ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 194 ทหารส่วนตัว
บทที่ 194 ทหารส่วนตัว
บทที่ 194 ทหารส่วนตัว
“หัวหน้า ยินดีด้วยขอรับ! ยินดีด้วยขอรับ!” อู๋ฝานที่แยกกับโจวซานได้ไม่นาน ก็ได้พบหนิวเอ้อและพรรคพวกเข้ามาแสดงความยินดี
ข่าวรางวัลของอู๋ฝานจากทางราชสำนักได้เปิดเผยทั่วทั้งค่าย พวกหนิวเอ้อที่เป็นสมาชิกหน่วยของอู๋ฝานย่อมรู้สึกดีใจ ขณะนี้จึงพร้อมใจมาแสดงความยินดีกันถ้วนหน้า
“รู้กันแล้วหรือ?” อู๋ฝานยิ้มถาม
“แน่นอนขอรับ ดังในค่ายเลยทีเดียว” หนิวเอ้อตอบรับ “หัวหน้าได้เป็นขุนนางแล้ว ไปพบผู้ปกครองเทศมณฑลก็ไม่ต้องคุกเข่า เป็นผู้ปกครองเทศมณฑลด้วยซ้ำที่ยังต้องทำความเคารพ อีกทั้งยังไม่ต้องรับใช้กองทัพอีกต่อไป ไม่ต้องจ่ายภาษีด้วย”
การได้เป็นขุนนางนับว่ามีสิทธิพิเศษมากมาย ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่มีผู้คนมากมายปรารถนาที่จะได้รับบรรดาศักดิ์ขุนนาง
“บังเอิญว่าได้รับจวนมาเป็นรางวัลด้วยหลังหนึ่ง หากว่าพวกเจ้าไม่ได้ทำอะไร ก็ไปด้วยกันเลยสิ” อู๋ฝานเอ่ยคำ
“ขอรับ!” หนิวเอ้อและพรรคพวกย่อมไม่คิดปฏิเสธ
หลังเดินเท้าอยู่เกือบหนึ่งถ้วยชา อู๋ฝานและคณะจึงมาถึงหน้าจวนหลังหนึ่ง
ทางเข้าของจวน มีคนที่คล้ายพ่อบ้านยืนรออยู่ อู๋ฝานเดินต่อไป พร้อมส่งป้ายหนานเจี๋ยที่เพิ่งได้รับมาให้อีกฝ่าย “ข้าคืออู๋ฝาน มาเพื่อรับจวนหลังนี้”
พ่อบ้านสำรวจป้ายในมือของอู๋ฝาน พร้อมรีบทำความเคารพ “นายท่านหนานเจี๋ย ข้าคือพ่อบ้านของผู้ปกครองเทศมณฑล ขณะนี้รอคอยท่านหนานเจี๋ยมาที่นี่ตามคำสั่งการของท่านผู้ปกครองเทศมณฑลขอรับ ขอเรียนเชิญทางด้านนี้ ข้าจะแนะนำสถานที่ให้แก่ท่านขอรับ”
“อืม” อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ
ถัดจากนั้น พ่อบ้านจึงนำกลุ่มคนเดินผ่านทางเข้าจวนไป
“ใหญ่โตจริง!”
“อันที่จริงแล้ว ออกจะเล็กไปบ้างด้วยซ้ำขอรับ”
“ใหญ่โตแล้ว ทั้งยังสะอาด เป็นจวนที่หรูหรา ใหญ่ยิ่งกว่าจวนตระกูลหลี่ในหมู่บ้านของพวกเราด้วยซ้ำ!”
“เอาจวนตระกูลหลี่ในหมู่บ้านของพวกเราไปเทียบกับของจวนหัวหน้าได้อย่างไร? ทางราชสำนักเป็นผู้มอบรางวัลให้เลยนะ ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะมีได้งั้นหรือ?”
หนิวเอ้อและคนอื่นในหน่วย เมื่อเข้ามายังพื้นที่สวน ก็ถูกสวนดึงดูดความสนใจไป พวกเขาต่างก็มาจากครอบครัวที่ยากจน ดังนั้นจึงไม่เคยได้เห็นจวนที่ดีเยี่ยมและหรูหรามาก่อน ไม่แปลกหากจะเกิดความรู้สึกอิจฉากันขึ้นมา
“นายท่านหนานเจี๋ย จวนหลังนี้ว่างเว้นมานาน ไม่เคยปรากฏผู้เป็นเจ้าของ ดังนั้นจึงมีฝุ่นอยู่บ้าง ทว่าก็ได้รับการทำความสะอาดไปบ้างแล้ว พร้อมที่จะให้ย้ายเข้ามาได้เลยขอรับ” พ่อบ้านบอกกับอู๋ฝานด้วยท่าทีกระดากใจ
“ดีมากแล้ว เดี๋ยวข้าจัดการต่อเอง” อู๋ฝานตอบรับ
ความจริงจวนหลังนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่ฝุ่น แต่บางส่วนยังดูทรุดโทรมไปบ้างแล้วด้วย เห็นได้ชัดว่าไม่เคยมีใครเข้ามาใช้อยู่อาศัยเป็นเวลานาน
แม้เช่นนั้นจวนหลังนี้ก็ใหญ่โต ทั้งยังมีพื้นที่สวนเป็นของตัวเอง รวมถึงทะเลสาบขนาดย่อม ภูเขาหินน้อย และอื่น ๆ เรียกได้ว่ามันเคยเป็นจวนที่งดงามมาก่อน เพียงแต่ปัจจุบันทรุดโทรมลงตามกาลเวลา ทว่าสำหรับการรับรองคนเข้าพักอาศัยนั้น ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
“ท่านหนานเจี๋ยไม่ต่อว่าก็ยินดีแล้วขอรับ” พ่อบ้านตอบรับ “จวนหลังนี้ค่อนข้างใหญ่ คิดว่าท่านหนานเจี๋ยอยู่คนเดียว คงไม่ค่อยสะดวกในการทำความสะอาดเท่าใดนัก ดังนั้นหากต้องการก็สามารถไปยังตลาดในเมือง เพื่อซื้อคนรับใช้กลับมาใช้งานได้ขอรับ”
อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ การซื้อคนรับใช้คือสิ่งจำเป็น ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่สะดวกที่ตัวเขาจะต้องทำความสะอาดจวนหลังใหญ่ขนาดนี้เพียงลำพัง อีกทั้งชายหนุ่มเองยังต้องไปใช้เวลาอยู่ในหมู่บ้านเร้นลับเสียส่วนมาก ดังนั้นจวนที่นี่จึงต้องมีคนอยู่คอยทำความสะอาดและเฝ้าคุ้มกัน
พ่อบ้านนำพาอู๋ฝานและคณะเดินชมอยู่ครู่หนึ่ง หลังแนะนำเรียบร้อย จึงขอตัวเดินทางกลับไป
ต้องกล่าวอีกครั้งว่าจวนหลังนี้ใหญ่โตอย่างแท้จริง มันต้องใช้เวลาราวหนึ่งก้านธูปหากจะเดินให้ครบรอบ
อู๋ฝานสำรวจบ้านที่ได้รับเป็นรางวัลพร้อมเผยยิ้ม เขาไม่คิดมาก่อนว่าตนเองที่ยังไม่ทันมีบ้านในโลกความเป็นจริง จะมีในโลกแห่งนี้ก่อนแล้ว ทั้งยังเป็นบ้านที่หรูหราหลังหนึ่งด้วย
ขณะที่อู๋ฝานครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็ได้พบว่าพวกหนิวเอ้อกำลังรวมตัว ซุบซิบพูดคุยอะไรกันไม่ทราบ และสุดท้ายทุกคนก็พร้อมใจกันผลักหนิวเอ้อออกมาหยุดยืนตรงหน้าตน
“มีอะไรกัน? มีอะไรอยากพูดงั้นหรือ?” อู๋ฝานถาม
“หัว… หัวหน้าขอรับ พวกเรามีเรื่องที่ต้องการจะบอก” หนิวเอ้อที่มักทำตัวตามสบายและผ่าเผย ขณะนี้พูดจาตะกุกตะกักออกมา
“มีอะไรจะพูดก็พูด ไม่ต้องลังเล” อู๋ฝานตอบรับ
“หัวหน้า ท่านได้เป็นหนานเจี๋ยแล้ว ก็ต้องหาทหารส่วนตัวด้วยใช่หรือไม่ขอรับ?” หนิวเอ้อรวบรวมความกล้าสบตากับอู๋ฝาน พร้อมเอ่ยคำถามออกมา
อู๋ฝานพอคาดเดาได้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไร ดังนั้นจึงตอบ “ใช่”
“หัวหน้า ท่านคิดว่าพวกเราเป็นอย่างไร?” หนิวเอ้อเอ่ยต่อ “พวกเราต้องการเป็นทหารส่วนตัวของหัวหน้า แต่พวกเราก็ทราบดีว่าไม่แข็งแกร่งมากพอ ซ้ำยังห่างไกลจากทหารผ่านศึกมากมายนัก แต่พวกเราจะพยายามให้มาก! จะฝึกซ้อมให้หนัก! พวกเราจะไม่ทำหัวหน้าต้องอับอาย บนสนามรบพวกเราจะเป็นโล่ให้หัวหน้า หากศัตรูคิดทำร้ายท่าน ก็ต้องข้ามศพของพวกเราไปก่อน!”
“หัวหน้า พวกเราจะฝึกซ้อมให้หนัก เมื่อใดพบเจออันตราย พวกเราจะคุ้มกันหัวหน้าเองขอรับ!” เจิ้งเสี่ยวลิ่วร่วมกล่าวถ้อยคำ
อู๋ฝานมองกลุ่มคนตรงหน้า พวกเขาต่างมองมาทางตนด้วยสายตาคาดหวัง ยกเว้นสามคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักจนไม่ได้ร่วมทางมา เห็นได้ชัดว่าหนิวเอ้อเป็นตัวแทนออกมาพูดเรื่องที่พวกเขาหารือและตัดสินใจกัน
“พวกเจ้าตัดสินใจกันแล้ว?” อู๋ฝานเอ่ยถาม “หากเป็นทหารส่วนตัวของข้า พวกเจ้าจะไม่อาจกลับไปทำไร่หรือเป็นชาวนาได้อีก พวกเจ้าจะต้องคอยอยู่ข้างข้าไปชั่วชีวิตนะ”
ทหารส่วนตัวแตกต่างไปจากทหารทั่วไป ความสัมพันธ์ระหว่างทหารทั่วไปและขุนพลคือความสัมพันธ์เช่นผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นความสัมพันธ์ที่สามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ ดังเช่นโจวซานที่เคยเป็นหัวหน้ากองพันที่สามแห่งค่ายวิหค ก่อนหน้านี้เป็นหัวหน้าของพวกเขา แต่ขณะนี้โจวซานได้หวนคืนสู่กองทัพเฟยสยงแล้ว แม้ว่าตำแหน่งจะสูงขึ้น แต่เขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะสามารถบัญชาการอู๋ฝานและคณะได้อีกต่อไป
ความสัมพันธ์ของทหารส่วนตัวและขุนพล มันเปรียบดังความสัมพันธ์ของหัวหน้าครอบครัวและทหารรับใช้ เป็นความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนม กระทั่งว่าสำหรับทหารส่วนตัวทั้งหลายแล้ว ขุนพลของพวกเขานั้นมีความสำคัญเสียยิ่งกว่าจักรพรรดิผู้ปกครอง หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ที่พิเศษ ทหารส่วนตัวจะไม่ไปจากข้างกายขุนพล ต่อให้ขุนพลก่ออาชญากรรมความผิด ทหารส่วนตัวก็จะร่วมหัวจมท้ายไปด้วย
“ขอรับ พวกเราตัดสินใจแล้ว!” ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“งั้นก็ได้ พวกเจ้าทั้งหกคนจะเป็นทหารของข้า และข้าจะไม่มีทางดูแลคนของตัวเองอย่างเลวร้าย แต่ก็หวังว่าพวกเจ้าจะไม่บกพร่องในการฝึกซ้อมด้วยเช่นกัน!” อู๋ฝานตอบรับ
ทหารส่วนตัวถือเป็นปราการด่านสุดท้ายของขุนพล เปรียบดังบอดี้การ์ดในโลกความเป็นจริง อู๋ฝานคาดหวังให้ฝีมือของพวกเขาแข็งแกร่งมากขึ้นและมากขึ้น
“หัวหน้าวางใจได้ พวกเราจะไม่เกียจคร้านอย่างแน่นอน” หนิวเอ้อตอบรับพร้อมตบหน้าอกตนเอง
“อืม” อู๋ฝานย่อมรู้จักคนในหน่วยของตนเองดี ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็คงไม่มีทางตอบรับเพื่อรับตัวพวกเขา
“จะว่าไปแล้ว อีกสามคนที่เหลือล่ะ” อู๋ฝานเอ่ยถาม
หลังกลับมาเทศมณฑลชิงหยวน อู๋ฝานก็ไปพบกับโจวซาน ส่วนคนอื่นถูกส่งตัวไปรับการรักษา ดังนั้นชายหนุ่มจึงยังไม่ทราบอาการของสามคนที่ได้รับบาดเจ็บหนัก