ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 112 บุคคลที่น่าสนใจ
บทที่ 112 บุคคลที่น่าสนใจ
บทที่ 112 บุคคลที่น่าสนใจ
“พี่ชาย มาช็อปปิ้งกับแฟนเหมือนกันเหรอครับ?” ตอนนี้เองที่ลูกค้าชายคนนี้ดูพอจะคุ้นเคยขึ้นมาบ้าง อาจเพราะเบื่อด้วย และอยากหาคนพูดคุยจึงเปิดประเด็น “แฟนของคุณสวยใช้ได้เลยนะครับ”
“เธอไม่ใช่แฟนผมครับ” อู๋ฝานส่ายศีรษะ
“ไม่ใช่?” ชายหนุ่มชะงักงันไปชั่วครู่ ถัดจากนั้นจึงยิ้มรับ “หมายความถึงตามจีบอยู่สินะครับ? ต้องทำงานหนักเลยทีเดียว โฉมงามระดับเทพธิดาย่อมไม่ขาดคนตามจีบ แต่เธอก็ยังมากับคุณนะครับ การมาช็อปปิ้งด้วยกันแบบนี้ได้ แปลว่าคุณมีเปรียบมากเลยทีเดียว”
“เข้าใจผิดแล้วครับ พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างที่คุณคิด” อู๋ฝานตอบกลับ
“พี่ชายอายที่จะยอมรับงั้นเหรอครับ ผมบอกให้นะ ถ้าจะตามจีบสาวก็ต้องมีหนังหน้าที่หนาหน่อย อย่ารู้สึกว่าน่าอายหรืออะไร เป็นแค่คู่ควงก็ไม่แย่ ฝั่งผมเองตอนแรกก็โดนปฏิเสธมา แต่เพราะไม่ยอมแพ้ รวมกับหน้าหนาเตอะ คอยหยอดอยู่ทุกวัน สุดท้ายก็สำเร็จจริงไหมครับ?” ชายหนุ่มเผยยิ้มอย่างผู้มีชัย
อู๋ฝานรู้สึกจนใจ จะให้เขาบอกว่าตนเองและถังอวี่เฟยเป็นศิษย์และอาจารย์กันก็ไม่ได้จริงไหม? หากพูดออกไป อีกฝ่ายอาจจะมองด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปก็เป็นได้
“พี่ชาย อยากให้ผมแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังไหม? บอกเลยก็ได้ ผมน่ะเชี่ยวชาญด้านนี้เลยนะ สู้มากับมือ คว้าชัยชนะมากมาย ตอนนี้พบเห็นคนกำลังพยายามอย่างพี่ชาย ก็เลยอยากแบ่งปันให้ฟัง ถ้าเป็นคนอื่นคนไกล ผมไม่บอกหรอกนะ” คนหนุ่มพูดเองเออเอง
อู๋ฝานไม่ตอบคำ เพียงแต่เกิดความเห็นอกเห็นใจ ถึงขนาดแสดงออกผ่านทางสายตา
“พี่ชาย สีหน้านี้คืออะไร? ไม่เชื่อผมหรือ? บอกให้ฟังเลย รู้จักชื่อเล่นผมหรือเปล่า? นักรักแห่งเจียงโจว! ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ผมพิชิตไม่ได้!” ชายหนุ่มเอ่ยคำยกยอตัวเองอย่างภาคภูมิ
“อ๋า!”
เพียงแต่ว่า สีหน้าอันภาคภูมิเมื่อครู่คงอยู่ได้ไม่นาน เสียงกรีดร้องกลับดังขึ้นแทนที่ หูของเขาถูกคนทางด้านหลังหยิกและยกขึ้น ใบหูถึงกับแดงก่ำ
ชายหนุ่มเร่งร้อนหันมอง สุดท้ายจึงแสดงสีหน้าเขินอายและพยายามหาข้อแก้ต่าง “ที่รัก มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ไม่ได้ลองเสื้ออยู่หรอกเหรอ? ชอบไหม? ถ้าชอบก็ซื้อได้เลยไม่ต้องลังเลนะ”
“เรื่องเสื้อผ้าช่างมันก่อน ตอนนี้ฉันอยากจะถามากกว่า นักรักแห่งเจียงโจวอะไรนั่น ไม่ทราบว่านอกจากฉันแล้วผ่านผู้หญิงมาแล้วกี่คน? ตอนจีบฉันไม่ได้บอกว่าเป็นรักแรกหรอกหรือยังไง? ตอนนี้ประสบการณ์มากมายโผล่มาจากไหน? สรุปแล้วมีผู้หญิงมาแล้วกี่คน?” หญิงสาวผู้งดงามยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม พร้อมกับมือที่คว้าจับใบหูของชายหนุ่มเอาไว้ กับคำถามอันเผ็ดร้อนดุดัน
“ที่รัก ผมก็แค่ล้อเล่น ล้อเล่นทั้งนั้น คุณเป็นถึงรักแรก ผมก็แค่อยากคุยอวดบ้างอะไรบ้าง มีหรือจะเป็นอย่างที่พูดไป” ชายหนุ่มร้อนรนร้องขอความเมตตา
“ฉันไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของคุณแล้ว ไป กลับไปต้องคุยให้รู้เรื่อง วันนี้อย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้นะ” หญิงสาวตอบกลับ
“ครับ ครับ งั้นปล่อยมือก่อนได้ไหมที่รัก? ถ้ายังหยิกแบบนี้มันน่าอายนะ” ชายหนุ่มร้องขอ
“เหอะ ทีแบบนี้รู้จักยางอาย” หญิงสาวยังคงโกรธ ทว่าก็ยอมปล่อยมือ
“ที่รัก ผมทราบดีว่าที่รักรักผมที่สุดแล้ว” ชายหนุ่มเร่งร้อนปั้นยิ้ม
คนทั้งสองตามกันออกไป ระหว่างทางยังคงโต้เถียง ตอนที่ชายหนุ่มออกจากร้านไป ยังหันมาทำท่าเป็นการให้กำลังใจอู๋ฝาน ถึงกับทำอู๋ฝานแทบหลุดหัวเราะออกมา
ชายหนุ่มคนนี้หน้าบางอย่างเห็นได้ชัด
“หัวเราะอะไรเหรอคะ?” เสียงของถังอวี่เฟยดังขึ้น ขณะเวลานี้ เธอได้ออกมาจากห้องลองชุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ได้เจอคนน่าสนใจเข้าน่ะครับ” อู๋ฝานตอบด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม ถัดจากนั้นจึงสำรวจมองถังอวี่เฟย ก่อนจะต้องนึกทึ่งกับรูปลักษณ์ความงามของเธอ
ถังอวี่เฟยสวมใส่ชุดกระโปรงสีแดงที่นำไปลองออกจากห้องลองชุด เดิมชุดนี้ไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากมายสำหรับอู๋ฝาน แต่ตอนนี้ยามที่คนสวมเป็นถังอวี่เฟย มันจึงดีเยี่ยมขนาดทำคนที่มองต้องรู้สึกนึกทึ่ง
ขนาดของกระโปรงพอเหมาะ เผยสัดส่วนอันงดงามของถังอวี่เฟย เอวคอด เผยให้เห็นผิวละเอียดเนียนขาว ขายาวตรงเรียบเนียน รวมกับใบหน้าอันงามงดของถังอวี่เฟย ทั้งหมดจึงกลายเป็นเพียงความสวยพราวเสน่ห์
“เป็นยังไงคะ?” พบเห็นอู๋ฝานมองยังตนเอง ถังอวี่เฟยไม่มีความเขินอายแม้แต่น้อย กระทั่งหมุนตัวตรงหน้าอู๋ฝาน เป็นการส่งผ่านกลิ่นหอมฟุ้งออกมา
“ยอดเยี่ยมครับ งดงามมาก” อู๋ฝานตอบรับ
“คำชมจากคุณหาได้ยากนะคะเนี่ย” ถังอวี่เฟยยิ้มตอบรับ
ครั้งนี้อู๋ฝานไม่ได้ตอบอย่างขอไปทีจริง เพราะถังอวี่เฟยในชุดนี้งดงามอย่างต้องตา
“คุณผู้ชาย แฟนคุณหุ่นดีมากเลยค่ะ ชุดนี้เหมาะจนไม่รู้จะเหมาะยังไงแล้วค่ะ เคยมีคนลองชุดนี้มาก่อนหลายคน แต่ไม่เคยมีใครโดดเด่นเท่าแฟนของคุณผู้ชายมาก่อนเลยค่ะ กระทั่งฉันเองยังคิดว่าช่างตัดชุดทำมาเพื่อแฟนของคุณผู้ชายโดยเฉพาะ” พนักงานขายเข้ามาพูดชม
“ไม่ครับ เข้าใจผิดแล้ว เธอไม่ใช่…” อู๋ฝานเร่งร้อนอธิบาย
แต่แล้วก่อนเขาจะทันพูดจบประโยค ถังอวี่เฟยกลับเอ่ยคำขัดขึ้น “ฉันอยากได้ชุดนี้ค่ะ แพคให้เลยค่ะ”
สิ้นคำ เธอจึงหันมองอู๋ฝานด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ก่อนจะกลับเข้าไปยังห้องลองชุดอีกครั้ง
“ได้ค่ะ” พนักงานขายรับคำด้วยความยินดี เพราะชุดนี้มูลค่ากว่าห้าพันหยวน ปิดการขายครั้งนี้ได้ ค่าคอมมิชชั่นที่เธอจะได้รับย่อมไม่น้อย
อู๋ฝานย่อมได้เห็นราคาของชุดเมื่อครู่เช่นกัน ขณะที่ในใจลอบนึกทึ่งว่าชุดหนึ่งถึงกับแพงได้เพียงนี้ อีกทางหนึ่งก็ต้องนึกทึ่งต่อการใช้งานของถังอวี่เฟย
เพียงหนึ่งชุดก็เทียบเท่าการที่เขาต้องขายบาร์บีคิวอยู่สองถึงสามวัน
ภายหลังอู๋ฝานและถังอวี่เฟยออกจากร้าน ในมือของอู๋ฝานจึงได้ถุงช็อปปิ้งเพิ่มมาอีกหนึ่งใบ ภายในนั้นเป็นชุดที่ถังอวี่เฟยเพิ่งได้ลองเมื่อครู่
“พนักงานร้านค้านี่หลอกขายเก่งเพื่อค่าคอมมิชชั่นเลยนะครับ” อู๋ฝานอดไม่ได้ที่จะย้ำเตือน
“ชุดที่ฉันลองเมื่อครู่ คิดว่าเป็นยังไงคะ?” ถังอวี่เฟยถามกลับ
“ชุดนั่น มันก็สวยดีอยู่หรอกครับ เหมาะกับคุณมาก แต่ราคามัน…” อู๋ฝานตอบกลับ
“แค่คุณว่าดูดีก็พอแล้วค่ะ” ถังอวี่เฟยยิ้มตอบรับ “คงไม่คิดว่า ที่ฉันซื้อชุดนั้น เพียงเพราะแค่คำเสนอขายของพนักงานหรอกนะคะ?”
“เพราะอะไรกันครับ?” อู๋ฝานถามกลับราวไม่รู้ตัว
“ก็ต้องเพราะคุณน่ะสิคะ” ถังอวี่เฟยไม่คิดเขินอายแม้แต่น้อย “ถ้าหากคุณว่ามันดูดี ฉันก็ซื้อค่ะ”
พบเห็นสายตารุกเร้าจากถังอวี่เฟย อู๋ฝานจึงต้องหันหน้ามองทางอื่นด้วยความเขินอาย แกล้งกระแอมไอสองครั้ง ถัดจากนั้นจึงตอบ “ตรงหน้ามีร้านชานมอยู่ พวกเราเข้าไปดื่มกันคนละแก้วแล้วกันครับ”
พูดจบคำ โดยไม่รอถังอวี่เฟยตอบรับเห็นพ้อง เขาก็พุ่งตัวไปก่อนแล้ว
ถังอวี่เฟยมองแผ่นหลังของอู๋ฝานที่ร้อนรนและเขินอาย รอยยิ้มนางจิ้งจอกจึงปรากฏที่ใบหน้า กระทั่งกระซิบเสียงเบากับตัวเอง “ใสซื่อและน่ารักเสียจริง ไม่แปลกที่เธอจะชอบ แม้แต่ตัวฉันเองยังเกิดนึกชอบขึ้นมาบ้างเลย”
กิจการของร้านชานมค่อนข้างคึกคัก อู๋ฝานและถังอวี่เฟยต้องต่อแถวรอคอยอยู่สักพัก จึงถึงคิวได้สั่ง
“ฉันเพิ่งเห็นนาฬิกาข้อมือที่ร้านตรงนั้นค่ะ ฝากคุณไปดูก่อนและรอฉันที่ร้านนั้นนะคะ ขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่ค่ะ” ถังอวี่เฟยบอกกับอู๋ฝาน