ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 414 คำขอจากฮุ่ยเหวิน
บทที่ 414 คำขอจากฮุ่ยเหวิน
บทที่ 414 คำขอจากฮุ่ยเหวิน
บุคคลที่ก้าวเดินออกมาจากทางแยกไม่ใช่เถาหรูไห่ แต่เป็นอู๋ฝาน!
ทันทีที่เห็นอู๋ฝานปรากฏตัว กลุ่มคนถึงกับชะงักงันแข็งค้าง เหตุใดอีกฝ่ายที่พวกเขาคิดว่าไม่น่าจะรอดพ้นจากการต่อสู้ในเส้นทางคับแคบจึงออกมา เพราะก่อนหน้านี้เถาหรูไห่แสดงท่าทีชัดว่าไม่คิดปล่อยให้อีกฝ่ายรอดชีวิต โดยเฉพาะตอนที่เสียงการต่อสู้ดำเนินอย่างรุนแรงเมื่อครู่ เพราะอะไรชายหนุ่มถึงยังรอดชีวิตมาได้?
แต่ตัวคนก็รอดมาให้พวกเขาเห็นกับตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือว่าเถาหรูไห่เกิดเมตตาละเว้นชีวิต? หรือไม่ก็…
กลุ่มคนต่างส่ายหน้าละทิ้งความคิดที่ผุดขึ้นมาชั่วครู่ออกไป
มันไม่มีทางเป็นไปได้!
ทว่าหากไม่ใช่อย่างที่คิดเมื่อครู่ แล้วเหตุใดอู๋ฝานจึงรอดชีวิตกลับออกมาได้ ในขณะที่ไม่เห็นเถาหรูไห่เลย?
เมื่อหลิ่วเหยียนเอ๋อร์และพรรคพวกเห็นอู๋ฝานกลับมายังถึงกับต้องประหลาดใจเช่นกัน พวกเธอไม่คิดอะไรมากความ อย่างไรชายหนุ่มรอดชีวิตกลับมาก็ถือเป็นเรื่องดี ส่วนเรื่องที่ในทางแคบเกิดอะไรขึ้นนั้น ทั้งสามไม่คิดสนใจแม้แต่น้อย
ภายใต้สายตาใคร่สงสัยของผู้คน อู๋ฝานที่เดิมกำลังเดินกลับเข้ามาที่ลานกว้างก็หยุด จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในทางแยกท่ามกลางสายตางุนงงของผู้คน ไม่นานก็เดินกลับมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ในมือของเขากลับถือวัตถุอะไรบางอย่างออกมาด้วย
กล่าวให้ถูกคือ อู๋ฝานเดินออกมาพร้อมลากร่างของคนคนหนึ่งมาด้วย
เจ้าของร่างดังกล่าวไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเถาหรูไห่ผู้ที่เมื่อครู่รุกไล่อย่างดุดัน!
มัน… มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันแน่?!
กลุ่มคนต่างมองร่างของเถาหรูไห่พร้อมสูดหายใจเย็นเยือกเข้าปอด ยอดฝีมือขอบเขตแปรสภาพขั้นกลางถึงขั้นเสียชีวิตอย่างไม่อาจหาเหตุมาอธิบายได้ ทั้งยังเป็นฝีมือของชายคนหนึ่งที่ไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน หากพวกเขาไม่ได้เห็นกับตาตัวเองคงไม่เชื่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน!
ในทางแคบนั่นเมื่อครู่นี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
หลายคนอยากได้รู้ แต่โชคร้ายที่ไม่มีใครติดตามเข้าไปดูแม้แต่คนเดียว เพราะไม่มีใครคาดว่าคนที่รอดออกมาจะเป็นอู๋ฝาน เรื่องออกมาเป็นแบบนี้ได้อย่างไรจึงไม่มีใครทราบแม้แต่คนเดียว
“อา… อาจารย์?!” เมื่อซุนเจี้ยนพบเห็นศพของเถาหรูไห่ เขาก็มองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาพร้อมอุทานออกมา
เหล่าศิษย์จากสำนักเที่ยงยุทธ์ต่างก็หยุดการห้ำหั่นคนของหอคันธะสงัด รวมถึงทางฝั่งพวกหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ด้วยเช่นกัน สายตาของพวกเขามองมายังจุดเดียวกันด้วยอาการตื่นตะลึง เพราะอู๋ฝานกำลังลากร่างของเถาหรูไห่ก้าวออกมาทีละก้าวไปยังลานกว้าง
ตอนนี้เองที่คนของหอคันธะสงัดเร่งรีบฉวยโอกาสพักหายใจกลับไปรวมตัวกันเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ทว่าสายตาของพวกเธอเหล่านั้นต่างก็จ้องอู๋ฝานเป็นทางเดียว มันมีทั้งความตื่นตระหนก ความสงสัย และความยินดีที่ไม่อาจปิดได้มิด
คนชั่วเล่นเถาหรูไห่ดับสิ้น ภัยคุกคามของพวกเธอจึงลดหายไปเกินครึ่ง
นักพรตหญิงฮุ่ยเหวินนั่งอยู่กับพื้น ข้างกายคือศิษย์หอคันธะสงัดที่กำลังช่วยรักษาบาดแผลให้ เธอกำลังมองอู๋ฝานพลางคาดเดาถึงตัวตน ขณะครุ่นคิดความลังเลจึงเกิดทางสีหน้า อย่างที่ไม่อาจรู้ได้ว่าในใจของเธอกำลังคิดอะไรอยู่
อู๋ฝานกลายเป็นเป้าสายตาและความสนใจของทุกคนในที่นี้
“เอ้า เจ้าสำนักใคร ขอส่งคืนให้แล้วกัน!” อู๋ฝานเอ่ยกับคนของสำนักเที่ยงยุทธ์ ก่อนจะขยับมือข้างขวาโยนร่างไร้ชีวิตของเถาหรูไห่ให้กับกลุ่มศิษย์สำนัก
บรรดาศิษย์สำนักเที่ยงยุทธ์รีบรับตัวเอาไว้ ตอนนี้เถาหรูไห่มีใบหน้าเย็นเยียบ สีหน้าทั้งตื่นตระหนกและโกรธแค้นผสมปนเป ดวงตาถลึงมองค้าง เห็นได้ชัดว่าตายแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
“เจ้าสำนักก็ฆ่าไปแล้ว ถ้ามีใครอยากล้างแค้นก็เข้ามา” อู๋ฝานมองกลุ่มศิษย์สำนักเที่ยงยุทธ์พร้อมประกาศเสียงดัง สีหน้าและท่าทีของเขาเปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจและสงบนิ่ง
แม้บรรดาศิษย์สำนักเที่ยงยุทธ์จะจ้องอู๋ฝาน แต่มันก็เป็นสายตาของผู้ที่กำลังหวาดกลัว แม้หลายคนแสดงความโกรธออกมา แต่ก็ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นต่อต้าน
เถาหรูไห่ผู้เป็นเจ้าสำนัก เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักเที่ยงยุทธ์ของพวกเขา เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตแปรสภาพขั้นกลาง ยอดฝีมือเช่นนี้ยังไม่อาจทำอะไรอู๋ฝานได้ เช่นนั้นพวกเขาจะเอาอะไรไปต่อกรกับอีกฝ่าย? ทวงถามหนี้แค้นตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับแส่หาความตาย
“ถ้าไม่มีใครคิดล้างแค้น ก็รีบไสหัวออกไปจากที่นี่!” อู๋ฝานที่กวาดตามองบรรดาศิษย์สำนักเที่ยงยุทธ์พลันเผยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
แม้กลุ่มศิษย์เหล่านี้โกรธแค้นแทบตาย แต่กลับไม่มีใครกล้าลงมือ ซุนเจี้ยนทำได้เพียงมองอู๋ฝาน ก่อนจะหันมองร่างอาจารย์ของตนเอง สุดท้ายจึงหลับตากล้ำกลืนพลางตะโกน “พวกเราไป!”
แม้พวกเขาไม่ยินดีจากไป แต่ซุนเจี้ยนที่ฝีมือแข็งแกร่งรองลงมามีสภาพข้อมือหักไม่อาจใช้การได้ เจ้าสำนักก็ถูกสังหารไปแล้ว หากยังฝืนดื้อดึงต่อไปพวกเขาคงมีจุดจบไม่สวยงามนัก แม้การต้องถอยเป็นเรื่องน่าอับอาย แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ส่วนการล้างแค้นคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต
เมื่อเห็นศิษย์พี่ใหญ่สั่งให้ถอย คนอื่นที่เหลือแม้ไม่ยินดีกลับไปเช่นนี้ ก็แค่ต้องทำตามคำสั่งของซุนเจี้ยน
เพราะเหล่าศิษย์สำนักเที่ยงยุทธ์ถอนตัว การต่อสู้ระหว่างสองสำนักจึงสิ้นสุดลงเป็นการชั่วคราว ผู้คนทางฝั่งหอคันธะสงัดต่างก็ถอนใจโล่งอก
“อาจารย์ป้า” ทันทีที่กลุ่มศิษย์สำนักเที่ยงยุทธ์ถอนตัว เป้ยอวี่ฉวนจึงขอให้ถังอวี่เฟยช่วยพยุงตนเข้าไปหากลุ่มคนจากหอคันธะสงัด ก่อนจะนั่งลงกับพื้นตรงหน้านักพรตหญิงฮุ่ยเหวิน
“อวี่ฉวน อาการเป็นยังไงบ้าง?” ฮุ่ยเหวินแม้มีสีหน้าซีดเผือดก็ยังเผยยิ้มเอ่ยคำถาม
“หนูไม่เป็นไรค่ะอาจารย์ป้า พวกอู๋ฝานช่วยหนูเอาไว้” เป้ยอวี่ฉวนตอบรับ
“อู๋ฝาน?” ฮุ่ยเหวินมองทางชายหนุ่มที่เดินตามมาพลางตอบรับ “ฉันขอบคุณที่คุณเข้าช่วยเหลือครั้งนี้จากใจจริง คุณช่วยทั้งอวี่ฉวนและหอคันธะสงัดของพวกเราไว้”
“ไม่ต้องสุภาพกันขนาดนั้นก็ได้ครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” อู๋ฝานตอบกลับ
เรื่องครั้งนี้อย่างไรก็เป็นเรื่องใหญ่ ฮุ่ยเหวินได้เห็นว่าเพราะเข้าร่วมศึกครั้งนี้อู๋ฝานจึงบาดเจ็บไม่ใช่น้อย เมื่อเห็นดังนั้นใจเธอจึงยิ่งนึกซาบซึ้งและขอบคุณ
“แค่ก! แค่ก!” ฮุ่ยเหวินที่คิดพูดอะไรต่อกลับไออย่างรุนแรงออกมาพร้อมก้อนเลือดขนาดใหญ่
“ท่านอาจารย์!”
“อาจารย์ป้า!”
หลังศิษย์หอคันธะสงัดเห็นจึงอุทานเสียงดังออกมา
ฮุ่ยเหวินยกมือขึ้น เป็นการบอกให้ทุกคนหยุดกังวล เธอเผยรอยยิ้มบาง ๆ ออกมา “ฉันคงไปต่อไม่ไหวแล้ว พวกเธอไม่ต้องเศร้าไป มีพบก็ต้องมีจาก โชคชะตาก็เป็นแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องประสบพบเจอทั้งนั้น เพียงแค่วันนี้เป็นวันตายของฉันก็เท่านั้นเอง”
คำพูดของฮุ่ยเหวินทำให้บรรดาศิษย์หอคันธะสงัดต่างต้องหลั่งน้ำตากันออกมา พวกเธอเพิ่งสูญเสียเจ้าหอ ตอนนี้ก็กำลังจะสูญเสียผู้อาวุโสเช่นฮุ่ยเหวินไปอีกคนหนึ่ง
ฮุ่ยเหวินเผยสีหน้าผ่อนคลาย แสดงออกว่าไม่หวาดกลัวต่อความตายที่คืบคลานเข้ามาแม้แต่น้อย อีกทั้งสายตาของเธอยังไม่ได้มองเหล่าศิษย์ของหอคันธะสงัด แต่ว่ามองอู๋ฝาน “สหายน้อย ฉันมีเรื่องขอร้อง หวังว่าเธอจะรับเอาไว้”
“ขอแค่ผู้อาวุโสพูดออกมาครับ” อู๋ฝานตอบรับ
“ยกโทษให้ในความหยาบคายครั้งนี้ด้วย เพราะเป็นเรื่องสำคัญของหอคันธะสงัด ทำให้เธอต้องมีแต่ตอบรับไม่อาจปฏิเสธ” ฮุ่ยเหวินกล่าวออกมา
“เอ่อ…” อู๋ฝานรู้สึกลำบากใจขึ้นมา เพราะไม่ทราบว่าอีกฝ่ายกำลังจะขอให้ตนเองช่วยอะไร แต่สถานการณ์ตอนนี้ก็ทำให้เขาไม่กล้าปฏิเสธจริง ๆ
ขณะอู๋ฝานเจอกับสถานการณ์ยากลำบาก ฮุ่ยเหวินก็ไม่ได้เร่งร้อน เพียงรอคอยการตอบรับ ระหว่างนี้ยังไอออกมาอีกหลายครั้ง ก่อนจะมีเลือดออกมามากขึ้น ทั้งร่างยิ่งอ่อนแรงลง
“พูดออกมาเถอะครับ ผมจะรับไว้เอง” อู๋ฝานไม่อาจทนเห็นและปฏิเสธคำขอของคนที่ชีวิตใกล้ดับสิ้นได้
“ฉันขอให้เธอเป็นเจ้าหอคันธะสงัด!” ฮุ่ยเหวินโพล่งออกมาตามตรง