล่าผู้อาวุโสทันที
….
ที่ภูเขาเขตใต้
ด้านนอกหุบเขาเทพอสูร
อ้าวอู่ซูยืนอยู่บนยอดเขา และมองไปยังปากของหุบเขาอยู่นาน
ทันใดนั้นมิติรอบตัวเขาก็ผันผวน ก่อนจะมีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา
“ รองผู้นำ ! ” ร่างนั้นโค้งให้กับอ้าวอู่ซูทันที
อ้าวอู่ซูหันกลับไปมองและพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “นิมิต เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง ? ”
ชายคนนี้เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงเหมือนกับทลายบูรพา,หมึกเพชรฆาต,ภูผา,อินทรีย์เทา ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นๆเลย เขามีหน้าที่คอยติดต่อระหว่างอ้าวอู่ซูกับผู้นำ
นิมิตตอบกลับด้วยความเคารพ “ รองผู้นำ ผู้นำส่งข้ามาบอกกับท่านว่า ผู้กลายพันธุ์ระดับยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุด…สร้างขึ้นมาได้สำเร็จ ! ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น อ้าวอู่ซูก็ยิ้มออกมา “ ใช้เวลาและความพยายามไปมาก ในที่สุดมันก็สำเร็จ ! ”
เขามองไปที่เขตกลางแล้วพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ นี่มันก็ผ่านมานานแล้ว เราควรสร้างสีสันให้กับพวกนั้นสักหน่อย ! ”
นิมิตได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไป
“ เจ้ามีอะไรจะพูดรึ ? ” อ้าวอู่ซูคิ้วขมวด
“ ท่านผู้นำบอกว่า หวังว่ารองผู้นำจะไม่ทำอะไรผลีผลามในตอนนี้” นิมิตรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา “ ผู้นำได้ฝากข้ามาพูดประโยคหนึ่ง แม้ว่าจะสามารถสร้างยอดฝีมือกลายพันธุ์ระดับสูงสุดขั้นสูงสุดได้สำเร็จ แต่ก็มีแค่คนเดียว มันไม่ฉลาดที่จะทำการโจมตีเต็มกำลังในเวลานี้ จนกว่าทุกอย่างจะพร้อม ผู้นำหวังว่าท่านจะคิดทบทวนและอดทนไปอีกสักพัก ”
อ้าวอู่ซูไม่พอใจขึ้นมา “อดทน? อดทนๆๆๆ ข้าทนมาหลายพันปีแล้ว เขาจะให้ข้าทนต่อไปอีกรึ ! ”
นิมิตตัวสั่น เขาก้มหน้าโดยไม่กล้าพูดอะไรออกมา
สักพักอ้าวอู่ซูก็สงบสติอารมณ์ลงได้ และพูดขึ้นมา “ อัจฉริยะที่ส่งไปเมื่อวานนี้ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ? ”
“ การทดลองสามารถสร้างยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำได้แค่คนเดียว ส่วนคนที่เหลือ….ทุกคนต่างก็เป็นผู้กลายพันธุ์ขั้นต่ำ ” นิมิตตอบกลับ “ ผู้นำบอกว่าพรสวรรค์ของคนพวกนี้ย่ำแย่ เขาหวังว่าท่านจะหาอัจฉริยะที่ดีกว่านี้ได้ ยิ่งเด็ก ยิ่งมีพรสวรรค์สูงเท่าไหร่ก็น่าจะมีโอกาสที่จะเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดได้มากกว่าเดิม ! ”
อ้าวอู่ซูคิ้วขมวด “ อัจฉริยะเขตตะวันออกเกือบจะหมดแล้ว เขตกลางก็ไม่อาจจะเข้าไปแตะต้องได้ ข้าจะไปหาอัจฉริยะมาจากที่ไหน ?”
ทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้อ้าวอู่ซูก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ หากต้องการตัวอัจฉริยะก็แค่โจมตีเขตกลางซะ ! เขตกลางไม่ใช่แค่มีอัจฉริยะนับไม่ถ้วน แต่ยังมีสุสานศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งด้วย ตราบใดที่โจมตีเขตกลาง พันธมิตรกลายพันธุ์ก็จะสามารถสร้างยอดฝีมือระดับสูงสุดขึ้นมาเท่าไหร่ก็ได้ ! ”
“ เรื่องนี้…ผู้นำบอกท่านแค่ว่าต้องหาตัวอัจฉริยะ ท่านไม่ต้องสนใจเรื่องสุสาน ปัญหาเรื่องวัตถุดิบในการทำยาพลิกชีวิตนั้นผู้นำมีแผนการอยู่แล้ว เขาบอกว่าเมื่อแผนนี้สำเร็จ มันก็ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องวัตถุดิบอีก ไม่แน่ว่าอาจจะปรุงยาพลิกชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้ ” นิมิตรวบรวมความกล้าอธิบายออกมา
อ้าวอู่ซูยักคิ้ว “ ไม่ต้องกังวลเรื่องสุสานอีกรึ ? ”
ร่างของยอดฝีมือระดับสูงสุดในสุสาน พันธมิตรกลายพันธุ์กลับไม่สนใจ ตลอดหลายปีมานี้พวกเขาต่างก็พากันคิดเรื่องนี้กันมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ผู้นำกลับไม่สนใจสุสานศักดิ์สิทธิ์ มันทำให้อ้าวอู่ซูแปลกใจ
“ เจ้ามั่นใจรึ ?” อ้าวอู่ซูมองไปที่นิมิต ด้วยความสงสัยและถามขึ้นมา “ ผู้นำบอกแบบนั้นจริงๆรึ ?”
“ ใช่ ข้ามั่นใจ ! ” นิมิตตอบกลับโดยไม่ลังเล
“ เขาหาแหล่งผลิตเลือดเนื้อของยอดฝีมือระดับสูงสุดได้แล้วรึ ? ”อ้าวอู่ซูคิด “ บนทวีปป่านี้มีเลือดเนื้อของยอดฝีมือระดับสูงสุดมากกว่าที่สุสานอีกรึ ? ” เขานึกย้อนดูภาพรวมของทวีปป่าแต่ก็ไม่อาจจะหาที่แบบนั้นได้
“ เขาบอกเจ้าเรื่องแผนนี้รึไม่ ?” อ้าวอู่ซูถามด้วยความสงสัย
นิมิตก้มหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ ข้าได้ถามดูแล้วแต่ผู้นำไม่ได้บอกข้า เขาบอกว่าแผนการนี้สำคัญอย่างมาก ไม่ควรมีใครรู้ เมื่อถึงเวลาแล้วทุกคนจะรู้เอง ”
“ ฮี่ฮี่ น่าสนใจ ” อ้าวอู่ซูหัวเราะออกมา “ หลายพันปีมานี้เขายังทำอะไรระวังตัวอยู่เสมอ ”
หากไม่ระวังเขาจะสร้างพันธมิตรกลายพันธุ์ที่เป็นภัยคุกคามต่อทวีปป่าขึ้นมาและไม่ถูกพบเห็นได้ยังไง ?
“ ข้าเข้าใจที่เขาบอกแล้ว เจ้าบอกเขาทีว่าข้าจะหาตัวอัจฉริยะที่เขาต้องการมาให้ได้ เขาไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ” อ้าวอู่ซูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ ข้าจะรอเขาสร้างยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดขึ้นมาให้ได้มากกว่านี้ ! ”
“ ได้ ! ” นิมิตตอบกลับทันที
“ เอาล่ะ เจ้ากลับไปได้แล้ว ! ” อ้าวอู่ซูโบกมือ
“ ข้าขอตัวก่อน ! ” นิมิตตอบกลับและเตรียมที่จะกลับทันที
“ อีกอย่าง ”
“ มีอะไรรึรองผู้นำ ? ”
“ ยอดฝีมือกลายพันธุ์ระดับสูงสุดขั้นสูงสุด…เป็นใครกัน ?” อ้าวอู่ซูถามขึ้นมา “ ใช่ตัวทดสอบในชุดสุดท้ายรึตัวทดสอบชุดนี้กัน ?”
นิมิตตอบกลับ “ ตัวทดสอบในชุดสุดท้ายชื่อว่าถู่มู่ รองผู้นำน่าจะเคยเห็นเขา ตอนที่เขาถูกนำตัวมา ท่านน่าจะยังไม่ออกจากสำนักงาน ”
อ้าวอู่ซูคิดสักพักก่อนจะพยักหน้า “ ข้าจำได้แล้วถู่มู่ที่มากับอินทรีย์เทา ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าผู้กลายพันธุ์ที่ล้มเหลวจะใช้โอกาสที่สอง ก้าวขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดได้….ดูเหมือนว่าเราจะดูถูกพวกผู้กลายพันธุ์ที่ล้มเหลวเกินไป…”
“ ผู้นำเองก็คิดแบบนั้น จึงให้ข้าทดสอบกับพวกล้มเหลว แต่ผลลัพธ์นั้น….” นิมิตส่ายหน้าและพูดขึ้นมา “ ทุกคนต่างก็ตายหมด ถู่มู่ไม่เหมือนกับพวกล้มเหลวคนอื่นๆ เขามีร่างกายที่ค่อนข้างพิเศษ…”
“ ข้ายิ่งสนใจเขายิ่งกว่าเดิม ทำไมครั้งนี้เขาถึงไม่มากับเจ้าด้วย ?” อ้าวอู่ซูถามขึ้นมาด้วยสีหน้าพอใจ
“ ถู่มู่เพิ่งจะขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุด และเพิ่งผ่านการทดสอบรอบที่สองมา มันมีหลายส่วนที่พิเศษ ผู้นำได้เก็บเขาไว้ที่สำนักงานเพื่อค้นคว้า ผู้นำบอกว่าแผนการต่อไปของเขาจะต้องใช้ตัวถู่มู่ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงมาด้วยไม่ได้ ” นิมิตตอบกลับตามจริง
“ เมื่อผู้นำบอกมาแบบนั้นก็ช่างมันเถอะ ” อ้าวอู่ซูต้องการเจอตัวถู่มู่ แต่เขาก็แยกแยะได้ว่าเรื่องไหนสำคัญ หลังจากที่ได้ยินคำตอบจากนิมิต เขาก็สลัดความคิดเรื่องถู่มู่ไป “ ช่างเถอะ เขาเป็นคนของพันธมิตรกลายพันธุ์ ข้าจะได้เจอเขาในอีกไม่ช้า ตอนนี้ไม่ต้องรีบร้อนอะไร ”
นิมิตปิดปากเงียบและได้แต่ฟัง
อ้าวอู่ซูโบกมือให้กับอีกฝ่ายและพูดขึ้น “ เจ้าไปได้ ”
“ ข้าขอตัว ! ” นิมิตไม่อยู่ต่ออีกต่อไป เขาได้ใช้เคลื่อนย้ายพริบตา และนำคำพูดของอ้าวอู่ซูไปส่งกับผู้นำต่อ
หลังจากที่นิมิตหายตัวไป อ้าวอู่ซูก็เรียกหมึกเพชฌฆาตเข้าพบ
หลังจากนั้น หมึกเพชรฆาตก็มุ่งหน้าเข้ามาและทำความเคารพให้ “ รองผู้นำ ! ”
อ้าวอู่ซูมองไปที่ปากหุบเขาโดยไม่หันกลับมามองและพูดขึ้น “ หมึกเพชรฆาต ข้าจะมอบหมายภารกิจในการค้นหาอัจฉริยะให้กับเจ้า ”
หมึกเพชรฆาตพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ รองผู้นำ อัจฉริยะในเขตตะวันออกนั้นแทบหมดแล้ว ถึงค้นหาต่อไปคงยากที่จะหาตัวอัจฉริยะได้…”
“ ข้าไม่สน ” อ้าวอู่ซูพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “ ข้าสนใจแค่ผลลัพธ์ ! ”
เขาหันกลับมามองหมึกเพชรฆาต ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ ข้าให้เวลาเจ้า 3 วัน เจ้าต้องหาตัวอัจฉริยะมาให้ข้า 30 คน ! หากหาได้ไม่พอ เจ้าจะต้องชดใช้ ! “
“ นี่…รองผู้นำ…” หมึกเพชรฆาตอ้าปากค้าง เขารู้สึกว่าภารกิจนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้
“ ทำไม มีปัญหาอะไรรึ ?” อ้าวอู่ซูมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาที่ดูอันตราย
เมื่อเห็นสายตาของอ้าวอู่ซู หมึกเพชฌฆาตก็อึ้งไป เขาถึงกับกัดปากตัวเองและกลืนคำพูดของตัวเองลง ก่อนจะตอบกลับ “ไม่ ไม่มีปัญหาอะไร ” ความกลัวแบบนี้มีแต่เขาที่รับรู้ถึงมันได้