ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 492 เสร็จเรียบร้อย
บทที่ 492 เสร็จเรียบร้อย
ขณะอู๋ฝานกำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหาร ทางด้านจ้าวเฟยและหวงกวงก็เดินทางมาถึงร้านโลกในแหวนอีกครั้ง บนโต๊ะของพวกเขานอกจากไวน์สุดเหนือเมฆที่สมนาคุณให้ตามที่ควรเป็นแล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่มใหม่ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนอีกสองขวด โดยแปะฉลากเอาไว้ว่า ‘ชาตื่นรู้’
ทว่าคนทั้งสองแทบไม่ได้สนใจเครื่องดื่มปกติธรรมดา แต่สนใจเพียงไวน์สุดเหนือเมฆที่ถูกนำมาสมนาคุณ แก้วไวน์ตรงหน้าของคนทั้งสองถูกรินจนเกือบจะเต็ม
“ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมากมายมาเพราะไวน์สุดเหนือเมฆขนาดนี้ ไวน์นี่เพิ่งถูกนำออกมาเสนอได้สองวัน ทุกคนกลับพร้อมใจกันตอบรับขนาดนี้ซะแล้ว” จ้าวเฟยจิบดื่มไปพลางถอนหายใจ
หลังคนทั้งสองทานมื้อกลางวันเสร็จ พวกเขาก็เดินทางไปยังโรงงานสุดเหนือเมฆเพื่อเตรียมสำรวจ พร้อมกับได้พบว่าพวกตนไม่ใช่เพียงพวกเดียวที่สนใจ เพราะตอนไปถึงก็พบว่ามีอีกหลายคนเดินทางมาก่อนแล้ว พวกเขาต่างก็มีจุดประสงค์เดียวกันเหมือนดังหวงกวง นั่นคือการเตรียมพร้อมเข้าแย่งชิงสิทธิ์การเป็นตัวแทน ขณะนี้พวกเขาจะรู้สึกกดดันจนหนักอึ้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“มันแสดงให้เห็นว่าไวน์นี่ดีขนาดไหน หลายคนต้องการที่จะได้เป็นตัวแทนไวน์นี่กันทั้งนั้น” หวงกวงตอบกลับ
“ถ้าเป็นแบบนั้นนายก็ต้องแย่งชิงมาให้ได้จริงไหม?” จ้าวเฟยเอ่ยถาม
“แน่นอนอยู่แล้ว!” หวงกวงตอบรับโดยไม่ลังเล “ตอนบ่ายฉันสำรวจเรียบร้อยแล้ว มีคนบางส่วนยังแสดงท่าทีลังเล คล้ายยังตัดสินใจไม่ได้ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสของพวกเรา แต่ทางโรงงานก็มีโอกาสเหมือนกัน ฉันไม่ใช่คนโง่ ไม่ได้คิดหรอกนะว่าตัวเองจะเอาชนะตัวแทนเจ้าใหญ่ได้ตั้งแต่แรก อีกฝ่ายน่าจะให้เงื่อนไขที่ดีกว่า เพราะแบบนั้นฉันถึงวางแผนจะคว้าเอาสิทธิ์การเป็นตัวแทนจากเมืองเล็กก่อน เมื่อประสบความสำเร็จก็ค่อย ๆ เริ่มขยายเป็นตัวแทนที่ใหญ่มากขึ้น”
เห็นได้ชัดว่าหวงกวงมีแนวคิดกับเรื่องนี้เป็นอย่างดีแล้ว กระทั่งวางแผนขายบ้าน ขายรถ และทุ่มเทเงินเก็บทั้งหมดไปกับการทำธุรกิจครั้งนี้ซะด้วยซ้ำ แม้จะคว้าสิทธิ์มาได้ ก็ไม่ใช่ว่าทางโรงงานจะเชื่อใจเต็มร้อย เขาเองก็เตรียมใจเผื่อเอาไว้แล้ว ดังนั้นจึงมองความเป็นไปได้อย่างการขอเป็นตัวแทนที่เมืองขนาดเล็กก่อน เพราะการได้เป็นตัวแทนในเมืองใหญ่นับเป็นเรื่องยาก ตราบใดที่ทำผลงานได้ดี เมื่อถึงเวลานั้นจะสามารถต่อรองขยับขยายสิทธิ์การเป็นตัวแทนได้
จ้าวเฟยที่ลังเลอยู่นานขณะนี้เอ่ยกับหวงกวง “ฉันเอาด้วยก็แล้วกัน!”
“นายคิดดีแล้วแน่นะ? ไวน์นี่ค่อนข้างใหม่ การเริ่มธุรกิจขยายตลาดไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเราอาจเสียจนหมดตัวก็ได้นะ” หวงกวงย้ำเตือน
“ฉันคิดทบทวนดีแล้ว” จ้าวเฟยตอบกลับอย่างหนักแน่น “เหมือนอย่างที่นายว่า เลวร้ายที่สุดก็ไปเริ่มกันใหม่อีกครั้ง ฉันยังไม่ได้แก่ขนาดจะเริ่มใหม่ไม่ไหว”
“ดี! ถ้างั้นพวกเราก็มาร่วมงานไปด้วยกัน! คนเดียวหัวหาย สองคนร่วมตาย! ฉันเชื่อว่าพวกเราสองคนจะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน!” หวงกวงตอบกลับอย่างหนักแน่น
“ใช่ มันต้องสำเร็จสิ!” จ้าวเฟยตอบรับ
“ดื่ม!”
ทั้งสองชนแก้วกันขณะรู้สึกอิ่มเอมอยู่ในใจ ราวกับได้รับแรงใจที่ช่วยผลักดันให้ผ่านพ้นความกลัวของการทดลองสิ่งใหม่เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ
“ร้านนี้ก็ดีจริง ๆ ตอนแรกสมนาคุณเป็นไวน์ ตอนนี้เป็นเครื่องดื่มธรรมดา เจ้านี่คงไม่ได้ดีเยี่ยมขนาดสุดเหนือเมฆหรอกมั้ง?” หวงกวงคว้าขวดเครื่องดื่มมามองก่อนจะยิ้มและบิดเปิดฝาขวด
“ฉันว่าโปรโมชั่นนี่จะต้องเป็นความคิดของพ่อค้าหัวใสบางคนแน่” จ้าวเฟยพึมพำ “แต่ก็ถือว่าตัดสินใจได้ดีทีเดียว เลือกร้านนี้ถือว่าไม่เลว”
“ชาตื่นรู้งั้นเหรอ? ไม่เคยได้ยินมาก่อน สินค้าใหม่เหมือนกันงั้นเหรอ?” หวงกวงมองขวดน้ำที่ตั้งเอาไว้พลางยิ้ม จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นยกกระดกเข้าไป สุดท้ายก็ต้องชะงักงันนิ่งค้าง
“เป็นอะไรไปอีก?” จ้าวเฟยที่เห็นหวงกวงนิ่งค้างไปจึงต้องถาม
“ชานี่…” สีหน้าที่ทั้งตื่นตกใจและสงสัยปรากฏชัดบนใบหน้าของหวงกวง ก่อนเขาจะทันได้พูดจบกลับต้องดื่มเข้าไปอีกหนึ่งอึก สีหน้าประหลาดใจยิ่งแสดงออกรุนแรงกว่าก่อนหน้า
“เป็นอะไรไปอีกล่ะ? หรือเครื่องดื่มนี่มีพิษ?” จ้าวเฟยพูดติดตลก
“ไม่มีพิษ ถ้านายได้ดื่มเข้าไปแล้วจะรู้เอง!” หวงกวงบอกกับเพื่อน
“ลึกลับดีจริง ๆ นะ” จ้าวเฟยตอบกลับก่อนจะเปิดฝาขวดยกขึ้นดื่ม สุดท้ายก็มีอาการตอบรับเหมือนหวงกวง ตอนแรกชะงัก สีหน้าทั้งตื่นตกใจและสับสน แต่สุดท้ายก็ดื่มตามเข้าไปอีก
“เครื่องดื่มนี่…” จ้าวเฟยคิดไปครู่ก่อนจะตอบ “วิเศษเกินไปแล้ว!”
จ้าวเฟยไม่คิดว่ายามได้ดื่มเครื่องดื่มนี้เข้าไปแล้วจะมีคำบรรยายอื่นใดได้อีก หากจะมีก็มีเพียงแค่ ‘วิเศษ!’ เพียงคำเดียวเท่านั้น
“พูดถูกแล้ว ชาตื่นรู้นี่วิเศษไปเลย!” หวงกวงตอบรับพร้อมเห็นพ้องกับข้อสรุปของเพื่อนสนิท
“ดื่มเข้าไปแค่สองอึก แต่กลับรู้สึกว่าความเหนื่อยล้าทั้งตัวหายไปจนหมด และเหมือนจะตื่นตัวขึ้นมาด้วยซ้ำ” จ้าวเฟยตอบกลับ “เครื่องดื่มนี่มันตื่นรู้สมชื่อมันเลย!”
เนื่องจากช่วงบ่ายของวันคนทั้งสองต้องตระเวนไปมา ดังนั้นจึงค่อนข้างใช้เรี่ยวแรงไปจนเหนื่อยล้า ผลลัพธ์ที่ได้หลังดื่มชาตื่นรู้เข้าไปสองอึก จ้าวเฟยรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าความอ่อนล้าตามร่างกายได้เลือนหายไป ทั้งร่างสดชื่นและผ่อนคลายขึ้นมา
“เพิ่งเคยเห็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณแบบนี้เลยนะเนี่ย” หวงกวงมองขวดเครื่องดื่มในมือด้วยสายตาที่ทั้งลุ่มลึก ประหลาดใจ และสนใจ “เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรก หรือจะเป็นยี่ห้อใหม่กันนะ?”
“ต้องใช่แน่ ฉันเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเหมือนกัน ถ้าก่อนหน้านี้มีเครื่องดื่มที่ให้สรรพคุณดีขนาดนี้มาก่อนก็ต้องรู้จักอยู่แล้ว” จ้าวเฟยตอบกลับ “ร้านโลกในแหวนแห่งนี้สมแล้วที่เป็นอันดับหนึ่งในเจียงโจว ไม่ว่าจะไวน์หรือเครื่องดื่มธรรมดาที่นำมาจัดรายการโปรโมชั่นก็ให้ความรู้สึกว่าน่าทึ่ง นอกจากนี้อาหารหลายเมนูที่เคยขาดหายก็กลับมาแล้ว ทั้งยังมีเมนูใหม่เพิ่มเข้ามาด้วย ธุรกิจของที่นี่อีกไม่ช้าคงได้ดังยิ่งกว่าพลุแตก!”
“เห็นด้วย คิดว่าในอนาคตร้านนี้คงไม่ได้มีแค่ที่เจียงโจวแห่งเดียวแน่” หวงกวงตอบกลับ “นายคิดยังไงกับชานี่?”
“ของดีเกินบรรยาย!” จ้าวเฟยตอบกลับโดยไม่ลังเล
“แล้วคิดว่ามันจะวางขายในตลาดได้ระดับไหน?” หวงกวงถามต่อ
“แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่คนโง่แค่ดื่มเข้าไปก็รู้เรื่อง ถ้าวางขายเมื่อไหร่ก็ดังยิ่งกว่าพลุแตกแน่!” จ้าวเฟยตอบกลับ จากนั้นเขาจึงเกิดความคิดอะไรขึ้นมา ก่อนจะมองหวงกวง “นายกำลังคิด…”
“ใช่แล้ว ฉันอยากเป็นตัวแทนของชาตื่นรู้นี่ด้วย!” หวงกวงตอบรับเป็นมั่นเหมาะ “บางทีชานี่อาจจะได้รับความนิยมยิ่งกว่าสุดเหนือเมฆด้วยซ้ำไป ยังไงมันก็เป็นเครื่องดื่มที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายกว่าของมึนเมา! ตลาดเครื่องดื่มใหญ่จนไม่รู้จะใหญ่ยังไงแล้ว แต่ไม่เคยมีเจ้าตลาดมาก่อน ขณะที่ฉันรู้สึกว่าชาตื่นรู้นี่จะขึ้นเป็นเจ้าตลาดได้!”
หวงกวงแสดงความมั่นใจว่าชาตื่นรู้จะต้องครองตลาดได้ จ้าวเฟยที่ได้ฟังยังรู้สึกว่าไม่ได้พูดเกินเลยด้วยซ้ำ ถึงขนาดที่มันจะสามารถแย่งชิงครองเป็นเจ้าตลาดจากโคล่าได้ก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้
“พวกเรามีความสามารถพอจะเป็นตัวแทนสินค้าสองอย่างพร้อมกันงั้นเหรอ?” จ้าวเฟยเผยความกังวลออกมา
“เส้นทางค้าขายไม่ใช่ปัญหา ยังไงเส้นทางเดิมที่ใช้ขายเครื่องดื่มมึนเมากับเครื่องดื่มปกติก็ทับซ้อนกันอยู่แล้ว คิดว่าเพิ่มชาตื่นรู้เข้าไปไม่น่าใช่เรื่องยาก” หวงกวงตอบกลับ “ส่วนเรื่องเงิน พวกเราจะเริ่มจากเมืองขนาดเล็ก ดังนั้นค่าธรรมเนียมการเป็นตัวแทนก็ไม่น่าจะสูงมากนัก ถ้ามีไม่พอพวกเราก็หาหยิบยืมมาได้!”
จ้าวเฟยลังเลไปชั่วครู่แต่สุดท้ายก็ตอบคำกลับ “ได้ ดื่มหมดแก้ว!”