ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 401 ร้องขอความช่วยเหลือ
บทที่ 401 ร้องขอความช่วยเหลือ
บทที่ 401 ร้องขอความช่วยเหลือ
“แล้วหลังจากขอบเขตกำเนิดสวรรค์มีอะไรอีกไหมครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์มองตอบอู๋ฝาน “ในบรรดาผู้ฝึกตนสักหมื่นคน อาจไม่มีแม้สักคนก้าวไปถึงขอบเขตกำเนิดสวรรค์ ความสำเร็จระดับนั้นคือการข้ามไปเหนือกว่ายอดฝีมือนับหมื่นแล้วนะคะ”
ความหมายของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ชัดเจน อู๋ฝานอาจไปไม่ถึงขอบเขตกำเนิดสวรรค์ด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงอะไรก็ตามที่อยู่หลังจากนั้น
ไม่ใช่ว่าหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ปรามาสอู๋ฝาน แต่ในแวดวงผู้ฝึกตน ผู้ที่สามารถสำเร็จขอบเขตกำเนิดสวรรค์ยังมีจำนวนน้อยยิ่งกว่า น้อยคนที่สำเร็จขอบเขตกำเนิดสวรรค์นับเป็นยอดอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ
อู๋ฝานอยากบอกหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ว่าแม้ชั่วชีวิตของผู้อื่นไม่อาจไปถึงขอบเขตดังกล่าว แต่สำหรับเขาแล้ว การจะไปถึงขอบเขตกำเนิดสวรรค์เมื่อใดก็เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
แต่เรื่องความลับการเทเลพอร์ตไม่ใช่อะไรที่สามารถพูดออกไปได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่อาจพูดอะไรไปมากกว่านี้
“อันที่จริงแล้ว …หลังขอบเขตกำเนิดสวรรค์ ก็ยังมีขอบเขตอื่นอยู่อีกค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ที่เดินอยู่พลันเอ่ยขึ้น
“ขอบเขตอะไรครับ?”
“ไม่แน่ชัดค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ส่ายศีรษะ
“ไม่แน่ชัด?” อู๋ฝานทวนคำ
“ค่ะ เพราะหนึ่งพันปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครสามารถข้ามขอบเขตกำเนิดสวรรค์ หรือแม้กระทั่งผู้ที่ไปถึงขอบเขตกำเนิดสวรรค์ขั้นสูงสุดยังมีน้อยซะยิ่งกว่าน้อย” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์เริ่มบอกเล่า “ผู้ข้ามผ่านขอบเขตกำเนิดสวรรค์เมื่อพันปีก่อนนั้น อีกฝ่ายคืออัจฉริยะไร้เทียมทาน ด้วยอายุเพียงแค่ยี่สิบปีก็สำเร็จขอบเขตแปรสภาพขั้นสูงสุด เมื่อเข้าวัยยี่สิบห้าก็ข้ามผ่านขอบเขตแปรสภาพสู่ขอบเขตกำเนิดสวรรค์ เวลาผ่านจนเขาคนนั้นอายุได้หกสิบปี จึงสามารถข้ามผ่านขอบเขตกำเนิดสวรรค์ไปสู่อีกขอบเขตหนึ่ง แต่ช่วงตลอดพันปีที่ผ่านมา กลับมีน้อยคนที่ทราบว่าขอบเขตหลังกำเนิดสวรรค์มีนามว่าอะไร หลายคนไม่คิดสนใจเรื่องขอบเขตดังกล่าวกันแล้วด้วยซ้ำ สุดท้ายเป้าหมายของผู้ฝึกตนส่วนใหญ่จึงจบลงที่ขอบเขตกำเนิดสวรรค์ค่ะ”
นับว่าไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ อย่างไรแล้วผู้สำเร็จขอบเขตกำเนิดสวรรค์ก็มีจำนวนน้อยนิด หลังจากนั้นมีอะไรแทบจะเป็นเรื่องที่ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสนใจกันซะด้วยซ้ำ พวกเขาที่แม้กระทั่งขอบเขตกำเนิดสวรรค์ยังไปไม่ถึง จะอยากทราบเรื่องราวหลังจากนั้นไปทำไม?
“ตลอดชั่วชีวิตนี้ขอแค่สำเร็จขอบเขตกำเนิดสวรรค์ได้ฉันก็พอใจแล้วค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์เผยความปรารถนาออกมา
“ไม่อยากเห็นกับตาตัวเองเหรอครับว่าหลังจากขอบเขตกำเนิดสวรรค์มีอะไรรออยู่?” อู๋ฝานยิ้มตอบรับ เขายังค่อนข้างสนใจขอบเขตกำเนิดสวรรค์อยู่ไม่น้อย มันเป็นความต้องการสำรวจสิ่งแปลกใหม่
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์เหม่อมองอู๋ฝานก่อนจะตอบรับ “ฉันไม่ค่อยชอบความฝันที่รู้ว่าแทบจะเป็นสิ่งเลื่อนลอยค่ะ”
แม้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ถือว่ามีพรสวรรค์ที่ดี แต่เธอก็ยังไม่กล้าพูดว่าพรสวรรค์ขอตัวเองจะทัดเทียมระดับบุคคลเมื่อหนึ่งพันปีก่อน เพราะจนถึงปัจจุบัน ผ่านมาร่วมพันปีแล้วก็ยังไม่เคยมีใครข้ามผ่านขอบเขตกำเนิดสวรรค์ หญิงสาวจึงมองว่าตนเองไม่อาจทำได้
เธอเป็นคนที่ตระหนักและยึดอยู่กับความเป็นจริง แม้สงสัยว่าหลังขอบเขตกำเนิดสวรรค์คืออะไร แต่ก็ไม่กล้าพอจะตั้งมันเป็นเป้าหมาย
อู๋ฝานไม่ตอบอะไร แค่มองหลิ่วเหยียนเอ๋อร์
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ที่ตลอดมาเย็นชา ตอนนี้กำลังเผยดวงตาเป็นประกายแสดงความคาดหวังต่อเป้าหมาย นับเป็นเสน่ห์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่แปลกหากจะทำให้อู๋ฝานดื่มด่ำจนใจเต้น
เมื่อเห็นอู๋ฝานมองเธออย่างเงียบ ๆ หลิ่วเหยียนเอ๋อร์จึงได้ตระหนักว่าตนเองแสดงภาพลักษณ์ที่ผิดเพี้ยนกว่าปกติออกมา ทำให้หน้าหญิงสาวแดงระเรื่อ
“ช่วยด้วย! ช่วย… ช่วยด้วย!”
ขณะอู๋ฝานกำลังดื่มด่ำกับความเขินอายของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ เสียงร้องแผ่วเบาขอความช่วยเหลือกลับดังขึ้นมาให้ได้ยิน
“ใช่เสียงคนไหมครับ?” อู๋ฝานชะงักไปก่อนจะตอบสนอง “… เสียงนี้ฟังดูคุ้นจริง ๆ”
“ช่วยด้วย! …อู๋ฝาน ภูเขาน้ำแข็ง ช่วยฉันด้วย! ช่วยด้วย!” เสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างตื่นตระหนกดังขึ้นอีกครั้ง
“ถังอวี่เฟย!”
ทั้งอู๋ฝานและหลิ่วเหยียนเอ๋อร์หันมองหน้ากันเองพร้อมเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน
ทำให้ทั้งสองต้องรีบหันกลับ มุ่งไปยังทิศทางที่เสียงดังมา
ขณะเดินมาได้ราวหนึ่งร้อยเมตร จึงได้พบว่าเป็นถังอวี่เฟยไม่ผิดตัว
เพียงแต่ถังอวี่เฟยในเวลานี้มีสภาพย่ำแย่ ครึ่งตัวจมอยู่ในบึงน้ำ รอบด้านไม่มีอะไรที่พอจะให้เธอใช้ดึงร่างกายกลับขึ้นมา และยิ่งดิ้นรนเท่าใด ร่างของเธอก็ยิ่งจมลงในบึงมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อเห็นอู๋ฝานและหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ใบหน้าที่เดิมแสดงอาการหวาดกลัวกลับต้องประหลาดใจ สุดท้ายก็ตะโกนเสียงดัง “อู๋ฝาน ภูเขาน้ำแข็ง ช่วยด้วย! ฉันออกไปไม่ได้!”
“หยุดดิ้นก่อน! อยู่นิ่ง ๆ ไว้นะครับ!” อู๋ฝานตะโกนตอบถังอวี่เฟย “ยิ่งขยับมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งจมมากขึ้นเท่านั้น”
ถังอวี่เฟยที่ได้เห็นคนทั้งสองเข้ามาช่วยเหลือ จึงรู้สึกเกิดอุ่นใจมากขึ้น ตอนนี้เธอไม่แตกตื่นเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป เมื่อได้ยินคำพูดของอู๋ฝาน หญิงสาวจึงหยุดดิ้นไปมา
แต่แม้ถังอวี่เฟยหยุดดิ้นแล้ว ร่างก็ยังคงจมลงอย่างต่อเนื่อง ทว่าความเร็วนั้นช้ากว่าก่อนหน้านี้
“จะทำยังไงดี? อู๋ฝาน ฉันกลัวค่ะ รีบหาทางช่วยฉันเร็ว ๆ หน่อยนะคะ” ถังอวี่เฟยพูดด้วยอาการร้อนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้ก่อนหน้าหญิงสาวมักจะแสดงความกล้าออกมา แต่ทั้งหมดก็เพื่อไล่จีบอู๋ฝาน สุดท้ายเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงที่เพิ่งอายุยี่สิบ เมื่อเจอสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตแบบนี้จะหวาดกลัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“อย่าเพิ่งร้อนใจไปนะครับ ผมจะช่วยออกมาให้ได้” อู๋ฝานรีบปลอบถังอวี่เฟย
ถังอวี่เฟยมองอู๋ฝานด้วยความคาดหวัง แม้ในใจจะหวาดกลัวแทบตาย แต่อย่างน้อยเธอก็ยังพอประคองสติอารมณ์เอาไว้ได้
ตอนนี้เองที่อู๋ฝานและหลิ่วเหยียนเอ๋อร์มาถึงตรงหน้าบึงที่ถังอวี่เฟยตกลงไป พื้นที่รอบบึงค่อนข้างใหญ่ ถังอวี่เฟยจมลงตรงตำแหน่งเกือบจะกึ่งกลาง ทำเอาพวกเขาสงสัยว่าเธอไปถึงที่นั้นได้อย่างไร เพราะหากวัดระยะทางแล้ว ตำแหน่งของหญิงสาวอยู่ห่างจากขอบบึงที่อู๋ฝานและหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ยืนอยู่ราวห้าถึงหกเมตรเลยด้วยซ้ำ
“ทำยังไงดีคะ?” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์มองรอบ ๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา
รอบด้านมีแต่ต้นไม้ แต่ไม่มีกิ่งไม้ที่ยาวพอจะใช้งาน อีกทั้งคนทั้งสองไม่ได้พกเชือกติดตัวมาด้วย กิ่งไม้และเถาวัลย์อาจใช้แทนเชือกได้ ทว่ามันจะไม่สามารถทนรับแรงดึงของถังอวี่เฟยที่จมลงไปแล้วครึ่งตัวได้ นอกจากนี้การถักสานเชือกยังต้องใช้เวลา ถึงตอนนั้นถังอวี่เฟยคงจมลงไปมิดตัวคนเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ตอนนี้ แม้แต่หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ก็ยังคิดหาทางออกไม่เจอ
อู๋ฝานเองก็ร้อนใจเช่นกัน โดยเฉพาะกับตอนที่ได้เห็นถังอวี่เฟยกำลังจมลงอย่างต่อเนื่อง
“จริงด้วย!” ตอนนี้เองที่อู๋ฝานอุทานขึ้นมา
“คิดออกแล้วเหรอคะ?!” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์รีบถาม แม้จะเรียนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เธอและถังอวี่เฟยก็เปรียบดังน้ำแข็งกับไฟ ความสัมพันธ์ไม่ได้ใกล้ชิดอะไรมากมายนัก ทว่าหากต้องนิ่งดูดายอีกฝ่ายจมบึงน้ำตายอยู่ที่นี่ มันก็จะเป็นความรู้สึกผิดในใจตนไปอีกนานเช่นกัน
“ครับ” อู๋ฝานตอบรับ “แต่ไม่มั่นใจเท่าไหร่”
“วิธีอะไรคะ?” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ถาม เพราะเมื่อเห็นว่าอู๋ฝานไม่แน่ใจ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา
“ผมมีวิชาหนึ่งที่ลดกำลังแต่เสริมความเร็วได้ บางทีอาจย่ำผิวบึงไปช่วยถังอวี่เฟยได้” อู๋ฝานตอบกลับ