ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 191 เจตนาของผู้เฒ่าถัง
บทที่ 191 เจตนาของผู้เฒ่าถัง
บทที่ 191 เจตนาของผู้เฒ่าถัง
“หลานคิดยังไงกับอู๋ฝาน?” ปู่ของถังอวี่เฟยถามขึ้นมา
“พ่อครับ เรื่องนี้ออกจะ…” ตอนนั้นเองที่ถังหมิงเจี๋ยเข้าใจเจตนาของบิดาทันที
“ทำไมล่ะ? ฉันก็แค่เห็นว่าอู๋ฝานกับอวี่เฟยรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งยังดูมีความสัมพันธ์ที่ดี ดังนั้นถ้าอวี่เฟยชอบเขา ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรสักหน่อยหนิ” ปู่ของถังอวี่เฟยตอบกลับ
ทว่าทุกคนในที่นี้เข้าใจเหตุผลว่าเหตุใดผู้เฒ่าของบ้านถึงเอ่ยคำเหล่านี้ขึ้น ต้องไม่ใช่แค่เพราะสาเหตุที่ว่าถังอวี่เฟยและอู๋ฝานดูเข้ากันได้ดี แต่เป็นเพราะเบื้องลึกเบื้องหลังของชายหนุ่มต่างหาก
แม้ว่าจากคำบอกเล่าของถังอวี่เฟย อู๋ฝานจะดูธรรมดาอย่างถึงที่สุด แต่เกือบทุกคนในโถงนี้ กลับไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะมีเบื้องหลังธรรมดาอย่างที่ว่า คนอื่น ๆ ต่างก็คิดว่าหญิงสาวยังไม่รู้จักอีกฝ่ายมากพอ หรือไม่เขาก็อาจมีเจตนาปิดบังเบื้องหลังไว้
เพราะว่ายังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะสามารถนำเคล็ดวิชาฝึกฝนระดับลึกล้ำออกมา และมอบให้คนอื่นเป็นของขวัญวันเกิดได้
ตอนที่ถังอวี่เฟยได้ยินคำพูดของปู่ หน้าเธอถึงกับแดงระเรื่อขึ้นมา
ก่อนหน้านี้เธอพยายามจีบอู๋ฝานมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังมีสงสัยอยู่ว่าตอนนี้เขานั้นอยู่ตำแหน่งไหนในใจของเธอ ถ้าเธอรักอู๋ฝานจริง ๆ?… เพียงแค่คิดถึงมันก็ทำให้เธอต้องประหลาดใจ กระทั่งรู้สึกเขินอายขึ้นมา
“คุณปู่ อู๋ฝานเป็นอาจารย์ของหนูค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบกลับ
“เป็นอาจารย์แล้วยังไง? อีกไม่ถึงสองปีหลานก็เรียนจบแล้ว ถึงตอนนั้นก็ไม่ใช่ศิษย์อาจารย์กันอีก” ปู่ของถังอวี่เฟยบอกราวชี้ทางสว่างให้ “ปู่ของหลานไม่ใช่คนหัวโบราณ ไม่ใช่ว่าคิดอะไรแล้วจะต้องดื้อรั้นถึงขนาดนั้น”
สำหรับปู่ของถังอวี่เฟย ผลประโยชน์ของตระกูลความสำคัญที่สุด เรื่องอื่นนับเป็นเรื่องรองลงมา ในเมื่ออู๋ฝานยังโสด และเบื้องหลังก็ดูยอดเยี่ยม เขาย่อมไม่คิดปล่อยโอกาสเช่นนี้ให้หลุดมือ
ถ้าตระกูลถังของพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากสำนักที่แข็งแกร่ง สถานะก็จะทะยาน และการจะคว้าเอารากฐานอันแข็งแกร่งนับพันปีมาครอบครอง มันไม่ใช่เพียงแค่ความฝันอีกต่อไป
“พ่อครับ ผมเองก็คิดเรื่องนี้ แต่ว่าก็ไม่ควรจะรีบร้อนนะครับ” หลังลังเลอยู่สักพัก ถังหมิงเจี๋ยก็บอกบิดา “อวี่เฟยเองก็โตแล้ว เรื่องพวกนี้ควรให้หลานได้ตัดสินใจเองนะครับ”
แม้ถังหมิงเจี๋ยอยากให้ตระกูลถังก้าวสู่ระดับใหม่ และได้รากฐานสำหรับยืนหยัดอยู่นับพันปีเช่นกัน แต่ความรักของลูกก็สำคัญ เขาไม่ต้องการเสียสละความสุขของบุตรสาวเพราะเรื่องคราวนี้
กล่าวได้ว่าในด้านนี้ถังหมิงเจี๋ยค่อนข้างเปิดกว้าง มันเป็นอะไรที่หลายคนจากตระกูลใหญ่ไม่ค่อยมี รวมถึงปู่ของถังอวี่เฟยด้วย แนวคิดที่ว่าตระกูลสำคัญกว่าทุกสิ่ง เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลแล้ว ก็พร้อมที่จะยอมสละทุกอย่าง ความสุขของลูกหลานไม่ใช่ประเด็น ต่อให้ต้องเสียสละชีวิตตนเอง พวกเขาก็ไม่มีแม้ความลังเล
“สายตาแคบสั้น!” ปู่ของถังอวี่เฟยเผยเสียงเย็นชาตอบกลับมา “เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ไม่นานก็จะเปิดเผยสู่แวดวงระดับสูงของเจียงโจว ถ้าถึงตอนนั้นก็จะมีคนอีกมากให้ความสนใจในตัวอู๋ฝาน อวี่เฟยมีความสัมพันธ์พิเศษกับเขา แม้ความสัมพันธ์นี้จะยังไม่แน่ไม่นอน แต่ก็ทำให้พวกเราตระกูลถังได้เปรียบกว่าคนอื่น ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ต้องหาทางทำให้ความสัมพันธ์มั่นคงและชัดเจนให้เร็วที่สุด แล้วยังจะมีอะไรดีไปกว่าการแต่งงาน? เห็นชัด ๆ ว่าตระกูลถังของพวกเราเข้าใกล้อู๋ฝานได้ก่อนใคร ถ้าอู๋ฝานถูกตระกูลอื่นในเจียงโจวแย่งชิงตัวไป สุดท้ายพวกเราคงได้กลายเป็นตัวตลกในแวดวงเจียงโจว และจะต้องอยู่ในเงาของตระกูลอื่นอย่างเคยเป็นต่อไปแน่!”
พูดได้ว่าปู่ของถังอวี่เฟยมีทัศนวิสัยกว้างไกล มองเกมขาดเหนือกว่าถังหมิงเจี๋ย
ถังหมิงเจี๋ยไม่รู้ว่าควรจะต้องตอบอะไรไปชั่วขณะ และแน่นอนว่าเขาเองก็คาดหวังให้ตระกูลถังได้ก้าวไปเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเจียงโจว แต่อีกทางหนึ่งมันก็เป็นความสุขของบุตรสาว ไม่แปลกถ้าเขาจะเกิดความลังเล
“อวี่เฟย หลานเป็นคนฉลาดมาตั้งแต่เด็ก ควรรู้ดีว่าความสัมพันธ์นั้นทรงอำนาจขนาดไหน ในฐานะคนของตระกูลถัง หลานควรพิจารณามองภาพรวมของตระกูล แทนที่จะมองเพียงแค่ความรู้สึกของตัวเอง ปู่มองว่าอู๋ฝานก็ไม่ใช่คนเลวร้าย ถ้าหลานเอาชนะใจเขาได้ ย่อมไม่ใช่โชคร้ายอย่างแน่นอน” ปู่ของถังอวี่เฟยตอบกลับ ขณะมองหลานสาวสุดที่รัก
แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะทั้งรักทั้งหวงถังอวี่เฟยที่สุด แต่ต่อหน้าผลประโยชน์ของตระกูล ความรักไม่อาจเทียบกันได้
“คุณปู่คะ หนูรู้ว่าต้องทำอะไรค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบรับ ตั้งแต่เด็กเธอก็เป็นที่รักของตระกูลมาโดยตลอด ตอนนี้คงถึงเวลาที่ควรต้องยืนหยัดทำอะไรเพื่อตระกูลบ้างแล้ว
และในใจของเธอเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรอู๋ฝาน กระทั่งว่ามีความประทับใจดี ๆ ด้วยซ้ำ ดังนั้นคำพูดของคุณปู่ที่เธอรับฟังและตัดสินใจไปนั้น จึงไม่ใช่การปฏิเสธ
“แต่ถ้าเบื้องหลังของอู๋ฝานเป็นเหมือนที่คุณปู่พูดจริง เขาอาจจะไม่มองหนูหรือว่าตระกูลถังก็ได้นะคะ” ถังอวี่เฟยตอบกลับ
ในสายตาของคนทั่วไป ตระกูลใหญ่เช่นตระกูลถังก็ถือว่าทรงอำนาจพอสมควรแล้ว กระทั่งว่าไม่อาจเอื้อมถึงด้วยซ้ำ เพียงแต่ในสายตาของบรรดาสำนักทั้งหลาย โดยเฉพาะที่ทรงอำนาจ และดำรงอยู่มานานหลายพันปีเหล่านั้น ตระกูลถังไม่นับว่าเป็นอะไรทั้งสิ้น
ตัวอย่างเช่นสำนักล้ำสวรรค์ สำนักล้ำสวรรค์ถือเป็นสำนักที่เพิ่งปรากฏ ก่อตั้งมาน้อยกว่าสองร้อยปี ทว่าก็มีอิทธิพลมากในเจียงโจว แต่ถ้าออกไปนอกเจียงโจว พวกเขาก็ไม่นับว่าเป็นอะไร ถึงแบบนั้นสำนักดังกล่าวก็ยังได้รับความนับถือจากตระกูลถัง และแม้ผู้อาวุโสเทียนเหอจะเป็นเพียงผู้อาวุโสนอกสำนัก แต่เมื่อมาเยือนตระกูลถัง ก็ยังสามารถวางตัวอหังการสูงส่งได้
ดังนั้นข้อกังวลของถังอวี่เฟยจึงไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล ถ้าสำนักเบื้องหลังอู๋ฝานแข็งแกร่งยิ่งกว่าสำนักล้ำสวรรค์ เช่นนั้นอาจจะไม่มองตระกูลถังอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
หลังได้ยินคำพูดของถังอวี่เฟย ทุกคนในตระกูลถังก็ทราบดีว่ามันมีเหตุผลพอสมควร อย่างไรพวกเขาก็ได้ติดต่อกับสำนักไปมากมาย จึงทราบดีถึงความอหังการในใจของผู้คนเหล่านั้น
“ขอแค่ทำอย่างเต็มที่ ตระกูลถังของเราพร้อมจะสนับสนุนหลาน” ปู่ของถังอวี่เฟยตอบ เห็นได้ชัดว่ามีความตั้งใจจริงกับเรื่องนี้ “หลานทำได้ดีมาตลอด แต่บางทีก็อาจจะไม่สามารถเอาชนะใจอู๋ฝานได้ ถึงสุดท้ายแล้วจะไม่สำเร็จ แต่ตระกูลถังของพวกเราก็ไม่ได้เสียหายอะไร”
สุดท้ายแล้วทั้งตระกูลถังจึงหารือและตัดสินใจกันว่าสายสัมพันธ์ของทั้งอู๋ฝานและสำนักล้ำสวรรค์เป็นสิ่งที่ต้องคว้าเอาไว้
ด้านสำนักล้ำสวรรค์ ถังหมิงเจี๋ยจะเป็นคนรับผิดชอบหน้าที่ติดต่อและเคลื่อนไหว เพื่อรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ และทำให้ความสัมพันธ์ยังคงดำเนินต่อไป
ส่วนทางด้านอู๋ฝาน ถังอวี่เฟยรับหน้าที่อย่างเดียว ผู้เฒ่าถังได้แสดงเจตนาออกมาแล้วว่าหญิงสาวควรจะทำให้อู๋ฝานหลงรักมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้สุดท้ายแล้วได้กลายเป็นครอบครัวเดียวกัน ในส่วนของเรื่องการรักษาความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย ทางตระกูลถังจะเป็นคนรับผิดชอบส่วนนี้เอง เพื่อไม่ให้สายสัมพันธ์อันดีต้องตกเป็นของตระกูลอื่น
ถังอวี่เฟยรู้สึกซับซ้อนกับภารกิจที่ทางตระกูลฝากฝัง แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็เหมือนว่าเธอควรจะตามจีบอู๋ฝานอย่างเปิดเผยใช่ไหม?
ปัจจุบันอู๋ฝานยังไม่ทราบว่าความผิดพลาดของตนที่ส่งตำราออกไปนั้นจะดำเนินต่อไปในทิศทางใด แต่ในเวลานี้มันกำลังดึงความสนใจของตระกูลถัง รวมถึงส่งผลต่อแวดวงเศรษฐีและผู้มีอิทธิพลในเจียงโจวด้วยเช่นกัน