ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 518 : จดหมาย
ตอนที่ 518 : จดหมาย
ชายแก่ผอมแห้งกําลังสั่งการให้ผู้กลายพันธุ์นําศพของเหล่ามังกรเข้าไปเก็บ เมื่อเขาได้ยินเสียงของ เขาก็หยุดและหันกลับมามองเขาได้พูดขึ้น “ เจ้าได้รับบาดเจ็บมารึ ?”
ข้าได้ต่อสู้เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของราชามังกรมา” เช็ดเลือดที่มุมปาก เขาไม่รู้ว่าเลือดนั้นไหลออกมาตอนไหน “ ดีที่ข้าหนีมาได้ทัน ไม่งั้นแล้วข้าคงต้องตายไปที่เกาะมังกร”
ชายแก่แปลกใจ “ ราชามังกรแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ ? ”
พยักหน้า “ ตามที่ข้าเดาไว้ มันต้องใช้ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดอย่างน้อย 3 คนร่วมมือกัน กว่าจะทัดเทียมกับราชามังกรได้ และการจะเอาชนะราชามังกรต้องใช้มากกว่า 4 คน หากต้องการจะสังหารราชามังกรอาจจะต้องใช้ 5 คน…”
การรับมือ, การเอาชนะและการสังหารมันคนละเรื่องกัน
ชายแก่หรี่ตาลง “ มันต่างกันมากขนาดนั้นเลยรึ ? ”
“ ความแข็งแกร่งของตัวราชามังกรนั้นไม่ได้สูงมากนัก หากยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดสองคนร่วมมือกันก็เอาชนะเขาได้ หรืออาจจะสังหารเขาได้ แต่เขามีลูกปัดลึกลับ ลูกปัดนั้นคืออะไรข้าไม่อาจจะทราบได้ มันทําให้พลังเขาเพิ่มขึ้นมาหลายเท่า ” ในใจของยังคงเต็มไปด้วยความกลัว “ ด้วยลูกปัดนั่น หมัดธรรมดาของเขากลับทําให้ข้าบาดเจ็บหนักได้…”
“ ลูกปัดลึกลับ ” ชายแก่หรี่ตาลงแสดงสายตาโลภออกมา มีข่าวลือกันว่าราชามังกรได้รับการสืบทอดจากเผ่ามังกรและเชี่ยวชาญการใช้ลูกปัดมังกรนั้น ดูเหมือนว่าข่าวลือนั้นจะเป็นความจริง”
ลูกปัดมังกร ?
สงสัยขึ้นมา “ ข้าขอถามผู้นําที่ว่า ลูกปัดมังกรนั้นมันคืออะไรกัน?”
ชายแก่มองไปที่และพูดขึ้น “ มีข่าวลือว่าลูกปัดมังกร คือสิ่งที่สืบทอดต่อกันมาของบรรพบุรุษมังกร มันมีแค่มังกรที่มีสายเลือดมังกรสมมติเทพเท่านั้น ที่จะสามารถควบคุมพลังและใช้พลังของลูกบัดนั้นได้…”
“ บรรพบุรุษเผ่ามังกร” คิด “ กลับมีของที่ทรงพลังแบบนั้นส่งต่อกันมา ข้าคิดไม่ถึงเลย ว่าบรรพบุรุษของเผ่ามังกรจะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน”
ชายแก่งอนิ้วและมียาที่แผ่กลิ่นหอมลอยไปหาถู่มู่ เขาได้พูดขึ้นด้วยท่าที่เฉยเมย “ การเดินทางไปยังเกาะมังกรครั้งนี้ เจ้ายื้อเวลาราชามังกรไว้ได้สําเร็จ นี่ยาฟื้นฟู 1 เม็ด เจ้ากินมันไปเพื่อฟื้นฟูบาดแผลเจ้าก่อน เมื่อแผนการของเราเสร็จสิ้น ข้าจะมอบรางวัลที่เจ้าสมควรได้รับ”
“ขอบคุณท่านผู้นํา! ” คุกเข่าและพูดขึ้นมาด้วยท่าที่เคารพ
ชายแก่โบกมือและพูดขึ้น “ รีบไปรักษาตัวซะ ดูจากบาดแผลของเจ้าแล้ว เจ้าคงต้องพักฟื้นอีกสักพัก ”
“ ได้! ” ตอบกลับทันที
ด้วยยาฟื้นฟูขั้น 6 นี้ เขามั่นใจว่าเขาจะหายดีในเวลาไม่กี่วัน
ตอนที่จากไป ชายแก่ก็ได้สั่งผู้กลายพันธุ์ขนร่างของมังกรกลับไปเก็บต่อ ศพมังกรเหล่านี้ แม้ว่าจะตายมาแล้วหลายปีแต่ก็ยังแผ่พลังอันน่าทึ่งออกมาอยู่ สายตาของชายแก่แสดงความตื่นเต้นออกมา “ ด้วยศพมังกรพวกนี้ ทําไมพันธมิตรกลายพันธุ์จะมียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดไม่ได้ ? ”
เขาสังหรณ์ใจว่าครั้งนี้พันธมิตรกลายพันธุ์ จะมียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดจํานวนมาก!
ตอนนั้นทั้งมนุษย์,สัตว์อสูรและมังกรก็ไม่อาจจะรับมือพวกเขาได้
“ ราชามังกรแล้วยังไง ? ข้าไม่เชื่อว่ายอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุด 6 คนจะไม่อาจจะหยุดเจ้าได้ !” ชายแก่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
ชายแก่แทบอดใจไม่ไหว แผนที่เขาวาดฝันมาตลอดหลายพันปีนี้ ในที่สุดก็จะสําเร็จ !
ที่เขตทะเล ผู้อาวุโสสูงของเผ่ามังกรได้มุ่งหน้าไปยังทวีปปาอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดจะหยุดพัก
เขาไม่ได้ปกปิดพลังตัวเองเลยแม้แต่น้อย พลังของเผ่ามังกรทําให้สัตว์อสูรในทะเลต่างก็ลนลาน
“ กรร ! ”
“ เฮ้อ…”
สัตว์อสูรในทะเลนับไม่ถ้วนต่างก็ตัวสั่นด้วยความกลัว
จนร่างของเขาหายไปสักพัก ทะเลก็ค่อยๆกลับคืนสู่ความสงบช้าๆ
สัตว์อสูรในท้องทะเลเงยหน้าขึ้นมองด้วยความกลัว การปรากฏตัวของอ้าวเลี่ย ทําให้พวกเขาทั้งโกรธและกลัว แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป
เผ่ามังกรมักจะเก็บตัวเงียบมาโดยตลอด การที่อยู่ๆก็โผล่มานี้เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่กล้าพูดอะไรออกไป
ตอนที่อ้าวเลี่ยเดินทางไปยังทวีปปา ที่สมาคมนักวางค่ายกลนั้น ลั่วซูหยางก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งมา
ลั่วซูหยางเปิดจดหมายออกและอ่านเนื้อหาด้านใน ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไป
ทุกคนต่างก็มองไปที่รั่วซูหยางด้วยสีหน้าสงสัย พวกเขาไม่รู้ว่าด้านในเขียนอะไรไว้ที่ทําให้ลั่วซูหยางไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้
“ เจ้าลองดูที ” ลั่วซูหยางส่งจดหมายไปให้กับหยางเพ้ยอัน
ไม่นาน หยางเพ้ยอันก็ส่งจดหมายไปให้กับชุยเจียน
หลังจากนั้นไม่นาน ฉินอู่ตี้และคนอื่นๆต่างก็ได้อ่านเนื้อหาในจดหมาย
พวกเขาต่างก็เป็นเหมือนกับถั่วซ่หยาง หลังจากที่ได้อ่านเนื้อหาด้านใน สีหน้าของพวกเขาก็หม่นลงด้วยความตะลึง
“ จดหมายนี้บอกว่าตระกูลอ้าวและพันธมิตรกลายพันธุ์ร่วมมือกัน และรองผู้นํานามอ้าวอู่ซูก็มาจากที่นั่น” ถั่วซูหยางมองไปรอบๆและพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “ ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าคิดยังไง? “
ยอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่คนหนึ่งคิ้วขมวด “ แต่เราส่งคนไปตรวจสอบที่นั่นแล้ว และไม่พบสิ่งใดผิดปกติ หากอ้าวอู่ซูมาจากตระกูลอ้าวจริงๆ ทําไมถึงไม่มีบันทึกเขาอยู่ที่นั่น? ”
ลั่วซูหยางหันไปมองที่ฉินอู่ตี้และพูดขึ้นมา “ ฉินอู่ตี้ ที่นั่นเป็นอาณาเขตของจักรวรรดิฉิน เจ้าคิดว่ายังไง ? ”
ตอนนั้นทุกคนต่างก็หันไปมองที่ฉินอู่ตี้
“ ตระกูลอ้าวร่วมมือกับพันธมิตรกลายพันธุ์หรือไม่นั้นข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้แค่ว่าจักรวรรดิฉินของพวกเรานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพันธมิตรกลายพันธุ์ ” ฉินอู่ตี้พูดด้วยท่าทีเฉยชา
คามคิดของเขาเพียงอย่างเดียวตอนนี้คือ ตระกูลอ้าวเกี่ยวข้องกับพันธมิตรกลายพันธุ์
ผู้ทรยศของมนุษย์ ชื่อนี้จักรวรรดิฉินไม่อาจจะรับได้
“ ตระกูลอ้าวเกี่ยวข้องกับมังกร คนของตระกูลอ้าวมีสายเลือดมังกร พวกเขาคือลูกหลานของมังกร หากไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน เราไม่ควรจะคิดไปต่างๆนาๆ ” ชุยเจียนพูดขึ้นมา จากนั้นเขาก็บอกความคิดเห็นของตัวเอง “ แน่นอนว่าหากเจ้ารู้สึกว่าทนรับความโกรธของพวกมังกรได้ งั้นข้าขอไม่ออกความเห็นในเรื่องนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันคิ้วขมวด
ฐานะของตระกูลอ้าวนั้นพิเศษเกินไป !
เพื่อจะจัดการกับตระกูลอ้าว มันไม่มีใครกล้าตัดสินใจเรื่องนี้ได้ง่ายดายนัก หากไม่ระวัง มันอาจจะทําให้พวกมังกรไม่พอใจ !
หยางเพ้ยอันพูดขึ้นมาด้วยท่าทีสนใจ “ ข้าสงสัยอย่างมากว่าใครกันที่เขียนจดหมายนี้มา เขามีเป้าหมายอะไร ? จากเนื้อหาในจดหมาย ชายคนนี้เหมือนจะรู้จักพันธมิตรกลายพันธุ์ดี แม้แต่ความลับของอ้าวอู่ซู เขาก็รู้ดี ข้ากลัวว่าฐานะของเขาคงไม่ธรรมดา!”
ความลับของอ้าวอู่ซู แม้แต่ในพันธมิตรกลายพันธุ์ก็ยังถูกปกปิด มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ คนที่เขียนจดหมายนี้มารู้ได้ยังไง ?
“ เอาล่ะ เซียนอักษร เราควรสนใจเรื่องการจัดการกับตระกูลอ้าว” ลั่วซูหยาง
“ มันก็ง่ายๆไม่ใช่รึ ? ” หยางเพ้ยอันยิ้มออกมา “ เราคงไม่รู้หากไม่ไปที่นั่นเอง หากพบผู้กลายพันธุ์ที่นั่นได้ หรือหาหลักฐานอื่นๆได้ งั้นเผ่ามังกรก็ไม่กล้าจะทําอะไรกับเรา….หากไม่มีหลักฐาน งั้นเราก็แค่จับพวกนั้นมาสอบสวน รอจนกว่าจะคลายข้อสงสัยได้แล้วค่อยปล่อยกลับไป สุดท้ายพวกมังกรก็ไม่มีเหตุผลต้องมาจัดการกับเราไม่ใช่รึ ?”
ทุกคนต่างก็ตาเป็นประกายกับข้อเสนอนี้
ฉินอู่ตี้ลุกขึ้นยืนและพูดขึ้นมา“ เราจะรออะไรกันอีก เราจะไปยังบ้านตระกูลอ้าว !”
ลั่วซูหยาง,ชุยเจียนและยอดฝีมือระดับสูงสุดหน้าใหม่หลายคน พากันลุกขึ้นยืน
ยอดฝีมือระดับสูงสุดเกือบสามสิบคนออกเดินทางกันทันที ไม่นานพวกเขาก็ปรากฏตัวที่พื้นที่ของตระกูลอ้าว
ในพริบตาพวกเขาก็แผ่การรับรู้ออกไปในทันที ทุกซอกทุกมุมของหมู่บ้านตระกูลอ้าว ต่างก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของพวกเขา การรับรู้ของยอดฝีมือระดับสูงสุดกว่า 3 คนซ้อนทับกันไม่มีจุดอับ เพราะแบบนี้ นี่ไม่ต้องนับพวกกลายพันธุ์เลย แม้แต่แมลงวันก็ไม่อาจจะหลบพ้นสายตาพวกเขาได้
“ มีค่ายกลช่อนอยู่! ” ฉินอู่ตี้คิ้วขมวดและมองไปที่ลั่วซูหยาง ก่อนจะพูดขึ้น” เซียนค่ายกล ข้าให้ท่านจัดการ !”
ลั่วซูหยางพยักหน้าและมองไปที่ค่ายกลเพื่อมองหาจุดอ่อนของค่ายกล ด้วยสายตาของปรมาจารย์ด้านค่ายกล 6 ดาว เขาก็พบจุดอ่อนได้อย่างรวดเร็ว เขาได้เตะออกไปพร้อมกับปราณที่อัดเข้ากับเสาหินและเกิดรอยแตก ไม่นานเสาหินนั้นก็หักลง พลังของค่ายกลได้ระเบิดออกทันที และทําภาพที่ทุกคนเห็นเมื่อครู่นี้ก็บิดเบี้ยวไปก่อนจะแสดงภาพที่แท้จริงออกมาให้เห็น
เมื่อค่ายกลพังลงแล้ว ทุกคนก็พากันเปลี่ยนสีหน้าไปทันที “ ผู้กลายพันธุ์ !”
ตอนนั้นเมื่อเห็นผู้กลายพันธุ์ พวกเขาก็เข้าใจทันทีว่าตระกูลอ้าว.ร่วมมือกับพันธมิตรกลายพันธุ์จริงๆ !
“ ทุกคนระวังตัวด้วย !” ลั่วซูหยางพูดขึ้นมา “ พวกกลายพันธุ์พวกนี้แข็งแกร่ง !”
พวกเขากวาดตามองผู้กลายพันธุ์ด้านล่าง ลั่วซูหยางอดตกตะลึงไม่ได้
หากพวกเขาไม่ได้มาที่นี่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคนไหนหากได้พบกับพวกกลายพันธุ์พวกนี้ มันคงมีแค่อย่างเดียวที่รอพวกเขาอยู่ซึ่งก็คือความตาย !
“ ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ํา 3 คน, ขั้นกลาง 2 คนและอีกคนที่ไม่อาจจะมองระดับออกได้ ” ฉินอู่ตี้ สูดหายใจเข้าลึกๆ “ บ้านของตระกูลอ้าว ซ่อนยอดฝีมือระดับสูงสุดของพวกกลายพันธุ์เอาไว้มากมาย !”
พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่า ผู้กลายพันธุ์ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด จะซ่อนตัวอยู่ภายใต้สายตาพวกเขาแบบนี้
ฉินอู่ตี้ถึงกับรู้สึกโชคดี ที่ตลอดหลายปีมานี้ตระกูลฉินและตระกูลอ้าวนั้นไม่ได้เข่นฆ่ากัน เขาโชคดีจริงๆ !
ในเวลาเดียวกัน คนของตระกูลอ้าวรวมถึงผู้กลายพันธุ์ทั้งหกคน ต่างก็ตกใจและมองไปยังกลุ่มคนที่อยู่บนท้องฟ้า
หัวหน้าตระกูลอ้าวบินขึ้นมามองไปยังกลุ่มยอดฝีมือระดับสูงสุดและถอนหายใจออกมา “ ข้าขอถามที่ ข้าไม่ได้เปิดเผยจุดอ่อนใดๆ ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
มันไม่จําเป็นต้องพูดกับคนเช่นนี้
ผู้กลายพันธุ์ทั้ง 6 คนรวมถึงคนที่มองระดับการบ่มเพาะไม่ออก ได้บินขึ้นไปบนอากาศเพื่อปกป้องหัวหน้าตระกูลอ้าวเอาไว้
ลั่วซูหยางมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสีหน้าซับซ้อน “ ทําไมเจ้าต้องทําแบบนี้ ? ”
พูดไปแล้วเขากับหัวหน้าตระกูลอ้าวก็อายุพอๆกัน แต่เขาขึ้นมาเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดได้ หัวหน้าตระกูลอ้าวติดอยู่ที่ขอบเขตตุ้นชวนขั้นสูงมาหลายปี แม้ว่าฐานะของทั้งสองจะต่างกัน แต่ในใจเขาแล้วหัวหน้าตระกูลอ้าวก็คือคู่ปรับที่น่าชื่นชม
“ หากเจ้าไม่เข้าใจ เจ้าก็ไม่ต้องพูด “อ้าวซวิ่นส่ายหน้าและพูดขึ้นมา “ ผู้ชนะจะได้เป็นจ้าว ผู้แพ้จะกลายเป็นโจร หากเจ้ามีชีวิตรอดไปได้ เจ้าถึงจะมีสิทธิพูด”
ลั่วซูหยางไม่ได้รีบลงมือ เขาได้ถามขึ้นมา “ อ้าวอู่ชู เป็นคนของตระกูลอ้าวจริงๆรี ?”
“ ข้าไม่มีอะไรต้องปิดบังเจ้าแล้ว ถูกแล้ว บรรพบุรุษของเราคืออ้าวอู่ซู “ อ้าวซวิ๋นพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น ” ข้ารู้แล้วว่าเจ้าคิดอะไร อันที่จริงแล้วนอกจากบรรพบุรุษของพวกเราแล้ว ก็ยังมีคนมากมายในตระกูลอ้าวที่ไม่มีในบันทึกตระกูล.อย่างคนรอบตัวข้านี้ไง”