ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 476 ช่วยเหลือ
บทที่ 476 ช่วยเหลือ
“ตึง!”
จักรพรรดิชราที่รีบหลบด้วยอาการแตกตื่น ทว่ากลับถูกองค์หญิงสามแห่งหนานปิงที่รุกไล่เข้าหาเตะจนล้มลงกับพื้น ก่อนที่ปิ่นปักผมแหลมคมในมือจะพุ่งลงหมายแทงเป้าหมายอีกครั้งหนึ่ง
จักรพรรดิแตกตื่น ตลอดชีวิตของเขาเจอเรื่องราวมากมาย แต่ในแง่ของความอันตราย สถานการณ์เช่นตอนนี้คือภัยคุกคามถึงชีวิตที่สุด เนื่องจากทุกวันมักจะอยู่อาศัยในวังหลวงได้รับการคุ้มกันโดยเหล่าราชองครักษ์อย่างแน่นหนา นี่จึงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เจอการลอบสังหาร
อีกทั้งการลอบสังหารครั้งนี้ยังเป็นการลงมือที่อันตรายที่สุดเสียด้วย
“จงตาย!” องค์หญิงสามแห่งหนานปิงตะโกนเสียงดัง แม้ว่าตัวนางจะยังมีผ้าคลุมใบหน้าบดบัง แต่จิตสังหารที่พวยพุ่งออกมาจากดวงตาเป็นอะไรที่ไม่มีทางปิดบังได้มิด
“ตึง!”
ขณะจักรพรรดิชราสิ้นหวัง และองค์หญิงสามแห่งหนานปิงกำลังจะลงมือสำเร็จ ตัวนางกลับถูกเท้าที่ส่งมาจากทางด้านข้างเตะใส่ข้อมือขวาอย่างแม่นยำ
“อู๋ฝาน?!” จักรพรรดิชราทั้งตื่นตระหนกและยินดีที่เห็นมีคนเข้ามาช่วยเหลือ
บุคคลที่มาไม่ใช่ใครอื่นแต่ว่าเป็นอู๋ฝาน เพราะมหาขันทีช่วยถ่วงเวลา รวมกับวิชานางแอ่นถลาลมจึงทำให้เขามาถึงทันเวลาก่อนจักรพรรดิชราจะถูกลงมือปลิดชีพ ชายหนุ่มเตะใส่ข้อมือที่หมายสังหารขององค์หญิงสามแห่งหนานปิงจนพลาดเป้า พร้อมยืนตรงหน้าจักรพรรดิชรา สายตาของเขาจ้องนางด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
องค์หญิงสามแห่งหนานปิงคล้ายไม่คาดคิดว่าจะมีใครมาถึงและช่วยเหลือได้ทันท่วงที บันไดของโถงหลักแห่งนี้ค่อนข้างมีระยะห่างจากบัลลังก์มังกร นั่นก็เพื่อป้องกันมือสังหารลอบเข้าใกล้ มันมีหน้าที่คุ้มกันจักรพรรดิ อย่างน้อยก็ถ่วงเวลาจนกว่าผู้อื่นจะเข้ามาช่วยเหลือ ดังนั้นนางที่เข้าใกล้จักรพรรดิชราได้สำเร็จ จึงมั่นใจว่าจะสามารถสังหารคนได้ก่อนผู้อื่นมาถึง
อันที่จริงนางเกือบทำสำเร็จแล้ว เนื่องจากเหล่าราชองครักษ์ที่อยู่นอกประตูเพิ่งจะมาถึงกลางห้องโถงด้วยซ้ำไป หากเป็นไปตามปกติอย่างไรก็มาหยุดยั้งไม่ทัน
แต่องค์หญิงสามแห่งหนานปิงคิดอ่านตัวแปรเช่นอู๋ฝานผิดไป นางไม่นึกคิดมาก่อนว่าในโถงวันนี้จะมีคนเช่นอีกฝ่ายอยู่ด้วย ไม่เพียงทราบถึงแผนการของนางก่อนจะลงมือและตะโกนส่งเสียงเตือน แต่หลังจากตะโกนแล้วยังใช้เวลาแค่สั้น ๆ เข้ามาถึงตัวเพื่อช่วยเหลือจักรพรรดิชรา
นางจ้องจักรพรรดิชราผู้อยู่เบื้องหลังอู๋ฝาน จากนั้นจึงมองเหล่าราชองครักษ์ที่กำลังเข้ามาใกล้ นางได้ตระหนักว่าตอนนี้ไม่มีทางหลบหนีได้แล้ว ทว่าหญิงสาวยกปิ่นปักผมขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าแม้แผนการผิดพลาด นางก็ไม่มีวันลดละการสังหารจักรพรรดิชราเป็นอันขาด
แต่อู๋ฝานยืนหยัดที่ตรงหน้า หากต้องการลอบสังหาร นางก็ต้องผ่านเขาไปให้ได้เสียก่อน!
องค์หญิงสามแห่งหนานปิงคิดจริงและทำจริง ปิ่นปักผมในมือของนางกำลังแทงโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ลำคอของอู๋ฝาน
ตอนนี้นางไม่คิดปิดบังจิตสังหารอีกต่อไป กระทั่งปล่อยแผ่พุ่งออกมาทั่วร่างกาย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอันรุนแรงจนทำให้อู๋ฝานต้องชะงักไปครู่หนึ่ง
เมื่อเห็นปิ่นปักผมเข้ามาใกล้ อู๋ฝานขยับเท้าเล็กน้อยเคลื่อนกายหลบ ทำให้ปิ่นปักผมจึงพาดผ่านหน้าอกไม่โดนตัว ช่องว่างที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีโอกาสผลักฝ่ามือออกไป พร้อมยกเท้าขวาเตะใส่ขาของคู่ต่อสู้
อู๋ฝานหลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว ทว่าองค์หญิงสามแห่งหนานปิงก็ตอบสนองได้ดีไม่แพ้กัน เมื่อเห็นว่าปิ่นปักผมวืดกลางอากาศ นางไม่ดึงมันกลับ แต่เร่งความเร็วเบี่ยงเบนเป้าหมาย ขณะมือขวาของชายหนุ่มกำลังจะผลักใส่ตัวหญิงสาว ปิ่นปักผมกลับพยายามแทงอีกครั้ง เป้าหมายครั้งนี้จึงเป็นฝ่ามือข้างขวาของคู่ต่อสู้
ขณะเห็นเขาชะงักฝ่ามือเพื่อป้องกันตนเอง โดยการเอนกายไปด้านหลังเล็กน้อย ปิ่นปักผมของนางจึงพลาดอีกครั้ง มือซ้ายของอู๋ฝานในเวลานี้ยื่นออกไปจับข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ตึง!”
ขณะเดียวกันนั้นเองขาของเขาก็เตะขาของอูหย่า เห็นได้ชัดว่าไม่คิดปล่อยให้อีกฝ่ายลงมือตามใจชอบอีก แต่ขณะเตะใส่นั้น ขาของนางก็เตะสวนกลับมาจนปะทะกัน
อูหย่าเผยสีหน้าแดงก่ำออกมา ก่อนที่พริบตาจะกลายเป็นซีดขาว แม้การเคลื่อนไหวของนางไม่เชื่องช้า แต่หากเทียบด้านพละกำลังอย่างไรก็ด้อยกว่า นางทราบชัดเจนว่าขาข้างนั้นที่ปะทะเข้ากับขาอีกฝ่ายสะเทือนรุนแรงจนเจ็บปวดและแทบไม่อาจอดกลั้นทานทนเอาไว้
“หนีไม่ได้แล้ว” อู๋ฝานบอกกับองค์หญิงสามแห่งหนานปิง
มือซ้ายของอู๋ฝานจับข้อมือขวาของคู่ต่อสู้ แม้นางจะพยายามดิ้นรนให้หลุดออกก็ไม่เป็นผล หากเทียบด้านพละกำลังเขาแทบไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใด นับประสาอะไรกับผู้หญิงคนหนึ่ง
“ใช่หรือ? บางทีอาจไม่ใช่!” องค์หญิงสามแห่งหนานปิงเย้ยหยันซึ่งหน้า ก่อนนางจะสะบัดเท้าเผยมีดลับยาสี่ชุ่นออกมาจากปลายรองเท้า
“ฟึ่บ!”
เท้าซ้ายของนางตวัดใส่อู๋ฝาน ชายหนุ่มตื่นตระหนกจนต้องเร่งรีบปล่อยข้อมืออีกฝ่ายพร้อมถอยเท้ากลับ
องค์หญิงสามแห่งหนานปิงเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกคืบอีกครั้ง ปิ่นปักผมในมือและมีดปลายรองเท้าทำให้อู๋ฝานทำได้เพียงตั้งรับพลางถอย เห็นได้ชัดว่านางได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พละกำลังก็ไม่อ่อนด้อย เมื่อผสานการทำงานระหว่างมือและเท้าเข้าด้วยกันระดับนี้ได้ หมายความว่าต้องผ่านการฝึกอันเคี่ยวเข็ญ ไม่เช่นนั้นแล้วจังหวะการลงมือจะไม่สอดคล้องกัน
อู๋ฝานเองก็มีอาวุธอยู่ในกระเป๋าหลัง แต่ไม่อาจเอาออกมาต่อหน้าผู้คนได้ ไม่เช่นนั้นหลังจบเรื่องคงยากหาคำอธิบาย ดังนั้นจึงทำได้เพียงป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง
นับเป็นโชคดีที่แม้องค์หญิงสามแห่งหนานปิงสามารถรุกไล่ แต่นางก็ยังเป็นฝ่ายต้องร้อนรน เพราะโถงในวังหลวงแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิงในเวลานี้ปรากฏราชองครักษ์มากมายแห่แหนกันเข้ามา ยิ่งเวลาผ่านไปนานขึ้น สถานการณ์ของนางก็ยิ่งอันตราย
ขณะที่อู๋ฝานไม่ได้เร่งร้อนแต่อย่างใด ตราบเท่าที่ยังปกป้องตัวเองกับจักรพรรดิชราเอาไว้ได้ก็เพียงพอแล้ว แต่นางผู้เป็นมือสังหารไม่ใช่ ยิ่งผ่านไปนานจะมีแต่ยิ่งร้อนรน
“ตอนนี้แหละ!”
อู๋ฝานที่หลบเลี่ยงมาตลอดเห็นความร้อนรนของนางต่อเหล่าราชองครักษ์จนเกิดช่องโหว่ จังหวะนี้เองจึงเปลี่ยนท่าเท้าใช้ขาห่วงโซ่เตะใส่น่องของอีกฝ่าย
นางที่เสียสมาธิจึงตื่นตะลึง ขณะคิดใช้มีดปลายรองเท้าเล่นงานขาของอู๋ฝานก็พบว่าสายเกินไป สุดท้ายจึงทำได้เพียงต้องถอยกลับเพื่อหลบเลี่ยง แต่เพราะตอบสนองช้าจึงถูกเตะเข้าที่น่องอย่างรุนแรง กระทั่งทำเสียสมดุลจนร่างล้มลงกับพื้น
องค์หญิงสามแห่งหนานปิงจ้องชายหนุ่มราวคิดกินเลือดเนื้อ ปิ่นปักผมในมือของนางถูกขว้างออกไปประหนึ่งลูกดอก ทว่ามันไม่ได้คิดเล่นงานอู๋ฝาน แต่เป็นจักรพรรดิชราที่อยู่ด้านหลัง
“ระวัง!” อู๋ฝานเห็นมันผ่านไปก็สายเกินไปแล้ว ดังนั้นจึงทำได้เพียงตะโกนเตือนเสียงดัง
นับเป็นโชคดีที่จักรพรรดิชรามีอายุยืนยาวจนถึงตอนนี้ไม่ใช่สูญเปล่า หลังฟื้นคืนจากอาการแตกตื่นในช่วงแรกมาได้ แม้ยังร้อนรนอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้หวาดกลัวจนแข็งทื่อประหนึ่งท่อนไม้จนไม่อาจขยับเคลื่อนไหวอีก
เนื่องจากได้ยินคำเตือน จักรพรรดิชราจึงหลบเลี่ยงได้ทันท่วงที
“ปึก!”
ปิ่นปักผมยังคงปักเข้าร่างของจักรพรรดิชรา แต่เพราะคำเตือนของอู๋ฝานทำให้สามารถหลบเลี่ยงได้ ปิ่นปักผมจึงไม่ได้เล่นงานที่จุดตาย แต่เป็นเพียงแค่ตรงแขน
ทว่าสถานการณ์นี้ก็มากพอทำให้จักรพรรดิชราที่อายุราวเจ็ดสิบปีไม่อาจทนต่อความเจ็บปวด จนสุดท้ายหมดสิ้นสติไป