ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 114 ก้าวหน้า
บทที่ 114 ก้าวหน้า?
บทที่ 114 ก้าวหน้า?
ตอนที่เจ้าเซียวถิงได้ยินคำของผู้จัดการ เธอถึงกับต้องลอบเบะปาก
การขออภัยอู๋ฝานเมื่อครู่ ในความเห็นของเธอมันก็เป็นเรื่องน่าอับอายมากแล้ว ดังนั้นแม้ภายนอกเธอแสดงความจริงใจ แต่ในใจไม่คิดยอมรับแม้แต่น้อย เธอยังคงคิดว่าอู๋ฝานไม่มีทางซื้อของที่นี่ได้
เพียงแต่ ผู้จัดการอยู่ตรงหน้า เจ้าเซียวถิงไม่อาจกล้าแสดงท่าทีอะไรอีก หากไม่แล้วเธออาจตกงาน เพียงแต่ในใจก็ยังคงมองว่าเรื่องราวนี้ตลกขบขันสิ้นดี
“ที่รัก นาฬิกาที่นี่ก็ดูดีอยู่บ้างค่ะ” ถังอวี่เฟยยังคงควงแขนของอู๋ฝาน พลางชี้ไปยังนาฬิกาเรือนงามและบอกกับอู๋ฝาน
เจ้าเซียวถิงมองไปยังนาฬิกาเรือนนั้น ในใจนึกเหยียดหยัน
นาฬิกาเรือนดังกล่าวงดงามจริง งานฝีมือที่ทำขึ้นก็ประณีต เรียกได้ว่าเหมาะสมให้ผู้หญิงใช้สวมใส่ เจ้าเซียวถิงยังปรารถนาจะมีใส่เองสักเรือนหนึ่ง เพียงแต่ราคาหกแสนห้ามันเป็นจำนวนที่เธอต้องยอมถอย
และเจ้าเซียวถิงไม่คิดว่าอู๋ฝานจะมีปัญญาซื้อ ขณะนี้แฟนของอู๋ฝานกำลังเอ่ยคำขอต่อหน้าคนอื่น เธอจึงคิดอยากได้เห็นว่าอู๋ฝานจะแก้ไขปัญหาอย่างไร
“บางทีก็คงพูด ประมาณว่านาฬิกาเรือนนั้นไม่สวย หรือไม่เหมาะสมกับเธอ” เจ้าเซียวถิงครุ่นคิดอยู่ในใจ “หรือไม่ก็บอกว่าลืมเอาบัตรมา?”
ยังไงซะ เจ้าเซียวถิงก็ไม่เชื่อว่าอู๋ฝานจะสามารถซื้อนาฬิกาเรือนนั้นได้ไหว
อู๋ฝานในปัจจุบันจ่ายไม่ไหวจริง และเขาไม่ทราบว่าเหตุใดถังอวี่เฟยจึงเอ่ยประโยคนี้ขึ้น ขณะที่ตัวเขากำลังคิดปฏิเสธ กลับรับรู้ได้ว่ามีบัตรสอดเข้ามายังมือของตนเอง อู๋ฝานมองลงไปพร้อมกับได้พบว่ามันเป็นบัตรธนาคารใบหนึ่ง
มันหมายความว่าอะไร?
อู๋ฝานมองถังอวี่เฟยด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดว่าถังอวี่เฟยเจตนายื่นบัตรนี้ให้กับตัวเขาเป็นการลับ
แต่แล้วถังอวี่เฟยเพียงแค่ยิ้มแย้มตอบรับ ราวกับเธอไม่รู้เห็นอะไรทั้งสิ้น
สมกับที่คำกล่าวว่าผู้หญิงคือนักแสดง
ผู้จัดการตอบสนองรวดเร็ว โดยการนำนาฬิกาเรือนดังกล่าวออกมาโดยทันที พร้อมกับส่งให้ถังอวี่เฟยลอง
“ที่รัก คิดว่ายังไงคะ? สวยไหม?” ถังอวี่เฟยยกข้อมือขาวขยับเคลื่อนไหวไปมาตรงหน้าอู๋ฝาน
“สวยครับ” อู๋ฝานพยักหน้ารับ
นาฬิกาเรือนนี้สวยจริงอย่างไม่มีข้อสงสัย แต่ยามที่สวมใส่บนข้อมือเรียวขาวของถังอวี่เฟย มันจึงยิ่งเปล่งประกายออกมา
“งั้นรออะไรกันล่ะคะ? รีบไปจ่ายเร็วเข้าค่ะ หรือไม่รักฉันแล้วกันคะ?” ถังอวี่เฟยออดอ้อนอู๋ฝาน ศีรษะยังเอนเข้าไปซบใกล้กับใบหน้าของอู๋ฝาน ราวกับจะประกบริมฝีปากก็ไม่ปาน
“รหัสคือหกหกค่ะ” ถังอวี่เฟยพูดเสียงเบาให้มีเพียงอู๋ฝานคนเดียวที่ได้ยิน
อู๋ฝานไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมเข้าใจเจตนาของถังอวี่เฟย เธอเสนอให้ใช้บัตรของตัวเองเพื่อช่วยเขากอบกู้หน้า
อู๋ฝานนึกขอบคุณต่อความพยายามของถังอวี่เฟย แม้ใจจะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นก็ตาม
หากว่าเป็นก่อนหน้านี้ อู๋ฝานอาจจะอยากรักษาหน้าตัวเองต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้น และพิสูจน์ตัวเองไปแล้ว
เพียงแต่ อู๋ฝานในปัจจุบันไม่มีแนวคิดฟุ้งเฟ้อเช่นนั้นอีกต่อไป แม้ว่าตัวเขายังไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่อนาคตสว่างสดใส มันมากพอทำให้ตัวเขาไม่คิดใส่ใจความคิดเห็นของคนอื่น
สำหรับคนอื่น ใครกันจะรู้ว่าตัวเขาสามารถเดินทางไปยังโลกอีกแห่งได้?
คนอื่นจะทราบได้หรือ ว่าตัวเขานั้นมีความสามารถมากมายเพียงใดบ้าง?
คนอื่นจะทราบหรือไม่ ว่าตัวเขามีทรัพยากรอะไรบ้างในครอบครอง?
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครรู้จักอู๋ฝาน ผู้ซึ่งมีศักยภาพอันล้นเหลือ มีทัศนวิสัยกว้างไกล ถึงขนาดไม่คิดใส่ใจเรื่องราวหยุมหยิมเล็กน้อยเหล่านี้
เพียงแต่ขณะอู๋ฝานกำลังจะปฏิเสธเจตนาหวังดีของถังอวี่เฟย ถังอวี่เฟยกลับยกมือของอู๋ฝานขึ้นเองอย่างกะทันหัน “ที่รักคะ ฉันรู้ดีว่าคุณรักฉันที่สุด เพราะงั้นถึงเอาบัตรออกมาเตรียมรอไว้แล้ว”
ผู้จัดการร้านและเจ้าเซียวถิง ผู้ซึ่งกำลังรับชมเรื่องราวว่าจะเป็นอย่างไร พลันได้เห็นบัตรธนาคารในมือของอู๋ฝานเข้า
“หรือเขาจะมีเงินซื้อนาฬิกาเรือนนั้นจริง?” เจ้าเซียวถิงเกิดนึกสงสัย
เจ้าเซียวถิงมองอู๋ฝานจากหัวจรดเท้า พร้อมได้พบว่าแม้อู๋ฝานแต่งตัวดี แต่ก็ไม่ใช่เสื้อแบรนด์ที่เธอรู้จักแม้แต่น้อย อู๋ฝานต้องมั่งมีถึงขนาดไหน ถึงขั้นสามารถจ่ายหลายแสนเพื่อซื้อนาฬิกาเรือนหนึ่งได้?
“ผู้จัดการ ชำระเงินค่ะ” ถังอวี่เฟยพลันคว้าบัตรจากมือของอู๋ฝาน และส่งให้กับผู้จัดการ
อู๋ฝานเผยยิ้มอับจน แต่ไม่ได้พูดคำใดออกมา เงินนั้นเป็นของถังอวี่เฟยตั้งแต่แรก ตอนนี้เธอต้องการซื้อนาฬิกา เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามอะไรเธอ
“ได้ค่ะ” ผู้จัดการยิ้มตอบรับอย่างเป็นมืออาชีพ ก่อนจะรับเอาบัตรธนาคารไปด้วยทั้งสองมือ
“เดี๋ยวค่ะ!” ขณะผู้จัดการกำลังจะหันไป ถังอวี่เฟยกลับเรียกหยุดเอาไว้ “นาฬิกาเรือนนี้ดูดีเหมือนกัน ฉันอยากจะซื้อไปด้วยกันเลยค่ะ”
ถังอวี่เฟยชี้ไปยังนาฬิกาข้อมือของผู้ชาย และราคาของนาฬิกาเรือนนั้น ยังสูงถึงแปดแสน
เจ้าเซียวถิงแทบถลนดวงตาออกมา อู๋ฝานมั่งมีล้นพ้น ถึงขนาดซื้อนาฬิการาคาหลายแสนสองเรือนไปพร้อมกันเลยอย่างนั้นหรือ?
อู๋ฝานยังต้องลอบประหลาดใจต่อทรัพย์สินทางการเงินของถังอวี่เฟย นาฬิกาสองเรือนรวมแล้วเกินกว่าหนึ่งล้าน เหนืออื่นใด ถังอวี่เฟยตัดสินใจซื้อโดยไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ กล่าวคือเธอรวยอย่างล้นเหลือ
“ก็เคยคิดนะว่ามีกว่าเก้าล้าน ก็ถือได้ว่าเป็นคนมั่งมีแล้ว ตอนนี้เหมือนเงินนั้นจะน้อยนิด ห่างไกลจากคนร่ำรวยที่แท้จริงอีกมากเลยด้วยซ้ำ” อู๋ฝานพึมพำพลางทบทวนกับตัวเอง
“รับทราบค่ะ” ผู้จัดการยิ้มตอบรับเบิกบาน ก่อนจะหันไปบอกกับเจ้าเซียวถิงที่ยืนเฉยอยู่ด้านข้าง “รีบจัดการเร็วเข้า”
“ค่ะ ได้ค่ะ” เจ้าเซียวถิงรับคำด้วยความงุนงง ทว่าสายตายังคงจับจ้องอู๋ฝาน ในใจคร่ำครวญและครุ่นคิด ว่าหนึ่งปีมานี้อู๋ฝานไปทำอะไรมา เหตุใดร่ำรวยกะทันหันถึงขนาดนี้ได้?
“เวลาหนึ่งปี มันจะหาเงินได้สักเท่าไหร่กัน? อู๋ฝานคนนี้คงไม่ยอมตบหน้าตัวเองแสร้งมั่งมีหรอกมั้ง? พอไปจ่ายเงินจริง จะมีเงินพอจ่ายหรือไม่? ก็เป็นเรื่องน่าสนใจ” ในใจของเจ้าเซียวถิง เธอยังไม่เชื่อว่าอู๋ฝานจะสามารถหาเงินได้มากมายภายในเวลาเพียงแค่หนึ่งปี
กลุ่มคนเดินมายังแคชเชียร์ชำระเงิน อู๋ฝานจึงกดรหัสผ่านที่ถังอวี่เฟยบอกเอาไว้ ขณะที่เจ้าเซียวถิงยืนอยู่ด้านข้าง สายตาจับจ้องคอมพิวเตอร์ เพราะเธอคิดอยากได้เห็นข้อความว่าการชำระเงินล้มเหลว
เพียงแต่ผลลัพธ์กลับทำให้เธอต้องผิดหวัง การชำระเงินของอู๋ฝานราบรื่นด้วยดี ยอดเงินในบัตรที่แสดงให้เห็น ยังมีอีกมากกว่าสามล้าน
หรือก็คือ อู๋ฝานใช้เวลาเพียงหนึ่งปีก็หาเงินมาได้ไม่น้อยกว่าห้าล้าน?
เขาไปทำอะไรมา? ทำไมถึงมีเงินมากมายขนาดนี้ได้? หรือว่าปล้นธนาคารมา?
เจ้าเซียวถิงไม่อาจคิดออก
“ที่รักคะ ใจดีที่สุดเลยค่ะ วันนี้พามาช็อปปิ้งตั้งเยอะแยะ ลองบอกสิคะ ว่าจะให้ฉันตอบแทนยังไงดี?” ถังอวี่เฟยเปรยสายตามองเจ้าเซียวถิงที่ดูราวกับสิ้นหวัง ขณะยังคงพูดต่อไปด้วยท่าทีออดอ้อนกับอู๋ฝาน
“ขอแค่ยินดีก็พอแล้วครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
คำของอู๋ฝานมีความหมายว่าที่ร่วมเล่นกับถังอวี่เฟยตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ก็เพื่อร่วมมืออย่างที่เธอต้องการ ขอแค่เธอยินดีก็เพียงพอแล้ว
เพียงแต่ถ้อยคำเหล่านี้ตกกระทบถึงหูของเจ้าเซียวถิง มันกลับเป็นประโยคที่แฟนหนุ่มมักบอกกับแฟนสาว
และก็ตอนนี้เองที่เธอได้ตระหนักขึ้นมาว่าตอนที่อู๋ฝานเข้าร้าน ในมือเต็มไปด้วยถุงช็อปปิ้งมากมาย ทั้งหมดล้วนเป็นแบรนด์ดังในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ทั้งสิ้น
อู๋ฝานก้าวหน้าถึงขนาดนี้ได้ยังไง?!