ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 514 : เผ่ามังกร(1)
ตอนที่ 514 : เผ่ามังกร(1)
“ ช่างเถอะ จัดการเขาเลย ” เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรต้องถามต่อ เฉินกูก็ไม่คิดจะเสียเวลากับอีกฝายต่อไป
อ้าวเยว่โบกมือพร้อมกับพลังที่พันธนาการร่างผู้กลายพันธุ์เอาไว้ได้ รัดแน่นมากขึ้นไปอีก จนทําให้ร่างของผู้กลายพันธุ์แตกออกเป็นชิ้นๆ
เฉินกูเงียบไปและพูดขึ้น “ ไปหาเป้าหมายอื่นดู”
ทั้งสองได้ออกจากเมืองนั้น และต่อมาก็ปรากฏตัวในอีกที่หนึ่ง
ครั้งนี้เป้าหมายที่พวกเขาเลือก ก็ยังเป็นผู้กลายพันธุ์ขอบเขตตุ้นชวน
เมื่อเห็นทั้งสองใช้เคลื่อนย้ายพริบตาปรากฏตัวขึ้นมา ผู้กลายพันธุ์นั้นก็หน้าถอดสีทันที และรีบวิ่งหนีไปอีกทาง แต่ตอนที่เขาเพิ่งจะบินออกไปนั้น ก็มีปราณพุ่งเข้ารัดร่างของเขาเอาไว้ เขาแข็งทื่ออยู่กับที่ไม่อาจจะก้าวออกไปได้เลย
“อ้าวอู่ซูกับผู้กลายพันธุ์ยอดฝีมือระดับสูงสุดไปไหน ? บอกมาแล้วราชาคนนี้จะไว้ชีวิตเจ้า ! ” เฉินกูมองไปที่ผู้กลายพันธุ์
“ เมื่อข้าตกอยู่ในเงื้อมมือเจ้าแล้ว ข้าก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ” เมื่อเห็นว่าไม่อาจจะหนีได้ ผู้กลายพันธุ์ก็ยอมแพ้ที่จะดิ้นรนต่อไป เขามองไปที่เฉินกูด้วยท่าที่เยาะเย้ย “ หากต้องการให้ข้าบอกข้อมูลเรื่องรองผู้นําและหักหลังพันธมิตรกลายพันธุ์ละก็ฝันไปเสียเถอะ !”
เฉินกูคิ้วขมวดและถามขึ้นมา “ พันธมิตรกลายพันธุ์ให้อะไรกับเจ้า จนเจ้ายอมที่จะตายเช่นนี้?”
ไม่ว่าจะเป็นผู้กลายพันธุ์คนเมื่อครู่ หรือคนผู้นี้ ต่างก็ยอมตายดีกว่าต้องมาบอกข้อมูลของพันธมิตรกลายพันธุ์ มันทําให้เฉินกูสับสน
“ เมื่อมนุษย์กับสัตว์อสูรถูกทําลายแล้ว เจ้าจะรู้เอง” ผู้กลายพันธุ์พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ ราชาคนนี้ยอมรับว่าเจ้าทําให้ข้าโกรธ !” สีหน้าของเฉินกูดูเย็นชาขึ้นมา เขาควบคุมแรงที่รัดร่างผู้กลายพันธุ์เอาไว้ทําให้สภาพของผู้กลายพันธุ์ดูผิดปกติยิ่งกว่าเก่า
“ อ๊าก ! ” ผู้กลายพันธุ์กรีดร้องออกมา แต่ไม่ว่าจะน่าสงสารแค่ไหน แต่ตั้งแต่ต้นจนจบนั้น เขาก็ไม่ได้อ้อนวอนเฉินกูเลยสักนิด
เฉินกูหยุดมือและคิ้วขมวดหนักขึ้นไปอีก ผู้กลายพันธุ์คนนี้เจ็บปวดจนเกินกว่าจะรับไหว แต่ไม่ว่าจะต้องเจ็บตัวยังไงเขาก็ไม่คิดที่จะอธิบายเรื่องราวของพันธมิตรกลายพันธุ์
พวกนี้ศรัทธาและเชื่อมั่นอะไรในพันธมิตรกลายพันธุ์ ?
เฉินกูไม่เชื่อว่ามันจะเป็นแบบนี้กันหมด เขาได้หาตัวผู้กลายพันธุ์ขอบเขตหลี่ซวนแทน
เมื่อถามคําถามเดียวกันออกไป เขาก็ได้รับคําตอบแบบเดิมกลับมา
“ ผู้นําและรองผู้นําน่าจะควบคุมพวกนี้เอาไว้ ” ดวงตาของเฉินกูกระตุก “ข้าแค่ไม่รู้ว่าควบคุมยังไง จนทําให้คนพวกนี้เชื่อฟัง เพื่อผู้นําและรองผู้นําแล้ว พวกนี้เต็มใจที่จะสละชีวิตตัวเองเลย?
เฉินกูไม่คิดว่าพันธมิตรกลายพันธุ์ทุกคนจะไม่กลัวตาย พวกเขาต้องมีเหตุผลพิเศษกับการที่เป็นแบบนี้
หนึ่งคือเรื่องบังเอิญ สองคือเหตุไม่คาดฝัน และสามก็อาจจะอธิบายถึงปัญหานี้ได้
อ้าวเยว่มองไปที่เฉินกู “ เจ้าต้องหาคนมาถามอีกหรือไม่ ? ”
“ ไม่จําเป็น” เฉินกูปล่อยตัวผู้กลายพันธุ์ตรงหน้าและส่ายหน้าตอบกลับ “ แม้ว่าเราจะจับผู้กลายพันธุ์ทั้งหมดในเขตใต้ แต่ข้าก็กลัวว่าคงไม่ได้คําตอบที่มีประโยชน์ การที่ให้พวกนี้อยู่เขตใต้ต่อ พวกนั้นคงมั่นใจว่าพวกนี้จะไม่ทําความลับรั่วไหล หากจับคนมาถามอีกก็เท่ากับเสียเวลาเปล่า!”
อ้าวเยว่สงสัยขึ้นมา “ ข้าได้ยินเจ้าพูดถึงอ้าวอู่ซูหลายครั้ง เจ้ามั่นใจหรือว่าเขาเป็นมนุษย์ ไม่ใช่คนของเผ่ามังกร ? ”
แม้แต่อ้าวเยว่ที่เป็นผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่ามังกร ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยในตัวตนของอ้าวอู่ซู
“อ้าวอู่ซูเป็นมนุษย์ ข้ามั่นใจเรื่องนี้ ” เฉินกูเผยรอยยิ้มออกมา “ ชื่อนั้นแค่บังเอิญ เจ้าไม่ต้องคิดอะไรมาก”
เฉินกูมองไปรอบๆ พร้อมกับครุ่นคิดแล้วพูดขึ้นมา “อ้าวอู่ซูและพวกผู้กลายพันธุ์ขั้นสูง ได้ถอนตัวออกไปจากเขตใต้แล้ว เราเสียเวลาเปล่า แต่ถึงแม้ว่าจะเสียเวลา แต่เราก็ไม่อาจจะกลับไปมือเปล่าได้ เก็บกวาดเขตใต้จะดีหรือไม่ ? ”
อ้าวเยว่มองไปที่เฉินกู ก่อนจะหันกลับแล้วพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “ เก็บกวาดนั้นเจ้าทําเองเถอะ ข้าไม่มีเวลา ”
ผู้กลายพันธุ์พวกนี้อยู่แค่ขอบเขตตุ้นซวน, หลี่ซวนและหลิงซวน ยอดฝีมือระดับสูงสุดเพียงคนเดียวก็จัดการพวกนี้ได้ นางไม่ต้องการเสียเวลาไปกับมดปลวกพวกนี้
“ข้าจะกลับไปที่สํานักคังเฉียง ขอตัว ” เมื่ออ้าวอู่ซูและยอดฝีมือระดับสูงสุดของพันธมิตรกลายพันธุ์ไม่อยู่ที่นี่ นางก็ไม่ต้องการเสียเวลากับที่นี่อีกต่อไป
“ เจ้ารีบขนาดนั้นเลยรึ ? ” เฉินกูตะลึงและพูดขึ้นมา “เจ้าไม่ต้องการหาตัวพวกพันธมิตรกลายพันธุ์รี ?”
อ้าวเยว่พูดด้วยท่าที่เฉยชา “ ข้ารับหน้าที่ในการลงมือไม่ได้รับหน้าที่ในการหาคน เมื่อเจ้าเจอพวกพันธมิตรกลายพันธุ์เมื่อไหร่ เจ้าค่อยมาบอกข้า หากไม่ใช่เรื่องนี้ก็ไม่ต้องมารบกวนข้า”
เมื่อพูดจบ อ้าวเยว่ก็ไม่ได้พูดกับเฉินกูอีกต่อไป ร่างกายนางเปลี่ยนเป็นลําแสง ก่อนจะบินขึ้นไปบนฟ้าแล้วเกิดการผันผวนของมิติ ก่อนที่ร่างของนางจะหายไปในทันที
เฉินกูลูบคางมองไปรอบๆและคิด “ แปลก คนของพันธมิตรกลายพันธุ์ พวกมันไปไหนกัน ?
ตอนแรกเขาต้องการที่จะฆ่าผู้กลายพันธุ์ที่นี่ แต่ตอนนี้เฉินกูเริ่มผิดหวังขึ้นมาแล้ว ภูเขาเขตใต้ที่กว้างใหญ่ แต่กลับไม่มีผู้กลายพันธุ์ยอดฝีมือระดับสูงสุดเลยสักคน
“ พวกนั้นรู้ล่วงหน้าหรือว่าข้ากับอ้าวเยว่จะมาที่นี่ ? ” เฉินกูสับสน “ แต่ถึงจะมีคนส่งข้อความให้ แต่มันก็ไม่น่าจะเร็วเท่าข้ากับอ้าวเยว่ไม่ใช่รึ ? ” นอกจากเจ้าสํานักกับราชามังกรแล้ว มีใครบ้างที่ทัดเทียมความเร็วของเขากับอ้าวเยว่ได้ ?
เฉินกูนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะหยุดคิดและมุ่งหน้ากลับไปที่เขตกลาง
ภูเขาเขตใต้ในวันนี้มีแต่เมืองที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด บรรยากาศอึมครึมไม่มีแม้แต่มนุษย์หรือสัตว์อสูร ทั้งภูเขาเขตใต้ครอบคลุมไปด้วยบรรยากาศน่ากลัวจนทําให้ผู้คนขนลุก
หากไม่มีเหตุผลให้มาที่นี่ เฉินกูก็ไม่คิดจะมาที่นี่อีก เขาไม่ต้องการเสียเวลาไปกับที่นี่มากนัก
ท้องฟ้ามืดลงและเฉินกูก็กลับไปถึงที่สมาคมนักวางค่ายกล
“ อาจารย์เฉิน ! ” ลั่วซ่หยางเป็นคนแรกที่เห็นเฉินกูกลับมา เขารีบวิ่งออกมาจากห้องโถงและถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ “ ทําไมท่านถึงได้กลับมาเร็วนัก ? ”
ยอดฝีมือระดับสูงสุดคนอื่นเองก็บินออกมาจากห้องโถง และมองมาที่เฉินกูด้วยความคาดหวัง
เฉินกูกลับส่ายหน้า “ เราไปช้าเกินไป ตอนที่เราไปถึง อ้าวอู่ซูและพวกยอดฝีมือระดับสูงสุดก็ถอนกําลังออกไปหมดแล้ว เหลือแต่ผู้กลายพันธุ์ขั้นต่ำ ข้าได้จับหลายคนมาถามแต่พวกมันยอมตายดีกว่าต้องบอกข้อมูลกับเรา สุดท้ายข้ากับอ้าวเยว่ก็ต้องกลับมา ”
ลั่วซู่หยางตกตะลึง “ ถอนกําลังรึ ? ”
“ เอาล่ะ ข้าจะกลับไปที่ภูเขาเพื่อทําการฟื้นฟูตัวเอง พวกเจ้าหาข่าวเรื่องพันธมิตรกลายพันธุ์กันต่อ ข้าจะมาถามข่าวพวกเจ้าที่หลัง ” เฉินกูยังไม่หายดีและด้วยการเดินทางไปกลับนี้ ทําให้เขาเหนื่อยล้า เขาโบกมือและใช้เคลื่อนย้ายออกมาจากสมาคมนักวางค่ายกลทันที
ที่เกาะมังกร
อ้าวคุนรู้สึกอึดอัดใจมาโดยตลอดในหลายวันมานี้ เขารู้สึกว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
“ สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์มากว่าสิบตัวกําเนิดขึ้นมา ปราณของโลกนี้มากขึ้นกว่าเดิม แค่ปีเดียวมันกลับเข้มข้นกว่าเดิมถึงสามเท่าไม่กี่วันมานี้โลกกลับเกิดการสั่นไหวราวกับหวาดกลัวบางอย่าง..” ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ อ้าวคนจะรู้สึกตกตะลึงและเป็นกังวล
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีต่อเผ่ามังกรเลย
เผ่ามังกรปกครองโลกนี้มาหลายปี และถือเป็นตัวตนสูงสุดของโลก ดังนั้นสําหรับเผ่ามังกรแล้ว สมดุลแบบเดิมนั้นดีอยู่แล้ว เมื่อทุกอย่างคงเดิม เผ่ามังกรก็จะรักษาความสูงส่งของตัวเองเอาไว้ได้ การเปลี่ยนแปลงที่เขาไม่รู้จักนี้ อาจจะเป็นภัยต่อเผ่ามังกร
อ้าวคุนมีปัญหามากมายในใจ ตลอดหลายวันมานี้ เขาไม่เคยเผยรอยยิ้มออกมาเลยสักครั้ง ซึ่งทําให้ผู้คนต่างก็สลด
อยู่ๆเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมา เขาไม่น่าส่งน้องสาวและลูกชายไปยังทวีปป่า การเปลี่ยนแปลงทุกวันนี้ไม่มีใครรู้เลยว่ามีอันตรายอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง การที่น้องสาวและลูกชายของเขาอยู่ด้านนอกนั้นทําให้เขารู้สึกผิด
ตอนที่คิดอยู่นั้น อ้าวคุนก็เงยหน้าขึ้นและตะโกนออกมา “ ใครกัน !”
ร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในท้องฟ้า อ้าวคนมองไปที่ชายลึกลับด้วยความตะลึง “ ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดของมนุษย์ !” เขาอึ้งไป เมื่อไหร่กันที่มนุษย์มียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุด เขาที่เป็นราชามังกรมาหลายปี แต่กลับไม่เคยได้ยินข่าวแบบนี้มาก่อน
“ อย่าเอาข้าไปปนกับมนุษย์โสมมพวกนั้น พวกนั้นไม่มีค่าพอ” ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงคนนั้นถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นหน้าตา เขายิ้มและพูดขึ้นมา “ ข้าขอแนะนําตัวข้า ถู่มู่ ผู้กลายพันธุ์ผู้สูงส่ง !”
อ้าวคุนแปลกใจ แต่ภายนอกเขาก็ยังแสดงท่าที่ใจเย็นออกมา และพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ สําหรับข้าแล้วไม่ว่าเจ้าจะเป็นมนุษย์หรือผู้กลายพันธุ์ ข้าก็ไม่สน ที่นี่คือเกาะมังกร หากไม่ได้รับอนุญาต เจ้าก็ไม่มีสิทธิเข้ามาในเกาะมังกรได้ ใครกันที่มอบความโอทั้งแบบนี้ให้กับเจ้า ? ” อ้าวคนทั้งตกใจและโกรธ แต่ในใจเขากลับมีความกังวลเกิดขึ้นมา
ถู่มู่ยิ้มออกมา “ด้วยความแข็งแกร่งที่เจ้ามีแล้ว เจ้าถือว่าเป็นราชาก็ไม่แปลก แม้แต่ตํานานของมนุษย์อย่างเป้ยหลง ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับเจ้าข้าขอท้าทายราชามังกร ข้าอยากรับรู้ถึงพลังของราชามังกร ! ขอให้เจ้าชี้แนะด้วย ! ”
“ บังอาจ ! ” อ้าวคนโกรธและทําการโจมตีออกไปทันที
พลังที่น่ากลัวถูกปล่อยออกมาจากฝามือเขา พลังนี้ราวกับจะทําลายทั้งโลกได้
มิติโดยรอบพังลง ภูเขาและพื้นดินระเบิดออกราวกับเป็นจุดจบของโลก
แข็งแกร่ง !
แค่ฝ่ามือธรรมดากลับมีพลังทัดเทียมกับการโจมตีเต็มกําลังของยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุด แม้แต่อ้าวเยว่ เฉินกูที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดก็ใช่ว่าจะโจมตีน่ากลัวแบบนี้ได้ แต่อ้าวคุนกลับใช้มันออกมาได้ง่ายๆ
“ ฮ่ะ ! ” ถู่มู่ตะโกนออกมา เขาแผ่อาณาเขตของตนเองพร้อมกับปราณในอาณาเขตที่ก่อตัวเป็นวังวนที่ปล่อยพลังอันน่าดึงออกมา วังวนนั้นถูกควบคุมเพื่อรับการโจมตีของอ้าวคุน
แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ถิ่มก็ยังต้องถอยออกไปหลายลี้ ตัวของเขาถึงกับสั่นเทา
สมกับเป็นราชามังกร ที่ถือว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก !
แม้ว่าถู่มู่จะขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดแล้ว แต่การปะทะครั้งนี้ก็เผยให้เห็นถึงความต่างระหว่างเขากับราชามังกร แม้ว่าจะไม่ได้ต่างเท่ากับช่องว่างระหว่างขั้นสูงกับขั้นสูงสุด แต่ความต่างนี้ก็มากเกินกว่าจะมองข้ามได้
บอกได้ว่า อ้าวคนเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด และสามารถสยบถู่มู่ได้ง่ายๆ
“ ฮาฮาฮา..! ดี ! ” แทนที่จะกลัว แต่ถู่มู่กลับหัวเราะออกมาแทน
อ้าวคุนอึดอัดออกมา “ รนหาที่ตาย ! ”
แทนที่จะบอกว่าเขาหวั่นเกรงถู่มู่ มันจะดีกว่าหากบอกว่าเขากังวลในตัวตนอีกฝาย อย่างเช่นตัวตนอย่างผู้กลายพันธุ์ที่อีกฝ่ายพูดขึ้นมา หากเป็นผู้กลายพันธุ์เพียงคนเดียวเขาก็ไม่กลัว เขามั่นใจอย่างมากว่าจะจัดการอีกฝ่ายได้
ในฐานะราชามังกรและผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก พวกเขาไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับใคร ถู่มู่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น