ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 513 ลูกค้าลดน้อยลง
บทที่ 513 ลูกค้าลดน้อยลง
อู๋ฝานใช้เวลาครึ่งวันช่วงเช้าที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ในการสอนพวกลู่หรงฮวาอย่างละเอียดและถี่ถ้วน
และก็เป็นดังเช่นที่ชายหนุ่มบอก แม้พวกลู่หรงฮวาไม่เคยเรียนรู้โครงสร้างร่องและเดือยมาก่อน แต่พวกเขาก็เคยได้ยินและเคยได้สัมผัสมากับตัวเอง นอกจากนี้ยังมีพื้นฐานช่างฝีมืองานไม้มาระดับหนึ่ง ความเร็วการเรียนรู้จึงถือได้ว่าไม่เชื่องช้า
แน่นอนว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับช่างทำเฟอร์นิเจอร์ระดับมาสเตอร์เช่นอู๋ฝานด้วย หากเป็นคนอื่นมาสอนพวกเขา เกรงว่าคงไม่อาจเรียนรู้ได้เร็วเช่นนี้ อย่างไรชายหนุ่มก็เข้าใจส่วนสำคัญของงานนี้เป็นอย่างดี และเมื่อเทียบกับคนในโลกความเป็นจริงที่เก่งกาจทางด้านนี้ หากเขาเป็นที่สองก็ยากจะหาที่หนึ่งหรือเทียบเคียงได้
“ช่วงบ่ายผมไม่อยู่ เพราะงั้นทำชิ้นส่วนขนาดเล็กไปก่อนก็แล้วกันนะครับ หรือไม่ก็ใช้วัสดุที่มีฝึกซ้อมฝีมือกันไป” อู๋ฝานบอกพวกลู่หรงฮวาก่อนจะเดินทางออกจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์
“ตอนบ่ายไม่มาเหรอคะ?” เจ้าหย้าหนานถาม
“ครับ ผมยังมีเรื่องอื่นต้องจัดการ น่าจะมาไม่ได้ครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “ช่วงเช้าวันนี้ผมสอนไปไม่น้อยแล้ว ช่วงบ่ายพวกเขาน่าจะได้ทบทวนกับตัวเองครับ”
เจ้าหย้าหนานพยักหน้าตอบ “เรื่องงานพวกนี้ฉันไม่มีความรู้เลยค่ะ แต่ก็ขอเตือนคุณอีกครั้งนะคะ ว่าคำสั่งซื้อครั้งนี้ต้องทำให้เสร็จตามกำหนดการ”
“วางใจได้เลยครับ ช่วงเช้าผมทำให้ช้าเพราะต้องสอนพวกเขาไปด้วย หลังจากพื้นฐานพวกเขาดีมากพอ ผมก็ไม่ต้องอธิบายทุกรายละเอียดแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นความเร็วการผลิตจะเร็วขึ้นอย่างแน่นอนครับ” อู๋ฝานตอบ
“ทราบแล้วค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ เนื่องจากเธอให้ความสำคัญกับคำสั่งซื้อครั้งนี้ค่อนข้างมาก แม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์จะไม่ค่อยได้รับผลตอบแทนจากคำสั่งซื้อนี้มากนัก แต่มันมีผลเกี่ยวพันถึงอนาคต เธอไม่อาจเพิกเฉยโอกาสขยับขยายโรงงานได้
“จริงด้วยค่ะ“ ขณะอู๋ฝานกำลังจะขึ้นรถ เจ้าหย้าหนานกลับเรียกเอาไว้ก่อน
“มีอะไรเหรอครับ?” อู๋ฝานหันกลับไปถาม
“พ่อฉันอยากเลี้ยงอาหารคุณสักมื้อค่ะ” เจ้าหย้าหนานม้วนเส้นผมตัวเองพลางบอก ท่าทีในเวลานี้เลยดูค่อนข้างผิดธรรมชาติของหญิงสาว
“ทานอาหาร?” อู๋ฝานทวนคำ “ทำไมถึงเชิญผมไปร่วมทานอาหารล่ะครับ?”
“เพื่อแสดงความขอบคุณค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ “ถ้าไม่ได้คุณช่วยเหลือ ไม่ใช่แค่โรงงานเฟอร์นิเจอร์และโรงไม้จะถูกขาย แต่บ้านและรถของพวกเราก็คงไม่รอดเหมือนกัน คุณที่ช่วยครอบครัวของเราเอาไว้ หากท่านอยากจะเลี้ยงอาหารสักมื้อก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหมคะ?”
“ก็จริงครับ” อู๋ฝานยิ้มตอบรับ “อันที่จริงก็ไม่ได้จำเป็นถึงขนาดนั้นเลยครับ เรื่องครั้งนี้ผมเองก็ได้ประโยชน์”
“มันแตกต่างกันค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบกลับ “อย่าปฏิเสธเลยนะคะ พ่อขอให้ฉันมาเชิญคุณ ส่วนเวลาแล้วแต่สะดวกค่ะ แต่ถ้าปฏิเสธ ฉันคงกลับไปสู้หน้าพ่อลำบากแน่”
“เข้าใจแล้วครับ” อู๋ฝานครุ่นคิดอยู่ขณะหนึ่งก่อนจะตอบกลับ เพราะอย่างไรก็เพียงแค่อาหารมื้อหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โต อีกทั้งเจ้าหย้าหนานเองก็คอยช่วยเขาดูแลโรงงานทั้งสองอยู่ทุกวัน หากปฏิเสธคำขอเล็กน้อยแค่นี้ ตนคงต้องนึกละอายใจ
“แต่ถ้าไปแล้ว พ่อคุณคงไม่ทุบผมใช่ไหมครับ?” อู๋ฝานถามขึ้นมา
“ทำไมต้องทุบล่ะคะ?” เจ้าหย้าหนานถามกลับ
“ก็ผมฉวยโอกาสตอนที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์กับโรงไม้เผชิญวิกฤตฮุบเอามาเป็นของตัวเอง เดิมทีมันเป็นของครอบครัวคุณนิครับ” อู๋ฝานตอบ
เจ้าหย้าหนานถึงกับต้องกลอกตามองตอบอีกฝ่าย “กังวลเกินไปแล้วค่ะ ท่านไม่ทุบคุณแน่นอน ต่อให้พ่อของฉันทำธุรกิจไม่เก่ง แต่ก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลค่ะ ต่อให้คุณไม่เข้ามา ครอบครัวของเราก็รักษาโรงงานและโรงไม้เอาไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ” อู๋ฝานตอบรับ
หลังออกจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ชายหนุ่มก็ตรงไปยังร้านโลกในแหวน เขายังไม่ได้ลืมคำข่มขู่ของวังเมฆาสีชาดที่เป็นเถ้าแก่เบื้องหลังร้านคัลเลอร์แมน
ที่ชั้นหนึ่งของร้านมีลูกค้าค่อนข้างมาก กระทั่งว่ามากกว่าก่อนหน้าด้วยซ้ำ ทั้งหมดก็เพราะโปรโมชั่นแจกทั้งไวน์และเครื่องดื่มของทางร้านประสบผลสำเร็จด้วยดี ขณะเดียวกันทางร้านก็นำเมนูทุกรายการกลับคืนมาให้บริการแล้วเป็นที่เรียบร้อย ทั้งหมดรวมกันจึงทำให้ร้านโลกในแหวนได้รับความนิยมกลับคืนมา
ประเทศแห่งนี้มีคนร่ำรวยและมั่งมี โดยเฉพาะเมืองชั้นเอกเช่นเจียงโจวที่มีคนร่ำรวยมากมาย ดังนั้นแม้ราคาอาหารของร้านจะสูงไปบ้าง แต่ก็ยังคงคับคั่งด้วยลูกค้ามาใช้บริการ
“เถ้าแก่ วันนี้ค่อนข้างผิดปกติค่ะ” เมื่อเห็นอู๋ฝานมาถึง เฉินปิงเหยาจึงเข้ามาทักทายพร้อมรายงานด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง
“ครับ?” อู๋ฝานรับคำ
“ลูกค้าที่ใช้บริการห้องส่วนตัวชั้นสองในวันนี้ลดน้อยลงค่ะ อย่างน้อยก่อนหน้านี้ก็ต้องมีใช้บริการสักครึ่งหนึ่ง แต่วันนี้ห้องส่วนตัวไม่มีการทำรายการจองเข้ามาแม้แต่ห้องเดียว และคนที่เคยทำรายการจองเอาไว้ต่างก็โทรมายกเลิกด้วยเหตุผลที่ค่อนข้างหลากหลายค่ะ” เฉินปิงเหยาตอบกลับ
อู๋ฝานพยักหน้ารับด้วยอาการอันสงบ “ครับ ผมทราบแล้ว”
“เถ้าแก่ไม่ประหลาดใจเลยเหรอคะ? หรือทราบอะไรมาบ้างแล้ว?” เฉินปิงเหยาที่เห็นสีหน้าท่าทีอันนิ่งสงบของอีกฝ่ายจึงอดไม่ได้จนต้องเอ่ยถาม
“ครับ” อู๋ฝานพยักหน้าตอบ “เถ้าแก่เบื้องหลังร้านคัลเลอร์แมนลงมือแล้ว เขามีเส้นสายในเจียงโจวพอสมควร ช่วงนี้พวกเราอาจจะเจอปัญหากันบ้างครับ”
“แต่นี่ไม่ถูกต้องเลยนะคะ” เฉินปิงเหยาแสดงความกังวล
“ก็ไม่แหละครับ” อู๋ฝานตอบ “ต่อให้พวกเขามีเส้นสายในเจียงโจว แต่ก็มีอิทธิพลแค่กับตระกูลใหญ่ในเจียงโจว ผลกระทบของกิจการเราจะไปตกอยู่กับห้องส่วนตัวที่ชั้นสอง ส่วนที่ชั้นหนึ่งนั้นน่าจะไม่กระทบ และคงจะดำเนินต่อไปได้ตามปกติครับ”
“แต่ว่าต่อให้ลูกค้าชั้นสองมีจำนวนน้อยกว่า แต่อัตราจ่ายของพวกเขามากกว่าค่ะ ถ้าชั้นสองไม่มีลูกค้านาน ๆ เข้า ยังไงก็ต้องส่งผลกระทบกับกิจการค่ะ” เฉินปิงเหยาตอบกลับ
“ผมทราบครับ” อู๋ฝานตอบรับ “เรื่องนี้จะเป็นแบบนี้ไม่นานครับ”
วังเมฆาสีชาดลั่นวาจาออกมาแล้ว ไม่แปลกหากตระกูลใหญ่ในเจียงโจวจะตอบสนอง ดังนั้นกิจการของชั้นสองที่ซบเซาลงก็ถือว่าเข้าใจได้ แต่คนจากวังเมฆาสีชาดให้เวลาเพียงแค่สามวัน หากไม่เลือกปิดร้านด้วยตัวเอง พวกเขาจะตามเก็บกวาด เมื่อถึงเวลานั้นไม่ว่าจะอู๋ฝานหรือวังเมฆาสีชาดที่ได้รับชัยชนะ สภาพในขณะนั้นก็ต้องถือเป็นอันสิ้นสุด
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีค่ะ” เฉินปิงเหยาตอบรับ เนื่องจากเธอไม่ทราบถึงความร้ายแรงของปัญหา ขณะนี้จึงอดไม่ได้ที่จะหายหายใจโล่งอกออกมา เพราะอย่างน้อยสีหน้าสงบและมั่นใจของอู๋ฝานก็ทำให้เธอสบายใจได้
“วันนี้ที่หน้าร้านมีรถหรูจอดน้อยเอาเรื่องเลยนะ” ขณะนี้เองที่เสียงของหวังจื่อหมิงดังมาจากหน้าประตู อู๋ฝานหันกลับไปจึงได้เห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทั้งยังมาพร้อมเกิ่งหย่าเฟยและถังอวี่เฟย
“ก็เพราะวังเมฆาสีชาดนั่นแหละนะครับ” อู๋ฝานหัวเราะตอบ “อะไรพามาที่นี่กันล่ะครับ?”
“ไม่ต้อนรับเหรอคะ?” ถังอวี่เฟยเอ่ยถาม
“ยินดีต้อนรับอย่างอบอุ่นเลยครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
……………………………