ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 368 เรื่องราวพลิกกลับ
บทที่ 368 เรื่องราวพลิกกลับ
คำพูดของอู๋ฝานทำให้เยี่ยเฟยเฟยชะงัก สุดท้ายจึงพยักหน้ารับ “ที่พูดมานั่น… ก็มีเหตุผลอยู่บ้าง”
ถ้าทำให้พ่อแม่ของเธอรู้ว่าอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร ทั้งยังมีคนช่วยดูแล พวกท่านจะยิ่งอยู่บ้านได้อย่างวางใจ ไม่มีสายกระหน่ำโทรหาทุกวัน ไม่มีการบินข้ามคืนเดินทาง เพียงเพราะอยากเจอหน้าอย่างกะทันหันเช่นครั้งนี้
“ใช่แล้วครับ ถือว่าดีกับคุณทั้งนั้น” อู๋ฝานตอบคำพลางลอบนึกโล่งอก
ก่อนหน้านี้เขาทำให้เยี่ยเฟยเฟยโกรธ ถ้ายังทำเธอโกรธอีก มันจะกลายเป็นการซ้ำเติมแผลเดิม
เรื่องดีก็คือ เยี่ยเฟยเฟยถูกหลอกให้เห็นด้วยอย่างไม่รู้ตัว
“แต่ว่าที่คุณทำไปก่อนหน้านี้ พ่อแม่ของฉันเข้าใจผิดหมดแล้วว่ามีสัมพันธ์กับคุณยังไง อนาคตเจอกันอีกจะอธิบายว่าอะไร?” เยี่ยเฟยเฟยมองอู๋ฝานพลางถาม
“เข้าใจผิดว่ารักกันก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ครับ คุณเองก็เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว จะมีความรักบ้างสักครั้งก็เป็นเรื่องผิดเหรอ? แค่พ่อแม่ของคุณไม่ได้เห็นต่างคัดค้านอะไรก็พอแล้ว ส่วนเรื่องของอนาคต คงเป็นตอนคุณจบการศึกษา ไว้ตอนนั้นค่อยบอกว่าพวกเราเลิกกันไปก็พอแล้วมั้ง? พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์อะไรแบบนี้ เลิกกันไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่ครับ” อู๋ฝานอธิบายออกมา
“นั่นสิ ทำไมฉันถึงคิดไม่ได้นะ” เยี่ยเฟยเฟยตอบรับโดยไม่สงสัย ขณะที่อู๋ฝานแอบดีใจ อีกฝ่ายก็หันกลับมามองด้วยท่าทีระแวดระวัง “อู๋ฝาน ทีแรกฉันคิดว่าคุณเป็นคนซื่อสัตย์นะ แต่ตอนนี้เหมือนคุณเองก็มีความไม่แน่นอนหลายอย่าง กลับกลอกไปมารวดเร็วไม่น้อย คิดว่าต่อไปฉันคงต้องระวังตัวให้มากขึ้นแล้ว และบางทีเรื่องเมื่อตอนเช้าอาจไม่ใช่ความเข้าใจผิด แต่เป็นการจงใจแสดงละครของคุณต่างหาก!”
“เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วครับ” อู๋ฝานถึงกับร้องออกมา เขาไม่คิดว่าเยี่ยเฟยเฟยจะมองโลกในแง่ร้ายถึงขนาดนั้น ถึงขั้นมองว่าเหตุการณ์เมื่อเช้าเป็นการจัดฉากแสดง “ผมก็บอกไปแล้วว่าวันนี้ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะเห็นแก่หน้าคุณ ไม่ได้มีอะไรส่วนตัวเลยแม้แต่นิดเดียว และเรื่องเมื่อเช้าก็เป็นความเข้าใจผิด”
“อะไรก็ช่างเถอะ ฉันมองว่าคุณธรรมดาเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว หลังจากนี้ต้องระวังไว้ให้มาก” เยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ ทั้งยังออกไปยืนห่าง ๆ ราวกับต้องการแสดงให้เห็นว่าเธอและอู๋ฝานต้องเว้นระยะห่างกัน
“ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยครับ” อู๋ฝานหัวเราะขื่นขม “ยังไงคุณก็อยู่หอพักมหาวิทยาลัยเป็นส่วนใหญ่ แทบไม่มีโอกาสได้กลับมาด้วยซ้ำ ต่อให้ผมคิดจะทำอะไร ก็คงไม่มีโอกาสหรอกจริงไหมครับ?”
“นี่ไง คิดทำอะไรจริงด้วย อู๋ฝาน คุณนี่มัน!” เยี่ยเฟยเฟยตะโกนเสียงดังออกมา
“ผมก็แค่เปรียบเปรย เปรียบเปรยน่ะรู้จักไหมครับ!” อู๋ฝานจนใจ
“โพล่งความในใจออกมาน่ะสิ!” เยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ “ฉันจะไม่กลับออกมาอยู่นอกรั้วมหาวิทยาลัยอีกครั้งแน่!”
“ตามแต่สะดวกเลยครับ คุณไม่ออกมา ผมก็อยู่คนเดียวสบาย” อู๋ฝานตอบรับ
อู๋ฝานอดไม่ได้ที่จะอยากให้เยี่ยเฟยเฟยอยู่แต่ที่มหาวิทยาลัยไปตลอด ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาที่ได้อยู่เพียงลำพังก็มีแต่จะยิ่งสะดวกสบาย
เยี่ยเฟยเฟยไม่คิดอยู่ที่ร้านต่อ เรื่องของครอบครัวเธอแก้ไขได้อย่างราบรื่นแล้ว ดังนั้นจึงคิดกลับมหาวิทยาลัย อย่างไรแต่แรกเธอก็อยากพักอยู่หอของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ยิ่งเจอกับเรื่องเข้าใจผิดเมื่อเช้า ยิ่งทำให้เธอไม่อยากออกมาภายนอกมากยิ่งขึ้น
อีกฝ่ายไม่กลับมา ก็เป็นเรื่องดีกับอู๋ฝาน
ช่วงบ่าย ขณะที่อู๋ฝานเดินทางไปโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ก็ได้ทราบข่าวไม่สู้ดีจากเจ้าหย้าหนาน
คนทั้งสองที่เจอว่าถูกส่งมาจุดไฟเผาโรงงาน หลังถูกจับกุมตัวไปกลับเปลี่ยนคำรับสารภาพ กล่าวว่าตัดสินใจจุดไฟเผาโรงงานด้วยตัวเอง ไม่ได้มีคนบงการให้ลงมือ
“เป็นไปได้ยังไงครับ? เป็นฝีมือใครแทรกแซง?” อู๋ฝานถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
คนทั้งสองที่ถูกจับกุมตัวได้ที่โรงงาน ขณะคิดจะใช้พวกเขาสาวถึงตัวเถ้าแก่หลิวที่อยู่เบื้องหลัง ทว่าจู่ ๆ เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป คนร้ายกลับคำให้การอย่างกะทันหัน เห็นได้ชัดว่าต้องมีคนเข้ามาแทรกแซง
“ฉันก็ไม่แน่ใจค่ะว่าใครที่เข้ามาแทรกแซงกระบวนการนี้ แต่เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเถ้าแก่หลิว” เจ้าหย้าหนานตอบรับด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งนี้สำคัญกับเจ้าหย้าหนาน ครั้งก่อนที่ไฟไหม้ก็เกือบทำสถานที่แห่งนี้ให้วอดวาย เธอย่อมคิดอยากหาตัวคนผิดมารับโทษ ตอนนี้เรื่องราวเปลี่ยนไป จะโกรธก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เดิมอู๋ฝานคิดว่าเพียงจับตัวคนร้ายทั้งสองและผ่านกระบวนการยุติธรรม ก็จะสามารถสืบสาวตัวจนถึงเถ้าแก่หลิวได้ เขาไม่ได้คาดว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนแปลงไปแบบนี้
“ต้องเป็นเขานั่นแหละนะครับ นอกจากเขาแล้ว ก็คงไม่มีใครที่จะมีแรงจูงใจอีก” อู๋ฝานตอบกลับ “แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะตอบโต้เร็วขนาดนี้”
เถ้าแก่หลิวค่อนข้างจัดการได้อย่างรวดเร็ว คนทั้งสองที่เพิ่งถูกจับกุม อีกฝ่ายกลับทำให้คนร้ายเปลี่ยนคำสารภาพได้ เห็นชัดว่ามีการส่งข่าวที่ดีและแยบยล
“ไม่ได้ค่ะ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ ฉันจะโทรหาตำรวจให้จับเขามาสอบปากคำ!” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ
“ไม่มีประโยชน์หรอกครับ สองคนนั้นเปลี่ยนคำให้การแล้ว หมายความว่าตัดสินใจเรียบร้อย ถ้าสองคนนั้นไม่กลับคำสารภาพ พวกเราก็ไม่มีทางจับกุมเถ้าแก่หลิวได้” อู๋ฝานตอบกลับ
“แล้วจะปล่อยไปแบบนี้เหรอคะ? ฉันไม่พอใจหรอกนะคะ!” เจ้าหย้าหนานไม่อาจระงับอารมณ์ได้ เพราะรู้ว่าคนร้ายตัวจริงไม่ได้รับโทษ มันยิ่งทำให้เธอไม่ยินดี
“ปล่อยเหรอครับ? ไม่ปล่อยอยู่แล้ว” อู๋ฝานยิ้มตอบ “เคยได้ยินคำว่า ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นไหมครับ?”
“หมายความว่ายังไงคะ?” เจ้าหย้าหนานมองอู๋ฝานด้วยความสงสัย
“ไม่ได้หมายความถึงอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ คนอย่างเถ้าแก่หลิวต้องได้รับผลของการกระทำ ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก แค่รอและรับชมก็พอครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“แต่ว่านะคะ ถ้าปล่อยคนชั่วเอาไว้ พวกมันก็มีแต่จะยิ่งทำให้คนอื่นเจ็บช้ำ” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ “รอสวรรค์ลงทัณฑ์คงเป็นเรื่องยากเกินไปค่ะ”
“ไม่ใช่กับครั้งนี้แน่นอนครับ” อู๋ฝานยิ้มตอบรับ
เจ้าหย้าหนานมองมาด้วยความสงสัย ราวกับไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงมั่นใจขนาดนี้
อู๋ฝานไม่คิดอธิบายเพิ่มเติม เขาเพียงบอกกับเจ้าหย้าหนานว่า “ก็ตามนี้ครับ มองข้ามและอย่าเพิ่งคิดมากเกินไป ร่างกายคุณเพิ่งฟื้นตัว เรื่องที่ควรทำคือพักฟื้นให้มากขึ้นครับ”
“แค่คิดว่าไอ้เลวตัวนั้นที่เกือบจะขโมยได้สำเร็จยังอยู่ดีมีสุข ใจฉันก็มีแต่จะยิ่งไม่สบายจนพักไม่ได้ค่ะ!” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ
“อย่าคิดมากเลยครับ ร่างกายคุณสำคัญกว่า ไม่งั้นที่นี่คงได้ตกอยู่ในมืออีกฝ่ายแน่ครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“ฉันไม่มีทางปล่อยให้มันเอาไปได้ค่ะ” เจ้าหย้าหนานยืนยันหนักแน่น
“ดีครับ ตอนนี้ขอแค่พักให้มาก ดูแลและพัฒนาที่นี่ต่อไป แค่นั้นมันก็ไม่มีโอกาสอีกแล้วครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“ก็ได้ค่ะ” เจ้าหย้าหนานพยักหน้ารับ
โรงงานเฟอร์นิเจอร์กำลังมีแนวโน้มเติบโตขึ้น มันไม่ใช่แค่จะตัดความคิดของเถ้าแก่หลิวได้ …ทว่าตอนนี้เรื่องนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการเดินตามทางที่พ่อของเธอปรารถนา ที่นี่คือผลงานทั้งชีวิตของเขา เจ้าหย้าหนานย่อมไม่อยากเห็นที่แห่งนี้ทรุดโทรมลง
ได้เห็นเจ้าหย้าหนานคล้อยตามคำพูดตนเองแล้ว อู๋ฝานจึงโล่งใจ ขณะเดียวกันก็คิดหาทางจัดการกับเถ้าแก่หลิว
“คิดเผาโรงงานของฉัน คิดเหรอว่าจะรอดพ้นจากปัญหาไปได้ ไม่มีทาง!” อู๋ฝานพึมพำกับตัวเองเบา ๆ