ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 281 แสวงหาและสูญเสีย
บทที่ 281 แสวงหาและสูญเสีย
บทที่ 281 แสวงหาและสูญเสีย
คนหนุ่มที่ยืนตรงหน้าประตูร้านโลกในแหวน ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเมิ่งเว่ยฟาง เป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นและหัวหน้าห้องของอู๋ฝานสมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย เขามองรถของหม่าอิงเฟยด้วยความรู้สึกอิจฉา พลางตอบ “ฉันจะรอเพื่อนคนอื่นก่อนแล้วค่อยเข้าไปพร้อมกันน่ะ”
“ไม่ต้องรอแล้ว เข้าไปด้านในก่อน ชื่อของห้องส่วนตัวที่จองไว้ก็ส่งให้พวกเขาแล้ว เดี๋ยวมาถึงก็เข้าไปกันเองได้ ถ้ายังเอาแต่ยืนแบบนี้ คนไม่รู้จะคิดว่านายเป็นเด็กรับแขกหน้าประตูเอานะ” หม่าอิงเฟยตอบเมิ่งเว่ยฟาง
เมิ่งเว่ยฟางที่ได้ฟัง พลางมองชุดธรรมดาของตนเอง ก่อนจะมองชุดแบรนด์หรูของหม่าอิงเฟย เขารู้สึกอายขึ้นมาในใจ ตอนนี้จึงเปิดปากเอ่ยคำ “ก็ได้ งั้นเข้าไปด้านในกันก่อน”
เมิ่งเว่ยฟางคิดว่าหม่าอิงเฟยจะเข้าไปพร้อมกับตนเอง แต่แล้วหม่าอิงเฟยกลับเจตนาก้าวเดินเร็วกว่าสองก้าว นำหน้าเขาไปแล้ว เช่นนี้เมิ่งเว่ยฟางจึงเดินตามหลังหม่าอิงเฟย ด้วยการแต่งกายที่แตกต่างระหว่างคนทั้งสอง จึงทำให้ดูเหมือนเมิ่งเว่ยฟางเป็นผู้ติดตามของหม่าอิงเฟยอย่างไรอย่างนั้น
สีหน้าท่าทีของเมิ่งเว่ยฟางแข็งทื่อขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าหม่าอิงเฟยตั้งใจทำเช่นนี้หรือไม่ และเขาก็ไม่คิดถามอะไรที่มากความกว่านี้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงเดินตามหม่าอิงเฟยเข้าไปด้านใน
“ยินดีต้อนรับค่ะ ขออนุญาตสอบถามว่ามากี่ท่านคะ?” ทันทีที่คนทั้งสองเดินเข้ามา บริกรสาวจึงก้าวเข้ามาสอบถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ชื่อหม่าอิงเฟยครับ ก่อนหน้านี้ทำรายการจองห้องส่วนตัวเอาไว้” หม่าอิงเฟยเอ่ยปาก
“ค่ะ รบกวนรอตรวจสอบสักครู่นะคะ” บริกรสาวตอบรับ
ขณะรอบริกรสาวไปตรวจสอบ หม่าอิงเฟยจึงหันไปกล่าวกับเมิ่งเว่ยฟาง “ดูร้านนี้สิ สมแล้วที่ตอนนี้เป็นหนึ่งในร้านอาหารแถวหน้าในเจียงโจว การตกแต่งและบรรยากาศดูหรูหราเพียบพร้อม บรรยากาศก็ให้ความรู้สึกสบายผ่อนคลาย กระทั่งบริกรก็ยังสวยกว่าร้านอื่นด้วยซ้ำ สถานที่แบบที่นี่ หัวหน้าน่าจะไม่เคยได้มีโอกาสแวะมาก่อนจริงไหม?”
“ไม่เคย” เมิ่งเว่ยฟางส่ายหน้าตอบรับด้วยสีหน้าแข็งทื่อ
เดิม งานปาร์ตี้ครั้งนี้เมิ่งเว่ยฟางเป็นคนจัด เขาเลือกสถานที่ได้เรียบร้อยแล้ว เป็นร้านทั่วไปแห่งหนึ่ง แต่ตอนที่หม่าอิงเฟยรู้เรื่อง เขากลับโพล่งออกมาว่าร้านที่ใช้จัดงานเลี้ยงรุ่นค่อนข้างดูไม่สมราคาเกินไป ทุกคนไม่ได้มีโอกาสมารวมตัวกันได้ง่าย ๆ ดังนั้นจะต้องเลือกสถานที่ที่ดีพร้อมอย่างร้านอาหารหรู จากนั้น เขาจึงออกปากเลือกร้านโลกในแหวน
สำหรับสถานที่เช่นร้านโลกในแหวน เมิ่งเว่ยฟางย่อมไม่เคยได้มาเยือน เพียงแต่ต้องเคยได้ยินชื่อ และได้รู้ว่าเป็นร้านอาหารหรู วันเปิดร้านวันแรกยังได้รับการสนับสนุนเป็นกองทัพรถหรูจากลูกค้าชั้นแนวหน้า รถหรูเป็นอะไรที่มากกว่ารถธรรมดา ดังนั้นมันจึงเกิดความฮือฮาครั้งใหญ่ หลังจากนั้น ที่นี่ก็ยิ่งปรากฏผู้มั่งคั่งและทรงอำนาจในเจียงโจวมาทานมื้ออาหาร จัดงานเลี้ยง ทุกวันจะมีรถหรูเข้าออกที่นี่แทบไม่อาจนับ กระทั่งว่าปรากฏผู้ชื่นชอบรถบางคนเลือกมาที่นี่โดยเฉพาะ เพื่อรอดูสารพัดรถหรูที่แวะเวียนมาเยือน กล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นรถหรูคันใดที่มีในเจียงโจว หากมาที่นี่ย่อมได้เห็น
ดังนั้นแล้ว ตอนที่หม่าอิงเฟยเลือกจัดงานเลี้ยงรุ่นที่นี่ เมิ่งเว่ยฟางจึงตอบกลับไปว่าที่แห่งนี้หรูและค่าใช้จ่ายสูงจนเกินไป มากกว่าที่พวกเขาที่เพิ่งเรียนจบมาปีกว่าจะจ่ายได้ไหว
แต่หม่าอิงเฟยเป็นคนยืนกรานเลือกที่แห่งนี้ อีกทั้งยังกล่าวว่ามื้ออาหารในวันนี้ เขาจะออกหน้าเลี้ยงเอง
เพื่อนร่วมชั้นบางคนย่อมเคยได้ยินเรื่องของที่นี่ ตอนที่ได้ยินว่าหม่าอิงเฟยจะเลี้ยง พวกเขาจึงตกปากรับคำเป็นเสียงเดียว เมิ่งเว่ยฟางก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก เพียงแค่รู้สึกว่างานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้ เดิมทีเขาจัดขึ้นด้วยเจตนาดี แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นอื่นไปแล้ว
และตอนนี้เอง บริกรสาวที่ไปตรวจสอบข้อมูลก็กลับมา พร้อมเอ่ยปากบอกกล่าว “ขออภัยที่ให้ท่านทั้งสองต้องรอค่ะ เรียนเชิญทางด้านนี้นะคะ”
หม่าอิงเฟยพลันยื่นแขนมาคล้องคอเมิ่งเว่ยฟางพร้อมเอ่ย “ไปกัน เดี๋ยววันนี้ฉันแนะนำสถานที่ ให้นายได้เปิดหูเปิดตา พวกนายคงไม่มีโอกาสมาที่แบบนี้บ่อยนักหรอก”
เสียงของหม่าอิงเฟยค่อนข้างดัง ถึงขนาดบริกรที่อยู่ด้านหน้า และแขกที่มาใช้บริการคนอื่นยังได้ยินอย่างชัดเจน เรื่องนี้ยิ่งทำให้เมิ่งเว่ยฟางอับอาย ตอนนี้เขาไม่พอใจท่าทีของหม่าอิงเฟยมากกว่าเก่า แต่เขาไม่อาจพูดอะไรออกมา
เพราะที่หม่าอิงเฟยพูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริง หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายยืนกรานจะมาที่นี่วันนี้ และยังอาสาเลี้ยงทุกคน เขาก็คงไม่มีโอกาสได้มาทานมื้อเย็นในสถานที่เช่นนี้อย่างแน่นอน
แม้ว่าเป็นความจริง แต่เมื่อออกจากปากของหม่าอิงเฟย ใจของเมิ่งเว่ยฟางก็รู้สึกว่ามันบิดเบี้ยว เขาคิดอยากออกไปจากที่นี่ ทว่าสุดท้ายก็ไม่ใช่ว่าจะจากไปได้ง่าย ๆ กลับกัน เขาที่ทำอะไรอื่นไม่ได้ ทำให้มีแต่ต้องตามหม่าอิงเฟยไปยังห้องส่วนตัว
“เชิญท่านทั้งสองค่ะ” ขณะนี้เอง ที่บริกรสาวนำคนทั้งสองเข้าสู่ห้องส่วนตัว
“บรรยากาศของห้องส่วนตัวนี่ดีจริง ๆ” หลังบริกรออกไปแล้ว หม่าอิงเฟยจึงสำรวจสภาพแวดล้อมภายในห้องส่วนตัว พร้อมกับชื่นชมด้วยความพึงพอใจ
บรรยากาศภายในร้านโลกในแหวนค่อนข้างดี เจ้าของเดิมตกแต่งเอาไว้ได้ดีเยี่ยมแล้ว หลังจากนั้นอู๋ฝานก็ช่วยขัดเกลาให้มันดีเยี่ยมกว่าที่เคยเป็น ทำให้บรรยากาศภายในร้านยิ่งดีขึ้น หากเทียบกับร้านอาหารแถวหน้าในเจียงโจวทั้งหลาย ที่นี่ไม่ได้ด้อยกว่า กระทั่งว่าดีกว่าด้วยซ้ำ!
“อย่าเอาแต่ยืนสิ มานั่งตรงนี้” หม่าอิงเฟยบอกเมิ่งเว่ยฟางประหนึ่งเป็นผู้จัดงานในวันนี้ขึ้น
เขาเป็นคนอาสาจะเลี้ยงในงานปาร์ตี้วันนี้ ดังนั้นจะทำตัวเป็นเจ้าของงานก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ไม่นานเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ในเจียงโจวต่างก็มาถึง หลังมาถึงแล้ว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องชื่นชมกับทั้งบรรยากาศและงานบริการ ขณะเดียวกัน หม่าอิงเฟยก็ได้รับเสียงขอบคุณอย่างท่วมท้นบราวนี่ออนไลน์
“ไม่ต้องมากมารยาทอะไรกันไป ทำตัวตามสบาย อยากกินอะไรก็สั่ง ฉันเลี้ยงเอง!” หม่าอิงเฟยบอกกับกลุ่มคน
“พี่หม่าเจ๋งสุด!” เพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งเอ่ยคำขึ้น
“เรียกพี่หม่าได้ยังไง ต้องเรียกประธานหม่า เป็นประธานหม่าผู้ยิ่งใหญ่!” อีกคนหนึ่งรับต่อบทสนทนาอย่างลื่นไหล
“ใช่! ใช่! ปากฉันนี่ก็เหลือเกิน นึกว่ายังเป็นสมัยเรียนอยู่ ขอประธานหม่าอย่าถือสา”
“ไม่เป็นไร พวกเราเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน เรียกประธานหม่ามีแต่ทำให้อึดอัดใจกันเปล่า ๆ” หม่าอิงเฟยหัวเราะตอบรับ สีหน้าในตอนนี้ยิ้มกว้างเบิกบาน
“ไม่ได้สิ ต้องเรียกประธานหม่า เพราะครอบครัวท่านประธานหม่าประกอบธุรกิจ ในอนาคตต้องได้เป็นเถ้าแก่ไม่ใช่เหรอ? ยังจะอึดอัดใจอะไรกัน เงินเดือนของพวกเราเดือนหนึ่งยังไม่ได้อาหารมื้อหนึ่งของประธานหม่าเลยด้วยซ้ำ”
“ถูกต้องแล้ว! ประธานหม่า เห็นแก่การที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้น ในอนาคตอาจต้องให้ประธานหม่าช่วยดูแลบ้างแล้ว”
“ได้อยู่แล้ว” หม่าอิงเฟยยิ่งฉีกยิ้มกว้าง พลางดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจ
เมิ่งเว่ยฟางนั่งอยู่อีกด้าน สายตากำลังมองเรื่องราวอย่างจนใจ
ตอนยังเรียนมหาวิทยาลัย เขาคือหัวหน้าชั้นเรียน เป็นสมาชิกสภานักศึกษา เป็นจุดสนใจของชั้นเรียน จัดงานประชุมชั้นเรียน จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ยามค่ำคืนและอีกมากมาย ตลอดมาเป็นจุดสนใจของผู้อื่นมาโดยตลอด แต่หลังเรียนจบ ผ่านพ้นไปเพียงแค่หนึ่งปี ทุกสิ่งกลับเปลี่ยนไป เขาไม่ใช่จุดสนใจอีกต่อไปแล้ว แต่หม่าอิงเฟยที่ไม่เคยได้รับความสนใจในสมัยยังเรียนกลับได้ขึ้นมาแทนที่เขา กลายเป็นเป้าหมายของทุกคนในที่นี้
และเหตุผลนั้นมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือเงิน!
หม่าอิงเฟยร่ำรวย อย่างน้อยก็ร่ำรวยกว่าทุกคนในที่นี้ สมัยเรียน พวกเขาแทบไม่เคยเข้าใจเรื่องราวของอำนาจเงินมาก่อน แต่หลังได้ออกสู่สังคม พวกเขาจึงได้ตระหนักว่าหากไร้ซึ่งเงินก็ไม่อาจทำอะไรอื่นได้ ดังนั้นหม่าอิงเฟย ที่เคยเป็นคนนอกสายตาของคนอื่น จึงกลับกลายเป็นจุดสนใจขึ้นมา