ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 185 คนจากสำนักล้ำสวรรค์
บทที่ 185 คนจากสำนักล้ำสวรรค์
บทที่ 185 คนจากสำนักล้ำสวรรค์
อู๋ฝานย่นคอเล็กน้อยขณะตอบรับอย่างลำบากใจ “นี่งานปาร์ตี้วันเกิดของคุณนะครับ ถ้าปฏิเสธไปหมด คงไม่ใช่เรื่องดีหรอกมั้ง?”
“ผิดเหรอคะ” ถังอวี่เฟยยืนตรง พลางตอบคำกลับ “เพราะเป็นงานปาร์ตี้วันเกิดของฉันนี่แหละค่ะ ฉันถึงไม่ต้องสนความคิดของคนอื่น จะทำอะไรก็ได้อย่างที่อยากทำค่ะ”
แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่ว่าใครจะเข้ามาเชิญชวน ถังอวี่เฟยก็จะปฏิเสธออกไปโดยตรงทั้งหมด เธอไม่ไปที่ไหนอีก คอยอยู่เคียงข้างชายหนุ่ม ราวกับเป็นแฟนสาวตัวน้อยที่คอยตามติดอู๋ฝานไม่มีผิด
เมื่อได้เห็นสิ่งนี้บรรดาผู้คนโดยรอบก็ยิ่งจับจ้องมา ทำให้อู๋ฝานไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย
เมื่อถึงเวลามอบของขวัญ แขกในงานก็เริ่มมอบของขวัญที่เตรียมมาให้แก่ถังอวี่เฟย ตอนนี้เองที่อู๋ฝานตระหนักว่าของขวัญที่คนเหล่านี้มอบให้ล้วนแล้วแต่ล้ำค่า ในทางตรงกันข้ามสร้อยคอที่เขาเตรียมมาและคิดว่าดูดีแล้ว กลับกลายเป็นของจืดชืดไร้ราคา
“เอ? สร้อยคอหายไปไหนแล้ว?” อู๋ฝานที่เห็นคนอื่นมอบของขวัญแก่ถังอวี่เฟย จึงนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองก็เตรียมของขวัญวันเกิดมามอบให้ แต่ตอนนี้เขากลับได้ตระหนักว่าสร้อยคอที่เตรียมมาคล้ายจะหายไปไหนก็ไม่ทราบ
“ก่อนหน้านี้มันอยู่ตรงไหน?” อู๋ฝานพยายามรื้อค้นสำรวจโซฟาแม้กระทั่งในซอกมุม ทว่าก็ยังไม่พบกล่องเครื่องประดับ
อู๋ฝานคิดอยากหาใต้โซฟา แต่เพราะถังอวี่เฟยอยู่ข้าง ๆ และหลายคนขณะนี้ต่างก็มองมาที่เขา ดังนั้นชายหนุ่มจึงกระดากใจเกินกว่าจะก้มลงกับพื้นต่อหน้าผู้คน เพื่อสำรวจหาอะไรก็ตามที่อาจจะอยู่ใต้โซฟา
ตอนนั้นเองหลี่ปิงที่มอบของขวัญให้เรียบร้อยแล้ว แต่กลับยังไม่ไปไหน ทั้งยังเลือกที่จะจับจ้องอู๋ฝานพร้อมเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์อู๋ วันนี้เตรียมของขวัญอะไรมาให้คุณหนูถังกันครับ? นำออกมาให้พวกเรารับชมเป็นขวัญตากันหน่อยเป็นไร”
ถังอวี่เฟยเองก็หันมองอู๋ฝาน ท่าทีค่อนข้างคาดหวัง
อู๋ฝานเกิดลำบากใจขึ้นมา สุดท้ายจึงตอบ “ผมไม่ทราบว่าของขวัญที่เตรียมมาหายไปไหนแล้ว”
“อาจารย์อู๋ กำลังพูดจาล้อเล่นอะไรอยู่กันครับ” หลี่ปิงเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “กำลังจะบอกว่าของขวัญที่เตรียมมาถูกขโมยไปงั้นเหรอ? ผู้คนที่มาร่วมงานในวันนี้ ทุกท่านต่างก็มีหน้ามีตาและสถานะตัวตน ไม่ใช่คนที่สามารถกล่าวหาโดยส่งเดชได้ ถ้าไม่ได้เตรียมของขวัญมา ก็เพียงแค่บอกว่าไม่ได้เตรียมมา ข้อแก้ตัวเช่นนี้อาจสร้างความเข้าใจผิดจนเลยเถิดได้นะครับ”
ตอนที่หลี่ปิงเอ่ยกับอู๋ฝาน เขาจงใจส่งเสียงดังกว่าปกติพอสมควร ดังนั้นเวลานี้หลายคนจึงหันมองมาด้วยความสนใจ
“อาจมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดเกิดขึ้น” หวังจื่อหมิงเดินเข้ามาช่วยอู๋ฝานอธิบาย ขณะทำท่าทีบ่งบอกให้หลี่ปิงหยุดการกระทำ “อู๋ฝานอาจจะหมายความว่าวางของขวัญไว้ตรงไหน แล้วลืมก็ได้”
หลังเห็นสายตาตักเตือนของหวังจื่อหมิง หลี่ปิงก็เกิดหวาดเกรงขึ้นมาเล็กน้อย กระทั่งนึกอิจฉาอู๋ฝาน หวังจื่อหมิงออกหน้าช่วยเหลือคลี่คลายด้วยตนเอง ทั้งยังกล่าวเตือนตัวเขา เห็นได้ชัดว่าในใจของหวังจื่อหมิง ตำแหน่งของเขาอยู่ห่างไกลจากอีกฝ่ายมาก
แต่มันเป็นเพราะอะไร?
เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักกับหวังจื่อหมิงมาก่อน สถานภาพก็ดีกว่าอู๋ฝานไม่รู้กี่เท่า เพราะอะไรอีกฝ่ายจึงให้ค่าอู๋ฝานขนาดนี้ ถึงขนาดดูหมิ่นตัวเขาซึ่งหน้า?
ใจของหลี่ปิงเกิดความรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมขึ้นมา
“ฉันเองก็คิดแบบเดียวกัน” ตอนนี้เองที่เจียงอวี่เดินรุดเข้ามา สายตามองอู๋ฝาน กระทั่งเผยยิ้มแสยะที่มุมปาก “ถ้าไม่ได้เตรียมของขวัญมา ก็อย่าคิดรักษาหน้าถึงขนาดนั้น และอย่าได้โทษว่าคนอื่นนำของไปแบบนี้ มันมีแต่จะยิ่งทำให้นายดูไร้ค่ามากขึ้นรู้ไหม?”
“พวกคุณสองคนกำลังมีเจตนาอะไรคะ?” ก่อนอู๋ฝานจะตอบอะไรกลับ ถังอวี่เฟยกลับทนไม่ไหวเอ่ยคำขึ้นแทน “ฉันเป็นคนเชิญอาจารย์อู๋มา ที่เขามา อย่างงั้นก็ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดให้กับฉันแล้ว ส่วนพวกคุณสองคน มีหน้ามาจากที่ไหนกันคะ”
หลังสิ้นคำถังอวี่เฟยก็โยนของขวัญของเจียงอวี่และหลี่ปิงกลับคืนไปให้คนทั้งสอง “ต้องขออภัยที่ต้องส่งคืนของขวัญทั้งสองชิ้นนี้ ของที่คนอย่างพวกคุณให้ ฉัน-ไม่-ขอ-มอง-และ-ไม่-ต้อง-การ!”
ไม่มีใครคาดคิดว่าถังอวี่เฟยจะปกป้องอู๋ฝานถึงขนาดนี้ อีกทั้งการตอบสนองของเธอยังทำหลี่ปิงและเจียงอวี่ รวมถึงหลายคนรอบด้านชะงักประหนึ่งกำลังรับชมละครฉากหนึ่งก็ไม่ปาน
ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์เป็นมาอย่างไร?
หวังจื่อหมิงมองอู๋ฝาน ถัดจากนั้นจึงมองถังอวี่เฟย สุดท้ายพึมพำอยู่ในใจประมาณว่า จะอะไรก็ชั่ง ตอนนี้ขอไม่เชื่อความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ทั่วไประหว่างอู๋ฝานและถังอวี่เฟยอีกต่อไปแล้ว และเกรงว่าหลายคนก็จะคิดเห็นเช่นเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังเห็นเรื่องราวชวนน่าอึดอัดใจ ทั้งเจียงอวี่และหลี่ปิงก็ไม่อาจหาทางลงได้ ทันใดนั้นบิดาของถังอวี่เฟยก็เดินเข้ามา คล้ายคิดจะเกลี้ยกล่อมให้สถานการณ์ผ่านพ้นไป หลี่ปิงนั้นเขาไม่สน ตระกูลหลี่ไม่ใช่ตระกูลใหญ่ในเจียงโจว แต่ไม่ใช่กับเจียงอวี่ อีกฝ่ายเป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ในเจียงโจว แม้ว่าเจียงอวี่เป็นเพียงทายาทรุ่นที่สองของตระกูลเจียง แต่ตัวเขามาที่นี่วันนี้ ก็ถือเป็นตัวแทนของตระกูลเจียง เรื่องราวที่เกิดขึ้นมีแต่จะทำให้เขาเสียหน้าไม่มากก็น้อย
“อวี่เฟย อย่าทำตัวเป็นเด็ก พูดจากับแขกแบบนี้ได้ยังไง?” ถังหมิงเจี๋ยต่อว่าบุตรสาว แต่แม้เขาต่อว่า น้ำเสียงก็ไม่ได้ดุดันรุนแรง เห็นได้ชัดว่ายังเอ็นดูหญิงสาวที่สุด ทั้งยังไม่อาจหักใจกล่าวคำดุร้ายรุนแรงต่อถังอวี่เฟยได้ลง
“หนูไม่ผิดนะคะ” ถังอวี่เฟยปฏิเสธจะยอมถอย “นี่งานวันเกิดหนู หนูไม่พอใจของขวัญวันเกิดที่พวกเขาให้ก็เท่านั้น ไม่ได้เลยงั้นเหรอคะ?”
ของขวัญวันเกิดที่มอบให้ย่อมไม่เคยตรงใจกับฝ่ายที่รับของขวัญอยู่แล้ว แต่ตามปกติ ผู้ที่รับของขวัญจะไม่พูดออกมาตามตรง ไม่เหมือนที่ถังอวี่เฟยเพิ่งกระทำไป
เรื่องราวนี้จึงทำทั้งหลี่ปิงและเจียงอวี่ขายหน้าอย่างถึงที่สุด
คนทั้งสองสบถถังอวี่เฟยอยู่ในใจ แต่ก็สบถอู๋ฝานด้วยเช่นกัน เพราะอีกฝ่ายจึงทำให้พวกเขาถูกถังอวี่เฟยทำเช่นนี้
ถังหมิงเจี๋ยคิดอยากจะกล่าวอีกสักคำ แต่ตอนนั้นเองที่ประตูห้องโถงจัดเลี้ยงถูกผลักเปิด พร้อมกับคนสามถึงสี่คนก้าวเข้ามา
ตอนที่ถังหมิงเจี๋ยเห็นคนกลุ่มนี้ เขาชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเร่งเข้าไปทักทายพวกเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
บรรดาผู้ที่รู้จักกลุ่มคนเหล่านั้นต่างเผยสีหน้าท่าทีอิจฉาและนึกทึ่งออกมา ในขณะผู้ที่ไม่ทราบก็แสดงอาการงุนงงสงสัย
ขณะนี้ถือว่างานเลี้ยงดำเนินไปนานพอสมควรแล้ว กระทั่งว่าใกล้จะเลิกงานเต็มที การกระทำของกลุ่มคนที่เพิ่งมาถึงนี้เป็นการบอกเจตนาอย่างชัดเจนว่าไม่ให้เกียรติเจ้าภาพ
เพียงแต่ด้วยฐานะของเจ้าภาพงานเลี้ยง ถังหมิงเจี๋ยไม่เพียงไม่โกรธคนกลุ่มนี้ แต่กลับเร่งเข้าไปทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มยินดี ปั้นยิ้มป้อยอ ทำเอาบรรดาแขกเหรื่อในงานที่ไม่รู้จักคนกลุ่มนี้เกิดความสงสัยอย่างเต็มเปี่ยม
เพียงแต่แขกบางส่วนที่รู้จักคนกลุ่มนี้กลับไม่มีความสงสัยปรากฏ กระทั่งมองว่าการกระทำนี้ของถังหมิงเจี๋ยเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำ
เพราะกลุ่มคนที่เพิ่งมาเยือนไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นผู้มาจากสำนักล้ำสวรรค์!
สำนักล้ำสวรรค์!
มันคือหนึ่งในสำนักที่ใหญ่ที่สุดในเจียงโจว มีลูกศิษย์มากมาย แข็งแกร่งอย่างไร้ข้อกังขา ทั้งยังมีอิทธิพลทั่วทั้งภูมิภาคในเจียงโจว แน่นอนว่าอิทธิพลดังกล่าว เป็นส่วนที่คนธรรมดายากที่จะตระหนักและรับรู้ แต่แขกในงานวันนี้ไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาทราบดีว่าสำนักล้ำสวรรค์มีอิทธิพลอันหนักอึ้งเช่นไร