ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 198 การล้างแค้นของข่งไห่หลิน
บทที่ 198 การล้างแค้นของข่งไห่หลิน
บทที่ 198 การล้างแค้นของข่งไห่หลิน
ที่โลกแห่งเกมอู๋ฝานได้รับบรรดาศักดิ์และจวนอันหรูหรา กล่าวได้ว่าเป็นข่าวน่ายินดี อนาคตข้างหน้าของเขาคล้ายว่าจะสดใสรุ่งโรจน์
เพียงแต่เมื่อกลับคืนสู่โลกความเป็นจริง อู๋ฝานไม่เพียงยังอยู่ในห้องเช่า ทว่าหวังจื่อหมิงก็ยังติดต่อมาพร้อมกับแจ้งข่าวร้ายให้ได้ทราบ
“อู๋ฝาน ข่งไห่หลินกลับมาแล้ว วันนี้ช่วงกลางวันฉันจะลองนัดทานข้าวกับเขา ดูว่าพอจะสามารถสมานรอยร้าวในความสัมพันธ์นี้ได้ไหม” หวังจื่อหมิงบอกผ่านทางโทรศัพท์
“ขอบคุณพี่หวังมากครับ” อู๋ฝานตอบรับ
ทว่าตัวอู๋ฝานเองไม่ได้คาดหวังอะไรกับการเดินทางไปพูดคุยครั้งนี้ของหวังจื่อหมิง ข่งไห่หลินเป็นคนเช่นไรนั้น แม้ชายหนุ่มจะไม่ค่อยได้พูดคุยหรือรู้จักกับอีกฝ่าย แต่ก็พอเข้าใจได้หลายส่วน ชายคนนั้นเป็นคนที่ไม่มีทางกลืนโทสะลงท้องอย่างแน่นอน
ในช่วงบ่ายกว่าของวัน อู๋ฝานก็ได้รับคำตอบจากหวังจื่อหมิง
ข่งไห่หลินไม่ยินดีปล่อยผ่านเรื่องนี้ และต้องการให้อู๋ฝานชดใช้อย่างสาสม!
“อู๋ฝาน ระวังตัวด้วย ฉันเห็นคนคุ้นกันไม่น้อยรอบตัวของข่งไห่หลิน พวกเขาน่าจะแข็งแกร่งมาก” หวังจื่อหมิงบอกอู๋ฝานด้วยความกังวล
“ครับ ผมจะระวังตัวให้ดี” อู๋ฝานตอบกลับ
ท่าทีตอบรับเช่นนี้ของข่งไห่หลิน มันเป็นไปตามที่อู๋ฝานคิดเอาไว้ เดิมเขาคิดว่าครั้งก่อนหลังจากที่เฟ่ยอวิ๋นถูกตนเองเล่นงาน ข่งไห่หลินจะตอบโต้กลับมาทันทีเลยด้วยซ้ำ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะปล่อยผ่านเรื่องราวจนมาถึงตอนนี้
คล้ายกับว่าแม้ข่งไห่หลินจะเป็นทายาทของตระกูลข่ง แต่ถ้าคิดจะให้ผู้แข็งแกร่งออกมาสู่โลกภายนอกก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย
จากคำเตือนของหวังจื่อหมิง ทำให้อู๋ฝานต้องคอยจับตาและเฝ้าระวัง
ไม่นานการล้างแค้นของข่งไห่หลินก็มาถึง ช่วงที่อู๋ฝานเดินทางกลับมาจากสมาคมยิงธนูซิงเยวี่ย เขาก็ถูกคนขวางทางไว้ ดูจากออร่าของอีกฝ่าย เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ใช่คนธรรมดา เป็นไปได้ที่จะเป็นคนของข่งไห่หลิน
“ใจร้อนกันดีจริง ๆ” อู๋ฝานพึมพำกับตัวเองขณะที่นั่งอยู่ในรถ
หลังจากหวังจื่อหมิงไปพูดคุยกับข่งไห่หลินได้ไม่นาน คนของอีกฝ่ายก็มาถึงที่นี่ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีจังหวะหน่วงเวลายั้งคิดเลยด้วยซ้ำ
มีคนสี่คนเดินเข้ามาหยุดรถของอู๋ฝาน ออร่าของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเฟ่ยอวิ๋นที่เคยพบเจอก่อนหน้านี้เลย
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!”
หนึ่งในกลุ่มคนเดินเข้ามาเคาะกระจกรถของอู๋ฝาน เป็นการบอกให้ชายหนุ่มลดกระจกลง
ทว่าอู๋ฝานกลับยังนั่งอย่างสงบอยู่ภายในรถ ราวกับไม่ได้ยินเสียงใดทั้งสิ้น
“ลงมา!” เมื่ออีกฝ่ายเห็นอู๋ฝานไม่ให้ความร่วมมือ สีหน้าจึงน่าเกลียดเล็กน้อย
“ถ้ามีความสามารถ ก็ลองเปิดประตูรถดูเองสิ” อู๋ฝานมองอีกฝ่ายพร้อมกล่าวอย่างเฉยชา
“ประตูรถคันเล็กแค่นี้ คิดว่ายากนักหรือไง?” อีกฝ่ายตอบรับเสียงเยือกเย็น
จากนั้นชายคนนั้นก็ยื่นมือไปคว้าที่ประตู ออกแรงดึง ทว่าสุดท้ายแล้วประตูก็ไม่ขยับ ทำให้อีกฝ่ายเผยสีหน้าน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมออกมา
อย่างที่รู้กันว่าเขาคือยอดฝีมือขอบเขตมืด ประตูรถธรรมดาที่แค่ล็อคจากด้านใน ขอเพียงพวกเขาต้องการ ย่อมสามารถกระชากเปิดออกได้อย่างง่ายดาย ทว่าทำไมครั้งนี้เขากลับทำไม่ได้เสียอย่างนั้น?!
เมื่อรับรู้ได้ถึงอาการเสียหน้าอย่างรุนแรง เขาจึงออกแรงเพิ่มอีกครั้ง ทว่าต่อให้ทุ่มเทสุดแรง ใบหน้าแดงก่ำเพราะบีบเค้นพลัง ก็ยังไม่อาจเปิดประตูรถได้
มันเป็นไปได้อย่างไร?!
นี่คือรถอะไร? สถานการณ์ตอนนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน!?
“หลี่หยวน มัวทำอะไรอยู่ ประตูรถแค่นี้ก็เปิดไม่ได้หรือไง?” ตอนนั้นเองพรรคพวกที่ร่วมทางมาด้วยก็แสดงท่าทีราวกับไม่พอใจที่เขาทำอะไรชักช้า ทั้งยังไม่อาจเปิดประตูรถของอู๋ฝานได้
“ถ้าทำได้ ก็ทำเอง!” ชายชื่อหลี่หยวนที่ไม่อาจเปิดประตูรถได้ เมื่อถูกพรรคพวกเหยียดหยามซ้ำเติม ก็ทำให้ตอนนี้เขาโกรธเกรี้ยวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ข้าทำเองก็ได้” ชายคนนั้นตอบรับ
ทว่าหลังทดลอง ก็พบว่าไม่อาจเปิดประตูได้ ตอนนั้นเองใบหน้าเขาก็เผยความอับอายออกมา
“ตึง!”
ด้วยโทสะ เขาจึงต่อยใส่กระจกรถ คล้ายกับคิดจะทุบกระจกเพื่อกระชากตัวอู๋ฝานออกมาจากรถโดยตรงเสียให้ได้
ทว่าหมัดของเขา …ไม่ต้องกล่าวถึงการทุบกระจกอะไรนั่น เพียงแค่ทำให้กระจกมีรอยร้าวยังไม่สามารถทำได้เลย!
ทันใดนั้นเองบรรยากาศรอบด้านก็เปลี่ยนเป็นอึมครึมขึ้นมา
“ทำได้แค่นี้? เสร็จเรื่องแล้วใช่ไหม ฉันขอตัวก่อนล่ะ” อู๋ฝานบอกกับกลุ่มคนนอกหน้าต่างรถ
รถคันนี้คือป้ายพาหนะเสกออกมา มันไม่ใช่รถธรรมดา อู๋ฝานสามารถปรับเปลี่ยนทุกอย่างได้ตามใจนึก ดังนั้นต่อให้คิดจะทำให้รถคันนี้แข็งแกร่งระดับสามารถกันกระสุนได้ ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินตัว
และกลุ่มคนตรงหน้านี้ เห็นได้ชัดเลยว่าไม่สามารถทำลายการป้องกันของตัวรถได้
คำพูดของอู๋ฝานยิ่งทำกลุ่มคนนอกรถโมโห ทว่าพวกเขาก็พบว่าไม่อาจทำอะไรอู๋ฝานได้จริง ๆ
“ฉันไม่เชื่อว่าแกจะอยู่ในรถไปได้ตลอดชีวิตหรอก! ไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน พวกเรารู้หมดทุกอย่างแล้ว อย่าคิดว่าจะรอดไปได้นะ!” หลี่หยวนมองอู๋ฝานด้วยท่าทีดุร้าย
อู๋ฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย ในใจยิ่งนึกรังเกียจคนกลุ่มนี้ขึ้นมา
แต่ชายหนุ่มก็ทราบดีว่าคนกลุ่มนี้มาเพื่อทำอะไร ถ้าหวังจื่อหมิงสามารถตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียดได้ ข่งไห่หลินก็ย่อมทำได้เช่นเดียวกัน การที่คนเหล่านี้รู้ว่าเขาพักอยู่ที่ไหน ทำงานที่ใด จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ
เมื่อคิดได้อย่างนั้นอู๋ฝานจึงเป็นฝ่ายเปิดประตูลงจากรถด้วยตนเอง
“ออกมาเองงั้นหรือ?” หลี่หยวนมองอู๋ฝานด้วยท่าทีอหังการ “บอกมาซิ ว่าอยากจะตายยังไง?”
ตาย?
เหมือนว่าข่งไห่หลินจะเกลียดชังเขาลึกถึงแก่นกระดูกแล้วจริง ๆ ครั้งก่อนแค่ต้องการทำให้เขาพิการ ทว่าครั้งนี้ถึงขั้นออกปากสั่งฆ่าโดยตรง
“ข่งไห่หลินส่งพวกนายมาที่นี่งั้นเหรอ?” อู๋ฝานถาม เขาต้องการได้ยินคำตอบที่แน่ชัด
“ไม่เลว” อีกฝ่ายไม่ปฏิเสธ หรือบางทีพวกเขาคงไม่เคยคิดจะปฏิเสธเลยด้วยซ้ำ
“หยุดพูดอะไรไร้สาระได้แล้ว รีบมาจบงานกันสักที จะได้ไปจากที่นี่!” หนึ่งในกลุ่มคนเอ่ยออกมาอย่างอดกลั้น
ในความเห็นของพวกเขา การที่ให้พวกตนทั้งสี่คนมาจัดการอู๋ฝานแค่คนเดียวนั้น มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเกินจำเป็นเสียด้วยซ้ำ แม้ว่ารถของอีกฝ่ายจะประหลาดไปบ้าง แต่ตัวชายหนุ่มเองก็เป็นเพียงคนธรรมดาที่มีกำลังมากเท่านั้น หากพวกเขาคิดสังหาร ย่อมไม่ใช่เรื่องยากจนไม่อาจทำได้
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเฟ่ยอวิ๋นบอกพวกเขา แม้ครั้งก่อนเฟ่ยอวิ๋นจะบาดเจ็บเพราะอู๋ฝาน แต่ในใจนั้นไม่ยอมรับ เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงแค่มีพละกำลังที่แข็งแกร่งอยู่บ้าง รวมทั้งตนเองตอนนั้นขาดความระมัดระวัง จึงทำให้บาดเจ็บ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วชายหนุ่มไม่ได้แข็งแกร่งมากมายแต่อย่างใด
คำพูดของเฟ่ยอวิ๋นก็ไม่ใช่ว่าผิดเสียทีเดียว อู๋ฝานเลเวลแค่สี่ ถ้าไร้อุปกรณ์สวมใส่เสริมค่าสถานะ ยอดฝีมือขอบเขตมืดคือตัวตนที่เขาไม่อาจเทียบเปรียบได้
ทว่าอู๋ฝานไม่ใช่คนธรรมดา เขาครอบครองอุปกรณ์และสมบัติที่ได้รับจากโลกแห่งเกม!
คนทั้งสี่ที่ข่งไห่หลินส่งมาไม่คิดพูดจากับอู๋ฝาน ในเมื่ออีกฝ่ายลงมารับความตายเองถึงที่ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดให้มากความ
ชายคนที่อยู่ใกล้อู๋ฝานที่สุด ตอนนี้กำหมัดขวา พร้อมส่งหมัดต่อยเข้าใส่ศีรษะของชายหนุ่ม
อู๋ฝานตระหนักว่าที่ผิวหมัดของอีกฝ่าย มันคล้ายจะปกคลุมด้วยชั้นแสงประกายของโลหะ ออร่าโดดเด่นและรุนแรงส่งออกมาจากนอกกำปั้นนั้น ราวกับหมายจะระเบิดศีรษะของชายหนุ่มให้สิ้นเรื่องสิ้นราว!
อู๋ฝานถอยหลังเล็กน้อย ก่อนที่จะลงจากรถ เขาใส่อุปกรณ์สวมใส่ครบชุดแล้ว ความว่องไวจึงไม่เป็นรอง ดังนั้นการหลบเลี่ยงการโจมตีครั้งนี้จึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
“คิดใช้พวกมากรุม?” อู๋ฝานมองกลุ่มคนพลางพึมพำ ก่อนที่ตัวเขาจะนำป้ายออกจากกระเป๋าหลัง “ฉันเองก็มีกำลังเสริม!”