ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 51 คลังสมบัติ
บทที่ 51 คลังสมบัติ
บทที่ 51 คลังสมบัติ
แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีหนทางขายพวกมันเป็นจำนวนมาก หากแต่เป็นจำนวนเล็กน้อยนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา อย่างไรด้านหลังของภูเขาแห่งนี้ก็เป็นของเขา ต้นไม้ก็อยู่ที่นี่ พวกมันไม่มีขาให้วิ่งหนีไปไหน ไม่ช้าก็เร็ว พวกมันก็ต้องตกเป็นของเขา คิดได้ดังนั้นจึงพอทำให้อู๋ฝานอารมณ์ดีขึ้นมาก
“นอกจากนี้ ต่อให้เราขายพวกมันเป็นจำนวนมากได้ แต่งานตัดไม้ก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ต้องพยายามบากบั่นทุกวัน ลำพังแค่เราคงไม่อาจตัดไม้จำนวนมากได้ไหว” อู๋ฝานครุ่นคิดกับตนเอง
ยิ่งคิดได้ดังนั้น เขาก็ยิ่งรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น
ภายหลังสงบใจลงแล้ว อู๋ฝานจึงเดินเข้าป่าไปต่อ แน่นอนว่า เมื่อสายตามองยังไม้ล้ำค่าเหล่านั้น ใจก็อดไม่ได้ที่จะต้องเต้นรัวเร็ว
“ไม่นึกเลยว่าป่าแห่งนี้ จะถูกหัวหน้าหมู่บ้านกับคนอื่นลืมเลือนไปเสียได้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่คิดเป็นจริงเป็นจังมาก่อน ที่ไหนได้มันกลายเป็นขุมสมบัติ แม้ไม่รู้ว่าจะมีอะไรอื่นอยู่อีก ลำพังแค่ไม้ล้ำค่าพวกนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นป่าที่ไม่อาจประเมินมูลค่าแล้ว” อู๋ฝานครุ่นคิดกับตัวเองไปพลางเดินไปเรื่อย
และเพราะการค้นพบนี้เอง ที่ความคิดทำสัญญาด้านหลังภูเขาระยะยาวจึงยิ่งกลายเป็นประเด็นเร่งด่วนขึ้นมา
“ไม่ว่าจะกำแพงโลหะหรือว่าไม้ล้ำค่า พวกมันต่างก็เป็นสมบัติมีราคา ต้องไม่ปล่อยให้ตกอยู่ในมือของคนอื่น ระยะเวลาสัญญาต้องสิบปีเป็นอย่างน้อย” อู๋ฝานพึมพำกับตัวเอง
เพราะส่วนลดที่หัวหน้าหมู่บ้านมอบให้ สัญญาของด้านหลังภูเขาต่อปีจึงเหลือเพียงสองพันห้าร้อยเหรียญทอง และหากว่าคิดทำสัญญาสิบปี ก็จะเป็นมูลค่าสองหมื่นห้าพันเหรียญทอง การจะหาเหรียญทองมากมายเพียงนั้นในเวลาที่กำหนด มันยังถือเป็นเรื่องทำได้ยาก
เพียงแต่ ไม่ว่ามันจะยากลำบากเพียงใด อู๋ฝานก็ต้องทำให้จงได้ ไม่ว่าจะ “กำแพงเหล็ก” หรือว่าไม้ล้ำค่า อู๋ฝานก็ไม่คิดยอมยกพวกมันให้ใครทั้งนั้น
ขณะอู๋ฝานกำลังครุ่นคิดว่าจะทำเงินอย่างไร สิ่งมีชีวิตคล้ายกระต่ายก็ปรากฏอยู่ไม่ไกลจากระยะสายตา
“กระต่ายอสูร?” อู๋ฝานประหลาดใจ ก่อนจะนำเอากระบี่ยาวศิลาดำออกมา พร้อมกับมองกระต่ายตัว ดังกล่าวด้วยความระมัดระวัง
กระต่ายอสูรไม่อาจทำให้อู๋ฝานตกใจได้ ในโลกแห่งนี้ มอนสเตอร์ตัวแรกที่เขาสังหารไปคือกระต่ายอสูร อีกทั้งอู๋ฝานในเวลานั้นยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่ ทำให้ได้ประสบการณ์ขื่นขม เพราะกระต่ายอสูรได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจะเรียกว่ามีความประทับใจฝังลึกกับกระต่ายอสูรก็ไม่ใช่เรื่องผิด
เพียงแต่ ภายหลังสังเกตอยู่สักพักหนึ่ง อู๋ฝานกลับได้พบว่ากระต่ายตัวนี้ไม่คล้ายใช่กระต่ายอสูร มันมีความแตกต่างทางรูปลักษณ์จากกระต่ายอสูร อีกทั้งภายหลังพบเจอตัวเขาแล้ว กระต่ายยังไม่มีท่าทีเป็นศัตรู เพียงแค่มอง ดวงตาแสดงชัดซึ่งความรู้สึกสงสัย
ถูกต้องแล้ว มันเพียงแค่สงสัย ราวกับพบเห็นคนแปลกหน้ามาเยือนบ้าน และสงสัยต่อตัวตนของคนแปลกหน้าก็เท่านั้นเอง
อู๋ฝานจึงส่งวิชาตรวจสอบออกไป
[กระต่ายกำมะหยี่ : หนึ่งในสัตว์สวยงามที่หาได้ยาก เป็นที่นิยมในหมู่ขุนนาง]
“หือ? กระต่ายกำมะหยี่? สัตว์สวยงาม?” อู๋ฝานมองกระต่ายตรงหน้าด้วยความสงสัย
แน่นอนว่า แม้อู๋ฝานใช้งานวิชาตรวจสอบกับมันไป กระต่ายก็ไม่มีทีท่าจะเป็นฝ่ายริเริ่มเปิดฉากโจมตีอู๋ฝาน ยังคงเอาแต่มองด้วยความสงสัย
“ไม่ผิดแน่ ไม่ใช่กระต่ายอสูร” อู๋ฝานเก็บกระบี่ยาวของตนเองไป
กระต่ายที่อยู่ตรงหน้า มันมีขนนุ่มสีทองใกล้บริเวณหู ทั้งยังมีขนนุ่มสีทองบริเวณทั้งสี่ขา ส่องประกายสีทองงดงาม จึงไม่มีภาพลักษณ์ของกระต่ายอสูรอันดุร้าย ทำให้ผู้พบเห็นต้องเกิดความรู้สึกว่าพวกมันน่ารักน่าชัง
“ดูจากคำอธิบาย น่าจะเป็นสัตว์ที่เก็บเอามาเลี้ยงได้ อีกทั้ง ถ้าหากเป็นที่ชื่นชอบของพวกขุนนาง ราคาก็คงไม่ใช่เล็กน้อยแน่ อย่างไรแล้วพวกขุนนางก็คงไม่ได้ชอบของถูก เพราะไม่เหมาะสมกับฐานะของพวกเขา” อู๋ฝานมองยังกระต่ายตรงหน้า พลางพึมพำกับตัวเองไปด้วย
อู๋ฝานเดินไปด้านหน้าสองก้าว ตระเตรียมจับตัวกระจ่าย ในอีกสามวันให้หลังที่เขาต้องเข้าเทศมณฑลไปรายงานตัว เมื่อนั้นค่อยดูว่าจะขายมันได้ราคาสักเท่าไร หากว่าราคาดี ก็ไม่ใช่เป็นอีกหนทางในการทำเงินหรืออย่างไร?
เพียงแต่ ยามเมื่ออู๋ฝานก้าวเท้าเพียงสองก้าวเข้าหากระต่ายกำมะหยี่ มันหันกลับพร้อมวิ่งหนีเข้าป่าลึก ราวกับตื่นตกใจอะไรอะไรบางอย่าง ภายในป่าแห่งนี้ ต้นไม้เขียวชอุ่ม กระต่ายกำมะหยี่ก็ตัวไม่ได้ใหญ่มากนัก เพียงแค่ชั่วพริบตา มันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
“หนีเร็วเสียจริง” อู๋ฝานไม่คิดไล่ตามต่อ สาเหตุก็เพราะเจ้าตัวเล็กรวดเร็วจนเกินไป และเขาก็ยังไม่ทราบราคาของมันที่แน่ชัด วันนี้เขาก็เพียงมาสำรวจ ดังนั้นจึงไม่ควรต้องลงแรงจับเจ้าตัวเล็กแต่อย่างใด
ภายหลังกระต่ายกำมะหยี่จากไปแล้ว อู๋ฝานก็ไม่ได้คิดใส่ใจอะไรมากมาย แต่เดินมุ่งหน้าไปต่อ ไม่ไกลห่างออกไป เขาได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกวางตัวหนึ่ง มันเหมือนดังกระต่ายกำมะยี่ก่อนหน้านี้ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่โจมตีอู๋ฝานก่อน เพียงแต่มองด้วยความสงสัย
อู๋ฝานจึงส่งวิชาตรวจสอบออกไปตามอย่างที่เคยทำ
[กวางเอลก์ลายจุด : เป็นสิ่งมีชีวิตประดับชั้นหนึ่ง รูปลักษณ์งดงาม จิตใจรักสงบ หาได้ยาก และเป็นที่นิยมในหมู่ขุนนาง]
“สัตว์ประดับอีกแล้วงั้นหรือ?” อู๋ฝานมองกวางเอลก์ที่อยู่ไม่ไกลพลางพูดคุยกับตัวเอง
เหตุใดจึงได้พบสัตว์ประดับถึงสองตัวต่อเนื่อง เดิมอู๋ฝานวางแผนมาที่นี่เพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์เพื่อเพิ่มระดับ รวมถึงหาทางทำเงิน แต่แล้วสัตว์ประดับเหล่านี้ฆ่าไปก็ไม่ได้รับค่าประสบการณ์ อย่างมากก็นำชิ้นส่วนของมันไปขายแลกเงิน
เพียงแต่ ยิ่งสัตว์แต่ละตัวมีความน่ารักน่าชังมากเพียงใด อู๋ฝานก็ยิ่งหักหาญใจได้ยากขึ้นเท่านั้น
อู๋ฝานก้าวเท้าเข้าไปใกล้อีกสองก้าว พบว่ากวางเอลก์ลายจุดก็เหมือนดังกระต่ายกำมะหยี่เมื่อครู่นี้ มันหันกลับและเผ่นหนีเข้าป่าลึกไป ราวกับกลัวการต้องพบเจอคนแปลกหน้า
อู๋ฝานยักไหล่โดยไม่อาจสนใจอะไรได้อีก อย่างไรเขาก็มาเพื่อทำการสำรวจ
ภายหลังจากนั้น อู๋ฝานจึงได้เห็นสิ่งมีชีวิตในป่าอีกหลากหลาย พวกมันส่วนใหญ่เป็นสัตว์ประดับ มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นสัตว์ป่า ตามปกติแล้ว อู๋ฝานจะไม่แสดงความเมตตาหากพบกับสัตว์ประเภทดังกล่าว แต่จะมุ่งตรงเข้าสังหารพวกมัน จัดการพวกสัตว์ที่เลเวลไม่ค่อยสูงมาก สำหรับอู๋ฝานผู้มีอาวุธและชุดระดับเงินในครอบครอง สัตว์เหล่านี้ไม่ใช่ภัยคุกคามแม้แต่น้อย ขอเพียงไม่หย่อนความระวังจนเกินเลยก็พอ
แม้แบบนั้น ในป่าแห่งนี้ ก็ถือได้ว่ามีสัตว์ป่าจำนวนน้อย พวกมันส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์สวยงาม และสัตว์พวกนี้คล้ายจะเกิดหวาดกลัวผู้คน พวกมันจะวิ่งหนีไปยามพบเห็นอู๋ฝานเข้ามาใกล้ หาได้เหมือนสัตว์ป่าตามปกติไม่ ที่พวกมันมักจะเป็นฝ่ายริเริ่มการโจมตีต่ออู๋ฝานก่อน ดังนั้นแล้ว การที่อู๋ฝานจะจับตัวมอนสเตอร์ทั้งหลายได้นั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
ภายในป่าแห่งนี้ อู๋ฝานยังได้พบสมุนไพรอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง กระทั่งมีสมุนไพรพายากที่ขายได้ราคา มันถือเป็นการจุดประกายในดวงตาของอู๋ฝานก็ไม่ปาน
และสิ่งที่ค้นพบเหล่านี้เอง ที่ทำให้อู๋ฝานต้องอุทานอีกครั้ง สถานที่แห่งนี้คือขุมสมบัติ สารพัดสมบัติล้วนอยู่ที่นี่ อีกทั้งที่นี่ยังอยู่ใกล้หมู่บ้าน แต่คนในหมู่บ้านกลับไม่ทราบเลยแม้แต่น้อย ตามเวลาปกติก็แทบไม่มีใครสัญจรมา ทั้งหมดจึงถือได้ว่าตกอยู่ในมืออู๋ฝาน
แท้จริงแล้ว สิ่งที่อู๋ฝานไม่ทราบคือการที่ต่อให้คนในหมู่บ้านทราบว่ามีของเหล่านี้อยู่ พวกเขาก็ไม่สนใจอะไรพวกมันมากมาย อย่างไรพวกเขาก็เป็นตัวตนระดับปรมจารย์กันทั้งสิ้น มีสถานะตัวตนอันสูงส่ง มีอะไรบ้างไม่เคยพบเห็น? รวมกับความจริงที่ว่าพวกเขาต่างก็เป็นผู้สูงอายุ จึงไม่ได้กระตือรือร้นกับการเสาะหาวัสดุหรือวัตถุดิบ ไม่ได้ชื่นชอบการคิดทำเงินเหมือนดังที่อู๋ฝานเป็น