ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 180 บัตรเชิญ
บทที่ 180 บัตรเชิญ
บทที่ 180 บัตรเชิญ
“เกรงว่าจะทำพี่หวังผิดหวังแล้วครับ” อู๋ฝานลงจากรถ พลางพูดตอบ “รถของผมเป็นผลงานทำมือ มีเพียงคันเดียวในโลก โรงงานที่ผลิตรถคันนี้ปิดตัวลงไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นรถที่ไม่มีการผลิตอีก และไม่มีอีกเป็นคันที่สอง”
เรื่องผลงานทำมือก็ไม่ใช่การกล่าวเกินจริง และมันก็ไม่ได้สร้างในสายการผลิตด้วย เพียงแต่บุคคลที่สร้างรถคันนี้ขึ้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอู๋ฝาน
“งั้นเหรอ น่าเสียดายจริง” หวังจื่อหมิงตอบรับ
หวังจื่อหมิงค่อนข้างชอบเรื่องเครื่องยนต์ ในโรงจอดรถยังเต็มไปด้วยรถหลายแบบที่ชื่นชอบ ตอนนี้ได้เห็นรถของอู๋ฝาน เขาก็ประทับใจขึ้นมา แต่โชคร้ายที่มันไร้ซึ่งหนทางซื้อหา
ด้วยความช่วยเหลือจากหวังจื่อหมิง กระบวนการรับป้ายทะเบียนรถของอู๋ฝานจึงดำเนินการอย่างราบรื่น ใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดีก็เสร็จเรียบร้อย นับได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานด้านนี้
“จะว่าไปแล้ว ร้านของนายจะเปิดเมื่อไหร่?” ขณะคนทั้งสองกำลังจะร่ำลา หวังจื่อหมิงก็ถามขึ้น
“อีกราวสามวันครับ ถึงตอนนั้น หวังว่าพี่หวังจะไปเป็นแขกผู้มีเกียรตินะครับ” อู๋ฝานตอบรับ
งานตกแต่งร้านใหม่เสร็จสิ้นลงด้วยดี พนักงานในร้านก็พร้อมทำหน้าที่ ดังนั้นอู๋ฝานจึงกำหนดอีกสามวันให้หลัง เพื่อเป็นวันเปิดร้านอาหาร
“ถึงเวลาฉันจะไปแน่” หวังจื่อหมิงตอบรับ
หลังแยกกับหวังจื่อหมิง อู๋ฝานจึงขับรถไปยังห้างสรรพสินค้า วันนี้เป็นวันเกิดของถังอวี่เฟย อีกฝ่ายคอยย้ำเตือนเรื่องงานปาร์ตี้กับตัวเขาหลายต่อหลายครั้ง ดังนั้นจึงเป็นงานที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และแน่นอนว่าไปแล้วก็ต้องไม่ใช่มือเปล่า ของขวัญวันเกิดถือเป็นสิ่งพื้นฐานเลยด้วยซ้ำ
แต่มันเป็นครั้งแรกที่อู๋ฝานเลือกของขวัญให้ผู้หญิง ชั่วขณะหนึ่งเขาไม่ทราบว่าควรมอบอะไรให้ดี สุดท้ายลังเลอยู่ครึ่งวัน จึงเลือกซื้อสร้อยคอเป็นของขวัญ มันไม่ได้แพงจนเกินไป และก็ไม่ใช่ของที่น่าเบื่ออะไร
บริเวณทางเข้าของร้านคัลเลอร์แมน หวงถิงเฟิงกำลังยืนมอง สายตาจับจ้องร้านอาหารฝั่งตรงข้ามถนนที่ตกแต่งร้านใหม่ใกล้เสร็จสิ้น ท่าทีเย้ยหยันแสดงออกทางสีหน้า
ร้านอาหารดังกล่าวย่อมเป็นของอู๋ฝาน เพราะกำลังจะเปิดในอีกสามวันให้หลัง การประชาสัมพันธ์จึงเริ่มขึ้นเรียบร้อยแล้ว ในฐานะคู่แข่งโดยตรง ทั้งยังอยู่ใกล้แทบชิด ผู้จัดการคัลเลอร์แมนอย่างหวงถิงเฟิง ไม่มีทางที่จะไม่ทราบเรื่องราวนี้
เพียงแต่หวงถิงเฟิงไม่ได้คิดใส่ใจอะไรมากกับร้านอาหารที่กำลังจะเปิด ในใจไม่มีความกังวลเลยด้วยซ้ำ กระทั่งว่ามีแต่ความรู้สึกเย้ยหยัน
เจ้าของภัตตาคารคนก่อนก็ทำกิจการร้านอาหาร ก่อนหน้านี้ตอนเพิ่งเปิดใหม่ ก็สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่ใช่น้อย ทั้งยังมีการประชาสัมพันธ์อึกทึกครึกโครมเสียยิ่งกว่าร้านใหม่ที่ใกล้จะเปิดตรงหน้านี้อีก
แต่ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
เพียงเวลาไม่กี่เดือน อีกฝ่ายก็พ่ายแพ้การแข่งขันทางการค้ากับร้านคัลเลอร์แมน พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง เจ้าของถึงกับขายร้านทิ้ง และถอนตัวออกจากวงการร้านอาหาร
ตอนแรกหวงถิงเฟิงคิดว่าหลังเจ้าของใหม่ซื้อร้าน จะดำเนินกิจการค้าขายประเภทอื่น นึกไม่ถึงว่าจะยังเปิดร้านอาหาร อีกทั้งจากข้อมูลประชาสัมพันธ์ ตำแหน่งการวางเป้าหมายลูกค้านั้นเหมือนกับร้านคัลเลอร์แมนของพวกเขา
มันคือการแข่งขันกับร้านคัลเลอร์แมนโดยตรง!
เรื่องราวใหญ่ขนาดนี้ เถ้าแก่คนใหม่ของร้านดังกล่าวไม่ทราบต้นสายปลายเหตุที่ทำให้เถ้าแก่คนเก่าขายร้านหรืออย่างไร? ถึงแบบนั้นแล้วก็ยังกล้าที่จะเปิดร้านแข่งขันกับคัลเลอร์แมนของพวกเขา?
แทบจะเรียกว่าเป็นการรนหาที่ตาย!
“งั้นขอดูหน่อยก็แล้วกัน ว่าจะทนได้สักแค่ไหน” หวงถิงเฟิงพึมพำกับตัวเอง
เห็นได้ชัดว่าหวงถิงเฟิงไม่เชื่อว่าร้านของอีกฝ่ายจะสามารถเปิดไปได้ตลอดรอดฝั่ง ถ้าจะมีก็เพียงแค่อีกฝ่ายจะยื้อไว้ได้นานแค่ไหน ส่วนระยะเวลาการยื้อเอาไว้นั้น มันอาจสั้นกว่าร้านก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ
ทว่าหากหวงถิงเฟิงทราบว่าเจ้าของร้านคืออู๋ฝาน และมีหัวหน้าเชฟเป็นหลิวอี้เตา ก็นับเป็นเรื่องน่าสงสัยว่าเขาจะยังมีความมั่นใจเช่นเมื่อครู่อยู่หรือไม่
ช่วงเวลาราวหกโมงเย็น อู๋ฝานขับรถไปถึงบ้านของถังอวี่เฟยเพื่อเข้าร่วมปาร์ตี้วันเกิด ที่นั่งผู้โดยสารด้านข้างเป็นกล่องของขวัญวันเกิดที่เขาเตรียมเอาไว้
“ที่อยู่คือที่นี่ ไม่คิดเลยว่าครอบครัวของถังอวี่เฟยจะอยู่แถวนี้” อู๋ฝานพูดกล่าวกับตนเอง
มันเป็นย่านที่มีคฤหาสน์มากมาย ทั้งสไตล์จีนและยุโรปล้วนมีปรากฏให้พบเห็น คฤหาสน์แต่ละหลังมีระยะห่างจากกันค่อนข้างกว้าง เรียกได้ว่ามีความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่
“สวัสดีครับคุณผู้ชาย ขอตรวจสอบบัตรเชิญด้วยครับ” หลังอู๋ฝานลงจากรถ และกำลังจะเข้าสู่คฤหาสน์ที่เป็นบ้านของถังอวี่เฟย เขาถูกเรียกหยุดเอาไว้ แต่อีกฝ่ายพูดด้วยท่าทีสุภาพและนอบน้อม เห็นได้ชัดว่าเพราะเห็นอู๋ฝานลงจากรถหรู
อู๋ฝานชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเพราะมัวแต่สำรวจรอบด้านจนลืมตัว ทำให้ลืมบัตรเชิญเอาไว้ภายในรถ
“ขอโทษครับ ผมลืมเอาไว้ด้านในรถ ขอไปเอามาก่อนนะครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“อู๋ฝาน?” ตอนนั้นเองที่เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นในประสาทรับฟังของอู๋ฝาน
อู๋ฝานหันกลับมองก็เห็นว่าบุคคลที่มาเป็นหลี่ปิง
“นายจริงด้วย” หลี่ปิงเดินมาหยุดยืนตรงหน้าอู๋ฝานพลางตอบ “นึกว่าตาฝาด เพราะคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมคนอย่างนายถึงมาที่แบบนี้ได้ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นนายจริง ๆ ”
“คุณเองก็มาเหมือนกัน?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“ฉัน? ฉันก็ต้องมาที่นี่ได้อยู่แล้ว” หลี่ปิงตอบรับ “แต่ว่าสถานะของนายคืออะไร? ขี้แพ้ยากไร้ กล้าดียังไงเสนอหน้ามาที่แบบนี้ ที่นี่ใช่ที่ที่นายควรมางั้นเหรอ? หรือคิดจะปะปนเข้าไปเพื่อเข้าหาพวกคนรวยกันล่ะ? อู๋ฝาน คนอย่างนายแค่ฉันมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าคิดจะทำอะไร”
ต่อจากนั้นหลี่ปิงก็หันกลับมามองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เรียกอู๋ฝานเอาไว้เมื่อครู่ “นายเองก็ควรจะดูให้ดี วันนี้เป็นวันเกิดของคุณหนูถัง อย่าให้มีหมาแมวมันหลุดรอดเข้าไป เขาไม่ใช่คนที่จะได้รับคำเชิญ ข้ออ้างบอกว่าบัตรเชิญอยู่ในรถอะไรนั่น ก็แค่คำแก้ตัว คนอย่างหมอนี่ไม่มีรถด้วยซ้ำ”
แน่นอนว่าหลี่ปิงแค่ได้ยินคำพูดของอู๋ฝาน แต่ไม่ได้เห็นช่วงเวลาที่อีกฝ่ายลงจากรถแต่อย่างใด
ถัดจากนั้นหลี่ปิงจึงนำบัตรเชิญของตัวเองออกมาโบกเล็กน้อยตรงหน้าอู๋ฝาน “เห็นไหม? นี่แหละที่เรียกว่าบัตรเชิญ นายมีหรือเปล่าล่ะ?”
“แล้วถ้าผมมีล่ะ?” อู๋ฝานถามกลับ
“งั้นฉันจะกินบัตรเชิญนี่โชว์ก็แล้วกัน!” หลี่ปิงตอบรับอย่างเหยียดหยัน “คิดเห่าหอนต่อหน้าฉัน ไม่กลัวลมตีกลับกระแทกหน้าตัวเองเลยรึไงกัน!”
“พูดอะไรออกมาแล้ว อย่าลืมรักษาคำพูดด้วยล่ะครับ” อู๋ฝานยิ้มให้หลี่ปิง
“พูดจริงทุกคำ ถ้านายมีปัญญาเอาบัตรเชิญมาได้ล่ะก็นะ” หลี่ปิงไม่เชื่อว่าอู๋ฝานจะมีบัตรเชิญ ค่ำคืนนี้เป็นงานปาร์ตี้วันเกิดคุณหนูของตระกูลถัง กระทั่งตระกูลหลี่ยังยากจะได้รับเทียบเชิญมา ถ้าเป็นอย่างนั้นอู๋ฝานจะเอาปัญญาที่ไหนหาบัตรเชิญมา? อีกฝ่ายเหรอจะมีปัญญาหามาได้?
“รอสักครู่” อู๋ฝานตอบคำก่อนจะกลับไปที่รถของตนเอง
“คงไม่ใช่คิดจะหนีหรอกนะ ฮ่าฮ่าฮ่า” หลี่ปิงหัวเราะดังไล่หลัง เขาไม่เชื่อแม้แต่น้อยว่าอู๋ฝานจะมีบัตรเชิญ ที่กำลังคิดอยู่ตอนนี้คืออีกฝ่ายกำลังคิดใช้โอกาสนี้หลบหนี
อู๋ฝานเมินเฉยอีกฝ่าย ก่อนจะเดินตรงไปยังรถของตนเอง
ขณะที่หลี่ปิงมองอู๋ฝานเดินกลับไปยังรถที่ทำเขาต้องนึกทึ่งและอยากได้บ้างสักคนยามเดินผ่านมา เสียงหัวเราะที่มีอยู่จึงยิ่งดังมากขึ้นไปอีก
“อู๋ฝาน ถ้านายจะแสดง ก็ให้สมจริงสักหน่อยก็ดีนะ รถนั่นจะเป็นของคนอย่างนายได้ยังไง? ถ้าหากนายเลือกรถธรรมดาสักคัน ฉันก็คงพอจะเชื่ออยู่บ้าง แต่ขอโทษด้วย คืนนี้ไม่มีรถธรรมดาให้เลือกหรอกนะ การแสดงของนายมันห่วยแตกสิ้นดี” หลี่ปิงพูดเสียงดังบอกกับอู๋ฝาน
เพียงแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นถัดจากนั้น กลับทำให้สีหน้าเย้ยหยันของหลี่ปิงต้องชะงักงันแข็งค้าง