ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 523 ห้ามปราม
บทที่ 523 ห้ามปราม
“ถ้าไม่แล้วยังไง?” อู๋ฝานยกคิ้วขึ้นพลางถามออกมา
“ถ้าไม่…” จานเฮ่อพูดถึงตรงนี้ก่อนจะฟาดมือขวาลงกับโต๊ะตรงหน้า
“เพล้ง!”
แก้วไวน์บนโต๊ะสะเทือนจนหล่นลงกับพื้นและแตกออกเป็นเสี่ยง ขณะบนโต๊ะที่เป็นไม้หนาปรากฏรอยนิ้วมือแสดงให้เห็น
หวงถิงเฟิงที่พบเห็นดังนี้จึงเผยดวงตาเป็นประกาย ตอนนี้เขายิ่งมองอู๋ฝานเป็นประหนึ่งคนตายมากยิ่งขึ้น
“ก็ดูแข็งแรงดี” ทว่าที่ทำให้จานเฮ่อและหวงถิงเฟิงต้องประหลาดใจ คือการที่อู๋ฝานเห็นเรื่องเช่นนี้แต่กลับไม่เปลี่ยนสีหน้าแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้เฉยชาเช่นไรขณะนี้ก็เฉยชาอยู่เช่นนั้น
“ร้านโลกในแหวน จะส่งมอบหรือไม่ส่งมอบ!” จานเฮ่อเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก
“ไม่!” อู๋ฝานตอบโดยไม่ลังเล
“อยากตายอย่างนั้นสินะ?!” จานเฮ่อลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยุดยืนตรงหน้า สายตาคมกล้าจ้องมองอู๋ฝานด้วยจิตสังหารอันเย็นยะเยือกที่แผ่ฟุ้ง
อีกฝ่ายคือคนที่เพียงลงมือก็สามารถตัดสินชะตาชีวิตได้!
อู๋ฝานรับรู้ได้ถึงจิตสังหารของจานเฮ่อ และก็ทราบแน่ชัดเช่นกันว่าชายชราคนนี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
หากที่เผชิญหน้ากับจานเฮ่อคือคนธรรมดา แข้งขาอาจอ่อนเรี่ยวแรงจนล้มลงกับพื้นยอมศิโรราบเพียงเพราะแค่ถูกสายตานี้จ้องมองแล้วก็เป็นได้
แต่ไม่ใช่กับอู๋ฝาน!
ร่างกายของอู๋ฝานกำลังส่งออร่าที่ดุร้ายออกมา สายตาจ้องมองจานเฮ่อผู้อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือเขม็ง “อยากจะลองไหมล่ะ?”
คนทั้งสองราวกับกำลังปลดปล่อยออร่าออกมาปะทะกัน ทำให้หวงถิงเฟิงที่ดูอยู่สีหน้าแปรเปลี่ยน กระทั่งถอยเท้ากลับไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว
จานเฮ่อในเวลานี้โกรธเกรี้ยว เป็นความโกรธที่เดือดจัด!
เขาเริ่มฝึกฝนตั้งแต่อายุสิบปี สำเร็จขอบเขตมืดที่อายุสามสิบปี ในช่วงนั้นถือว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา ทั้งผู้นำและสำนักต่างเล็งเห็นค่า แต่ช่วงยี่สิบปีให้หลังเขากลับเจออาการการฝึกฝนตีบตัน ความก้าวหน้าเชื่องช้าลงอย่างมหาศาล และปัจจุบันเพิ่งสำเร็จขอบเขตมืดขั้นสูง
เขาที่ตอนแรกได้รับความโปรดปราน ทว่าตอนนี้ซึ่งอายุสี่สิบห้าปีกลับโดนผู้นำสำนักละทิ้ง กระทั่งส่งมาให้รับผิดชอบเรื่องราวของโลกเบื้องหน้า คอยดูแลกิจการของสำนัก ต้องไม่มองเพียงแค่การเป็นผู้อาวุโสนอกสำนักที่มีเกียรติและหน้าตาในเจียงโจว หรือหลายคนเมื่อเผชิญหน้าเขามีแต่ต้องหดหัว แต่แท้จริงแล้วตนนั้นอยู่ห่างจากศูนย์กลางอำนาจของสำนัก กระทั่งไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องในสำนักด้วยซ้ำ
ดังนั้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้ จานเฮ่อจึงว่างเว้นไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการฝึกฝนอีกต่อไป แต่เริ่มที่จะดื่มด่ำไปกับโลกเบื้องหน้า เฟ้นหาไวน์เลิศรส อาหารยอดเยี่ยม กระทั่งหญิงงามก็ไม่เว้น ทั้งหมดไม่ต่างกับสิ่งเสพติดและมัวเมา
เดิมนั้นเขาไม่คิดใส่ใจเรื่องของร้านอย่างคัลเลอร์แมนด้วยซ้ำ ถึงขนาดไม่คิดเก็บมาใส่ใจ อย่างไรมันก็เป็นเพียงหนึ่งในกิจการของวังเมฆาสีชาด เนื่องจากต้องดูแลหลากหลายสถานที่ และต้องใส่ใจดูแลกิจการทั้งหมดให้เป็นไปได้ด้วยดี การทำเช่นนั้นสำนักจะคิดเพียงว่าเขาเหมาะสมกับงานทางโลกเบื้องหน้า ในอนาคตไม่มีวันได้กลับไปยังถิ่นฐานของสำนัก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดใส่ใจเรื่องทางโลกเบื้องหน้าจนเกินไป แต่เลือกที่จะดื่มด่ำและอิ่มเอมไปกับชีวิตเท่าที่จะทำได้
แต่หวงถิงเฟิงกลับมาพบและแจ้งให้เขาทราบถึงปัญหามากมาย ทั้งยังมาในสภาพชวนเวทนา นอกจากนี้หวงถิงเฟิงยังทำงานด้วยดี มีความนอบน้อม เขาจึงตัดสินใจแวะมาเพื่อเตรียมสะสางเรื่องราว ร้านคัลเลอร์แมนถือเป็นหนึ่งในกิจการที่ดีของวังเมฆาสีชาด หากสูญเสียร้านนี้ไป ก็เท่ากับทำวังเมฆาสีชาดเสียหน้า ผู้อาวุโสเช่นเขาที่รับผิดชอบสำนักนอกก็จะเสื่อมเสียตามไปด้วยเช่นกัน
จานเฮ่อไม่ได้มองอู๋ฝานอย่างใส่ใจด้วยซ้ำ วังเมฆาสีชาดมีอำนาจและอิทธิพลในเจียงโจวอย่างล้นเหลือ เรื่องราวเล็กน้อยไม่ควรค่าให้ต้องใส่ใจ ดังนั้นหลังจานเฮ่อมาถึงจึงไม่ได้สอบถามเรื่องราวของอู๋ฝานให้แน่ชัด ทราบก็เพียงอีกฝ่ายเป็นเถ้าแก่ของร้านโลกในแหวน และครั้งหนึ่งเคยมอบตำราวิชาระดับลึกล้ำต่อหน้าผู้คนมากมาย ดังนั้นจึงสมควรต้องมีสำนักอยู่เบื้องหลัง
แม้เบื้องหลังอู๋ฝานอาจมีสำนักใดคงอยู่ แต่จานเฮ่อก็ยังไม่คิดใส่ใจ ที่นี่คือเจียงโจว วังเมฆาสีชาดคือสำนักที่ปกครองท้องที่แห่งนี้ มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดในพื้นที่ ไม่มีความจำเป็นต้องกลัวเกรงสำนักอื่น ดังนั้นเขาจึงกล้าประกาศให้อีกฝ่ายปิดร้านโลกในแหวนภายในเวลาสามวัน
เดิมจานเฮ่อคิดว่าอีกฝ่ายคงเข้ามายอมรับความพ่ายแพ้ เนื่องจากการตอบโต้วังเมฆาสีชาดเพียงเพราะร้านอาหารแห่งหนึ่งไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด
จานเฮ่อไม่ได้คาดว่าอู๋ฝานจะดื้อรั้นถึงเพียงนี้ ไม่เพียงไม่ยอมปิดร้าน แต่ขณะนี้ยังกล้าโต้เถียงซึ่งหน้า ไม่เก็บคำข่มขู่ของเขาไปใส่ใจ จานเฮ่อจึงยิ่งโกรธจัดจนเดือดพล่าน
อย่างไรเขาก็เป็นถึงผู้อาวุโสคนหนึ่งของวังเมฆาสีชาด ต่อให้เป็นผู้อาวุโสสำนักนอกที่ไม่ได้มีอำนาจแท้จริง แต่อย่างไรก็ยังเป็นถึงผู้อาวุโส ทว่ากลับถูกคนหนุ่มเช่นอู๋ฝานมองข้ามทำเป็นไม่เห็นในสายตา ท่าทีของอีกฝ่ายในเวลานี้เจตนายั่วยุกระตุ้นโทสะของเขาอย่างเห็นได้ชัด
เขาจึงอยากลงมือสังหารอีกฝ่ายที่กล้าขัดขืนทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด!
เมื่อเห็นจิตสังหารของจานเฮ่อรุนแรงมากขึ้น หวงถิงเฟิงจึงยิ่งถอยเท้าห่าง ทว่าก็ยังคงเอ่ยออกมา “ผู้อาวุโสจาง ได้โปรดสงบใจลงก่อนครับ”
จานเฮ่อพลันหันหน้าไปมองทางหวงถิงเฟิง สายตาเปี่ยมล้นด้วยจิตสังหารนี้แทบฉีกกระชากร่างอีกฝ่ายออกเป็นชิ้น ๆ ได้
“หมายความว่ายังไง?!” จานเฮ่อเอ่ยถามด้วยโทสะ
สายตาที่จานเฮ่อมองมาทำให้หวงถิงเฟิงหวาดกลัว แต่เขาก็ยังคงเอ่ยออกไป “ผู้อาวุโส การใช้กำลังในร้านไม่ใช่เรื่องที่ดีครับ”
“จะฆ่ามันยังต้องสนใจเรื่องสถานที่อีกเหรอ?!” จานเฮ่อตะโกนตอบกลับ
หวงถิงเฟิงรวบรวมความกล้าดึงตัวจานเฮ่อไปด้านข้างก่อนจะกระซิบเสียงเบา “ผู้อาวุโส ตอนนี้คนในเจียงโจวมากมายกำลังจับตามองอยู่ครับ ถ้าอู๋ฝานตายที่นี่ ไม่ว่าจะผม ท่าน หรือว่าร้านแห่งนี้ก็คงไม่รอดครับ”
“แล้วยังไง?” จานเฮ่อตอบกลับ
“แม้วังเมฆาสีชาดจะมีอำนาจมาก แต่ในเจียงโจวก็มีสำนักอื่นอยู่ด้วยเหมือนกัน หากสำนักเหล่านั้นใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้ออ้างร่วมมือกันหาทางเล่นงานวังเมฆาสีชาด ทางสำนักคงไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ แน่ ถึงตำรวจจะไม่ค่อยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของโลกผู้ฝึกตน แต่ถ้าเรื่องนี้ใหญ่โตจนเกินไป จนกระทั่งทำให้สำนักอื่นรวมตัวกันขึ้นมา เมื่อถึงเวลานั้นคงไม่อาจเมินเฉย ทั้งร้านคัลเลอร์แมนและวังเมฆาสีชาดจะถูกเปิดเผยต่อโลกเบื้องหน้า กิจการทั้งหลายที่ถือครองอาจได้รับผลกระทบครับ อู๋ฝานชีวิตเดียวไม่คุ้มถึงขนาดนั้นครับ” หวงถิงเฟิงพยายามแนะนำด้วยความหวังดีจากใจออกมา
แท้จริงแล้วที่หวงถิงเฟิงเลือกตอบแบบนี้ก็เพราะปัจจุบันมีสายตามากมายจับจ้องมองมา หากอู๋ฝานเสียชีวิตที่ร้านคัลเลอร์แมน เมื่อถึงเวลานั้นทุกคนจะได้ทราบว่าที่นี่เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น อีกทั้งที่นี่คือเจียงโจว มีตระกูลที่ยังเลือกชิดใกล้กับอู๋ฝาน และบางทีอาจมีสำนักอยู่เบื้องหลังของอีกฝ่าย ถ้าคนเหล่านั้นร่วมมือกันล้างแค้นให้ชายหนุ่มขึ้นมา ผู้ประสบคราวเคราะห์คนแรกย่อมไม่พ้นหวงถิงเฟิง
เขายังไม่อยากตาย ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ต้องไม่เลวร้ายจนเกินควร
จานเฮ่อเริ่มเปลี่ยนสีหน้า เขาไม่ได้สนใจเรื่องการต้องฆ่าอู๋ฝานทิ้ง แต่ทราบดีว่าคำพูดของหวงถิงเฟิงถูกต้อง หากคนจากสำนักอื่นในเจียงโจวฉวยโอกาสนี้รวมกำลังกันหาข้ออ้างเล่นงานวังเมฆาสีชาด เมื่อถึงเวลานั้นสำนักจะเผชิญกับปัญหา เขาที่ก่อเรื่องย่อมไม่อาจรอดพ้น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้รับผิดชอบดูแลกิจการโลกเบื้องหน้าทั้งหลายของสำนัก ถ้าเรื่องราวเดินไปในทิศทางเลวร้าย เมื่อนั้นตนจะถูกตำหนิและต่อว่าอย่างรุนแรง
……………………………