ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 308 โหวเสี่ยวกวงเดินทางกลับ
บทที่ 308 โหวเสี่ยวกวงเดินทางกลับ
บทที่ 308 โหวเสี่ยวกวงเดินทางกลับ
หลังอู๋ฝานเทเลพอร์ตกลับมา เขาก็นอนบนที่นอน สายตาทอดมองเพดาน ในใจกำลังย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
การต่อสู้ครั้งนี้อันตรายเกินไป แต่เพราะเตรียมตัวรับศึกไว้ตั้งแต่แรก รวมกับความเหนือชั้นทางด้านอาวุธ รวมถึงวิชาดำดิน จึงทำให้ศึกครั้งนี้ได้รับชัยชนะ ทว่าก็ค่อนข้างตึงมือ เห็นได้ชัดว่าผลสรุปแล้วก็ไม่ได้ราบรื่นเท่าใดนัก
ระหว่างการต่อสู้ แม้ความคิดจะค่อนข้างมุ่งมั่น แต่ใจกลับเกิดความประหม่า ศึกครั้งนี้แตกต่างไปจากครั้งก่อน แม้ครั้งก่อนก็อันตรายไม่แพ้กัน ทว่าหากจวนตัวจนถึงที่สุด อู๋ฝานก็ยังเลือกหลบหนีไปได้
แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ หมู่บ้านเร้นลับคือฐานของเขา หากถูกทำลาย ไม่เพียงจะสูญเสียทรัพย์สินในเกม ทว่าความมั่นคงในโลกความเป็นจริงก็ยังจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก หรืออาจถึงขั้นสูญเสียตามไปด้วย
ดังนั้น เขาจึงต้องสู้ศึกครั้งนี้จนหลังชนฝา และมีแต่ต้องชนะให้ได้เท่านั้น!
อย่างน้อย ในที่สุดเขาก็ชนะมาได้
“เฮ้อ นี่ก็ถึงเวลาเปลี่ยนที่อยู่แล้วละมั้ง?” ขณะจ้องมองเพดาน อู๋ฝานที่เพิ่งนึกถึงศึกที่ผ่านไปอยู่ในใจ เกิดความคิดว่าควรต้องซื้อบ้านอย่างกะทันหัน เรียกได้ว่าความคิดและหัวข้อเปลี่ยนแปลงไปในชั่วพริบตา
การซื้อบ้าน โดยเฉพาะกับที่เจียงโจว หากเป็นอู๋ฝานในอดีต มันถือเป็นเรื่องเกินตัว ที่แทบไม่อาจเป็นไปได้ มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในเจียงโจวไม่ใช่อะไรที่คนอย่างเขา ที่จบการศึกษามาเพียงแค่หนึ่งปีและไม่มีงานที่มั่นคงที่สามารถจ่ายได้ไหว
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว งานประมูลครั้งล่าสุด นอกจากซื้อร้านอาหารและปรับปรุงตกแต่งใหม่ เขายังพอมีเงินเหลืออีกส่วน มันเพียงพอหากคิดนำมาใช้ซื้อบ้าน
ทว่าหลังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง อู๋ฝานก็เลือกทิ้งความคิดซื้อบ้านออกไปก่อน ที่ที่เขาอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าดีพร้อมแล้ว ได้อยู่คนเดียว แม้ว่าจะเป็นบ้านเช่า แต่สภาพแวดล้อมก็ค่อนข้างดี ไม่มีใครมารบกวน อีกทั้งตัวเขาในตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ต้องใช้เงินกับอีกหลากหลายอย่าง การเก็บออมเงินสำรองเอาไว้ ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ในช่วงเช้า ตอนที่ไปออกกำลังกายกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ อู๋ฝานก็ได้เห็นว่าเธอมองมาเหมือนกับลังเลอะไรบางอย่าง คล้ายอยากพูดอะไรออกมา แต่ไม่ทราบว่าจะเริ่มอย่างไร
“เป็นอะไรไปครับ?” อู๋ฝานเป็นฝ่ายเริ่มออกปากถาม
“ไม่มีอะไรค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ตอบกลับมาทันที แต่ท่าทีลังเลกลับปรากฏบนใบหน้าของเธออีกครั้ง สายตาหลบเลี่ยงไม่มองอู๋ฝาน ทว่าสุดท้ายก็เอ่ยเสียงเบาออกมา “คุณคิดว่าวิธีกำจัดรอยแผลเป็นที่เคยพูดก่อนหน้านี้ จะทำได้จริงไหมคะ?”
สายตาของอู๋ฝานลอบมองแขนของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ที่แท้เรื่องที่อีกฝ่ายลังเลจะพูดไม่พูดอยู่นาน ก็เป็นเพราะประเด็นนี้นี่เอง
ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนต่างก็ต้องมีความรักสวยรักงามในตัวเอง แม้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เธอเองก็ยังต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น
ทว่าในตอนนี้อู๋ฝานยังไม่มีข่าวดีขนาดยืนยันได้มาบอกกับเธอ “ตอนนี้ยังไม่มีวิธีครับ”
อาจารย์ปรุงยาหลี่กำลังศึกษาหาทางกำจัดรอยแผลเป็นอย่างสมบูรณ์อยู่ ทว่าตอนนี้ยังไม่สำเร็จ
“อา” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ยากที่จะปิดบังสีหน้าผิดหวังออกมา ท่าทีตอนนี้ราวกับหมดเรี่ยวแรง ทว่าเธอก็กลับมาเป็นปกติในเวลาสั้น ๆ ประหนึ่งว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้นมาก่อน
อู๋ฝานคิดพูดอะไรปลอบ แต่ในเมื่อยังไม่มีวิธีกำจัดรอยแผลเป็น ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไป มันก็คงไม่ช่วยอะไร
‘ก็หวังว่าทางด้านอาจารย์ปรุงยาหลี่จะทำสำเร็จในเร็ว ๆ นี้แหละนะ’ อู๋ฝานได้แต่ครุ่นคิดอยู่ภายในใจ
ขณะที่อู๋ฝานเดินกลับจากมหาวิทยาลัยเจียงโจว เขาก็ได้รับสายจากโหวเสี่ยวกวง
หลังมื้อเย็นในวันนั้น อู๋ฝานและโหวเสี่ยวกวงก็มีนัดพบกันส่วนตัวอีกหลายครั้ง ปัจจุบันโหวเสี่ยวกวงยังไม่ได้เดินทางไปจากเจียงโจว ในช่วงหลายวันมานี้ เขายังต้องหารือเรื่องความร่วมมือกับคนจากตระกูลถัง
“ฝานจื่อ ฉันจะกลับแล้วนะ” จากปลายสาย โหวเสี่ยวกวงบอกกับอู๋ฝาน
“กลับแล้วเหรอ? ไม่อยู่เจียงโจวอีกหลาย ๆ วันล่ะ? จัดการเรื่องความร่วมมือเรียบร้อยแล้วเหรอ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“เรื่องเจรจาเรียบร้อยดีแล้ว ได้ลูกพี่ใหญ่อย่างนายออกหน้า การเจรจาร่วมมือราบรื่นจนไม่รู้จะราบรื่นกว่านี้ได้ยังไงแล้ว ฉันไม่คิดเลยว่าหนึ่งปีมานี้นายจะก้าวหน้าได้ดีถึงขนาดนี้” โหวเสี่ยวกวงหัวเราะตอบ “ฉันเองก็ต้องกลับแล้ว จะได้ไปบอกข่าวดีกับทุกคนด้วยตัวเอง”
โหวเสี่ยวกวงเดินทางมาเจียงโจวครั้งนี้ เป็นการแบกความหวังของทั้งหมู่บ้านมาด้วย คนอื่นกำลังรอให้เขาเดินทางกลับไปพร้อมข่าวดี ชายหนุ่มรู้ภาระนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นพอเรื่องการเจรจาเสร็จเรียบร้อย เขาก็ไม่อาจรอที่จะเดินทางกลับได้
“รอเดี๋ยวก่อน ฉันมีเรื่องจะพูดกับนายอีกหน่อย ตอนกลางวันไปรอฉันที่ร้านได้ไหม” อู๋ฝานเอ่ยปาก
“เรื่องอะไรเหรอ?” โหวเสี่ยวกวงเอ่ยถาม
“เรื่องความร่วมมือนี่แหละนะ” อู๋ฝานหัวเราะตอบ “ไว้เจอหน้าค่อยคุยรายละเอียด”
“ได้!” โหวเสี่ยวกวงค่อนข้างสงสัยกับคำพูดของอู๋ฝาน เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการหารือเรื่องความร่วมมืออะไร
ตอนกลางวัน หลังอู๋ฝานทำงานเสร็จเรียบร้อย จึงไปพบโหวเสี่ยวกวงที่รออยู่นานแล้วในห้องส่วนตัวของร้าน
“ร้านของนายนี่ไม่เลวเลย ชั้นบนกับชั้นล่างมีลูกค้าแน่นเชียว วันหนึ่งคงได้กำไรไม่น้อย” โหวเสี่ยวกวงเอ่ยขึ้นมา
เห็นอู๋ฝานได้ดิบได้ดี โหวเสี่ยวกวงก็รู้สึกดีใจแทนอีกฝ่ายจากใจจริง
“ไม่เลวเลยนั่นแหละนะ” อู๋ฝานยิ้มตอบรับ แต่ไม่ได้มีท่าทีโอ้อวด
จริง ๆ ในปัจจุบัน ร้านโลกในแหวนของอู๋ฝาน แต่ละวันมีเงินหมุนเวียนเกือบหนึ่งล้าน อัตราการเติบโตระดับนี้เรียกได้ว่าน่าทึ่งจนน่าหวาดเกรง ร้านนี้ของชายหนุ่มเพิ่งเปิดทำการได้ไม่นาน ประสบความสำเร็จระดับนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่อู๋ฝานทราบดีว่าเมื่อใดที่เงินหมุนเวียนเกินกว่าหนึ่งล้าน มันก็เป็นเรื่องยากที่จะเติบโตขึ้นได้อีก อย่างไรที่นี่ก็รองรับลูกค้าจนเต็มทุกวัน หากต้องการทำให้เงินหมุนเวียนเติบโตมากขึ้นอีก ก็จำเป็นต้องหาหนทางอื่น
“ในบรรดาเพื่อนร่วมชั้นมากมายของพวกเรา นายเป็นคนเดียวที่นำโด่งเลยนะ” โหวเสี่ยวกวงตอบกลับ “แล้วที่โทรคุยกันก่อนหน้านี้นายพูดเรื่องความร่วมมืองั้นเหรอ? จะช่วยเลี้ยงดูปูเสื่อฉันรึไง?
ระหว่างโหวเสี่ยวกวงกับอู๋ฝาน เพราะสัมพันธ์อันดีที่เรียกว่าเป็นเพื่อนสนิท จึงแทบไม่จำเป็นต้องมากมารยาทอะไร
ทว่าในใจของโหวเสี่ยวกวงนั้น จริง ๆ แล้วคิดไม่ออกว่าอู๋ฝานจะร่วมมืออะไรกับตนเองได้ ทั้งสองตอนนี้แทบจะเป็นเส้นขนานที่ไม่น่าจะมาข้องเกี่ยวกัน
“นายนี่นะ” อู๋ฝานหัวเราะ “นายได้กินอาหารที่ร้านเราหลายครั้งแล้ว ความรู้สึกของนายกับอาหารของที่นี่ คิดว่ารสชาติเป็นยังไง?”
“สมบูรณ์แบบ!” โหวเสี่ยวกวงยกนิ้วโป้งให้จากใจจริง “ฉันไม่เคยกินอาหารที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ ฝีมือเชฟของร้านนายน่าประทับใจมาก นายไปหามาได้ยังไง?”
โหวเสี่ยวกวงไม่ได้รู้ว่าเชฟที่ทำอาหารให้เขาได้ทานมาหลายครั้ง ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอู๋ฝาน
อู๋ฝานก็ไม่มีเจตนาที่จะบอก “อันที่จริง สาเหตุที่อาหารของร้านเรามีรสชาติที่ดีนั้น นอกจากฝีมือของเชฟที่ถือว่าดีที่สุดในเจียงโจวแล้ว ก็ยังมีเรื่องของวัตถุดิบด้วย ร้านของเรามีแหล่งวัตถุดิบที่ค่อนข้างพิเศษ”
“พิเศษงั้นเหรอ? หมายความว่ายังไง?” โหวเสี่ยวกวงสงสัย
“เพราะพวกเราไม่ได้ซื้อวัตถุดิบจากตลาดการค้าทั่วไป แต่ซื้อจากช่องทางที่มีการกำหนดและจองเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว” อู๋ฝานตอบกลับ “อย่างผลไม้ของนาย ที่ร้านฉันก็ต้องการใช้ผลไม้เหมือนกัน แต่ฉันไม่ได้ซื้อจากนายโดยตรง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงแนะนำคนจากตระกูลถังให้กับนาย”