ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 506 : ลับหลัง
ตอนที่ 506 : ลับหลัง
อินทรีย์เทาและหมึกเพชฌฆาตต่างก็ใช้เคลื่อนย้ายออกมาจากหุบเขาเทพอสูร และปรากฏตัวขึ้นยังอีกที่แทบจะพร้อมกัน
“ ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าการที่เจ้าใจดีแบบนี้ ก็เพื่อการแก้แค้น ” หมึกเพชฌฆาตฮึดฮัดออกมา
อินทรีย์เทายิ้ม “ ถึงจะใจดีหรือแก้แค้น แต่ยังไงซะข้าก็ช่วยเจ้า ทำไม เจ้าไม่อยากให้ข้าช่วยหรือไง ? ”
หมึกเพชฌฆาตฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา “ ความรู้สึกของมนุษย์นั้น ข้าไม่เหลืออยู่แล้ว ! ”
“ เอาล่ะ ข้าไม่มีเวลามาพูดคุยไร้สาระกับเจ้า ” หมึกเพชฌฆาตหันกลับและพูดขึ้น “ ข้าขอตัวก่อน ”
“ โชคดี ! ” อินทรีย์เทายิ้มออกมาและโบกมือ
ร่างของหมึกเพชฌฆาตหายไปในพริบตา
รอยยิ้มบนใบหน้าอินทรีย์เทาหายไป เขามองไปยังเขตเหนือแล้วพึมพำออกมา “ สำนักคังเฉียง ข้ามาแล้ว ! ”
แต่ก่อนที่เขาจะไปที่นั่น เขาต้องไปที่เขตกลางเพื่อถ่ายทอดคำสั่งของอ้าวอู่ซูกับคังก่อน
ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่เมฆ มีแค่อินทรีย์เทาเพียงลำพังที่ใช้เคลื่อนย้ายพริบตาเดินทางอย่างต่อเนื่อง และไม่นานเขาก็ไปถึงที่แห่งหนึ่งภายในเขตกลาง
พลังของเขาแผ่ออกมาบนท้องฟ้าแค่เพียงชั่วครู่ ก่อนจะปรากฏตัวขึ้นในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง
ร้านเหล้านั้นดูเก่าทรุดโทรม โต๊ะและเก้าอี้ดูสกปรกจนเกือบจะพัง แม้แต่ป้ายหน้าร้านก็ยังไม่มีใครดูแล ร้านนี้ดูทรุดโทรมราวกับไม่มีใครคอยดูแลมันเลย
ที่ประตูร้านมันมีชายวัยกลางคนที่กำลังใช้ไม้กวาดกวาดพื้นอยู่
นี่ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคัง พ่อของจางหยู ….จางเฮ่าหลัน !
“ ยอดฝีมือระดับสูงสุด แม้ว่าจะทำตัวธรรมดาแค่ไหน แต่หากไม่เห็นกับตาตัวเอง ข้าคงไม่เชื่อ จางเฮ่าหลัน เจ้าโกรธใครมาถึงได้ระบายอารมณ์กับที่นี่ ” อินทรีย์เทาค่อยๆลงมาที่พื้นก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
คังมองไปยังอีกฝ่ายด้วยท่าทีเฉยเมย ก่อนจะกวาดพื้นต่อแล้วพูดขึ้น “ มันมีแค่คังที่นี่ ไม่มีจางเฮ่าหลัน สหาย เจ้าจำผิดคนแล้ว ”
อินทรีย์เทาฮึดฮัดออกมา “ จะคังก็ดี จะจางเฮ่าหลันก็ช่าง เจ้าฟังดีๆนะ รองผู้นำให้ข้ามาบอกกับเจ้า ”
คังหยุดและเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายทันที
“ รองผู้นำบอกว่า ภรรยาเจ้าเฉินลู่ลู่ เกิดเหตุไม่คาดฝันตอนที่ทดสอบ หากเจ้าไม่อยากรู้สึกผิดในอนาคต งั้นก็รีบไปที่หุบเขาเทพอสูรซะ…” อินทรีย์เทากดความเกลียดที่มีในใจลง และพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ รองผู้นำรอเจ้าอยู่ที่หุบเขาเทพอสูร ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ไม้กวาดในมือเขาก็แตกออก เขาหรี่ตามองที่อินทรีย์เทาและพูดขึ้น “ เจ้าควรจะรู้ว่าหากมันเป็นข่าวปลอม ผลที่ตามมามันจะหนักแค่ไหน ! ”
อินทรีย์เทาพูดด้วยท่าทีเฉยชา “ รองผู้นำรอเจ้าอยู่ที่หุบเขาเทพอสูร มันจริงหรือไม่นั้น เจ้าไปก็จะรู้เอง ”
เมื่อเห็นสีหน้ากังวลของคัง อินทรีย์เทาก็พอใจอย่างมาก
คังตัวสั่น แม้ว่าภายนอกเขาจะดูใจเย็นดังเดิม แต่อารมณ์ที่แท้จริงของเขานั้น ไม่อาจจะมีใครรู้ได้
เขาตบฝุ่นที่เกาะบนตัวออก และหันหลังกลับก่อนจะปิดประตูร้าน ท่าทีเขาไม่ได้ดูเร่งรีบแต่มือของเขากลับสั่น
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินออกมา แต่ตอนที่เดินมาถึงตัวอินทรีย์เทา เขากลับหยุดและพูดขึ้นมา “ เจ้าเหมือนจะพอใจกับความโชคร้ายของคนอื่นสินะ ? เรารู้จักกันรึ ? ”
เขาเคยเห็นอินทรีย์เทาตอนที่เป็นผู้กลายพันธุ์ แต่เขาไม่เคยเห็นร่างจริงๆของอินทรีย์เทามาก่อน บวกกับการที่เขาไม่ได้เห็นอีกฝ่ายมาหลายปี ในสายตาเขานั้นอินทรีย์เทาไม่ได้เป็นคนพิเศษอะไร เป็นธรรมดาที่เขาจะจำไม่ได้ว่ารู้จักคนแบบนี้ แม้ว่าจะจำได้แต่ก็คงจำได้ไม่มากนัก
“ เจ้าลองเดาดูสิ ” อินทรีย์เทารู้ว่าคังฉลาดแค่ไหน และเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เปิดเผยข้อมูลตัวเอง
“ ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้จักข้าดี ” คังเหมือนจะได้คำตอบจากคำพูดของอินทรีย์เทาเขาพูดขึ้นมา “ ไม่ใช่แค่รู้จัก แต่…น่าจะเป็นศัตรู ”
อินทรีย์เทาหรี่ตาลง และหยุดพูดทันที เขาแปลกใจอย่างมาก
จากท่าทีของเขาและคำพูดไม่กี่คำ คังกลับรู้ได้ว่าเขาเป็นศัตรู ความฉลาดแบบนี้น่ากลัวจริงๆ !
ตอนนั้นอินทรีย์เทาก็กลัวคังขึ้นมาอีกหลายระดับ !
แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของคังนั้นจะต่ำกว่าเขา และไม่ได้เป็นภัยอะไรต่อเขา แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะยืนยันแบบนั้น….
“ บอกข้ามา เกิดเรื่องกับภรรยาข้าจริงๆรึ ? ” เขามองไปที่อินทรีย์เทาและถามออกมาอย่างใจเย็น “ เกิดเหตุไม่คาดคิดกับภรรยาข้า หรือว่ามีคนใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง….เพื่อเรียกข้ากลับไป ? ”
ดวงตาของอินทรีย์เทากระตุก ในใจเขารู้สึกกลัวขึ้นมา เจ้านี่ฉลาดเป็นกรดราวกับปิศาจ !
เขาคิดไม่ออกว่าทำไมคนฉลาดแบบนี้ถึงได้ยอมเดินเข้ามาในกับดัก และร่วมมือกับพันธมิตรกลายพันธุ์ ? ผู้หญิงคนนั้นสำคัญต่อคังมากขนาดนั้นเลยรึ ?
แต่อินทรีย์เทาไม่กล้าจะพูดอะไรออกมาต่อ เขากลัวว่าหากพูดออกไปแม้เพียงคำเดียว จะทำให้แผนการทั้งหมดรั่วไหล
เมื่ออินทรีย์เทาเงียบราวกับคนโง่ คังก็คิ้วขมวดก่อนจะเยาะเย้ยกับตัวเอง “ เมื่อรองผู้นำต้องการให้ข้ากลับไป ข้าจะทำตามที่เขาต้องการ ” แม้เขาจะรู้ว่านี่อาจจะเป็นกับดัก แต่เขาก็ต้องโดดลงไป เขาไม่สงสัยเลยว่าหากเขาขัดใจผู้นำขึ้นมา ความผิดนี้จะถูกนำไปลงกับภรรยาของเขา และทำให้เหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับภรรยาของเขาจริงๆ
หลังจากนั้นคังก็มองไปที่อินทรีย์เทา ก่อนจะแผ่พลังออกมาจากฝ่ามือ
“ เจ้าทำอะไร ! ” อินทรีย์เทาตกใจ แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าคังเป็นสิบเท่า แต่เขาก็ยังคงกลัวชายที่ฉลาดเป็นกรดผู้นี้ ความกลัวนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ตัว
ต่อมาพลังที่ถูกปล่อยออกมาจากฝ่ามือ กลับครอบคลุมร้านเหล้าด้านหลังเอาไว้
ปัง!
เสียงระเบิดดังก้องพร้อมกับร้านเหล้าที่พังลง
“ ข้อมูลเรื่องชีวิตข้าถูกลบไปแล้ว ” เมื่อเห็นผลงานของตัวเอง เขาก็พยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นเขาก็หันกลับและพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “ ข้าไม่รู้จริงๆว่ารองผู้นำส่งเจ้ามาบอกข้อความข้าให้ยุ่งยากทำไมกัน…”
คังส่ายหน้าและพูดขึ้น“ เอาล่ะ ไปกันเถอะ ! ”
สีหน้าของอินทรีย์เทาหม่นลง เขามองไปที่ร้านเหล้าที่กลายเป็นซากก่อนจะมองไปที่คังอีกครั้งและพูดขึ้น “ ไม่ เจ้ากลับไปเถอะ ข้ามีงานต้องไปทำ ข้าไม่ได้มีเวลาไปส่งเจ้า ”
“ งั้นรึ ? ” คังคิดและยักไหล่ “ เมื่อเจ้าสบายใจกับการที่ข้าต้องกลับไปคนเดียว งั้นก็ดี…ลาก่อน ! ”
เมื่อพูดจบร่างของคังก็หายไปทันที มันมีแค่ร่องรอยมิติที่ผันผวนทิ้งเอาไว้ ราวกับคลื่นน้ำก่อนจะหายไป
อินทรีย์เทายังคงยืนอยู่ที่เดิม เขายังจำคำพูดของรองผู้นำได้บอกเอาไว้ก่อนจะจากมา “ จำไว้ว่าเจ้าต้องมั่นใจว่าเขาจะมาที่นี่ ก่อนที่เจ้าจะไปยังสำนักคังเฉียง ! ” หลังจากที่คิดเรื่องนี้เขาก็เริ่มลนลาน โดยเฉพาะคำพูดที่คังพูดไว้ก่อนจะจากไป มันทำให้เขาลนขึ้นไปอีก เขากัดฟันแน่นและรีบตามไปทันที
หลังจากที่ทั้งสองมุ่งหน้ามายังภูเขาทางใต้ และเข้าไปในเขตของพันธมิตรกลายพันธุ์ อินทรีย์เทาถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและหยุดจับตาดูอีกฝ่าย
เขาเชื่อว่ารองผู้นำคงได้รับแจ้งจากยอดฝีมือระดับสูงสุดล่วงหน้าแล้ว ตราบใดที่คังเข้ามาในเขตภูเขาทางใต้ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะออกจากที่นี่ไป
หลังจากที่มองไปยังภูเขาทางใต้ อินทรีย์เทาก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ เขาหันกลับและมุ่งหน้าไปทางเหนือเพื่อไปยังสำนักคังเฉียงทันที
เขาฮึดฮัดและพึมพำกับตัวเอง “ ถึงเจ้าจะฉลาด แต่เจ้าคงเดาไม่ออกว่าครั้งนี้รองผู้นำคิดจะจัดการกับลูกชายของเจ้า ! ”
ร่างของอินทรีย์เทาสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่เป็นแบบนั้นเขาจะเดินทางได้หลายพันไมล์ เขาเข้าใกล้เขตเหนือมากขึ้นเรื่อยๆ
อันที่จริงแล้วเขายั้งพลังเอาไว้แล้ว เพื่อไม่ให้ยอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์ และราชาสัตว์อสูรตรวจจับได้ เขาจึงต้องยั้งพลังเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เขาเลือกที่จะเดินทางช้าและใช้เวลานานกว่าเดิม
เพื่อที่จะแก้แค้น เพื่อที่จะเอาชีวิตคนที่ตัวเองเคียดแค้น นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
อินทรีย์เทาคิดเกี่ยวกับคัง, จางหยู, สำนักคังเฉียง แต่เขาไม่รู้ตัวว่าหลังจากที่เขากับคังออกจากร้านเหล้ามา มันมีกลุ่มชายลึกลับด้านนอกร้านเหล้า หากดูจากภายนอกเขาดูธรรมดา ทันทีที่เห็นว่าร้านหล้าพังลง พวกนั้นก็รีบหนีไปทันที
การที่เป็นคนฉลาดจะไม่มีแผนรับมือได้ยังไง ?
น่าเสียดาย….ด้วยความฉลาดของอินทรีย์เทานั้น ชัดแล้วว่าเขาไม่อาจมองแผนการของคังออก และ….คนในพันธมิตรกลายพันธุ์ก็มีไม่กี่คน ที่จะมองแผนการของคังออก
…
ที่ภูเขาเขตใต้
หลังจากที่คังเข้ามายังเขตของพันธมิตรกลายพันธุ์ เขาก็หยุดสักพัก เมื่ออินทรีย์เทาเลิกจับตาดูเขา เขาก็เผยรอยยิ้มออกมา และมองไปทางเขตกลางด้านหลัง ตอนที่เขาหันกลับมา รอยยิ้มนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ รองผู้นำ…” คังมุ่งหน้าไปทางหุบเขาเทพอสูรแล้วพึมพำออกมา “ ต่อไปคงได้เวลาที่ข้าจะสู้กับรองผู้นำผู้นี้แล้ว ”
คังยังคงใช้เคลื่อนย้ายพริบตา มุ่งหน้าไปที่หุบเขาเทพอสูรอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน ถึงการรับรู้ของพวกยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำที่ครอบคลุมตัวเขา ทุกครั้งที่เขาย้ายตำแหน่ง มันจะมีผู้กลายพันธุ์มาจับตาดูเขาไว้ตลอด ตั้งแต่เขตชายแดนภูเขาเขตใต้ จนถึงหุบเขาเทพอสูร ตลอดทางมานี้เขารู้สึกได้ถึงการรับรู้ของยอดฝีมือระดับสูงสุด บอกได้ว่าที่นี่ไม่มีช่องโหว่เลยแม้แต่น้อย
คังแสดงท่าทีเฉยเมยราวกับไม่รับรู้เรื่องนี้ เขาทำการเคลื่อนย้ายไปอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดก็ไปถึงหุบเขาเทพอสูร
จนไปถึงหุบเขาเทพอสูรที่การรับรู้ซึ่งจับตาดูเขามาตลอดถึงได้หายไป
“ ข้าอยากรู้ว่าภรรยาของข้าเกิดเหตุไม่คาดฝันกับนางจริงๆหรือ ? ” คังมองไปที่อ้าวอู่ซูอย่างใจเย็น โดยไม่ได้แสดงท่าทีกลัวอีกฝ่ายเหมือนผู้กลายพันธุ์คนอื่นๆ “ ข้าบอกแล้วว่าอย่าใช้ชีวิตภรรยาข้ามาขู่ข้า เจ้าคงลืมไปแล้ว ”
อ้าวอู่ซูมองไปที่คังด้วยท่าทีเฉยเมย สายตาเขาแสดงความอาฆาต “คังเจ้าลืมฐานะตัวเองไปแล้วรึ คิดว่ารองผู้นำผู้นี้ไม่กล้าแตะต้องเจ้าจริงๆรึ ? ” ทั้งพันธมิตรกลายพันธุ์ ยกเว้นแค่ผู้นำแล้ว ก็มีคังนี่แหละที่กล้าพูดกับเขาแบบนี้ หากเขาไม่กังวลเรื่องเฉินลู่ลู่ เขาคงฆ่าคังเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้ว
กว่า 8 ปีมานี้ เขาต้องทนกับท่าทีเย่อหยิ่งของคังจนเกือบถึงขีดจำกัดของตัวเอง !
หากไม่เป็นแบบนี้ เขาคงไม่คิดจัดการกับลูกชายของคัง!
การกดดันให้รองผู้นำเป็นแบบนี้ได้ ก็พอมองภาพออกว่าคังนั้นบ้าแค่ไหน !
“ เจ้าคิดจะใช้ชีวิตภรรยาข้าทำให้ข้าเชื่อฟังงั้นรึ ? ” คังพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะทำยังไงกับข้าก็ได้ แต่ห้ามแตะต้องแม้แต่เส้นผมของภรรยาข้า ไม่งั้นแล้วพันธมิตรกลายพันธุ์ต้องชดใช้อย่างหนัก ! ”
สีหน้าของอ้าวอู่ซูเปลี่ยนไป เขาหรี่ตามองคังด้วยสายตาอาฆาต
เขาเกือบจะทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว !
คังมองไปยังอีกฝ่ายโดยไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
อ้าวอู่ซูสูดหายใจเข้าลึกๆ เขากำหมัดแน่นกดความโกรธที่มีในใจลงไป เขาค่อยๆคลายหมัดออก และพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ ไม่ต้องกังวล ภรรยาเจ้าปลอดภัยดี แผนของพันธมิตรกลายพันธุ์ยังไม่สำเร็จ ใครจะกล้าทำร้ายนาง ? ”
ในที่สุดความกังวลในใจก็หายไป อย่างที่เขาคิดเอาไว้ เป้าหมายที่แท้จริงของอ้าวอู่ซูคือหลอกเขาโดยใช้ภรรยามาเป็นข้ออ้าง เพื่อไม่ให้เขาปฏิเสธได้
คังเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้นด้วยท่าทีเฉยเมย “ งั้นบอกมา เจ้าโกหกข้ามีจุดประสงค์อะไรกัน ? ”
“ อย่าลืมสิว่าในหมู่ผู้กลายพันธุ์ ข้าเท่านั้นที่ยังมีร่างเป็นมนุษย์…”คังมองไปที่อ้าวอู่ซู “ หากไม่มีข้า ใครกันจะไปยังสุสานศักดิ์สิทธิ์ให้กับเจ้า ? ใครกันที่จะจับตาดูมนุษย์ให้เจ้า ? แล้วพวกยอดฝีมือระดับสูงสุดอีกล่ะ ? ”
“ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องสุสานศักดิ์สิทธิ์ ” อ้าวอู่ซูพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ ยอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์ตอนนี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเราแล้ว ต่อไปเจ้าแค่ต้องอยู่ที่นี่ เมื่อมีคนรับผิดชอบเรื่องนี้แล้ว เจ้าก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก ”