ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 480 เลวร้าย
บทที่ 480 เลวร้าย
ช่วงเวลาที่มีดอยู่ห่างจากคอขององค์หญิงสามแห่งหนานปิงได้ราวสี่ชุ่น เสียงจักรกลอันคุ้นเคยกลับดังขึ้นจนทำให้เขาต้องชะงัก กระทั่งขยับมีดไปต่อยังเป็นเรื่องยาก
[ได้รับมอบหมายภารกิจพิเศษ (จำเป็นต้องรับ!) คุ้มครองอูหย่าผู้เป็นองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรหนานปิงกลับบ้านเกิด! รางวัลเมื่อทำภารกิจสำเร็จ ไม่ระบุ หากภารกิจล้มเหลวจะถูกลดเลเวลลงสามระดับ สูญเสียทักษะดำเนินชีวิตและการต่อสู้อย่างละหนึ่งรายการอย่างถาวร]
หลังได้ยินเสียงอันคุ้นเคย อู๋ฝานถึงขั้นต้องโยนมีดทิ้งจากมือเสียด้วยซ้ำ ราวกับกลัวว่าหากเผลอสังหารองค์หญิงสามแห่งหนานปิงเข้าจะทำให้ภารกิจพิเศษล้มเหลว
“ภารกิจบ้าอะไรกัน?“ อู๋ฝานสบถก่นด่าอยู่ในใจ “ไม่บอกรางวัล แต่ระบุบทลงโทษเอาไว้ชัดเจนและหนักถึงขนาดนี้”
ถูกลดเลเวลลงสามระดับถือว่าร้ายแรงมากแล้ว เนื่องจากเขารู้ดีว่าเลเวลตัวละครของโลกแห่งนี้ขึ้นได้ยากเย็นและเชื่องช้าแค่ไหน โดยเฉพาะกับเลเวลที่ยิ่งสูงขึ้นก็จะยิ่งช้า หากนึกย้อนกลับไปช่วงยังเลเวลสอง การสังหารเสือร้ายลายจุดเลเวลสิบยังไม่กระตุ้นให้เลเวลเพิ่มขึ้นเลยด้วยซ้ำ ช่วงก่อนหน้านี้เรียกได้ว่าเชื่องช้า จนเพิ่งมาเร็วก็ตอนที่ได้หน่วยรักษาการณ์ของหมู่บ้านเร้นลับช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นแล้วกว่าจะเพิ่มมาได้แต่ละเลเวลต้องใช้เวลามากมายมหาศาล
ภารกิจพิเศษที่ปรากฏขึ้นมาตอนนี้และพร้อมจะลบเลเวลออกไปสามระดับจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก หากต้องการสามเลเวลดังกล่าวกลับคืนเขาก็คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามหรือสี่วัน หรือบางทีอาจนานกว่านั้น ทั้งยังต้องการหน่วยรักษาการณ์ช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นแล้วจะต้องใช้เวลานานมากยิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว
นอกจากลดเลเวลแล้ว หากทำภารกิจพิเศษล้มเหลวยังจะสูญเสียทักษะอย่างถาวรอีกสองรายการ เรียกได้ว่าเป็นบทลงโทษที่หนักหนายิ่งกว่าการลดเลเวลตัวละครอย่างไม่อาจเทียบได้
เลเวลหายไปยังสามารถหากลับคืนมาโดยใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่หากทักษะถูกลบออกไป โดยเฉพาะกับคำว่า ‘ถาวร’ ที่ถูกระบุเอาไว้ด้วยแล้ว อาจหมายความถึงต่อให้ได้มีโอกาสเรียนรู้สองทักษะดังกล่าวอีกครั้งก็อาจไม่สามารถเรียนรู้เพื่อใช้มันได้อีก
ความสูญเสียที่ต้องแบกรับหนักหนาและสาหัสจนเกินไป
อย่างน้อยอู๋ฝานก็ไม่อาจยอมรับได้ เนื่องจากทักษะทั้งหมดที่มีในครอบครองต่างก็มีประโยชน์ทั้งสิ้น แม้สูญเสียไปเพียงหนึ่งเขาก็ไม่อาจยอมรับได้
ดังนั้นแม้ไม่ทราบว่าทำภารกิจสำเร็จจะได้รับสิ่งใด แต่มันก็กลายเป็นงานที่อู๋ฝานไม่สามารถปล่อยให้ล้มเหลวได้เสียแล้ว
“ภารกิจนี่เกินไปไหม? บังคับยอมรับโดยไม่ถามความเห็นกันเลย” อู๋ฝานเริ่มบ่นออกมา “ภารกิจพิเศษที่จำเป็นต้องยอมรับงั้นหรือ? ภารกิจพิเศษตอนที่หาของขวัญวันเกิดให้องค์หญิงเจ็ดก็บังคับให้ยอมรับเหมือนกัน แต่รางวัลที่ได้ก็ค่อนข้างดี ถ้าทำภารกิจนี้สำเร็จก็คงได้รางวัลไม่เลวร้ายหรอกมั้ง?”
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงค่อยมีเรี่ยวแรงทำภารกิจให้สำเร็จ
แต่ปัญหาคือการส่งตัวองค์หญิงสามแห่งหนานปิงเดินทางกลับบ้านเกิด นางก่อเรื่องใหญ่โดยลอบสังหารจักรพรรดิชรา ขณะนี้ถนนทุกเส้นในเมืองมีแต่ทหารคอยลาดตระเวนไม่ขาด แม้ไม่ทราบแต่ที่ประตูเมืองในยามนี้คงถูกลงกลอนเอาไว้แน่นหนา ไม่ว่าคนหรือรถลากที่จะเดินทางเข้าออกต่างก็ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
อย่างไรคดีลอบปลงพระชนม์ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก ไม่ว่าจะต้องลำบากหรือเข้มงวดขนาดไหนก็จำเป็นต้องทำ
ดังนั้นการนำตัวองค์หญิงสามแห่งหนานปิงกลับบ้านเกิดเมืองนอนจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
อู๋ฝานที่กำลังครุ่นคิดหาทางส่งนางกลับบ้าน ทันใดนั้นเองกลับรู้สึกถึงความมืดอันคุ้นเคยที่ใกล้เข้ามา ตอนแรกชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
“บ้าฉิบ!” อู๋ฝานสบถออกมา เพียงจบคำก็พบว่าตนเองกลับมายังห้องที่โลกความเป็นจริงเรียบร้อยแล้ว
เมื่อถึงเวลาต้องเทเลพอร์ต เขาจึงถูกบังคับให้กลับมายังโลกฝั่งนี้!
“ลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกันเนี่ย มีปัญหาแล้วสิ” ความคิดของอู๋ฝานโลดแล่นขณะนอนลงบนเตียง
ตอนกลับมาห้องก็เป็นช่วงที่เหลือเวลาก่อนทำการเทเลพอร์ตไม่มากแล้ว เพราะอูหย่าดึงความสนใจไปแทบหมดพร้อมกับภารกิจที่เด้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน จึงทำให้เขาลืมเลือน จนสุดท้ายถูกบังคับเทเลพอร์ตกลับมาเช่นที่เป็นอยู่ตอนนี้
แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่โลกความเป็นจริง แต่ปัญหาอยู่ที่ขณะนี้องค์หญิงสามแห่งหนานปิงยังคงอยู่ที่ห้องนอนของเขาในโลกแห่งเกม
ทหารในเมืองหลวงก็กำลังออกค้นหามือสังหารกันอย่างแข็งขัน แม้เป็นศาลาพักม้าของทางการก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น หากเจอตัวนางในห้องของเขา อาจจะถูกลากไปเกี่ยวข้องและตกเป็นผู้ต้องสงสัย แม้ก่อนหน้านี้จะช่วยชีวิตจักรพรรดิเอาไว้ก็อาจไม่สามารถคลี่คลายข้อครหา อาจถึงขั้นคิดว่าเป็นแผนการสมคบคิดก็เป็นไปได้
แน่นอนว่ามันก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ทหารจะไม่ค้นหาในศาลาพักม้า อย่างไรในเมืองหลวงก็กว้างใหญ่ หากคิดค้นหาแบบปูพรมจำเป็นต้องใช้เวลา ช่วงแรกเช่นตอนนี้คงเป็นการยากที่จะมุ่งตรงไปยังศาลาพักม้า แต่แม้แบบนั้นอู๋ฝานก็ไม่อาจวางใจ เพราะองค์หญิงสามแห่งหนานปิงได้รับบาดเจ็บค่อนข้างหนัก ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจตายไปเสียก่อน สุดท้ายอาจจะหมายถึงภารกิจล้มเหลว
ต่อให้องค์หญิงสามแห่งหนานปิงไม่ตายเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าเมื่อใดได้สติแล้ว อาจจะหนีหายไปจากศาลาพักม้า อย่างไรเขาก็ทราบแล้วว่านางยังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังเป็นคนทำลายแผนการลอบสังหารเสียด้วยซ้ำ นางไม่มีทางไว้วางใจ สุดท้ายจะหนีจากศาลาพักม้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หากเมื่อใดนางหายตัวไปแล้ว เหล่าทหารตามถนนจะหาตัวพบหรือไม่นั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถาม หรือต่อให้นางสามารถหนีรอดไปได้ก็อาจทำให้ภารกิจของเขาล้มเหลวอยู่ดี สุดท้ายตนก็ต้องรับโทษที่ไม่อาจทำภารกิจให้สำเร็จได้
“นี่เราลืมเรื่องเทเลพอร์ตไปได้ยังไงกัน” ยิ่งครุ่นคิดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเครียดมากขึ้นเท่านั้น ทั้งยังรู้สึกว่าภารกิจพิเศษจงใจมอบให้ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อจนสุ่มเสี่ยง หากเขารู้ตัวแต่แรกก็คงช่วยเหลืออูหย่าและรักษาอาการบาดเจ็บก่อนแล้ว ทั้งยังจะซ่อนนางเอาไว้เพื่อจำกัดไม่ให้คนหนีหาย อย่างไรสถานการณ์ก็ต้องดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
ทว่าขณะนี้เขากลับสู่โลกความเป็นจริงซะแล้ว ถ้าต้องการกลับไปโลกแห่งเกมอีกครั้งก็ต้องรอจนถึงเวลาหลังเที่ยงคืน ทั้งหมดที่อู๋ฝานทำได้ตอนนี้คือภาวนาว่าระหว่างช่วงที่ตนเองไม่อยู่ องค์หญิงสามแห่งหนานปิงจะไม่ถูกพบตัว ตาย หรือว่าหลบหนีไปก่อน
“ทำได้แค่คาดหวังแล้วสินะ” อู๋ฝานที่ไร้ซึ่งอำนาจในการเปลี่ยนสถานการณ์ทำได้เพียงถอนหายใจ หลังนอนบนเตียงสักพักหนึ่งก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ทางฝั่งโลกความเป็นจริงก็ยังมีเรื่องราวอีกมากมายต้องจัดการ เรื่องทางโลกแห่งเกมจะเป็นอย่างไรนั้น เขาทำได้เพียงปล่อยเอาไว้แล้วค่อยกังวลตอนกลับไปอีกครั้ง