ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 211 เตรียมเปิดร้าน
บทที่ 211 เตรียมเปิดร้าน
บทที่ 211 เตรียมเปิดร้าน
หลังหารือรายละเอียดกับเจ้าหย้าหนาน อู๋ฝานก็ขับรถกลับไป ในขณะที่เจ้าหย้าหนานยังคงนั่งด้านในร้าน พร้อมกับมีท่าทีค่อนข้างเหม่อลอย
เธอกำลังครุ่นคิด ว่าเพราะอะไรอู๋ฝานจึงช่วยเธอถึงขนาดนี้
เรื่องคำสั่งซื้อนั้น มันเป็นปัญหาหนักใจเธอมาโดยตลอด ทำให้เธอแทบไม่อาจกินหรือนอนหลับได้ลง พอนึกคิดถึงค่าชดเชยจำนวนมหาศาลนั้นทีไร เจ้าหย้าหนานก็รู้สึกต้องอับจนสิ้นหวังทุกครั้งไป
และมันก็เป็นครั้งนี้เอง ที่อู๋ฝานเลือกก้าวเข้ามาให้การช่วยเหลือ
ถ้าคนทั้งสองเคยเป็นเพื่อนต่อกันมาบ้าง ก็ถือว่าพอเข้าใจได้ ทว่าทั้งสองไม่เคยคุ้นหน้ากันเสียด้วยซ้ำไป ต่อให้เคยเจอกันมาบ้างครั้งหรือสองครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกัน แม้แบบนั้นอู๋ฝานก็ยังยินดีให้การช่วยเหลือเธอในปัญหาครั้งใหญ่นี้ แม้ว่าตัวเงินจะเป็นสิ่งต้องจ่ายกลับคืน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถหยิบยื่นเงินยี่สิบล้านออกมาช่วยเหลือคนแปลกหน้าได้
ถ้าเป็นแบบนั้น อู๋ฝานต้องการสิ่งใด?
ร้านงั้นเหรอ?
มันก็เหมือนจะเป็นแบบนั้น เพียงแต่ในแวดวงการค้านี้ ตราบเท่าที่มีเงิน อู๋ฝานก็มีตัวเลือกอีกมากมาย ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อกิจการระดับพื้น ๆ นี้ อู๋ฝานไม่ใช่เถ้าแก่หลิว ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ที่ตรงนี้เพื่อขยับขยายกิจการของตนแต่อย่างใด
ดังนั้นหากว่าไม่ใช่เพราะร้าน แล้วจะเป็นเพราะอะไร?
คน?
คิดได้ดังนั้น เจ้าหย้าหนานก็หน้าแดงขึ้นเล็กน้อยเพราะเขินอาย ทำเอาลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกลต้องมองมาด้วยความสับสน
ครั้งก่อนตอนที่อู๋ฝานปฏิเสธเถ้าแก่หลิวแม้เสนอให้ราคาสูงกว่า และเลือกที่จะขายไม้ชิงชันให้กับเธอ เจ้าหย้าหนานก็เกิดความสงสัยว่าอู๋ฝานจะมีแผนการอะไรกับตัวคนใช่หรือไม่
มันไม่ใช่ว่าเจ้าหย้าหนานคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะแท้จริงแล้ว นับตั้งแต่เธอเติบโตขึ้นมา ตลอดมาก็เป็นหญิงงามมาโดยตลอด สมัยยังเรียน ก็มีหลายคนคอยไล่ตามจีบเธอด้วยซ้ำ แม้กระทั่งหลังเรียนจบ ก็ยังมีคนตามจีบไม่ได้ว่างเว้น ในด้านนี้จึงมีแต่คนชื่นชมในตัวเธอ และตัวเธอเองก็มีความมั่นใจในรูปลักษณ์และการวางตัว
เพียงแต่หลังได้พบกันครั้งนี้ อู๋ฝานไม่ได้มีท่าทีเป็นฝ่ายเข้าหามีปฏิสัมพันธ์อะไรกับตัวเธอ จึงเป็นเหตุให้เจ้าหย้าหนานต้องปัดความคิดดังกล่าวทิ้งไป เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ สำหรับเจ้าหย้าหนานแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ต้องครุ่นคิดใส่ใจ
“หรือว่า ที่เขาเลือกจะช่วยก็เป็นเพราะเราจริงนั่นแหละ? อีกอย่างเขายังเป็นฝ่ายเสนอเรื่องความร่วมมือ รวมถึงยินดีมอบหุ้นให้ส่วนหนึ่งด้วย” เจ้าหย้าหนานคาดเดาอยู่ในใจ ยิ่งเธอคิดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าความเป็นไปได้สูงขึ้นเท่านั้น
เรื่องราวจึงทำเจ้าหย้าหนานเกิดความลังเล
อย่างไรก็ต้องกล่าวว่าเงื่อนไขในตัวของอู๋ฝานถือว่าดี ยังหนุ่มและมั่งคั่ง รูปลักษณ์ก็ไม่ใช่เลวร้าย ทั้งยังช่วยเธอหลายครั้ง เป็นเหตุให้ในใจของเจ้าหย้าหนานเกิดความรู้สึกประทับใจอันดีต่ออีกฝ่าย
เพียงแต่อู๋ฝานไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยอะไรออกมา ทั้งเจ้าหย้าหนานเองก็กระดากใจเกินกว่าจะเป็นฝ่ายริเริ่ม ทำให้มีแต่คิดวุ่นวายไปเองคนเดียว
อู๋ฝานหาได้ทราบไม่ว่าการกระทำของตนเองนั้น จะทำเจ้าหย้าหนานครุ่นคิดไปไกลเกินไป
เดิมอู๋ฝานมีความตั้งใจที่จะเข้าแวดวงการค้านี้อยู่แล้ว โอกาสในวันนี้ถือเป็นเรื่องบังเอิญได้รับ แต่ในความจริงนั้น แม้ว่าไม่มีเหตุการณ์ในวันนี้ ตอนที่ร้านอาหารของเขาเริ่มเข้ารูปเข้ารอย เมื่อนั้นเขาก็คงคิดหาซื้อร้านสักแห่งเข้าร่วมวงการค้าไม้เช่นเดียวกัน เหตุการณ์ในวันนี้ เรียกได้ว่ามาก่อนแผนการที่ชายหนุ่มคาดคิดเอาไว้
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีความคิดอะไรต่อเจ้าหย้าหนานเลยแม้แต่น้อย
แม้เจ้าหย้าหนานจะถือได้ว่าเป็นโฉมงามคนหนึ่งก็จริง แต่ถ้านำหลิ่วเหยียนเอ๋อร์และถังอวี่เฟยมาเทียบเปรียบ ก็ไม่ได้มีใครยิ่งหย่อนไปกว่าใครสักเท่าใดนัก
ยามค่ำคืน ในโลกแห่งเกม
ดวงตะวันสาดทอแสงขึ้นที่นี่ เพียงแต่ลานกว้างที่พวกหนิวเอ้อและคณะใช้ฝึกฝน ขณะนี้ปรากฏเสียงดังอึกทึกของกลุ่มคนที่กำลังฝึกซ้อมเรียบร้อยแล้ว
พวกหนิวเอ้อเริ่มการฝึกซ้อมในช่วงวันใหม่ และลั่วเยวี่ยเองก็ยังอยู่ในกลุ่มคนด้วยเช่นกัน
อู๋ฝานในวันนี้มีเรื่องต้องทำ ดังนั้นจึงไม่อาจอยู่ดูทุกกระบวนการฝึกซ้อม อย่างไรแล้วเขาจะอยู่หรือไม่อยู่ กลุ่มคนก็จะฝึกซ้อมตามแบบแผนที่ควรเป็นอยู่ดี
ที่อู๋ฝานต้องไปทำวันนี้ ย่อมต้องเป็นการตัดไม้ ในเมื่อรับปากเจ้าหย้าหนานเอาไว้แล้ว เขาก็ต้องรักษาคำพูด
อู๋ฝานมีวิชาตัดไม้ จึงทำการโค่นต้นไม้ลงอย่างรวดเร็ว แม้แบบนั้นตัวเขาก็ประเมินแล้วว่า คงต้องใช้เวลาหนึ่งวันในป่าด้านหลังของภูเขา เพราะจำนวนไม้ที่เจ้าหย้าหนานต้องการนำไปใช้งานนั้น มีค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ต้นไม้ที่อยู่บริเวณด้านหลังของภูเขาค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ พวกมันมีลำต้นหนาและสูงใหญ่ อู๋ฝานเริ่มออกค้นหาประเภทไม้ที่ต้องการ ตัดพวกมันลงมาทีละต้น ใช้วิชาตรวจสอบเพื่อความแน่ใจ ว่าใช่ไม้ที่เจ้าหย้าหนานต้องการจริงหรือไม่
เพียงแต่หลังตัดได้ไม่นาน อู๋ฝานกลับต้องเจ็บศีรษะอีกครั้งหนึ่ง เขาจึงหันมองขึ้นไปโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับได้เห็นร่างเจ้าตัวเล็กที่คุ้นหน้าปรากฏ
แมวเมฆหิมะ!
เจ้าตัวน้อยยืนบนต้นไม้ถัดจากอู๋ฝาน มุมปากของมันยกโค้งขึ้นเล็กน้อย สายตาหรี่มองจนแทบเป็นเส้นตรง มันกำลังมองชายหนุ่มด้วยท่าทียินดีสดใส และทันทีที่เขาหันมองมัน มันก็แสดงอาการยินดีกระโดดโลดเต้นไปมาบนกิ่งไม้
“เจ้าตัวน้อย จมูกแกดีเกินไปแล้ว ข้าเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน แกก็ปรากฏตัวมาซะแล้ว” อู๋ฝานหัวเราะ
เจ้าตัวน้อยราวหัวเราะยินดีมากยิ่งขึ้น
“ข้ายังมีเรื่องต้องทำ เอาไว้เสร็จงานตรงนี้แล้ว จะไปเล่นกับเจ้าก็แล้วกันนะ” อู๋ฝานบอกกับเจ้าตัวน้อย
ภาระงานของอู๋ฝานวันนี้ถือว่าค่อนข้างหนักหน่วง เรียกได้ว่าแทบไม่เหลือเวลาให้เล่นกับเจ้าตัวน้อย
เจ้าตัวน้อยราวกับเข้าใจ มันพยักหน้าตอบรับอย่างเชื่อฟัง นั่งบนกิ่งไม้ด้วยก้นจุ้มปุ๊กของมัน รับชมอู๋ฝานตัดไม้ พลางกัดกินผลไม้ป่าที่ไปหามาจากที่ใดก็ไม่อาจทราบ
“แสนรู้จริง ๆ” อู๋ฝานตอบกลับ ก่อนจะเริ่มงานตัดไม้ของตนเองต่อไป
อู๋ฝานใช้เวลาในป่าอยู่ทั้งวัน จนในที่สุดก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน ก็ได้รายการไม้ที่เจ้าหย้าหนานต้องการครบถ้วน แม้ว่าร่างกายของเขาค่อนข้างอึดถึกทน แต่ภาระงานในวันนี้ก็หนักหนา ทำให้เหนื่อยล้าไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
ช่วงที่เขากำลังตัดต้นไม้ เจ้าตัวน้อยก็คอยอยู่เคียงข้างมาโดยตลอด ทั้งชายหนุ่มเองก็หันไปพูดคุยกับมันบ้างเป็นครั้งคราว ขณะนี้เห็นอีกฝ่ายเสร็จงานแล้ว เจ้าตัวน้อยจึงกระโดดลงจากกิ่งไม้ร่อนลงยังไหล่ของอู๋ฝานอย่างแม่นยำ
ตอนแรกนั้นอู๋ฝานประหลาดใจ ทว่าเจ้าตัวน้อยไม่ได้เผยท่าทีดุร้ายอะไร กลับเลียแก้มเขาอย่างน่าเอ็นดูเสียด้วยซ้ำ กระทั่งใช้ศีรษะถูไถไปมาชวนให้รู้สึกนุ่มนิ่ม
“รอจนเบื่อแล้วหรือยังไงกัน? เดี๋ยวเล่นกับแกสักพักก็แล้วกัน” อู๋ฝานลูบขนสีขาวราวหิมะตามตัวของมัน
เรียบเนียน นุ่มลื่น เป็นสัมผัสที่จับแล้วให้ความรู้สึกสบาย
เจ้าตัวน้อยพยักหน้ารับรัวเร็ว
ช่วงเวลาสุดท้ายที่เหลือของวัน อู๋ฝานจึงมอบให้กับเจ้าตัวน้อย กระทั่งว่าไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้าน แต่เทเลพอร์ตกลับโลกความเป็นจริงทั้งที่ยังอยู่ด้านหลังของภูเขาเลยด้วยซ้ำ
เจ้าตัวน้อยมองสถานที่ที่อู๋ฝานหายตัวไปอย่างงุนงง ใบหน้าของมันแสดงออกทั้งความสงสัยและความเสียดาย มันมองเช่นนั้นอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันหลังกลับและจากไป
เมื่อกลับสู่โลกความเป็นจริง อู๋ฝานจึงลุกขึ้น วันนี้เขามีงานอีกมากต้องทำ นั่นคือการเปิดร้านอาหารอย่างเป็นทางการ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้มีอะไรผิดพลาด
“ทุกคนพร้อมไหมครับ?” เมื่อมาถึงร้าน ก็ได้พบว่าเฉินปิงเหยาและพวกหลิวอี้เตามาถึงกันก่อนแล้ว ทางด้านเฉินปิงเหยากำลังเดินตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ” เฉินปิงเหยารายงาน “เถ้าแก่ วันนี้ต้องมีพิธีการอะไรรึเปล่าคะ?”
“พิธีการ? ไม่จำเป็นเลยครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “ผมเพียงแค่เชิญเพื่อนบางส่วนมา ไม่จำเป็นต้องมากพิธีอะไรหรอกครับ ถึงเวลาเมื่อไหร่ก็แค่จุดพลุงานเลี้ยงสักหน่อย ก็ถึงคราวเริ่มกิจการอย่างเป็นทางการได้แล้วครับ”
อู๋ฝานเชิญเพียงแค่หวังจื่อหมิงมา และไม่ต้องการให้มากพิธีการอะไร เพราะมันเป็นแค่การเปิดกิจการอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง!