ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 250 ความถือดี
บทที่ 250 ความถือดี
บทที่ 250 ความถือดี
มันเกิดอะไรขึ้น?
นั่นคือจิ้นเฉิง จิ้นเฉิงคนนั้นเลยนะ!
คนที่ชนะน็อกเอาต์ต่อเนื่องสิบห้านัด ตอนนี้เป็นฝ่ายถูกผู้ท้าชิงจากราชอาณาจักรแห่งช้างนามไหน่ไช น็อกเอาต์เพียงแค่หมัดเดียว?
ไม่ใช่ว่าที่ต้องลงไปกองกับพื้นคือไหน่ไชหรอกเหรอ? ทำไมกลายเป็นจิ้นเฉิง?
มันเป็นไปได้ยังไง?!
ฝูงชนที่รับชมเรื่องราวอยู่ไม่อาจยอมรับภาพที่พวกตนได้เห็นได้ บางคนกระทั่งขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว ราวกับสงสัยว่าตนเองตาฝาด ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมพวกเขาได้เห็นเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นได้?
ทว่าไม่ว่าพวกเขาจะมองกันอย่างไร หันมองซ้าย หรือว่าหันมองขวา นั่งลงมองก็แล้ว ลุกขึ้นชะโงกมองก็แล้ว สิ่งที่พวกเขาได้พบเห็นก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
ไหน่ไชยืนนิ่งอย่างภาคภูมิ ขณะจิ้นเฉิงนอนนิ่งบนพื้นไม่ได้สติ
เพียงแต่การเอาชนะจิ้นเฉิงไม่ได้หยุดไหน่ไชไว้เพียงเท่านี้ เขาเดินเข้าหาจิ้นเฉิงด้วยรอยยิ้มโหดร้ายบนใบหน้า ก่อนจะนั่งยองลงกับพื้นข้างกายจิ้นเฉิง สุดท้ายก็ดึงแขนอีกฝ่ายขึ้นมา
“แกร๊ก!”
เสียงแตกหักเมื่อครู่ได้ยินกันอย่างชัดเจน ทุกคนในที่นี้ต่างก็ได้ยินเสียงกระดูกหักดังลั่น
ในใจผู้คนเริ่มเกิดสั่นไหวขึ้นมา
“อ๊าก!”
จิ้นเฉิงที่เดิมสภาพก็เลวร้ายอยู่แล้ว ตอนนี้ได้สติขึ้นมาจากความเจ็บปวดแสนสาหัส ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด หน้าซีดเผือดปรากฏเม็ดเหงื่อไหลผุดออกมา
เสียงร้องของจิ้นเฉิงไม่ได้กระตุ้นความเห็นใจของไหน่ไช เขาเผยยิ้มบนใบหน้า เป็นยิ้มที่ทั้งกว้างและดูโหดร้าย
“แกร๊ก!”
ไหน่ไชยังคงยิ้มขณะบิดแขนอีกข้างของจิ้นเฉิงอย่างรุนแรง แขนข้างนั้นบิดกลับจนหมุนรอบได้อย่างผิดธรรมชาติ
จิ้นเฉิงอ้าปากค้าง ราวกับคิดอยากร้องตะโกนออกมา ทว่าตัวเขาไม่อาจเอ่ยออกมาได้แม้แต่คำเดียว ทำได้เพียงหอบหายใจอย่างหนักหน่วง คล้ายปลาใกล้ตายที่พยายามตักตวงอากาศจากบนบก
“ฉันบอกแล้วไง ว่าจะฆ่าแกให้ตาย ไอ้เศษแดนแสนจะอ่อนแอ!” ไหน่ไชแผดเสียงดังก้องให้จิ้นเฉิงได้ยิน มันดังสะท้อนไปยังแก้วหูของทุกคนในที่นี้ น้ำเสียงและถ้อยคำนั้นโหดร้ายและมืนมน ราวกับเสียงของอสูรร้ายมากระซิบข้างหู ทำเอาผู้คนรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรง
“แต่ว่านะ ให้แกตายแบบนี้มันก็ง่ายเกินไป ฉันจะทรมานอีกสักหน่อยก็แล้วกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไหน่ไชหัวเราะอย่างดุร้าย ขณะยกแขนขวาของตนเองขึ้น พร้อมกับฟาดลงใส่อย่างรุนแรงและหนักหน่วง
“กึก!”
เสียงกระดูกอีกท่อนหนึ่งหักดังให้ได้ยิน มันทำผู้คนเกิดรู้สึกว่าประสาทรับฟังด้านชา ไหน่ไชหักกระดูกขาขวาของจิ้นเฉิงด้วยการฟาดแขนใส่!
จิ้นเฉิงตัวงอขึ้นอย่างรุนแรง สีหน้าแสดงชัดถึงอาการเจ็บปวด เพียงแต่เพราะเจ็บปวดมากจนเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ สุดท้ายจึงทิ้งน้ำหนักปล่อยศีรษะหล่นกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เพราะเผชิญกับความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้เขาหมดสติไปอีกครั้ง
การที่จิ้นเฉิงไม่ได้สติ ก็ไม่ได้ทำให้ไหน่ไชหยุดการกระทำ แต่กลับทำเขาฉีกยิ้ม กระทำการอย่างอหังการไม่ยี่หระ เพราะสังเวียนแห่งนี้มีกฎว่าเว้นแต่จะยกธงยอมรับความพ่ายแพ้ พวกเขาก็จะต้องต่อสู้กันต่อไปจนกว่าอีกฝ่ายจะ น็อกเอาต์หรือว่าตาย!
ขณะนี้จิ้นเฉิงไม่ได้สติ เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางที่จะสามารถยกธงยอมแพ้ ดังนั้นไหน่ไชจึงถือดีทำตามใจชอบ เขากำลังเติมเต็มคำสัญญาที่ว่าจะเล่นงานจิ้นเฉิงจนสิ้นชีวิต!
หลังขาอีกข้างของจิ้นเฉิงหัก กรรมการที่รับผิดชอบหน้าที่กลับไม่อาจทนเฉยได้อีกต่อไป ตะโกนบอกไหน่ไช “หยุดได้แล้วครับ คุณชนะแล้ว!”
“หยุด? ไม่ได้สิ ไม่ได้ มันยังไม่ทันได้ยอมแพ้เลย ฉันจะหยุดได้ยังไงกัน” ไหน่ไชปฏิเสธคำตัดสินของกรรมการโดยไม่หยุดคิดแม้แต่น้อย
ให้จิ้นเฉิงยอมแพ้?
ต่อให้ตอนนี้เขาอยากยอมแพ้ แต่ก็ไม่มีทางที่จะเปิดปากได้!
เห็นได้ชัดว่าไหน่ไชมีแผนเล่นงานจิ้นเฉิงจนตาย!
ด้านในห้องส่วนตัว หวังจื่อหมิงขมวดคิ้ว ขณะมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนสังเวียนด้วยสีหน้าดำมืด เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี
หวังจื่อหมิงไม่ได้สงสารหรือเวทนาจิ้นเฉิง จริง ๆ แล้วจิ้นเฉิงไม่ได้น่าเวทนาอะไร เขาเคยสังหารหรือเล่นงานคนอื่นจนพิการบนสังเวียนไปแล้วหลายคนด้วยซ้ำ ดังนั้นพอคิดย้อนถึงสิ่งที่เขาทำลงไป วันนี้อย่างไรก็ต้องมาถึง
นอกจากนี้ก่อนที่จะขึ้นสังเวียน ทั้งจิ้นเฉิงและไหน่ไชต่างก็ทำสัญญาแลกเป็นตายเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะกล่าวโทษใครได้ หากจิ้นเฉิงจะถูกไหน่ไชเล่นงานจนตาย ก็ถือว่าเขาไม่คู่ควรจะได้ไปต่อเอง
ที่หวังจื่อหมิงอารมณ์ไม่ดี เป็นเพราะสิ่งที่ไหน่ไชกำลังแสดงออกมา ที่นี่เป็นสถานที่ของพวกเขา ขณะที่อีกฝ่ายเป็นคนของราชอาณาจักรแห่งช้าง การมาแสดงกำลังข่มกันที่นี่ เขาจะไม่ยินดีก็ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะตอนที่ได้เห็นท่าทีของไหน่ไช ที่บ่งบอกว่าไม่เห็นใครก็ตามในที่นี้ในสายตา การที่ตนจะโกรธก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“ติงอวิ๋น! พวกคุณยังมียอดฝีมืออื่นอยู่อีกหรือเปล่า? พวกเราจะปล่อยคนเถื่อนหลุดเข้าป่าไม่ได้!” หวังจื่อหมิงตะโกนเรียกติงอวิ๋นมาพูดคุย
“เรื่องนี้…” ติงอวิ๋นตอบรับอย่างยากลำบาก “คืนนี้เรามีเพียงจิ้นเฉิงที่เป็นยอดฝีมือครับ ผมคิดว่าเขาจะต้องชนะแน่ เลยไม่ได้นึกคิดถึงผลลัพธ์นี้มาก่อน อีกทั้งจิ้นเฉิงก็เป็นยอดฝีมือที่รักษาผลงานได้ดี เขาไม่สามารถเอาชนะไหน่ไชได้ ต่อให้เรียกคนอื่นมา พวกเขาก็ไม่อาจต่อสู้กับไหน่ไชไหว ส่งคนขึ้นไปก็มีแต่จะถูกฆ่าครับ”
ติงอวิ๋นคือคนที่รับผิดชอบสถานที่แห่งนี้ เขาทราบดีว่าจะสามารถส่งใครขึ้นประลองได้ และทราบถึงพละกำลังและความแข็งแกร่ง
จิ้นเฉิงถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือของที่นี่ ประวัติน็อกเอาต์ต่อเนื่องสิบห้านัด มันไม่ใช่อะไรที่ใครจะสามารถทำได้ ความแข็งแกร่งของคนอื่น หากเทียบเปรียบกับจิ้นเฉิง พวกเขาไม่อาจดีเท่าได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นต่อให้พวกเขาอยู่ที่นี่ไปก็ไร้ประโยชน์
หวังจื่อหมิงยิ่งเผยสีหน้าอัปลักษณ์ออกมา เขานึกถึงที่อู๋ฝานกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ว่าไหน่ไชคือยอดฝีมือขอบเขตสว่างขั้นกลาง ต่อให้ผู้เข้าแข่งขันในคลับแห่งนี้จะแข็งแกร่งสักแค่ไหน พวกเขาก็ยังเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ดังนั้นติงอวิ๋นจึงกล่าวได้ถูกต้อง ต่อให้ส่งคนอื่นขึ้นไป พวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรไหน่ไชได้
หรือพวกเขาจะทำได้เพียงแค่ดูไหน่ไชโอ้อวดกำลังข่มเหงกันแบบนี้?
ในใจหวังจื่อหมิงนั้นไม่ยินดี
หวังจื่อหมิงพอรู้จักผู้ฝึกตนอยู่บ้าง แต่เขาไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้คนเหล่านั้น ต่อให้ออกปากเอ่ยเชิญ เขาก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถโน้มน้าวทำให้อีกฝ่ายต้องเห็นแก่หน้ากันได้
อีกทั้งผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ต่างเหยียดหยันที่จะเข้าร่วมการแข่งขันเช่นนี้ พวกเขาคือกลุ่มคนที่ไม่คิดแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงต่อหน้าคนของโลกภายนอก โดยเฉพาะกับสถานที่เช่นที่นี่ พวกเขายิ่งไม่ยินดีให้คนทั่วไปได้มองพวกเขาเป็นประหนึ่งลิงที่นำตัวมาแสดง
ดังนั้นแล้ว หวังจื่อหมิงจึงไม่มีทั้งความมั่นใจ และไม่มีทั้งความสามารถที่จะเชิญผู้ฝึกตนเหล่านั้นมาจัดการไหน่ไช
ขณะที่คิดว่าตนเองอับจนหนทางจะจัดการกับคนอวดดีตรงหน้า หวังจื่อหมิงก็ยิ่งรู้สึกคับแค้นใจ
ติงอวิ๋นเองก็มีความรู้สึกอันซับซ้อน ที่นี่คือแผ่นดินจีน พวกเขาย่อมไม่ยินดีที่จะได้เห็นไหน่ไชแสดงตัวอหังการ เพียงแต่อีกทางหนึ่ง เขาก็เป็นคนทำธุรกิจ การที่จัดให้ไหน่ไชและจิ้นเฉิงประลองกัน ทำให้ได้รับความสนใจ และผู้คนส่วนใหญ่ก็วางเดิมพันข้างจิ้นเฉิง บรรดาผู้ที่วางเดิมพันข้างจิ้นเฉิงชนะ ครั้งนี้สูญเสียเงินทองกันถ้วนหน้า ขณะที่ติงอวิ๋นเป็นคนได้รับเงินทองเหล่านั้น เพียงแค่เรื่องนี้ ไหน่ไชก็แทบจะเทียบเท่าดาวรุ่งคนหนึ่ง
นอกจากนี้การได้มียอดฝีมือดังกล่าวอยู่ที่นี่ ก็เป็นส่วนช่วยสร้างชื่อให้ตัวคลับด้วย อีกทั้งความอหังการส่วนตัวของไหน่ไช มันจะทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่ยินดีที่จะวางเดิมพันข้างเขา ไม่ว่ามองทางใดล้วนเป็นเรื่องดีกับทางคลับทั้งสิ้น
ดังนั้นแล้ว ติงอวิ๋นจึงไม่อยากให้ไหน่ไชต้องพ่ายแพ้เร็วจนเกินไปนัก
“ก็คงไม่มีทางเลือก” ขณะหวังจื่อหมิงและติงอวิ๋นกำลังครุ่นคิดด้วยใจที่ต่างกันออกไป เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นภายในห้องส่วนตัว