ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 479 บังเอิญดีเสียจริง
บทที่ 479 บังเอิญดีเสียจริง
เมื่อออกจากวังหลัง อู๋ฝานก็ตรงไปยังพระราชวังหลักเพื่อเตรียมกลับศาลาพักม้า เพราะลั่วหยางกลับไปก่อนแล้ว ทำให้เขาทำได้เพียงต้องเดินทางกลับด้วยตนเอง
ขณะอู๋ฝานเดินผ่านเข้าไปยังตลาดก็ได้เห็นทหารมากมายวิ่งตรวจสอบไปมา เห็นได้ชัดว่ากำลังหาตัวคนอยู่
‘องค์หญิงสามแห่งหนานปิงหนีออกจากวังได้งั้นหรือ?’ อู๋ฝานครุ่นคิดอยู่ในใจ
“นายท่านกลับมาแล้วหรือขอรับ?” ขณะอู๋ฝานกลับถึงศาลาพักม้า ลั่วหยางและลั่วเยวี่ยที่เตรียมจะออกไปด้านนอก กลับต้องประหลาดใจที่เห็นเจ้านายตนกลับมาแล้ว
“นายท่าน ด้านนอกเกิดเรื่องขึ้นเจ้าค่ะ ข้าได้ยินว่าจักรพรรดิเกือบถูกลอบปลงพระชนม์ พวกเราจึงเตรียมตัวไปรับท่านที่หน้าวัง” ลั่วเยวี่ยบอกออกมา
“ข่าวลือแพร่ออกไปไวดีเสียจริง” อู๋ฝานตอบรับ “เรื่องนั้นเกิดขึ้นจริง ๆ”
“อ๋า! จริงหรือเนี่ย ไม่แปลกใจที่ตามถนนเต็มไปด้วยพวกทหาร” ลั่วหยางตอบกลับ “นายท่าน ตอนนี้จับกุมตัวมือสังหารได้หรือไม่ขอรับ?”
“เรื่องนั้นก็ยังไม่ทราบ” อู๋ฝานตอบกลับ “แต่ดูจากสถานการณ์ภายนอก คาดว่ายังจับตัวคนไม่ได้”
“มือสังหารอะไรที่กล้าลอบปลงพระชนม์จักรพรรดิถึงในวัง?” ลั่วหยางพึมพำ
“เจ้าเองก็เคยพบอีกฝ่าย” อู๋ฝานบอกพลางเดินเข้าไปด้านใน
“ข้าเคยได้พบหรือขอรับ?” ลั่วหยางถึงกับประหลาดใจ “เป็นใครกัน?”
ลั่วเยวี่ยเองก็มองด้วยความสงสัย
“อูหย่าผู้เป็นองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรหนานปิง!” อู๋ฝานตอบกลับ “ลั่วเยวี่ย เรียกคนให้นำอาหารมาด้วย ข้าหิวแทบแย่แล้ว”
หลังงานเลี้ยงเริ่มได้ไม่นาน องค์หญิงสามแห่งหนานปิงก็คิดลงมือสังหาร ทำให้อู๋ฝานแทบไม่มีเวลาได้แตะอาหารเลยแม้แต่น้อย กระทั่งต้องเสียเวลาอยู่ที่วังหลวงทั้งวัน หลังกลับมาถึงที่นี่ก็เป็นช่วงเย็นแล้ว จะรู้สึกหิวขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“เจ้าค่ะนายท่าน” ลั่วเยวี่ยตอบรับพร้อมสั่งให้หญิงรับใช้ไปนำอาหารมาให้
“เป็นนางได้ยังไงกันขอรับ?” ลั่วหยางที่ยังคงประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้นมา “นางมาที่นี่เพื่อแต่งงานไม่ใช่หรอกหรือ? เพราะเหตุใดถึงกลายเป็นลอบสังหารไปเสียได้?”
“ข้าจะทราบได้ยังไงกัน?” อู๋ฝานถามกลับ
ขณะนี้เองที่เหล่าข้ารับใช้ก้าวเดินเข้ามาพร้อมอาหารหลากหลาย จากนั้นอู๋ฝานจึงได้เริ่มทานอาหาร
“อาณาจักรหนานปิงเป็นเบี้ยล่างอาณาจักรเหยียนเฟิงของพวกเรามาโดยตลอด ทำเช่นนี้จะได้รับอันใด? ไม่กลัวฝ่าบาทส่งกำลังทหารไปบุกโจมตีงั้นหรือ?” ลั่วเยวี่ยเอ่ยถาม
“ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน” อู๋ฝานตอบพลางทานอาหาร “บางทีองค์หญิงสามแห่งหนานปิงอาจตัดสินใจอย่างหุนหัน เพราะเรื่องบางอย่างก็เป็นไปได้”
แน่นอนว่าคำตอบนี้เป็นเพียงเรื่องขำขัน เพราะจากมุมมองของผู้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก เขาทราบดีว่าครั้งนี้ไม่ใช่การหุนหันลอบสังหาร แต่เป็นวางแผนเอาไว้แล้วต่างหาก
“พวกเจ้าก็ไม่ต้องคิดอะไรให้มากจนเกินไป หากวันสองวันนี้ไม่มีธุระใดก็อยู่เสียที่นี่ บนถนนนับจากวันนี้คงวุ่นวายน่าดู” อู๋ฝานบอกออกมา
หากองค์หญิงสามแห่งหนานปิงยังคงหลบหนีอยู่เช่นนี้ ทหารภายในเมืองก็จะยิ่งคอยเฝ้าจับตามองหาตัวนาง เมื่อถึงเวลานั้นบนถนนและตลาดคงมีทหารมาจับจ้องมากขึ้น ถ้าเกิดเรื่องจนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นมือสังหารจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
“รับคำสั่งนายท่าน” ทั้งสองต่างตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน
ส่วนตัวอู๋ฝานเองก็แทบไม่ได้คิดเรื่องของมือสังหารเพิ่มเติมอีกแต่อย่างใด สำหรับเขาแล้วเรื่องผ่านไปแล้วก็ถือว่าจบไป ตอนนี้รอเพียงการตกรางวัลจากจักรพรรดิก็เท่านั้น
“อิ่มแล้ว” อู๋ฝานที่ทานจนหมดลุกขึ้นยืน “ข้ากลับห้องไปพักก่อน หากไม่มีอะไรก็อย่ารบกวน”
“รับคำสั่งนายท่าน” ทั้งสองตอบรับ เนื่องจากคุ้นเคยกับคำขอเช่นนี้ของอู๋ฝานเรียบร้อยแล้ว
อู๋ฝานพยักหน้าตอบก่อนจะกลับเข้าห้องตนเองเพื่อเตรียมเทเลพอร์ต เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่นานมากนัก
หลังเข้าห้องมาแล้ว อู๋ฝานก็ปิดประตูพร้อมได้ตระหนักว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ เขาไม่ได้หันกลับไปมอง แต่เลือกยืนนิ่งเพื่อสูดดมกลิ่น
กลิ่นเลือด?!
จมูกของเขาไม่ได้ไวต่อกลิ่นถึงขนาดนั้น แต่กลิ่นนี้แรงขนาดทำให้รับรู้ได้ว่าในห้องมีเลือดอยู่
เพราะอะไรห้องนี้ถึงมีกลิ่นเลือด? ทั้งที่นอกจากเขาแล้วก็ไม่น่ามีใครเข้ามาได้อีก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะมีการทิ้งกลิ่นเลือดเหม็นฉุนถึงขนาดนี้เอาไว้ได้
อู๋ฝานนึกสับสนและฉงนใจพลางตรวจสอบความเป็นไปได้
“ไม่จริงมั้ง?” อู๋ฝานบ่นพึมพำกับตัวเอง “อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น?”
ขณะอู๋ฝานกำลังจะหันไปสำรวจ อะไรบางอย่างพลันแตะสัมผัสเข้าที่เอว อาศัยจากความรู้สึกก็มากพอที่จะทราบว่าเป็นมีดเล่มหนึ่ง
“อย่าขยับ ไม่งั้นตาย!” เสียงอันคุ้นเคยทว่าอ่อนแรงดังขึ้นจากทางด้านหลัง
นางอย่างนั้นหรือนี่?!
ตอนที่ได้กลิ่นเลือดในห้อง เขาก็นึกไปว่าอาจเป็นองค์หญิงสามแห่งหนานปิงที่กำลังหลบหนี แต่ก็มองว่าเรื่องราวไม่น่าบังเอิญถึงขั้นนั้น เมืองหลวงกว้างใหญ่ไพศาล ต่อให้นางหาที่ซ่อนตัวก็คงไม่บังเอิญเป็นที่นี่ ความเป็นไปได้นั้นมีน้อยเกินไป กระทั่งว่าเป็นช่วงที่ยังอยู่ในวังหลวง แม้ถูกควานหาตัวจนทั่วก็ยังหานางไม่พบเลยด้วยซ้ำ และที่นี่ตนก็จองกำหนดพักใช้งานเอาไว้แล้ว โอกาสที่จะเจออีกฝ่ายจึงต่ำมาก
แต่พอได้ยินเสียงจากทางด้านหลัง เขาก็มั่นใจว่ามันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้คนที่อยู่ด้านหลังซึ่งกำลังถือมีดจ่อตนเองอยู่นั้นคือองค์หญิงสามแห่งหนานปิงตัวจริงเสียงจริง
เรื่องราวช่างบังเอิญจนน่าประหลาดใจ
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก แต่จะขออยู่ที่นี่สักวันหรือสองวัน” เพราะเห็นด้านหลังของอู๋ฝาน นางจึงไม่ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นใคร “หันกลับมาช้า ๆ อย่าส่งเสียง อย่าคิดต่อต้าน ไม่งั้นเจ้าตาย”
ขณะอู๋ฝานได้ยินคำสั่งดังกล่าวจึงหันกลับไปช้า ๆ ขณะนี้เองที่องค์หญิงสามแห่งหนานปิงได้เห็นว่าอีกฝ่ายแท้จริงเป็นใคร นางถึงขนาดอดอุทานออกมาไม่ได้ “เป็นเจ้า?!”
ในน้ำเสียงนี้มีทั้งความประหลาดใจและความโกรธเจือปน
“ข้าเอง” อู๋ฝานเผยยิ้มขื่นขม
ราวกับต่างฝ่ายต่างไม่คิดว่าเรื่องราวจะบังเอิญถึงขนาดนี้ นางเพียงแค่หาสถานที่หลบซ่อน แต่สุดท้ายกลับมาเจออีกฝ่ายที่นี่ จะเรียกได้ว่าโชคดีหรือว่าโชคร้ายกันแน่?
“สารเลว จงตาย!” หลังได้ทราบตัวตนอู๋ฝาน องค์หญิงสามแห่งหนานปิงจึงคิดลงมือสังหาร เนื่องจากเกลียดชังอย่างสุดขั้วหัวใจ หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่าย แผนการลอบสังหารของนางคงสำเร็จไปแล้ว เพราะการปรากฏตัวของชายหนุ่มจึงทำแผนการของนางพังพินาศ!
“อย่า!” อู๋ฝานรีบตอบกลับ “สังหารไปเจ้าก็ไม่อาจออกไปจากที่นี่ ภายนอกข้ามีทั้งผู้ติดตามและข้ารับใช้ หากเกิดเสียงอึกทึกขึ้นที่นี่ อย่างไรพวกเขาก็ต้องมาตรวจสอบ เมื่อถึงเวลานั้นก็จะยังเรียกทหารภายในเมือง ต่อให้เจ้ามีปีกก็ไม่มีทางหนีรอด”
“เช่นนั้นข้าก็จะตายไปกับเจ้า!” เห็นได้ชัดว่าอูหย่าเกลียดชังอู๋ฝานถึงขนาดพร้อมฆ่าตัวตายตามไปด้วย
“ข้าก็แค่ใครที่ไหนก็ไม่รู้ แต่เจ้าคือองค์หญิงสามแห่งหนานปิง หากยอมตายเพียงเพราะคนเช่นข้าก็ถือว่าเสียเปรียบแล้ว” อู๋ฝานตอบกลับ “อีกทั้งเป้าหมายที่เจ้าต้องการสังหารยังเป็นจักรพรรดิแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิงของพวกเรา ตายร่วมกับข้าไปแล้วจะได้อะไร?”
อูหย่าแสดงความลังเลออกชัดทางสีหน้า แม้นางจะบาดเจ็บหนัก แต่ใจนั้นก็ไม่ได้ย่อท้อต่อการลอบสังหารจักรพรรดิชรา ถ้านางยอมตายเเสียที่นี่ ความตั้งใจหลักที่ลงมือไปแล้วจะล้มเหลวอย่างไม่มีทางกอบกู้ได้
แต่ขณะนางกำลังลังเลและเสียสมาธิ อู๋ฝานกลับเป็นฝ่ายจับมีดจากมือของนาง ในขณะเดียวกันนั้นยังจับมืออีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้ก่อการอื่นใดได้อีก
“สารเลว!” อูหย่าได้ตระหนักว่าตนเองถูกเล่นงาน ขณะนี้จึงโกรธแค้นเตรียมหาทางตอบโต้ แต่เพราะอาการบาดเจ็บรุนแรง อีกทั้งอู๋ฝานยังเป็นฝ่ายเหนือกว่าตั้งแต่แรก ต่อให้นางคิดทำอะไรก็เชื่องช้ากว่าชายหนุ่ม
“ตึง!”
อู๋ฝานใช้ฝ่ามือฟาดใส่อูหย่าที่ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ก่อนแล้ว สุดท้ายเพราะแบกรับอาการไม่ไหวนางจึงหมดสติไป
“เด็กน้อยคนนี้หลบหนีเก่งดีเสียจริง เกือบจะตกเป็นเบี้ยล่างนางแล้ว” อู๋ฝานพึมพำขณะเดินเข้าหาตัวอูหย่า “ในเมื่อมาหาถึงหน้าประตูแบบนี้ ฆ่านางคงไม่เพียงได้รับค่าประสบการณ์มากมาย แต่คงได้รางวัลจากจักรพรรดิเฒ่าด้วยกระมัง?”
หากต้องให้สังหารอูหย่านั้น เขาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นภาระทางใจแต่อย่างใด ในสายตาของตนอีกฝ่ายคือมอนสเตอร์รูปแบบมนุษย์ที่เลเวลค่อนข้างสูง ขณะที่ตัวเองเป็นผู้เล่น
แต่ขณะอู๋ฝานคว้ามีดเตรียมสังหารเป้าหมาย เสียงจักรกลที่ไม่เคยได้ยินในเกมมานานกลับดังขึ้นมา
[ได้รับมอบหมายภารกิจพิเศษ (จำเป็นต้องรับ!) คุ้มครองอูหย่าผู้เป็นองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรหนานปิงกลับบ้านเกิด!]