ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 342 สำเร็จภารกิจพิเศษ
บทที่ 342 สำเร็จภารกิจพิเศษ
บทที่ 342 สำเร็จภารกิจพิเศษ
[สำเร็จการทำภารกิจพิเศษ องค์หญิงเจ็ดแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิงพึงพอใจของขวัญบรรณาการของท่านอย่างยิ่ง! รางวัล 1,000 เหรียญทอง เลเวลเพิ่มขึ้น 1 เลเวล ป้ายอัญเชิญ 1 ชิ้น วิชาระดับโลกา 1 วิชา และขวดบรรจุสรรพสิ่ง 1 ขวด]
ในช่วงกลางคืน อู๋ฝานที่กำลังเดินอยู่บริเวณป่าหน้าหมู่บ้านเพื่อเตรียมเพิ่มเลเวล ได้ยินเสียงจักรกลอันคุ้นเคยดังให้ได้ยิน รอบด้านเงียบสงัด พร้อมกับเสียงแจ้งรายละเอียดที่ทำให้ชายหนุ่มต้องตกใจ
“คราวหลังจะแจ้งอะไรก็ส่งเสียงเบา ๆ หรือสั่นได้ไหม ทำคนอื่นตกใจแทบตายแล้ว” อู๋ฝานบ่นพึมพำ
ทว่าแม้บ่นออกมาก็ไม่มีใครรับฟัง ดังนั้นจึงไม่มีเสียงตอบรับใด
อู๋ฝานเองก็ไม่ได้บ่นประเด็นนี้นานแต่อย่างใด ความสนใจของเขาหันเหไปทางรายละเอียดที่ได้รับแจ้ง
ภารกิจพิเศษ?
คงจะเป็นภารกิจส่งของขวัญวันเกิดให้แก่องค์หญิงเจ็ด ก่อนหน้านี้ตนยังคิดอยู่ว่าวันนี้มีงานฉลองวันเกิดของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่รู้ว่านางผู้นั้นจะชอบของขวัญที่เขาเลือกให้หรือไม่ แน่นอนว่าอู๋ฝานเองก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รู้คำตอบเร็วถึงขนาดนี้
“พึงพอใจอย่างยิ่ง? ก็ถือว่าไม่เลว ผู้หญิงยังไงก็ยังเป็นผู้หญิง ไม่มีทางต้านทานเจ้าตัวขนปุยนุ่มนิ่มน่ารักนั่นได้อยู่แล้ว” อู๋ฝานพูดพึมพำกับตัวเอง
เพราะไม่เคยได้พบองค์หญิงเจ็ดมาก่อน อู๋ฝานจึงไม่รู้ว่าเธอจะชอบสิ่งใด ดังนั้นที่ทำได้ก็แค่คาดเดาด้วยตัวเอง อีกทั้งกระต่ายกำมะหยี่ยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่ล้ำค่า ดังนั้นเขาจึงเลือกมันส่งไป และผลตอบรับก็เกินคาด ถึงขนาดทำให้ประหลาดใจด้วยซ้ำที่องค์หญิงเจ็ดพึงพอใจอย่างมาก
เพราะมันเป็นภารกิจพิเศษ รางวัลของภารกิจจะดีหรือร้ายก็ขึ้นอยู่กับว่าองค์หญิงเจ็ดชื่นชอบของขวัญนั้นเพียงใด ยิ่งอีกฝ่ายชอบกระต่ายกำมะหยี่มากเพียงใด รางวัลที่ได้รับก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น และตอนนี้องค์หญิงเจ็ดก็พอใจ ทั้งยังตอบรับในระดับสูงสุด ดังนั้นอู๋ฝานจึงได้รับของรางวัลตอบแทนที่ดีที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน
หนึ่งพันเหรียญทอง
รางวัลจำนวนเท่านี้ถือว่าไม่เลวแล้ว ในทุก ๆ วันอู๋ฝานจะต้องออกนำหน่วยรักษาการณ์ไปล่ามอนสเตอร์ในป่า การแยกชิ้นส่วนมอนสเตอร์สามารถขายเป็นเงินได้ก็จริง แต่มอนสเตอร์ที่ออกล่าไม่ได้มีเลเวลสูงมากนัก ดังนั้นวัตถุดิบจากพวกมันจึงได้ราคาไม่มากตาม สัดส่วนที่ได้รับมาภายในหนึ่งวัน หากนำไปขายก็ได้เป็นเงินราวยี่สิบหรือสามสิบเหรียญทอง
มีแค่ครั้งก่อนที่วัตถุดิบมาจากบอสมอนสเตอร์เลเวลห้าสิบ อู๋ฝานจึงได้รับเงินทองมาไม่น้อย ทว่าพวกมันก็ยังขายได้มาเพียงหนึ่งพันห้าร้อยเหรียญทอง และยังเป็นวัตถุดิบที่ตามปกติไม่มีทางหามาได้ อีกทั้งเพราะเหตุการณ์ครั้งนั้น หน่วยของอู๋ฝานจึงแทบเอาชีวิตไม่รอด
ดังนั้นรางวัลหนึ่งพันเหรียญทอง จึงถือได้ว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อย
เลเวลเพิ่มขึ้นหนึ่งเลเวล สำหรับอู๋ฝานก็ถือเป็นรางวัลที่ดี ตอนนี้เขานำหน่วยรักษาการณ์ออกมาช่วยเก็บค่าประสบการณ์ แต่ก็ต้องใช้เวลาหนึ่งวันกว่าจะเพิ่มเลเวลได้สักหนึ่งเลเวล มันจึงช่วยเขาประหยัดเวลาไปได้หนึ่งวัน
รางวัลถัดมาคือป้ายอัญเชิญ อู๋ฝานนำออกมาจากกระเป๋าหลัง ไม่นานก็แน่ใจว่ามันคล้ายกับที่เคยได้รับมาก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับไอเทมอย่างป้ายอัญเชิญพอสมควร
[ป้ายอัญเชิญ ระดับทองแดง สามารถอัญเชิญทหารประจำราชสำนักแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิงห้าคนมาต่อสู้แทน ระยะเวลาคงสภาพ 5 นาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 2 ชั่วโมง]
ความสามารถของป้ายก็ไม่ได้ผิดจากที่อู๋ฝานคาดเอาไว้แต่อย่างใด ทว่าสิ่งที่อัญเชิญได้ในครั้งนี้กลับเป็นทหารประจำราชสำนักแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิง
ทหารประจำราชสำนัก ฟังจากชื่อแล้ว ไม่ว่าใครก็รู้ได้ว่าต้องมีกำลังสู้รบไม่อ่อนด้อย การที่ถูกคัดเลือกให้เป็นทหารประจำราชสำนักนั้น อย่างน้อยก็ต้องเป็นโล่คุ้มกันให้แก่จักรพรรดิได้ พลังการสู้รบย่อมไม่ใช่เรื่องต้องกังขา อู๋ฝานคาดว่าความสามารถของพวกเขาอาจจะสูงกว่านักรบโลกอสูรที่มีในตอนนี้ประมาณหนึ่งด้วยซ้ำ
[ติ๊ง!]
เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง อู๋ฝานคาดไว้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้น ดังนั้นตอนนี้จึงไม่ได้ประหลาดใจหรือตกใจแต่อย่างใด
[ตรวจสอบพบอุปกรณ์สองชิ้นในกระเป๋าหลังที่สามารถผสานกันได้ ต้องการผสานหรือไม่]
“ผสาน!”
แสงสว่างวูบไหว ป้ายอัญเชิญในมือของอู๋ฝานเลือนหายไปในอากาศ ขณะที่ป้ายอัญเชิญระดับเงินที่เดิมอยู่ในกระเป๋าหลัง ก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น
เดิมป้ายอัญเชิญระดับเงินมีขนาดราวฝ่ามือ และมีสีเงินทั้งป้าย แต่ตอนนี้มันกลับเผยสีเหลืองทอประกาย นอกจากสีของป้ายที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ค่าสถานะก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นเดียวกันบราวนี่ออนไลน์
[ป้ายอัญเชิญ ระดับทอง สามารถอัญเชิญนักรบโลกอสูร 20 ตน มอนสเตอร์ 20 ตัว (เลเวลของมอนสเตอร์เทียบเท่าเลเวลผู้เล่น +20) ทหารกองทัพกบฏ 20 คน และทหารประจำราชสำนักอาณาจักรเหยียนเฟิง 20 คน เพื่อมาต่อสู้แทนตัวท่าน ท่านสามารถอัญเชิญสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ประเภทพร้อมกัน หรือเลือกประเภทใดประเภทหนึ่งได้ ระยะเวลาใช้งาน 20 นาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 2 ชั่วโมง]
ป้ายอัญเชิญเลื่อนระดับแล้ว!
เมื่ออู๋ฝานได้เห็นความสามารถใหม่ของป้ายอัญเชิญ ใจเขาก็เต้นรัวด้วยความยินดี
หลังป้ายอัญเชิญเพิ่มระดับจากเงินเป็นทอง ค่าสถานะความสามารถก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล
อัญเชิญสิ่งมีชีวิตสี่ประเภทได้นั้นไม่มีอะไรให้ต้องแปลกหรือประหลาดใจ แต่จำนวนที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากระดับเงิน จากสิบเป็นยี่สิบ เพียงแค่ความเปลี่ยนแปลงนี้ รวมกับเลเวลอัญเชิญมอนสเตอร์ที่ได้รับโบนัส ก็ทำให้พวกมันแข็งแกร่งอย่างไร้ข้อกังขาแล้ว! นักรบโลกอสูรที่อัญเชิญมาด้วยป้ายระดับทองแดงนั้น มันแข็งแกร่งมากพอสังหารยอดฝีมือขอบเขตมืดในโลกความเป็นจริงได้ ตอนนี้ป้ายอัญเชิญเลื่อนสู่ระดับทอง หลังผ่านการผสานหลายครั้ง อย่างนั้นขณะนี้นักรบโลกอสูรจะแข็งแกร่งขึ้นเพียงใดแล้ว?
อู๋ฝานแทบไม่อาจจินตนาการถึงได้เลยแม้แต่น้อย!
ตอนนี้เองที่อู๋ฝานหวังให้มีผู้ฝึกตนประสงค์ร้ายมาเล่นงานตัวเอง หากเป็นเช่นนั้น เขาจะได้โอกาสทดสอบความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตอัญเชิญเหล่านี้ให้กระจ่าง
นอกจากจำนวนและความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ระยะเวลาใช้งานยังเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้มีเวลาเพียงแค่สิบนาที ตอนนี้เพิ่มเป็นยี่สิบนาที อีกทั้งยังสามารถเรียกพวกมันออกมาใช้งานได้นานขึ้น เพียงแค่เรื่องนี้ก็ช่วยได้มากพอสมควรแล้ว
อู๋ฝานกำลังชื่นชมความสามารถของป้ายอัญเชิญระดับทองอยู่ กระทั่งว่าพึงพอใจมาก
หลังชื่นชมป้ายอัญเชิญใหม่อยู่นานสองนาน แม้อู๋ฝานไม่เต็มใจปล่อยมือแต่ก็ต้องส่งมันไปเก็บไว้ที่กระเป๋าหลัง ขณะเดียวกันก็นำเอาตำราเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าหลัง
“วิชานางแอ่นถลาลม” อู๋ฝานพึมพำกับตัวเองขณะมองคำสามคำที่ปรากฏบนปกของตำรา
[วิชานางแอ่นถลาลม เป็นวิชาตัวเบา (ในโลกความเป็นจริง เทียบเท่าวิชาระดับโลกา) หลังเรียนรู้ ร่างของผู้ใช้จะเบาเสมือนนกนางแอ่น สามารถไปมาไร้ร่องรอย แม้มีกำแพงสูง ทะเลสาบ หรือทะเลขวางกั้นก็สามารถไปมาได้อย่างอิสระ! วิชานี้ประกอบด้วย 7 ขั้น ขั้นที่ 1 ความเร็วการเคลื่อนที่และความสามารถการกระโดดเพิ่มเป็นสองเท่า ขั้นถัดจากนั้น แต่ละขั้นจะเพิ่มความเร็ว 50% และความสามารถการกระโดด 50%]
เป็นวิชาที่ดี!
อู๋ฝานไม่คิดว่าจะได้รับวิชาใหม่เป็นวิชาตัวเบาเช่นนี้ หากอาศัยเพียงคำอธิบายของวิชานางแอ่นถลาลม เขาก็มองว่าหากฝึกฝนถึงขั้นสูงสุด วิชานี้คงไม่ได้ด้อยไปกว่าวิชาระดับสวรรค์แม้แต่น้อย บางทีอาจเพราะมันไม่อาจส่งเสริมความสามารถในการสู้รบ ดังนั้นจึงถูกประเมินให้กลายเป็นวิชาระดับโลกา