ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 330 เจ้าหย้าหนานล้มป่วย
บทที่ 330 เจ้าหย้าหนานล้มป่วย
บทที่ 330 เจ้าหย้าหนานล้มป่วย
“อาจารย์อู๋ คุณ… นี่มัน…” ระหว่างทางกลับ ถังอวี่เฟยยังไม่อาจดึงสติกลับมาได้ ความคิดที่ว่าอู๋ฝานชนะเดิมพันได้เงินหลายสิบล้านหยวน ด้วยการลงทุนเพียงแค่หนึ่งหยวน มันยังทำเธอรู้สึกเกินกว่าจะเชื่อได้จนพูดไม่ออก
เชื่อว่าคนที่มีอาการเช่นนี้ไม่ได้มีเพียงถังอวี่เฟย แต่คนอื่นในคืนนี้ ต่างก็ต้องรู้สึกเหมือนเธอ
“เป็นอะไรไปครับ?” อู๋ฝานเผยยิ้มบาง “ก็ใช้วิธีการตามกฎ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย จริงไหมครับ?”
“มันก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบกลับ “แต่พอมาคิดดูแล้ว มันก็ทำให้คนอื่นรู้สึกว่ายากที่จะเชื่อได้จริง ๆ ถ้าฉันรู้แบบนี้ ฉันคงวางเดิมพันข้างอาจารย์อู๋ไปแล้ว ต่อให้วางเดิมพันแค่สิบหยวน ฉันก็ยังได้รับอย่างน้อยสิบล้านสินะ เฮ้อ”
ถังอวี่เฟยมองอู๋ฝานจนเกือบจะกลายเป็นการจ้อง ทว่าชายหนุ่มแค่หัวเราะตอบ “ใครใช้ให้ไม่เชื่อมั่นในตัวผมกันล่ะครับ สมควรแล้ว”
“ใครจะรู้ล่ะคะว่าคุณจะยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้ ไม่ว่าหานเป่าฟางหรือไช่หงก็ไม่สามารถสู้ได้ ทั้งที่พวกเขาเป็นอดีตนักแข่งรถมืออาชีพเลยนะคะ” ถังอวี่เฟยบ่นพึมพำออกมา “อาจารย์อู๋ ฉันเห็นคุณเก่งรอบด้าน ฝีมือการทำอาหารเป็นเลิศ เป็นผู้ฝึกตน เป็นนักขับรถที่เก่งกาจ หน้าตาก็ดี เหมาะที่จะเป็นแฟนหนุ่มในฝันของใครหลายคน ถ้าได้เป็นแฟนคงไม่มีอะไรในชีวิตนี้ให้ต้องเสียดายแล้ว ไม่สิ นับจากนี้ฉันเป็นแฟนของคุณแล้วนี่นะ คิดจะโต้แย้งเรื่องนี้ไหมคะ? ไม่ต้องแสดงความเห็นอะไรยิ่งดี”
“อีกแล้วเหรอครับ?” อู๋ฝานหัวเราะอย่างขื่นขม ถังอวี่เฟยที่ดีพร้อมไปหมด แต่บ่อยครั้งก็มักจะทำอะไรที่บ้าบิ่นเหมือนกัน
“ฉันพูดจริงนะคะ” ถังอวี่เฟยจ้องตาอู๋ฝาน
อู๋ฝานลอบมองถังอวี่เฟยอย่างไม่ทันรู้ตัว ใบหน้าของเธอนั้น แทนที่จะมีความแง่งอนดังเช่นที่เคยแสดงออก หรือเป็นอาการหยอกเย้า แต่ตอนนี้กลับจริงจังมุ่งมั่น
“ชอบเราจริงงั้นเหรอเนี่ย?” อู๋ฝานครุ่นคิดอยู่ภายในใจ
ทว่าเมื่อคิดดูแล้ว อู๋ฝานก็มองว่าอาจไม่ใช่ ถังอวี่เฟยมักเป็นคนที่ทำอะไรตามใจ ส่วนใหญ่แล้วมักจะล้อเล่นมากกว่าพูดจริง
‘เดาว่าถ้าจริงจังตอบ คงถูกเธอล้อเล่นอีกครั้งแน่’ อู๋ฝานครุ่นคิดกับตัวเอง ‘โชคดีที่เราไม่ได้ใสซื่อขนาดนั้น’
“อาจารย์อู๋ คิดอะไรอยู่กันคะ?” เมื่อเห็นอู๋ฝานนิ่งเงียบไป ถังอวี่เฟยจึงต้องเอ่ยถามอีกครั้ง
“คิด? ผมไม่ได้คิดอะไรเลยครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “แล้วก็ พวกเรามาถึงแล้วครับ”
เมื่อถังอวี่เฟยมองออกไปทางด้านนอก ก็มั่นใจว่ากลับมาถึงร้านของอู๋ฝาน และอยู่บริเวณลานจอดรถเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ค่ะ คุณต้องให้คำตอบกับฉันก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ออกไปจากรถคันนี้ค่ะ” ถังอวี่เฟยปฏิเสธที่จะถอย
“ผมไม่ได้คิดอะไรเลยจริง ๆ ครับ” อู๋ฝานตอบกลับ ทำไมวันนี้อีกฝ่ายถึงดูมุ่งมั่นจะหลอกเขาซะให้ได้?
ทันใดนั้นเองที่โทรศัพท์ของอู๋ฝานดังขึ้นอย่างกะทันหัน ราวกับเห็นผู้ช่วยชีวิต อู๋ฝานรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย โดยไม่มองด้วยซ้ำว่าใครโทรมา
“อู๋ฝาน ฉันเองนะคะ พอจะมีเวลาแวะมาที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์หรือเปล่าคะ? ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย” เสียงอ่อนแรงของเจ้าหย้าหนานดังมาจากปลายสาย
อู๋ฝานประหลาดใจเล็กน้อยตอนได้ยินคำพูดของเธอ จากนั้นจึงเอ่ยตอบ “รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมไป”
จบคำ อู๋ฝานจึงวางสายโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปบอกกับถังอวี่เฟย “เรื่องที่พูดคงต้องพอไว้เท่านี้ก่อนนะครับ ผมมีเรื่องต้องไปจัดการ”
“ฉันไม่ได้พูดเล่นนะคะ” ถังอวี่เฟยถึงกับพูดไม่ออก เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังพูดจริงจัง แต่อู๋ฝานกลับไม่เชื่อ “ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ยังมีเรื่องต้องทำอีกเหรอคะ?”
หูของถังอวี่เฟยดีเยี่ยม แม้เธอจะไม่ได้ยินว่าเจ้าหย้าหนานกล่าวอะไร แต่เธอได้ยินเสียงของอีกฝ่าย จึงรู้ว่าคนที่โทรหาอู๋ฝานนั้นเป็นผู้หญิง
“เพื่อนคนหนึ่งป่วยน่ะครับ ผมคงต้องไปดูอาการ” อู๋ฝานตอบกลับ
เมื่อวานเจ้าหย้าหนานก็มีอาการไม่ค่อยปกติ ตอนนั้นเธอเกือบหมดสติไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนอาการจะยิ่งแย่ลง
เมื่อต้องรับภาระคำสั่งซื้อที่ยาวนาน เจ้าหย้าหนานก็แทบไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอ ใจของเธอหมกมุ่นและกังวลกับคำสั่งซื้อ ตอนนี้ทุกสิ่งที่สะสมมากลายเป็นอาการป่วยไข้ อู๋ฝานที่เป็นเถ้าแก่ของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ และช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาไปดูแลโรงงานเท่าที่ควร ส่งผลหญิงสาวต้องรับผิดชอบเพียงลำพัง มันทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมา โดยเฉพาะกับการที่ตอนนี้อีกฝ่ายล้มป่วย ชายหนุ่มจึงยิ่งต้องไปดูแลจัดการให้เรียบร้อย
“ผู้หญิงเหรอคะ?” ถังอวี่เฟยเอ่ยถาม
“ครับ” อู๋ฝานไม่คิดปิดบัง เพราะระหว่างเขาและเจ้าหย้าหนานไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะไม่ควรต่อกันแต่ประการใด
“ตอนนี้ก็ดึกแล้ว คุณไปที่บ้านของผู้หญิงเพียงลำพัง อาจารย์อู๋ คุณ…” ถังอวี่เฟยมองอู๋ฝานหัวจรดเท้าด้วยสายตาเคลือบแคลง เธอกำลังคาดเดาความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง
“กำลังคิดอะไรอยู่กันครับ เธอคือคู่ค้าทางธุรกิจกับผม ตอนนี้เธอป่วย ผมก็ต้องรับผิดชอบไปจัดการงานและช่วยดูแล” อู๋ฝานตอบกลับ “เท่านี้นะครับ ผมต้องรีบไปจริง ๆ แล้ว”
แม้เธอจะยังสงสัยในความสัมพันธ์ของอู๋ฝานกับเจ้าหย้าหนาน แต่ถังอวี่เฟยก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล เมื่อรู้ว่าอู๋ฝานรีบไปทางด้านนั้น เธอจึงเป็นฝ่ายลงจากรถด้วยตัวเอง
ถังอวี่เฟยเพียงก้าวลงจากรถ ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรกับอู๋ฝาน รถก็เร่งเครื่องจากไปแล้ว
ขณะมองรถของอู๋ฝานที่ไกลออกไป ถังอวี่เฟยก็ยังคงพึมพำกับตัวเอง ‘คู่ค้าทางธุรกิจป่วยต้องรีบไปขนาดนี้เลยเหรอ? บอกให้ผีฟังยังไม่เชื่อเลย หรือว่าจะเป็นผู้หญิงของเขากัน? เพราะแบบนั้น ตอนเราสารภาพออกไป เขาถึงปฏิเสธอย่างนั้นเหรอ?’
ยิ่งถังอวี่เฟยครุ่นคิดเท่าใด เธอก็ยิ่งมองว่าเป็นไปได้มากเท่านั้น เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าที่อู๋ฝานรีบไปก็เพราะรู้สึกว่าที่เจ้าหย้าหนานป่วยครั้งนี้เป็นความผิดของตัวเอง ในใจเขาจึงรู้สึกผิดขึ้นมา เพราะเหตุนั้นจึงรีบเดินทางไป
อู๋ฝานไม่ได้รู้เรื่องที่ถังอวี่เฟยเข้าใจตนเองผิดไป แต่ที่เขาเป็นห่วงเจ้าหย้าหนานนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะเหตุดังกล่าวจึงต้องรีบเดินทางไปยังโรงงานเฟอร์นิเจอร์
ตอนนี้ถือว่าค่อนข้างดึกมากแล้ว แต่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ยังคงสว่างไสว คนงานยังคงทำงานกันอยู่ในโรงงาน เป็นความวุ่นวายที่ต้องจัดการคำสั่งซื้อให้แล้วเสร็จ
อู๋ฝานไปพบเจ้าหย้าหนานในออฟฟิศ และได้เห็นว่าเจ้าหย้าหนานมีอาการเช่นไร มันทำให้เขาประหลาดใจไปครู่หนึ่ง
เจ้าหย้าหนานนอนนิ่งบนโซฟา ใบหน้าซีดเซียวผอมซูบ ไม่ว่าใครที่ได้เห็นก็ต้องรู้สึกว่าเธอคนนี้กำลังอ่อนแรงและเหนื่อยล้า เป็นภาพลักษณ์ของคนป่วยหนักอย่างไม่ต้องสงสัย
“เป็นยังไงบ้างครับ? อาการพวกนี้เกิดขึ้นในวันเดียวงั้นเหรอครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“ไม่รู้ค่ะ ฉันรู้สึกเหมือนทั้งร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิด” เจ้าหย้าหนานตอบกลับอย่างอ่อนแรง น้ำเสียงค่อนข้างเบา “จริง ๆ ฉันไม่ได้อยากรบกวนคุณเลย แต่รายการคำสั่งซื้อใกล้ครบแล้ว ทว่าในโรงงานกลับไม่มีคนคอยดูแล ฉันวางใจไม่ได้ ก็เลยโทรเรียกคุณมาค่ะ”
“ไม่ใช่ปัญหาครับ อย่าลืมว่าโรงงานเฟอร์นิเจอร์นี้ผมก็มีหุ้นส่วนอยู่ด้วย ที่นี่ถือเป็นกิจการที่ผมต้องมีส่วนช่วยดูแลอยู่แล้ว” อู๋ฝานตอบกลับ “ให้ผมส่งคุณไปโรงพยาบาลก่อน แล้วเดี๋ยวคืนนี้ผมจะมาเฝ้าอยู่ที่นี่เองครับ”
“ไม่ได้ค่ะ ฉันขอแค่นอนก็พอ ฉันไม่ได้นอนดี ๆ มาหลายวันแล้ว” เจ้าหย้าหานตอบกลับ พร้อมกับปิดเปลือกตาลงอย่างช้า ๆ และผ่านไปไม่นาน เธอก็ผล็อยหลับไป
ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด ตอนที่เธอเห็นว่าอู๋ฝานมาถึงแล้ว ใจของเธอจึงรู้สึกวางใจยากที่จะอธิบาย ถ้าเป็นแต่ก่อน การที่เธอต้องอยู่ในออฟฟิศเพียงลำพังกับผู้ชายเช่นนี้ เจ้าหย้าหนานคงไม่มีทางนอนหลับลงได้ กระทั่งข่มตาให้ปิดก็คงไม่อาจทำได้
——————————