ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 102 ความสามารถเรียนรู้อันน่าสะพรึง
บทที่ 102 ความสามารถเรียนรู้อันน่าสะพรึง
บทที่ 102 ความสามารถเรียนรู้อันน่าสะพรึง
ในเมื่ออู๋ฝานยืนกราน โค้ชย่อมไม่อาจพูดอะไรอื่นได้อีก ทั้งยังรู้สึกเช่นกันว่าการฝึกซ้อมยิงทางธนูระยะห้าเมตรมันออกจะดูไร้ความหมาย
คนทั้งสองมาถึงทางธนูระยะสิบเมตร พื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างใหญ่กว่า และมีทางธนูระยะสิบเมตรหลายช่อง เพียงแต่ที่นี่ไม่มีใครอื่นยกเว้นอู๋ฝาน ดูไปแล้วค่อนข้างเงียบเหงา
อู๋ฝานมาถึงทางธนูช่องหนึ่ง โน้มสายคันธนู ตั้งลูกธนูอีกครั้งเพื่อตระเตรียมยิงครั้งแรกทดสอบความรู้สึกด้วยมือ
เพียงแต่ก่อนที่อู๋ฝานจะปล่อยยิงออกไป เสียงของโค้ชก็ดังขึ้น
“เดี๋ยวครับ!”
อู๋ฝานหันศีรษะมองอีกฝ่าย
โค้ชมาถึงข้างกายอู๋ฝาน จับแขนขวาของเขายกขึ้นเล็กน้อย ขยับร่างตัวเขาถอยห่างออกมานิดหนึ่ง พร้อมกับช่วยปรับท่าทางการยืนตั้งท่าให้อู๋ฝาน
“ท่าทางที่คุณใช้เมื่อครู่ไม่ถูกต้องครับ แม้ว่ายิงธนูออกไปได้ แต่เพราะการเคลื่อนไหวที่ไม่สอดคล้อง ภายหลังตั้งลูกธนูยิงออกไป ไหล่คุณจะได้รับบาดเจ็บ การออกแรงที่เหมาะสมคือการใช้กล้ามเนื้อหลัง ผมขยับเคลื่อนไหวให้ดูเป็นตัวอย่าง รบกวนดูและพิจารณาครับ”
โค้ชพูดไปพลางขยับเคลื่อนไหวการตั้งท่าที่ถูกต้องให้อู๋ฝานรับชม
อู๋ฝานหน้าแดงขึ้นมา เพราะเขายังจดจำคำของชายหนุ่มคนที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่ได้ดี แม้ว่าคำของอีกฝ่ายไม่น่ารับฟังเท่าใดนัก แต่สิ่งที่พูดไม่ใช่ว่าผิดจากความเป็นจริง ท่าทางของเขาบ่งบอกถึงความเป็นมือใหม่ หากว่าเป็นเพียงการเล่นทั่วไป อู๋ฝานคงไม่คิดใส่ใจอะไร แต่ตัวเขามาที่นี่เพื่อเรียนรู้อย่างจริงจัง เพื่อทำให้ตนเองมีความสามารถในการเอาชีวิตรอดกลางสนามรบ เขาจึงต้องการให้ตนเองก้าวหน้าขึ้นให้มากที่สุด ความผิดพลาดอันเล็กน้อยแม้เป็นรายละเอียด ก็อาจทำให้เขาต้องจ่ายด้วยราคาอันสูงล้ำเช่นชีวิตในสมรภูมิ
ดังนั้นแล้ว การที่โค้ชชี้แนะ อู๋ฝานจึงเรียนรู้อย่างจริงจัง จดจำทุกการเคลื่อนไหว รวมถึงรายละเอียดทั้งหมดด้วยดวงตา เก็บข้อมูลลงสู่ความทรงจำ ทั้งหมดก็เพื่อทำให้การเคลื่อนไหวของเขาดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
“เยี่ยมมากครับ ตอนนี้รั้งลมหายใจเอาไว้ มุ่งสมาธิไปยังตรงหน้า อย่าให้มีสิ่งอื่นมารบกวนการมองเห็น มุ่งจุดสนใจไปยังเป้าหมาย” พบเห็นอู๋ฝานเรียนรู้อย่างริงจัง โค้ชที่รับหน้าที่ก็พึงพอใจไม่น้อย
หลายคนที่เริ่มมาเล่น ส่วนใหญ่จะมาด้วยใจเพียงแค่การเล่น ดังนั้นจึงวางตัวด้วยท่าที่สบาย ไม่เหมือนดังอู๋ฝาน เพราะมีเพียงน้อยคนที่จะรับฟังเขาอย่างตั้งใจ และทำตามอย่างตั้งใจ ดังนั้นการได้เห็นว่าอู๋ฝานที่เพิ่งมาใหม่และต้องการเรียนรู้จริงจัง เขาจึงยิ่งต้องการสอนให้จากใจจริง
ฟึ่บ!
ภายหลังอู๋ฝานเล็งเป้า จึงปล่อยมือข้างขวา ลูกธนูพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าท่าทางจะถูกต้อง การเล็งก็ดูราวกับจะแม่นยำ แต่ภายหลังลูกธนูหลุดพ้นจากสาย มันกลับไม่ออกมาดีเช่นที่ตัวเขาคาดคิด เข้าปะทะเป้างั้นหรือ อย่าได้พูดถึงกลางเป้า กระทั่งชายขอบของเป้าก็ยังไม่โดนเลยด้วยซ้ำ
ลูกธนูแรกของอู๋ฝานมันพลาดเป้า
ผลลัพธ์ที่ได้ทำเอาอู๋ฝานต้องหน้าแดงอับอาย เพราะความจริงที่ว่าเมื่อครู่นี้ตัวเขามีความมั่นใจล้นพ้น ขณะนี้ลูกธนูกลับพลาดเป้าไปเสียได้
น่าอายเสียจริง
“ดีแล้วครับ เป็นปกติที่มือใหม่จะต้องพบเจอสถานการณ์เช่นตอนนี้ เพียงฝึกฝนต่อไปก็พอครับ” โค้ชไม่ประหลาดใจแต่อย่างใด มันเป็นปกติสำหรับมือใหม่ที่ฝึกกับทางธนูสิบเมตร พลาดเป้าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ดังนั้นทางธนูสิบเมตรจึงไม่ค่อยได้รับความนิยม ผู้ที่มาเล่นมักจะเลือกห้าเมตรที่ง่ายกว่า เพราะอย่างน้อยมันก็มอบความรู้สึกแห่งความสำเร็จให้ได้
“ผมเข้าใจครับ” แม้อู๋ฝานรู้สึกอายไปบ้าง แต่ไม่ได้สูญเสียกำลังใจแต่อย่างใด เขาทราบสถานภาพของตัวเองดี ขณะนี้เขาคือมือใหม่เพิ่งเคยได้จับธนู มันเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการฝึก การจะยิงไม่เข้าเป้าระยะกลาง ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา
อู๋ฝานโน้มสายคันธนูตั้งลูกธนูขึ้นอีกครั้ง เล็งยังเป้า และเริ่มฝึกฝนต่อโดยไม่คิดหยุดพัก
อู๋ฝานฝึกฝนอยู่สิบรอบต่อเนื่อง ขณะนี้ไม่มีความอาย ไม่หลั่งเหงื่อ หรือมือสั่นแม้แต่น้อย อัตราการยิงเข้าเป้าของเขากำลังก้าวหน้าขึ้นอย่างมั่นคง
โค้ชที่อยู่ด้านข้างได้เป็นประจักษ์พยาน ถึงความคืบหน้าการฝึกฝนของอู๋ฝาน นับตั้งแต่เริ่มต้น อู๋ฝานยังต้องให้ช่วยชี้แนะท่าทางการเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ แต่แล้วตอนนี้เขากลับไม่ต้องคอยพูดทบทวน การขยับเคลื่อนไหวของอู๋ฝานก็ถูกต้อง เป็นเขาจดจำได้อย่างชัดเจน และยังแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อ จากมุมมองเพียงด้านการขยับเคลื่อนไหว อู๋ฝานเปรียบเสมือนผู้เคยฝึกฝนมาแล้วหลายปี
และความอดทนของอู๋ฝาน ยังเป็นอีกสิ่งที่ทำให้โค้ชต้องนึกทึ่ง เพราะหนึ่งชุดประกอบด้วยลูกธนูสิบสองดอก อู๋ฝานฝึกต่อเนื่องสิบชุดโดยไม่หยุดพัก สีหน้าไม่แปรเปลี่ยน มือยังคงโน้มสายคันธนูโดยไม่มีอาการสั่น ลมหายใจยังคงสงบนิ่ง
ที่ทำเขาประหลาดใจยิ่งกว่า คือความสามารถในการเรียนรู้ของอู๋ฝาน เพียงระยะเวลาอันสั้น อัตราการยิงของอู๋ฝานก็เพิ่มขึ้นมาก เขาได้เห็นกับตาตัวเอง ถึงอัตราการยิงถูกของอู๋ฝานที่เพียงฝึกฝนขึ้นเมื่อครู่ อีกฝ่ายคือมือใหม่ถอดด้าม แต่แล้วผ่านการยิงธนูไปสิบชุด อัตราการยิงของอู๋ฝานกลับเทียบได้กับคนธรรมดาที่ฝึกฝนการยิงธนูมาเป็นสัปดาห์
เป็นความสามารถการเรียนรู้อันน่าสะพรึง!
เพียงแต่ว่า อู๋ฝานคล้ายยังไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ตัวเขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตนเองก้าวหน้ารวดเร็วกว่าคนอื่น ทราบก็เพียงว่าแม้ตอนนี้ฝึกฝนทางธนูระยะสิบเมตร แม้ว่าอัตราการยิงจะดีขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่ใช่เต็มร้อย จึงเป็นเหตุให้ตัวเขายังไม่พอใจ และต้องการที่จะฝึกฝนต่อไป
พบเห็นอู๋ฝานกำลังจะฝึกฝนต่อ โค้ชที่ยืนอยู่ข้างกายถึงกับอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “ไม่พักหน่อยเหรอครับ? ไม่เหนื่อยเหรอครับ?”
“ไม่เหนื่อยครับ” อู๋ฝานตอบกลับเสียงราบเรียบ ขณะเริ่มจัดแจงลูกธนูอีกครั้ง
“แต่ว่านะครับ คันธนูดั้งเดิมที่คุณใช้งานอยู่ มันต้องใช้แรงมากเลยทีเดียว” โค้ชตอบกลับ
แม้ว่ามีคนจำนวนไม่มากที่เลือกเล่นคันธนูดั้งเดิม แต่ก็ยังมีคนที่เลือกเล่นเป็นครั้งคราว แต่ว่าพวกเขาจะไม่อาจยิงต่อเนื่องได้นาน สักพักต้องหยุดเพราะความเหนื่อยล้า แต่แม้แบบนั้น อู๋ฝานกลับยังไม่หยุด ทั้งยังมีเจตนาคิดฝึกต่อ
“ใช้แรงเท่านี้ไม่เป็นไรครับ” อู๋ฝานยิ้มตอบรับ “ก่อนหน้านี้ผมอยากถามด้วยซ้ำ ว่าที่นี่มีคันธนูและลูกธนูที่แรงกว่านี้ไหม”
อู๋ฝานไม่ทราบเรื่องของธนูและคันธนู แต่พอทราบได้ว่าธนูโบราณจำเป็นต้องใช้แรงในการโน้มสายค่อนข้างมากเท่าใด ก็จะยิงลูกธนูออกไปได้รุนแรงมากเท่านั้น พละกำลังของอู๋ฝานเหนือกว่าคนธรรมดา ด้วยพรจากอุปกรณ์สวมใส่ มันจึงยิ่งก้าวไปถึงระดับอันน่าสะพรึง คันธนูในมือของเขาอาจนับว่าดีในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับอู๋ฝาน มันไม่นับเป็นอะไรทั้งสิ้น
“คันธนูที่แรงกว่านี้เหรอครับ?” โค้ชชะงักงันไปครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงตอบรับ “ครับ มีอยู่ครับ เพียงแต่มั่นใจนะครับว่าจะไม่มีปัญหา?”
สมาคมยิงธนูซิงเยวี่ย มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงอย่างสมเหตุสมผล พวกเขามีสารพัดธนูไว้ให้เลือกใช้งาน บางคนก็ชอบคันธนูแบบที่คนส่วนน้อยจะเลือกเล่น อย่างเช่นคันธนูที่แข็งแกร่งอย่างที่อู๋ฝานพูดถึง พวกเขามีเก็บเอาไว้เช่นกัน นั่นก็เพื่อเติมเต็มความพึงพอใจแก่ผู้มาใช้บริการ
“ไม่มีปัญหาครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
เสื้อและกางเกงของอู๋ฝาน ได้ถูกเปลี่ยนเป็นชุดหนูขนทอง รองเท้าเป็นรองเท้าเมฆาล่อง อุปกรณ์สวมใส่เหล่านี้ มีการเสริมค่าสถานะให้แก่ตัวเขาไม่ใช่เล็กน้อย แม้ว่าอู๋ฝานยังไม่ได้ทดสอบความแข็งแรงของตนเอง แต่รับรู้ได้ว่ายังมีเรี่ยวแรงอีกมากให้ใช้งาน หากว่าเพียงโน้มสายคันธนูกับลูกธนู มันไม่น่ามีปัญหาใดทั้งสิ้น