ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 460 ปัญหาของเจ้าหย้าหนาน
บทที่ 460 ปัญหาของเจ้าหย้าหนาน
“เถ้าแก่อู๋ เถ้าแก่ผู้ยิ่งใหญ่ ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ถ้านานกว่านี้แล้วยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็น ฉันคงไปสถานีตำรวจพื่อแจ้งความคนหายแล้วค่ะ” ทันทีที่อู๋ฝานเดินเข้ามายังโรงงานเฟอร์นิเจอร์ เจ้าหย้าหนานจึงเร่งเข้ามาพร้อมบ่นอุบใส่
อู๋ฝานนึกละอายใจ เนื่องจากช่วงที่เดินทางไปภูเขาเทียนเหลียงไม่ได้คาดว่าจะเกิดเรื่องมากมายขึ้น แม้โทรบอกเจ้าหย้าหนานก่อนจะไปหอคันธะสงัดแล้ว แต่ก็เพียงบอกกล่าวทั่วไป แม้เขาเองก็ไม่ได้คิดว่าจะใช้เวลานานถึงขนาดนี้มาก่อน
“พอดีเกิดเรื่องขึ้นเลยต้องใช้เวลาไปบ้างน่ะครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “เถ้าแก่เจ้าเป็นคนมีความสามารถ เรื่องราวน้อยใหญ่ในโรงงานแห่งนี้ไม่น่าจะมีอะไรกวนใจหรอกมั้งครับ?”
ก่อนหน้าที่อู๋ฝานจะร่วมมือกับเธอ เจ้าหย้าหนานรับผิดชอบเป็นคนดูแลโรงงานเฟอร์นิเจอร์กับโรงไม้ หลังความร่วมมือเธอก็ยังคงคอยดูแลสถานที่ทั้งสองอย่างต่อเนื่องและไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเชื่อใจในความสามารถของเธออยู่พอสมควร
“เถ้าแก่อู๋กำลังชมฉันเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องของตัวเองแล้วค่ะ” เจ้าหย้าหนานยิ้มตอบรับ ในเมื่อเรื่องของเถ้าแก่หลิวคลี่คลาย นับวันเธอก็ยิ่งผ่อนคลายคล้ายสมองปลอดโปร่ง
“ไม่เลยครับ ผมพูดความจริงทั้งนั้น” อู๋ฝานตอบ
“กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ อันที่จริงปัญหานี้ฉันจัดการไม่ไหว ไม่งั้นคงไม่โทรเร่งให้มา ถึงจะรู้ว่าคุณติดธุระอื่นอยู่ แต่ตรงนี้ฉันหาทางออกไม่เจอจริง ๆ จนต้องรบกวนแล้วค่ะ” เจ้าหย้าหนานเอ่ย
นับตั้งแต่ครั้งแรกที่อู๋ฝานส่งไม้ล้ำค่าให้ เจ้าหย้าหนานก็ทราบดีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา นอกจากธุรกิจส่วนที่เธอกำลังดูแล อีกฝ่ายก็มีธุรกิจอื่น ๆ ในครอบครองด้วย ดังนั้นหลังชายหนุ่มฝากฝังการดูแลจัดการที่นี่จึงโผล่หน้ามาน้อยครั้ง เรื่องราวส่วนใหญ่ปล่อยให้เธอจัดการแทบหมด แน่นอนว่าตนไม่ได้ต้องการบ่นหรืออะไร แต่กำลังพยายามทุ่มเทอย่างเต็มที่ และไม่รบกวนอีกฝ่ายเท่าที่จะทำได้
“ปัญหาที่แม้แต่คุณก็ยังจัดการไม่ได้เหรอครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“อย่าคาดหวังในตัวฉันสูงขนาดนั้นเลยค่ะ หลายอย่างฉันก็หาทางออกไม่ได้เหมือนกัน” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ “ตอนนี้ก็มีเรื่องหนึ่ง คุณก็รู้เรื่องคำสั่งซื้อที่เคยเป็นปัญหาใช่ไหมคะ?”
“รู้สิครับ” อู๋ฝานตอบรับ “จากกำหนดเวลาที่มีน่าจะทำเสร็จทันนี่ครับ หรือช่วงที่ผมไม่อยู่เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นอีก?”
อู๋ฝานทราบดีว่าคำสั่งซื้อดังกล่าวเป็นเรื่องเจ้าปัญหาแค่ไหน แต่หากไม่มีคำสั่งซื้อเจ้าปัญหานั้น เขาก็คงไม่มีโอกาสได้เข้ามาร่วมทำธุรกิจค้าไม้เช่นตอนนี้
“ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไรค่ะ ตั้งแต่เถ้าแก่หลิวโดนจับกุม ทุกเรื่องก็ราบรื่นดี ฉันส่งสินค้าไปก่อนถึงกำหนดเวลาตามสัญญาด้วยซ้ำ” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ
“ดีแล้วครับ อย่างน้อยก็ลดภาระทางใจไปได้เรื่องหนึ่ง” อู๋ฝานตอบ
เนื่องจากเขาทราบดีว่าเจ้าหย้าหนานแทบจะเป็นโรควิตกกังวลเพราะคำสั่งซื้อดังกล่าว อย่างไรมันก็เกี่ยวข้องไปถึงอนาคตของครอบครัวเธอ ดังนั้นตอนโรงงานเฟอร์นิเจอร์ถูกไฟไหม้เธอจึงสิ้นหวังจนถึงขีดสุด ขณะนี้คำสั่งซื้อนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี สำหรับหญิงสาวจึงแทบเหมือนการยกภูเขาออกจากอก
“ค่ะ เป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ” เจ้าหย้าหนานรับคำ “ในตอนนี้เรื่องที่ฉันจัดการไม่ได้ก็เกี่ยวข้องกันค่ะ ยังจำตอนครั้งแรกที่คุณมาโรงงานนี้แล้วทำเก้าอี้ด้วยมือทุกขั้นตอนโดยไม่ใช้ตะปูได้ไหมคะ?”
“ครับ” อู๋ฝานพยักหน้ารับ ครั้งนั้นเขาทำก็เพื่อสยบข้อครหาของอาจารย์ประจำโรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งนี้และเพื่อพิสูจน์ถึงฝีมือของตนเอง นับตั้งแต่นั้นอีกฝ่ายก็ต้อนรับเขาเป็นอย่างดี ทั้งยังสุภาพนอบน้อมซะด้วยซ้ำไป
“เก้าอี้นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งซื้อค่ะ ตอนฉันจัดส่งไปก็คิดแค่จัดส่งไปแบบนั้น แต่ไม่นานมานี้กลับมีคนมาหาพวกเราถึงที่นี่ ทางนั้นพร้อมจ่ายเงินสามแสนให้ทางเราช่วยปรับแต่งเฟอร์นิเจอร์บางส่วนเป็นพิเศษ ทุกงานต้องการโครงสร้างร่องและเดือย ปัญหาอยู่ที่ตรงนี้นี่แหละค่ะ” เจ้าหย้าหนานบอก
“คำสั่งซื้อสามแสนก็ทำชะงักแล้วเหรอครับ? ไม่ใช่ว่าเคยรับมือกับคำสั่งซื้อมูลค่าสิบล้านมาแล้วหรอกเหรอ?” อู๋ฝานยิ้มถาม
“แตกต่างกันค่ะ คำสั่งซื้อก่อนหน้านี้ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำและยังเป็นแค่เฟอร์นิเจอร์ทั่วไป แค่วัตถุดิบดีกว่า ทว่ากระบวนการทำไม่ซับซ้อน” เจ้าหย้าหนานตอบกลับมา
“แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายสั่งให้ใช้โครงสร้างร่องและเดือย อาจารย์ของโรงงานเราได้เรียนรู้ทักษะมาจากคุณก็จริง แต่ฉันกลัวว่าพวกเขาจะรับภาระงานยาวนานไม่ไหว และอีกฝ่ายก็บอกว่าคำสั่งซื้อมูลค่าสามแสนนี้เป็นแค่การสำรวจเพื่อตรวจสอบความสามารถของโรงงานเรา ถ้าพวกเขาพอใจกับสินค้ารอบนี้ ต่อไปจะมีคำสั่งซื้อชุดใหญ่เข้ามา เรียกว่าสามแสนนี้เป็นการทดสอบก็ไม่ผิดค่ะ”
“เป็นแบบนี้นี่เอง” อู๋ฝานพยักหน้ารับและเข้าใจสิ่งที่เจ้าหย้าหนานพยายามสื่อถึง
คำสั่งซื้อมูลค่าสามแสนนี้ไม่ได้มากมายหรือใหญ่โตอะไร หากเป็นสถานการณ์ตามปกติเจ้าหย้าหนานคงตัดสินใจเองได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องถามความเห็นจากอู๋ฝาน แต่คำสั่งซื้อครั้งนี้ต้องการใช้โครงสร้างร่องและเดือย มันเป็นงานยาก เธอจึงกังวลว่าอาจารย์ประจำโรงงานจะทำได้ไม่ดีพอ
ถ้าแค่เสียเงินก็ถือเป็นเรื่องที่พอรับได้ ทว่าประเด็นอยู่ที่จะเสียคำสั่งซื้อในอนาคตไปด้วย ทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของโรงงาน ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าตัดสินใจจนต้องโทรหาอู๋ฝาน อย่างไรชายหนุ่มก็เป็นคนที่เชี่ยวชาญงานด้านนี้มากที่สุด
“เพราะงั้น… คิดว่าพวกเราควรรับคำสั่งซื้อนี้ดีไหมคะ?” เจ้าหย้าหนานเอ่ยถาม
“รับสิครับ ทำไมจะไม่รับล่ะ?” อู๋ฝานตอบกลับ “ก็แค่คำสั่งซื้อมูลค่าสามแสน พร้อมใช้ไม้เนื้อแข็งทำโครงสร้างร่องและเดือย จำนวนที่ต้องผลิตก็ไม่ได้มากมายเกินไป ผมจัดการด้วยตัวเองยังได้เลย”
วิชาทำเฟอร์นิเจอร์ของอู๋ฝานคือระดับมาสเตอร์ ทำให้ไม่เพียงสามารถสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลายและค่อนข้างยากได้ แต่ยังรวมถึงความเร็วที่มากกว่าคนทั่วไป ต่อให้รับคำสั่งซื้อนี้ไว้ด้วยตนเองก็ไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก
“ยังมีอีกหนึ่งคำถามค่ะ” เจ้าหย้าหนานเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “อีกฝ่ายได้เห็นเก้าอี้ที่ทางเราทำขึ้นจากคำสั่งซื้อที่ส่งมอบไปก่อนหน้านี้ หมายความว่าทั้งสองคนรู้จักหรือไม่ก็เป็นเพื่อนกัน ฉันกลัวว่าจะมีกับดักอะไรแอบแฝงมาด้วยค่ะ”
คำสั่งซื้อก่อนหน้าคือกับดักที่ทำให้ครอบครัวของเจ้าหย้าหนานเกือบจะล่มจม กระทั่งทำพ่อของเธอโกรธจัดจนล้มป่วย ทั้งโรงงานเฟอร์นิเจอร์และโรงไม้ยังเกือบไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ ดังนั้นคนที่ร่วมมือกับเถ้าแก่หลิวหลอกเจ้าหย้าหนานจึงต้องเป็นคนใจทรามไม่แพ้กัน ครั้งนี้เธอจะระมัดระวังขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
อู๋ฝานทราบดีว่าเธอกำลังกังวล “ครั้งก่อนที่พ่อของคุณถูกหลอกก็เพราะไว้ใจเถ้าแก่หลิวเกินไป ครั้งนี้พวกเราจะระมัดระวังให้รัดกุม ตั้งทีมทางกฎหมายขึ้นมาตรวจสอบเนื้อหาสัญญาอย่างถี่ถ้วน ถ้าพวกเรามัวแต่กลัวการรับคำสั่งซื้อ ในอนาคตก็คงยากจะทำธุรกิจได้ครับ”