ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 150 ยอดมนุษย์
บทที่ 150 ยอดมนุษย์
บทที่ 150 ยอดมนุษย์
หลังอู๋ฝานออกจากร้านน้ำชา ผู้เฒ่าฟางยังไม่ได้เดินทางกลับแต่อย่างใด เขายังคงนั่งกับที่ สายตาทอดมองทิศทางที่ชายหนุ่มจากไป ทั้งยังจมดิ่งในห้วงความคิด สีหน้าที่เคยยิ้มแย้มยามพูดคุยกับอีกฝ่ายนั้นไม่มีอยู่อีกต่อไป มีแต่ท่าทีที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
ผู้เฒ่าฟางเคาะนิ้วกับโต๊ะอยู่หลายครั้ง ไม่ช้าชายในชุดสูทจึงปรากฏตัวขึ้นทางด้านหลังภายในชั่วพริบตา และรวดเร็วราวภูตผี
“ตรวจสอบตัวตนของเขาให้หน่อย ฉันต้องการข้อมูลอย่างละเอียด” ผู้เฒ่าฟางไม่แม้แต่จะหันมองคนที่เพิ่งปรากฏตัว ยังคงมองทิศทางที่อู๋ฝานเดินจากไป ราวกำลังครุ่นคิดและพึมพำอยู่กับตัวเอง
“ครับ” ชายในชุดสูทสีดำตอบรับ ก่อนจะหายวับไป
“อู๋ฝาน เด็กที่น่าสนใจคนนี้ เป็นใครกันแน่นะ” ผู้เฒ่าฟางพึมพำกับตัวเอง
ก่อนหน้านี้ เหตุผลที่ผู้เฒ่าฟางเชิญอู๋ฝานมาร่วมดื่มชา ไม่ใช่เพียงแค่เพราะได้ช่วยเหลือตน แต่ยังเพราะฝีมือของอีกฝ่าย แม้จะดูธรรมดากับการที่สามารถรับหมัดของเถ้าแก่ร้านแผงลอยไว้ได้ แต่เขาได้เล็งเห็นถึงความจริงเบื้องหลัง และเกิดสนใจในตัวชายหนุ่ม จนถึงขนาดลากตัวอู๋ฝานมาร่วมดื่มชาด้วย
ระหว่างดื่มชา ผู้เฒ่าฟางได้พบว่าอู๋ฝานแทบไม่คล้ายคนที่ทราบเรื่องของโบราณแต่อย่างใด มันทำเขาเกิดนึกสงสัย ว่าเหตุใดคนที่ไม่เข้าใจอะไรในตัววัตถุโบราณเลย กลับทราบได้ว่าจานเคลือบลายครามนั้นเป็นของปลอม? มันไม่สมเหตุสมผล สาเหตุเดียวที่จะอธิบายได้คือการที่อู๋ฝานกับเถ้าแก่ร้านแผงลอยเป็นพวกเดียวกัน! ที่กระทำนั้นคือการรวมหัวแสดงละคร
จุดประสงค์ อาจเป็นการเข้าใกล้ตัวเขา
มันไม่ใช่ว่าผู้เฒ่าฟางหลงตัวเองหรืออะไร แต่เป็นเพราะสถานะของตัวเขา ผู้คนมากมายพยายามอย่างแรงกล้าเพื่อหาทางเข้าใกล้ สร้างความประทับใจ สร้างบุญคุณ จึงไม่น่าแปลกใจหากว่าอู๋ฝานจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น
นอกจากนี้แล้ว ระหว่างการสนทนา ผู้เฒ่าฟางยังได้เห็นว่าร่างกายของชายหนุ่มมีเลือดลมหมุนเวียนอย่างเต็มประสิทธิภาพ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะสามารถประสบความสำเร็จได้ มันคือผลสำเร็จของการฝึกฝนอันยาวนาน กล่าวคืออู๋ฝานไม่ใช่คนธรรมดา
เพียงแต่ว่า ตอนที่อู๋ฝานแนะนำตัวเอง เขากล่าวว่าตนเองเป็นเพียงคนธรรมดา จึงยิ่งเป็นเหตุให้ผู้เฒ่าฟางเกิดความสงสัยต่อตัวตนของอีกฝ่ายมากขึ้น รวมถึงแรงจูงใจในการกระทำก่อนหน้านี้ นั่นจึงเป็นเหตุให้ส่งคนออกไปตรวจสอบ
อู๋ฝานหาได้ทราบไม่ว่าความใจดีของตนที่ช่วยเหลือคนอื่น จะกลายเป็นความสงสัยต่อตัวตนของเขา รวมถึงแรงจูงใจในการเข้าหา หากรู้เข้าชายหนุ่มคงไม่เป็นฝ่ายริเริ่มออกปากพูดอะไรอย่างแน่นอน
เพียงแต่ สำหรับอู๋ฝาน เรื่องราวนี้ยังไม่ได้จบสิ้นลง
ไม่นานหลังอู๋ฝานออกจากร้านน้ำชา หลายคนปรากฏตรงหน้าตัวเขา ขัดขวางเส้นทาง ในคนกลุ่มนั้นมีเถ้าแก่ร้านคนก่อนหน้า รวมถึงชายวัยกลางคนที่แสร้งทำเป็นคิดซื้อหาวัตถุโบราณรวมอยู่ด้วย
“ไอ้หนู พวกเรารอแกอยู่นานเลยทีเดียว ในที่สุดก็ออกมาได้สักที” เถ้าแก่ร้านแผงลอยเผยยิ้มอันชั่วร้ายให้อู๋ฝาน
“รอผม? รอทำอะไร?” อู๋ฝานมองสำรวจกลุ่มคน ใบหน้ายังคงอาการสงบ หาได้ปรากฏความหวาดกลัวหรือการร้องขอความเมตตาดังเช่นที่เถ้าแก่ร้านแผงลอยคิดเอาไว้ออกมาไม่
“รอทำอะไร?” เถ้าแก่ทวนคำถามอย่างกราดเกรี้ยว “แกทำลายการค้าของฉัน ยังจะถามว่าอะไรอีกงั้นเหรอ? ถ้าหากวันนี้ไม่หักขาแกสักข้างหนึ่ง ก็คงไม่รู้กันแล้วว่าเถ้าแก่หม่าคนนี้ทำอะไรได้บ้าง!”
เถ้าแก่หม่าโกรธแค้นอู๋ฝานอย่างชัดเจน เขาที่กำลังเป็นฝ่ายคุมเกมเหนือกว่า ถูกคำถามของอู๋ฝานสร้างความอับอายให้ คิดหรือว่าจะไม่ยิ่งทำให้ตนโกรธขึ้นไปอีก? มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถหาลูกค้ารายใหญ่ได้ แต่แล้วชายหนุ่มกลับเข้ามากวนจนเสียเรื่อง เขาจึงปรารถนาอยากฆ่าอีกฝ่ายให้ตกตายเสียที่นี่
เพียงแต่ เขาได้ตระหนักว่าลำพังตนเองไม่อาจต่อกรกับอีกฝ่ายได้ ดังนั้นจึงสะกดอดกลั้นอารมณ์ไว้ ก่อนจะเรียกตัวคนอื่นมาช่วยเหลือจัดการขวางเส้นทางของอู๋ฝาน หากว่าวันนี้ไม่ได้สอนบทเรียนให้คนหนุ่ม เขาคงนอนไม่หลับไปนานหลายวัน
“หักขากันอีกแล้ว? คนพวกนี้ไม่มีอย่างอื่นให้ทำกันแล้วหรือยังไง?” อู๋ฝานบ่นพึมพำ
“พูดอะไรของแก?” เถ้าแก่ร้านชะงักไปกับคำพูดของเขา
“ก็ไม่มีอะไร ตอนนี้กำลังรีบ จะทำอะไรก็รีบทำ” อู๋ฝานตอบกลับ
ชายหนุ่มยังมีงานอีกมากต้องไปจัดการ ไม่ว่าจะฝึกฝนการยิงธนู ซื้อของ และอื่น ๆ อีกหลากหลาย
“ไอ้หนู ช่างโอหังดีจริง ๆ!” อู๋ฝานเผยท่าทีเฉยชาตอบรับ ทำให้เถ้าแก่ยิ่งไม่ชอบใจ จึงหันไปพูดกับคนข้างกาย “จัดการมันให้ฉัน เอาให้เละ”
ก่อนหน้านี้เถ้าแก่ได้ทราบแล้วว่าอู๋ฝานแข็งแกร่งขนาดไหน ดังนั้นเขาจึงเรียกคนมาราวแปดคนเพื่อปิดล้อม คนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากร้านแผงลอยข้างทาง พวกเขาเคยถูกคนอื่นก่อกวนกิจการเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นการกระทำของชายหนุ่มจึงเป็นการขวางหูขวางตาของเขา ทำให้พวกเขาต่างพร้อมใจกันมาเพื่อสั่งสอนบทเรียนให้อีกฝ่าย
เมื่อเห็นกลุ่มคนพุ่งเข้าหา อู๋ฝานถึงกับต้องส่ายศีรษะเล็กน้อย
แม้ว่าพวกเขามีจำนวนคนมากกว่า แต่ไม่นับเป็นภัยคุกคาม พวกเขาไม่มีอะไรเทียบเฟ่ยอวิ๋นได้ด้วยซ้ำ กระทั่งเลวร้ายกว่านักเลงข้างถนนเสียอีก
อู๋ฝานพบเห็นชายวัยกลางคนพุ่งเข้าหาตนเองเป็นคนแรก อีกฝ่ายคือคนที่เล่นละครกับเถ้าแก่ร้านจึงไม่คิดมากมารยาท ยกขาขึ้น พร้อมเตะเข้าใส่หน้าอกของอีกฝ่าย เดิมอีกฝ่ายพุ่งตัวเข้าหาเขาคิดสั่งสอนบทเรียน ก่อนจะทันได้ทำอะไรกลับเป็นฝ่ายถูกเตะจนกระเด็นเสียแทน
คนอื่นที่เหลือต่างตื่นตระหนกกับลูกเตะของอู๋ฝาน เพียงแต่พวกเขาพุ่งเข้าหาชายหนุ่มกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ไม่อาจถอยหลังกลับ ทำได้เพียงแต่ต้องกัดฟันลงมือต่อ อีกทั้งพวกเขายังไม่เชื่อ ว่าตนเองที่มีคนจำนวนมากกว่า สุดท้ายจะไม่อาจจัดการกับอีกฝ่ายที่มีเพียงคนเดียวได้เลยหรือ?
กระนั้นแล้ว มันก็ได้รับการพิสูจน์ ว่าคนมากไม่ใช่ได้เปรียบ โดยเฉพาะต่อหน้าอู๋ฝาน
เผชิญหน้าการรุมล้อม อู๋ฝานไม่คิดถอย แต่เลือกมุ่งหน้าเข้าหากลุ่มคน ออกหมัดต่อยซ้าย เท้าเตะออกขวา ทุกครั้งที่ขยับเคลื่อนไหว จะต้องมีคนถลาล้มลงกองกับพื้น นอกจากนี้ ตราบเท่าที่อีกฝ่ายล้มลงไปแล้ว จะสูญเสียสมรรถภาพการต่อสู้ ทำให้ไม่อาจลุกขึ้นมาทำอะไรอื่นได้อีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง
เถ้าแก่ร้านที่ยังไม่บุกเข้ามา ขณะนี้ยืนนิ่งจังงังรับชมเรื่องราว
เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
นี่มันยอดมนุษย์งั้นหรือ? ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?
ขณะที่เขากำลังนิ่งจังงังอยู่นั่นเอง อู๋ฝานพลันมาถึงตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“จะ… จะทำอะไร?” เถ้าแก่ร้านร้องถามด้วยอาการตัวสั่นหวาดกลัว
อู๋ฝานคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายด้วยมือข้างหนึ่ง ยกร่างของเถ้าแก่ร้านขึ้นสูง ทั้งที่อีกฝ่ายน่าจะมีน้ำหนักราวหนึ่งร้อยหกสิบจิน
ชายหนุ่มสำรวจกล่องพัสดุที่อยู่ด้านหลังของอีกฝ่าย มันสมควรเป็นของที่เก็บมาจากร้าน ดังนั้นจึงเอ่ยเสียงเบาขึ้นมา “ไม่ต้องกลัว ต่อให้คุณอยากจะหักขาผมสักข้าง ผมก็ไม่ใช่คนป่าเถื่อน ไม่ตอบโต้ด้วยการหักขาคุณหรอก”
เถ้าแก่ร้านได้ยินคำของอู๋ฝานจึงถอนหายใจโล่งอก นับเป็นเรื่องดีที่จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ลงมือ
“ผมจะทำแค่ให้ล้มลงก็แล้วกัน” อู๋ฝานเอ่ยคำต่อ
หลังได้ยิน เถ้าแก่ร้านก็ยิ่งรู้สึกวางใจ เพียงแค่ถูกทำให้ล้ม มันถือเป็นเรื่องที่ยอมรับได้
ถัดจากนั้น อู๋ฝานจึงโยนร่างอีกฝ่ายออกพ้นจากตัว ร่างเถ้าแก่ร้านลอยลิ่วกลางอากาศ เขากลับเผยรอยยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับลอบถอนหายใจต่อพละกำลังของอู๋ฝาน
เพียงแต่ เขากลับได้ตระหนักก็ตอนนี้เองว่าทิศทางที่ตนเองกำลังกระเด็นไปนั้น ทางด้านหลังมันมีกล่องพัสดุอยู่!
“โครม!”
ตอนที่ร่างเถ้าแก่ล้มลงกับพื้น ก็ตกลงตรงกล่องพัสดุอย่างแม่นยำ เป็นเหตุให้เกิดเสียงอึกทึกดังขึ้น