ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 298 ความแตกต่าง
บทที่ 298 ความแตกต่าง
บทที่ 298 ความแตกต่าง
เพราะความไม่เป็นระเบียบของกลุ่มคน แม้ว่าจะเดินทางไม่ไกลนัก แต่กลับต้องใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วยาม
ทว่าโฉวหย่งเชาก็ไม่ใส่ใจในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับเขาที่กำลังจะพิชิตหมู่บ้านตรงหน้า
ไม่นานก็เห็นหมู่บ้านเร้นลับ โฉวหย่งเชาชี้ไปทางหมู่บ้านเร้นลับที่อยู่ไม่ไกลพร้อมตะโกนบอกกลุ่มคน “เห็นหมู่บ้านตรงหน้าของพวกเราหรือไม่? มันคือเป้าหมายในวันนี้ของพวกเรา จัดการมันเสีย แย่งชิงอาหาร เงินทอง สตรี อะไรที่ช่วงชิงได้จงเอามาให้หมด! ถ้าเจอใครต่อต้านก็ไม่ต้องคุยให้มากความ ได้ยินชัดเจนแล้วใช่หรือไม่?!”
“ได้ยินขอรับ!” กลุ่มคนต่างตอบรับ แม้จะเสียงดัง แต่ไม่พร้อมกันนักก็ตาม
แม้เสียงตอบรับจะไม่ได้ชวนรื่นหูน่ารับฟัง ทว่าสีหน้าของทุกคนต่างก็เป็นเช่นเดียวกัน นั่นคือความกระหายและตื่นเต้น
มีเป้าหมายให้ปล้นชิง หมายความว่าพวกเขาจะได้มีช่วงเวลาดี ๆ กันอีกครั้ง
ตอนนั้นเอง ความเร็วในการเดินเท้าของกลุ่มคนเร็วกว่าก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด บางคนกระทั่งวิ่งตรงออกไป เป้าหมายของพวกเขาคือหมู่บ้านเร้นลับ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้โฉวหย่งเชาชี้ชัดอีกแต่ประการใด เพราะทรัพยากรของหมู่บ้านมีอย่างจำกัด ฝั่งพวกเขาก็มีคนไม่ใช่น้อย ดังนั้นจึงเป็นใครดีใครได้ ใครมาช้าก็ไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผม
ดังนั้นทุกคนในที่นี้จึงรีบตรงไปที่หมู่บ้านโดยไม่มีใครรอใคร ราวกับเกรงว่าจะช้ากว่าผู้อื่น จนตนไม่ได้รับอะไร
เดิมนั้นก็ไม่มีแบบแผนการเดินขบวนทัพอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งชุลมุนวุ่นวาย ในใจของพวกเขาไม่มีเรื่องขบวนทัพอะไรทั้งสิ้น มีแต่ความคิดที่จะพุ่งเข้าไป
โฉวหย่งเชาที่เห็นก็หาได้ใส่ใจ กระทั่งปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าซะด้วยซ้ำ เขาแทบไม่ต้องกังวลเรื่องใดทั้งสิ้น มันไม่มีเหตุให้ผู้บังคับบัญชาต้องลงมือแต่อย่างใด ตราบใดที่ส่งคนเหล่านี้พุ่งเข้าไป หมู่บ้านตรงหน้าก็มีแต่จะแหลกเละ หลายหมู่บ้านที่ผ่านมาก็เป็นเช่นเดียวกันทั้งสิ้น และอีกหนึ่งอย่างหมู่บ้านตรงหน้านี้ก็จะต้องมีชะตากรรมเดียวกัน ไม่มีอะไรให้น่าประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย
และไม่ว่าใครจะคว้าเอาสิ่งใดมาได้ เขาผู้เป็นหัวหน้าจะได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ข้างกายของเขาคือกลุ่มคนหนุ่มที่ขี่ม้าเดินช้า ๆ พวกเขาคือทหารส่วนตัวที่โฉวหย่งเชาคัดเลือก ทุกคนแข็งแกร่ง ทั้งยังได้รับการดูแลดีกว่าใครเพื่อน คนอื่นต้องหิวโหยอยู่บ่อยครั้ง แต่คนเหล่านี้มักจะได้กินเนื้อ ขณะที่ผู้อื่นไม่มีอาวุธใช้งาน พวกเขากลับไม่ได้ขาดแคลนอาวุธหรือเครื่องป้องกันใด กระทั่งมีม้าไว้ใช้ขี่ซะด้วยซ้ำ
สำหรับกลุ่มคนนับสิบเหล่านี้ โฉวหย่งเชาค่อนข้างให้ความใส่ใจ เพราะอีกฝ่ายคือกำลังหลักของเขา ไม่ว่าจะในตอนที่เดินทัพหรือต่อสู้ พวกเขาจะคอยอยู่ใกล้ ๆ ตนอยู่เสมอ
ที่ทางเข้าของหมู่บ้านเร้นลับ อู๋ฝานและคณะยืนรออยู่ก่อนแล้ว สายตาจ้องมองตรงหน้า พวกเขาย่อมได้เห็นกองทัพกบฏที่กำลังมุ่งเข้ามา ชายหนุ่มและกลุ่มทหารที่เคยร่วมรบด้วยกันมาก่อน ยังคงมีสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน ขณะที่บรรดาผู้มาใหม่ แม้พวกเขาได้อู๋ฝานช่วยปลุกขวัญกำลังใจ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นกำลังคนของกองทัพกบฏมุ่งหน้าเข้าหาประหนึ่งคลื่นที่พร้อมซัดให้เลือนหาย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
จำนวนคนหลายพัน! แต่ฝั่งพวกเขามีกันเท่าไหร่? แม้ที่ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขาจะมีแรงงานรวมอยู่ด้วย แต่จำนวนก็แค่ไม่กี่ร้อย พวกเขารู้ดีแก่ใจว่าหน้าที่ของคนเหล่านี้ก็แค่ทำให้ศัตรูหวาดเกรงในจำนวน หากปะทะกันขึ้นจริง ๆ คนที่พวกเขาพึ่งพาได้ ก็มีเพียงกำลังรบหกสิบกว่าคนเท่านั้น
หกสิบเผชิญหน้าหลายพัน มันเป็นจำนวนที่ไม่เห็นโอกาสเอาชนะเลยแม้แต่น้อย หากพวกเขาไม่สิ้นหวังจนถึงที่สุด พวกเขาก็คงไม่มีทางอยู่ที่นี่ เพราะมันแทบไม่ต่างอะไรกับการเดินหน้าเข้าหาความตาย
“ไม่มีอะไรต้องกลัว ทุกอย่างจะเรียบร้อย! พวกมันไม่อาจตีที่นี่ให้แตกได้! ชัยชนะจะเป็นของพวกเรา!” อู๋ฝานรู้ถึงความตึงเครียดทางสีหน้าของกลุ่มคน ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมา
ศักยภาพของคนเหล่านี้ อู๋ฝานรู้ดีอยู่แก่ใจ ครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับศัตรู พวกเขาก็เหมือนกับคนอื่น ในใจร้อนรน แข้งขาอ่อนเรี่ยวแรง และแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะหาโอกาสเผ่นหนี
ทว่าตราบใดที่มีใครยืนหยัดเอาไว้ได้ ตอนนั้นเรื่องราวภายหน้าจะต้องราบรื่นอย่างน่าเหลือเชื่อเป็นแน่ ตราบเท่าที่พวกเขารอดจากศึกครั้งนี้ไปได้ พวกเขาจะเป็นผู้รอดชีวิต เป็นทหารที่แท้จริง และนั่นคือสิ่งที่อู๋ฝานต้องการ
หน่วยรักษาการณ์ของหมู่บ้านอื่นไม่ได้แข็งแกร่งอะไร อย่างไรแล้วพวกเขาก็ไม่เคยสังกัดกองทัพประจำการ เพียงแค่จัดตั้งขึ้นมาชั่วคราว ไม่ได้รับการฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบ ไม่มีอาวุธและเครื่องป้องกัน ไม่มีรูปขบวนกลยุทธ์ ดีที่สุดก็ทำได้เพียงข่มขวัญโจรตัวเล็ก ๆ หากเจอกองทัพกบฏที่พร้อมสู้อย่างจริงจัง พวกเขาก็ไม่มีความสามารถพอจะต่อต้าน
อู๋ฝานไม่อยากเห็นหน่วยรักษาการณ์ภายใต้การบัญชาของตนเผชิญสถานการณ์ดังกล่าว เขาต้องการให้หน่วยรักษาการณ์เป็นเหมือนกองทัพประจำการ ไม่ว่าจะด้านอาวุธหรือกลยุทธ์การต่อสู้ พวกเขาจะต้องไม่ด้อยไปกว่ากองทัพประจำการ
ดังนั้นศึกที่โหดร้ายคือสิ่งจำเป็นที่พวกเขาจะต้องข้ามผ่าน มีเพียงเหตุการณ์นี้จึงทำให้พวกเขาได้ซึมซับประสบการณ์ที่แท้จริงบราวนี่ออนไลน์
คำพูดของอู๋ฝาน ทำให้อารมณ์ของกลุ่มคนเริ่มสงบลงได้ นับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ ชายหนุ่มยังคงยืนหยัดตรงหน้าพวกเขา เพราะเหตุนั้นจึงทำให้ในใจของคนเหล่านั้นรู้สึกปลอดภัย
อู๋ฝานทั้งมั่งคั่งและมีอำนาจ แต่กลับยังไม่หวาดกลัวต่ออันตรายเช่นเหตุการณ์ครั้งนี้ แล้วเช่นนั้นพวกเขายังต้องหวาดกลัวอะไรอีก?
ลั่วเยวี่ยกำดาบใหญ่ในมือของตนเอาไว้แน่น ดาบดังกล่าวอู๋ฝานเป็นคนสร้างให้ นางจะคอยยืนหยัดเคียงข้างเขา ทั้งปลายหางตายังคอยจับจ้องมองสถานการณ์ของชายหนุ่มอยู่ตลอด ตอนนี้ในสายตาของนางมีทั้งความนับถือ ความรู้สึกขอบคุณ และความรู้สึกหลงใหลผสมผสานเข้าด้วยกัน เมื่อเด็กสาวมองกองทัพกบฏที่ใกล้เข้ามา สีหน้าหรือแววตาก็หาได้เปลี่ยนแปลงไป
ไม่ว่าสถานการณ์ที่ต้องเผชิญจะเป็นเช่นไร นางจะไม่มีทางปล่อยอู๋ฝานให้ตกอยู่ในอันตรายเด็ดขาด ต่อให้ต้องจ่ายด้วยชีวิต ตนก็ยังยินดีจะปกป้องชายหนุ่มเอาไว้!
เจ้าตัวน้อยยังคงยืนบนไหล่ของอู๋ฝาน สายตาสงสัยของมันมองออกไปนอกหมู่บ้าน ราวกับรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ท่าทีของมันเงียบสงบกว่าที่เคยเป็น
“บุก!”
“บุกเข้าไป ฆ่าผู้ชาย ชิงผู้หญิง!”
“อย่าแซงหน้า ข้าต้องไปก่อน!”
เสียงจากทหารของกองทัพกบฏด้านนอกกำลังโถมเข้าใส่หมู่บ้าน พวกเขาเห็นกลุ่มคนที่อยู่ในหมู่บ้านจึงชะงักกันไปบ้าง ทั้งรู้สึกว่าเหตุใดหมู่บ้านนี้จึงแตกต่างจากหมู่บ้านที่เคยไปเยือน? ทำไมอีกฝ่ายคล้ายทราบอยู่ก่อนแล้ว? กระทั่งมารวมตัวกันที่ทางเข้าหมู่บ้านกันพร้อมหน้าเช่นนี้เลยงั้นหรือ?บราวนี่ออนไลน์
นอกจากนี้ อีกฝ่ายยังไม่มีท่าทีหวาดกลัวแตกตื่นจนหลบหนีแม้เห็นกลุ่มคนมากมายฝั่งพวกตน เหตุใดถึงไม่เหมือนหมู่บ้านอื่นที่เคยปล้นชิง?
ทว่าความรู้สึกนั้นคงอยู่เพียงแค่ชั่วขณะ พวกเขาทิ้งความรู้สึกสงสัยเอาไว้ในใจ ฝีเท้ายังคงบุกไปที่หมู่บ้านต่อ
เตรียมตัวรอไว้ก่อนแล้วอย่างไร? ก็แค่ไม่มีที่ให้หนีไม่ใช่หรือ?
เผชิญหน้ากับกองทัพจำนวนมาก อีกฝ่ายจะพ่ายแพ้เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลา ด้วยจำนวนคนเพียงแค่นั้น หมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังกล้าที่จะคิดต่อกรกับพวกเขาอีกงั้นหรือ?
น่าขันนัก!
ขอเพียงแค่บุกสักครั้งหนึ่ง กองทัพของพวกเขาก็พร้อมจะบดขยี้หมู่บ้านให้พังทลาย การยืนขวางทางตรงหน้าตอนนี้ มันไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย!
เพราะการบุกหลายครั้งก่อนหน้านี้ มีแต่การปล้นชิงที่ราบรื่นจนทำให้ทหารกองทัพกบฏย่ามใจไม่ทันระวังหมู่บ้านใหม่ที่เจอ ในสายตาของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านใด เมื่อเผชิญหน้ากับการบุกเช่นนี้ ก็มีแต่จะต้องย่อยยับ!
“อ๊าก!”
ขณะทหารกองทัพกบฏกำลังคิดว่าจะสังหารกลุ่มคนหน้าโง่ตรงหน้าเช่นไรดี บางส่วนที่มุ่งไปด้านหน้าก่อนใครเพื่อน ยามนี้แผดเสียงร้องโหยหวนดังออกมา!