ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 475 ลอบสังหาร
บทที่ 475 ลอบสังหาร
ขณะค้นพบความผิดปกติ เป็นอีกครั้งที่อู๋ฝานจ้องมององค์หญิงสามแห่งหนานปิงด้วยความระแวดระวัง
ไม่ผิดแน่!
นางเปิดเผยจิตสังหารออกมาจริง ๆ!
ทว่าจิตสังหารดังกล่าวอ่อนจาง ราวกับองค์หญิงสามแห่งหนานปิงกำลังพยายามกักเก็บมันเอาไว้ หากไม่ใช่เพราะอู๋ฝานสังหารผู้คนมาแล้วมากมาย รวมกับเรื่องที่ความแข็งแกร่งปัจจุบันก้าวหน้าจากการฝึกฝนวิชาทั้งหลายในหอคันธะสงัด เขาคงไม่มีทางค้นพบจิตสังหารที่บางเบาขนาดนี้อย่างแน่นอน
แต่องค์หญิงสามแห่งหนานปิงมุ่งเป้าการสังหารไปที่ผู้ใด?
อู๋ฝานไม่อาจคาดเดาใจนาง แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเพิ่งมาเยือนอาณาจักรเหยียนเฟิงเป็นครั้งแรก ดังนั้นจึงไม่น่ามีความเกลียดชังใดกับผู้คนที่นี่ เช่นนั้นแล้วจิตสังหารแผ่พุ่งออกมาได้อย่างไร?
เพราะการค้นพบดังกล่าว อู๋ฝานจึงไม่กล้ารื่นเริงไปกับเสียงดนตรีและการร่ายรำในโถงใหญ่ แต่เลือกจับตามององค์หญิงสามแห่งหนานปิงอย่างใกล้ชิด เผื่อว่าจะค้นพบอะไรอื่นเพิ่มเติมบ้าง
แม้ทราบถึงจิตสังหารของหญิงสาว แต่จนกว่าจะแน่ชัดว่านางต้องการสังหารผู้ใดเขาก็ไม่มีทางกล้าเอ่ยคำออกมาห้ามปราม เนื่องจากตนคือผู้มีสถานะต่ำเตี้ยที่สุดในที่แห่งนี้ ขณะที่อีกฝ่ายเป็นถึงองค์หญิงลำดับที่สามแห่งอาณาจักรหนานปิง สถานะของคนทั้งสองแตกต่างกันจนเกินไป ทั้งยังเกี่ยวข้องถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักรที่กำลังจะไปได้ดี ก่อนอีกฝ่ายจะลงมืออย่างโจ่งแจ้ง หากอู๋ฝานกล่าวว่าอีกฝ่ายต้องการสังหารใครสักคนที่นี่ มันจะไม่ใช่เรื่องดีต่อตัวเขาเอง ไม่ว่าใครก็จะไม่มีทางเชื่อ กระทั่งคิดว่าเขาเป็นบ้า
ดังนั้นอู๋ฝานจึงทำได้เพียงคอยจับตามองเพื่อเฝ้าระวัง
ไม่นานจึงได้พบว่าทุกครั้งที่องค์หญิงสามแห่งหนานปิงหันหน้าไปเผชิญกับจักรพรรดิชรา จิตสังหารของนางจะพวยพุ่งออกมารุนแรงกว่าปกติ บางครั้งกระทั่งหลุดรั่วออกมาอย่างยากหาทางสะกดเอาไว้ได้เสียด้วยซ้ำ
หรือเป้าหมายที่นางต้องการลอบสังหารจะเป็นจักรพรรดิชรา?!
ยามอู๋ฝานได้ทราบถึงกับต้องตื่นตระหนก แต่สัญชาตญาณยังร้องบอกว่าไม่น่าเป็นไปได้
อาณาจักรหนานปิงอยู่ใต้อาณัติของอาณาจักรเหยียนเฟิงมาโดยตลอด กระทั่งว่าต้องพึ่งพาอาณาจักรเหยียนเฟิงเพื่อเอาชีวิตรอดเสียด้วยซ้ำ ทั้งสองอาณาจักรต่างก็มีสัมพันธ์อันดีต่อกันเรื่อยมา ในแง่ความแข็งแกร่ง อาณาจักรเหยียนเฟิงสามารถบดขยี้อาณาจักรหนานปิงจนราบเป็นหน้ากลองได้
แต่แล้วองค์หญิงสามแห่งหนานปิงกลับต้องการลอบสังหารจักรพรรดิแห่งเหยียนเฟิง หากสำเร็จสุดท้ายจะเป็นเช่นไร อาณาจักรเหยียนเฟิงคงจะโกรธเกรี้ยวจนส่งกองทัพไปกวาดล้างอาณาจักรหนานปิง กระทั่งหายไปจากแผนที่ มันจะมีแต่ทำให้อาณาจักรหนานปิงที่อ่อนแออยู่แล้วพบหายนะและจุดจบ
ดังนั้นองค์หญิงสามแห่งหนานปิงจึงไม่ควรมีเหตุผลอะไรที่ต้องลอบสังหารจักรพรรดิแห่งเหยียนเฟิง
‘เดาไม่ออกแล้ว’ อู๋ฝานบ่นอยู่ในใจ ‘หรือว่าเรารับรู้อะไรผิดพลาดไป?’
“ใต้เท้าอู๋มีความรู้ความเข้าใจเรื่องร้องรำด้วยงั้นหรือขอรับ?” หลี่จื่อหยางที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อู๋ฝาน เห็นอีกฝ่ายจ้องไม่วางตาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมา
ความบันเทิงของโลกฝั่งนี้ตามยุคสมัยย่อมเป็นบทกวี การร้องเพลง และการเต้นรำเหมือนดังเรื่องราวโรแมนติกที่สามารถพบเห็นได้ตามนิยาย จะมีใครสนใจเรื่องร้องรำจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
“ไม่ขอรับ ข้าเพียงรู้ผิวเผิน” อู๋ฝานตอบ
“ใต้เท้าอู๋สมกับเป็นคนรุ่นเดียวกับพวกเราจริง ๆ ได้ยินว่าองค์หญิงสามแห่งหนานปิงชื่นชอบการร่ายรำด้วยไม้พลองตั้งแต่ยังเด็ก ไม่นึกเลยว่าพรสวรรค์การร่ายรำที่แสดงออกวันนี้จะยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้” หลี่จื่อหยางมองทางองค์หญิงสามแห่งหนานปิง พลางบอกเล่าเรื่องราวที่ทราบพร้อมชื่นชมออกมา
“แย่แล้ว!”
ขณะหลี่จื่อหยางกำลังดื่มด่ำกับบทเพลงและท่วงทำนองการร่ายรำ รวมถึงคิดอยากเปิดบทสนทนาด้านนี้กับอู๋ฝาน อีกฝ่ายกลับตบโต๊ะพร้อมส่งเสียงตะโกนดังจนทำให้หลี่จื่อหยางที่ไม่ทันทั้งตัวแทบล้มลงจากเก้าอี้
“ฝ่าบาทระวัง!” อู๋ฝานไม่สนใจหลี่จื่อหยางแล้ว ขณะนี้เขาลุกขึ้นยืนพร้อมตะโกนบอกอีกฝ่าย กระทั่งพุ่งตัวออกจากที่นั่งไปทางจักรพรรดิชรา
เมื่อครู่ตอนที่หลี่จื่อหยางชื่นชมความยอดเยี่ยมขององค์หญิงสามแห่งหนานปิง อีกฝ่ายกลับบิดเอวขยับกายอย่างเชื่องช้ารุกเข้าหาจักรพรรดิชรา ฝีเท้าของนางมั่นคง โดยยังคงท่วงทำนองการร่ายรำก่อนหน้านี้เอาไว้
ดังนั้นจึงไม่มีใครตระหนักพบความผิดปกติ กระทั่งจักรพรรดิชราเองยังมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน เห็นได้ชัดว่ากำลังพึงพอใจกับการร่ายรำอันอ่อนช้อยของนาง
องค์หญิงสามแห่งหนานปิงก้าวด้วยท่วงทำนองเสียงเพลงทีละก้าว รุกเข้าหาจักรพรรดิอย่างเชื่องช้า บันไดนี้ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นขึ้น เหล่าขุนนางในที่นี้ไม่มีคุณสมบัติก้าวขึ้นไป จักรพรรดิผู้อยู่เหนือบันไดจึงค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากเหล่าขุนนางที่อยู่เบื้องล่าง สภาพในเวลานี้ไม่ใช่เพียงเพื่อรักษาความยิ่งใหญ่ให้แก่จักรพรรดิ แต่ยังเป็นการกำหนดระยะในราชสำนักอย่างชัดเจน ทั้งหมดก็เพื่อรับประกันความปลอดภัยด้วยการให้จักรพรรดิอยู่ห่างจากผู้อื่นระยะหนึ่ง
แต่ขณะองค์หญิงสามแห่งหนานปิงร่ายรำและกำลังก้าวเท้าขึ้นบันได ทุกคนกลับไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของท่าทางที่องค์หญิงสามต้องการแสดงให้จักรพรรดิชราได้เห็นและยั่วยวนไปในตัว อย่างไรงานเลี้ยงครั้งนี้ก็เป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่อรับการส่งตัวองค์หญิงสามแห่งหนานปิงมาอยู่ในอ้อมอกของจักรพรรดิชรา ทุกคนและจักรพรรดิเองก็ไม่พบว่าการกระทำนี้ผิดปกติแต่ประการใด
องค์หญิงสามแห่งหนานปิงผู้ขึ้นบันไดได้สำเร็จ ทั้งยังเกือบจะได้เข้าใกล้จักรพรรดิผู้นั่งบนบัลลังก์มังกร แต่แล้วขณะจักรพรรดิชรายังคงรับชมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มลุ่มหลง เสียงของอู๋ฝานกลับดังขึ้นพร้อมแสดงตัวอย่างกะทันหัน แม้เสียงเพลงค่อนข้างดัง แต่เสียงนั้นก็ดังมากพอทำให้ทุกคนในที่นี้ได้ยินอย่างชัดเจน
รวมถึงตัวจักรพรรดิชราเองก็ด้วย
ขณะนี้สายตาขององค์หญิงสามแห่งหนานปิงที่เดิมยิ้มแย้มอ่อนช้อยกับบทเพลงและท่วงทำนอง พลันเย็นวาบอย่างกะทันหัน กระทั่งแผ่จิตสังหารอันรุนแรงพวยพุ่งออกมา!
ลอบสังหาร!
จักรพรรดิชราพลันตื่นรู้พร้อมได้สติจนหลบเลี่ยงไปด้านข้าง
องค์หญิงสามแห่งหนานปิงใช้ปิ่นปักผมที่ดึงออกจากศีรษะแทงจักรพรรดิชรา ปลายปิ่นปักผมยามต้องแสงไฟจึงทอประกายแสงอันเย็นเยียบ
“ฟึ่บ!”
เพราะจักรพรรดิชรามีเวลาให้หลบเลี่ยง องค์หญิงสามแห่งหนานปิงจึงทิ่มแทงไม่ถูกจุดตาย ทว่าก็ถากเข้าที่แขนฝากไว้เป็นรอยแผลยาว กระทั่งปรากฏเลือดไหลซิบออกมา
“องครักษ์!” จักรพรรดิชราที่อดกลั้นความเจ็บปวดตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นรวดเร็วจนเกินไป จากเดิมที่สนุกสนานสุขสันต์กลับกลายเป็นฉากฆาตกรรม เหล่าขุนนางทั้งหลายถึงกับตอบสนองไม่ทัน กระทั่งไม่เชื่อสิ่งที่กำลังพบเห็นอยู่ด้วยซ้ำ
บุคคลเดียวที่ตอบสนองทันท่วงทีคืออู๋ฝาน ช่วงเวลาที่องค์หญิงสามแห่งหนานปิงเกือบจะเข้าใกล้ถึงตัวจักรพรรดิ เขาพบว่าจิตสังหารจากกายของนางแผ่พุ่งออกมารุนแรงมากขึ้นตามระยะที่เข้าใกล้ ราวกับพร้อมลงมือปลิดชีพในทุกเมื่อ ดังนั้นชายหนุ่มจึงตัดสินใจตะโกนออกมา ขณะเดียวกันก็ยังเป็นคนเดียวที่พุ่งตัวเข้าหาจักรพรรดิชรา วิชานางแอ่นถลาลมถึงกับถูกเรียกใช้ออกมาอย่างสุดกำลัง
ขณะองค์หญิงสามแห่งหนานปิงเห็นเป้าหมายยังไม่ตาย ขณะนี้จึงรุกไล่หมายสังหารให้จงได้ ทว่าจักรพรรดิชราได้ไปหลบด้านหลังมหาขันทีผู้หนึ่งแล้ว
องค์หญิงสามแห่งหนานปิงตัดสินใจลงมืออย่างไม่ลังเล นางเฉือนหลอดลมของมหาขันทีผู้นั้นด้วยปิ่นปักผมในมือจนสิ้นชีพ ก่อนจะเตะส่งร่างนั้นให้พ้นทางเพื่อหมายสังหารจักรพรรดิชราให้จงได้