ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 532 มาโดยไม่ได้รับเชิญ
บทที่ 532 มาโดยไม่ได้รับเชิญ
เจียงโจว ตระกูลเกิ่ง
คืนนี้เกิ่งหย่าเฟยไม่ได้ออกไปไหน เธออยู่ที่ห้องโถงภายในบ้าน เพื่อรอคอยข่าวคราวจากทางร้านคัลเลอร์แมน และตอนนี้เองที่เธอได้ทราบจากเพื่อนว่าอู๋ฝานกลับจากร้านคัลเลอร์แมนอย่างปลอดภัยแล้ว
หลังได้ทราบข่าวหญิงสาวถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก กระทั่งลุกขึ้นยืนแสดงสีหน้ายินดีออกมา ทั้งยังเตรียมจะเดินกลับห้องตัวเอง
“หย่าเฟย คืนนี้ไม่ออกไปไหนเหรอ?” เกิ่งหย่าเฟยยืนขึ้นจังหวะเดียวกับที่พ่อของเธอออกมาจากห้อง ผู้เป็นพ่อเห็นจึงเอ่ยถาม
“ไม่ได้ไปค่ะ” เกิ่งหย่าเฟยตอบกลับ “พ่อคะ วังเมฆาสีชาดเป็นสำนักแบบไหนเหรอ?”
“ทำไมถึงสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ? ลูกมักจะบอกตลอดว่าสนใจแค่เรื่องนักเรียนที่สอนกับเรื่องเต้นรำหนิ?” พ่อของเกิ่งหย่าเฟยยิ้มตอบ
“หนูมีเพื่อนที่มีปัญหากับวังเมฆาสีชาด เพราะแบบนั้นก็เลยถามค่ะ” เกิ่งหย่าเฟยตอบกลับ
รอยยิ้มของอีกฝ่ายจึงแข็งเกร็งก่อนจะตอบกลับ “มีปัญหากับวังเมฆาสีชาด? เพื่อนของลูกอยู่ในแวดวงผู้ฝึกตนงั้นเหรอ?”
เกิ่งหย่าเฟยครุ่นคิดถึงสถานการณ์ของอู๋ฝานก่อนจะตอบ “หนูเดาว่าใช่ค่ะ”
“ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ การหาเรื่องวังเมฆาสีชาดจะไม่มีทางพบจุดจบที่ดี ทางที่ดีลูกเตือนเพื่อนคนนั้นให้ระวังตัวเอาไว้ก่อนจะดีกว่า” พ่อของเกิ่งหย่าเฟยตอบกลับมา
“คงไม่ทันแล้วค่ะ” เกิ่งหย่าเฟยตอบกลับ “เพื่อนคนนั้นไปพบกับวังเมฆาสีชาดตามนัดหมายคืนนี้แล้ว แต่ตอนนี้ก็ปลอดภัยดี บางทีวังเมฆาสีชาดอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนอย่างคำบอกเล่าก็ได้ค่ะ”
พ่อของเกิ่งหย่าเฟยพอได้ยินถึงกับประหลาดใจ “เพื่อนของลูกคืออู๋ฝาน?”
เห็นได้ชัดว่าพ่อของเธอพอจะทราบเรื่องระหว่างอู๋ฝานและวังเมฆาสีชาดมาบ้าง
เกิ่งหย่าเฟยพยักหน้าตอบรับ “ใช่ค่ะ เป็นเขานั่นแหละ และเขาก็เป็นเถ้าแก่ของร้านโลกในแหวนด้วย รวมถึงเป็นอาจารย์พละของมหาวิทยาลัยเจียงโจว พวกเราทำงานที่เดียวกันค่ะ”
พ่อของเกิ่งหย่าเฟยเริ่มเผยสีหน้าจริงจังก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “ไม่นานมานี้ลูกเข้าหาและชิดใกล้กับเขาใช่ไหม?”
“เป็นอะไรไปคะ?” เมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นพ่อ เกิ่งหย่าเฟยที่เพิ่งผ่อนคลายอารมณ์จึงร้อนรนในใจขึ้นมา
“วังเมฆาสีชาดคิดจัดการกับอู๋ฝาน เรื่องนี้แวดวงชั้นสูงของเจียงโจวรู้กันดี” พ่อของเกิ่งหย่าเฟยตอบ “ตอนนี้ถ้ามีใครกล้าเข้าหาเขา ย่อมต้องถูกวังเมฆาสีชาดจดบันทึกเอาไว้ หากว่าเป็นคนมีอำนาจ วังเมฆาสีชาดคงแค่ระวังตัว แต่หากไม่มีอำนาจมากพอ ก็คงยากจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับวังเมฆาสีชาดได้”
“ไม่น่านะคะ” เกิ่งหย่าเฟยประหลาดใจ “อู๋ฝานไม่เป็นอะไรเลย เมื่อกี้หนูเพิ่งได้ข่าวว่าเขาออกมาจากร้านคัลเลอร์แมนอย่างปลอดภัย ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นค่ะ”
“ออกมาจากร้านคัลเลอร์แมนอย่างปลอดภัย ไม่ได้หมายความว่าเขาปลอดภัยแล้ว” พ่อของเกิ่งหย่าเฟยตอบกลับ “นั่นเพราะวังเมฆาสีชาดต้องการแสดงให้คนอื่นเห็นว่าฉากหน้ามันเป็นแบบนี้ เรื่องนี้เป็นประเด็นที่คนมากมายให้ความสนใจ ดังนั้นพวกเขาคงจะเลือกลงมือในที่มืด แต่ก็ยากจะสรุปหรือฟันธงเหมือนกัน”
“พ่อกำลังจะบอกว่าอู๋ฝานตกอยู่ในอันตรายใช่ไหมคะ?” เกิ่งหย่าเฟยเอ่ยถาม
“น่าจะเป็นแบบนั้น” พ่อของเกิ่งหย่าเฟยตอบกลับ
“ไม่ได้การแล้ว หนูต้องโทรหาอู๋ฝานบอกให้เขาระวัง!” เกิ่งหย่าเฟยคว้าโทรศัพท์เตรียมโทรหาอู๋ฝาน
แต่ขณะนี้เองที่ประตูบ้านตระกูลเกิ่งถูกเคาะเสียงดังจากภายนอก
“ใครมาดึกดื่นป่านนี้กัน?” พ่อของเกิ่งหย่าเฟยเกิดสงสัย
หลังแม่บ้านไปเปิดประตูก็เห็นผู้มาเยือน และมันทำให้พ่อของเกิ่งหย่าเฟยตื่นตกใจ
“ลูกพี่เกิ่ง พวกเรามาโดยไม่ได้รับเชิญ หวังว่าจะไม่ถือสานะครับ” กลุ่มคนก้าวเข้ามาจากด้านนอก หนึ่งในคนที่เดินนำมานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นพ่อของหลี่ปิงที่เผยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
พ่อของเกิ่งหย่าเฟยมองรอยยิ้มอีกฝ่าย ขณะเดียวกันก็เกิดความรู้สึกที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย ราวกับภายใต้รอยยิ้มนั้นมีบางสิ่งซ่อนเร้นเอาไว้
“ไม่เป็นไร มานั่งก่อนสิ” พ่อของเกิ่งหย่าเฟยตอบรับ “แม่บ้าน ไปหาชามาเสิร์ฟด้วย”
“ลุงหลี่ ลุงหวัง ลุงจ้าว… ทำไมมากันพร้อมหน้าพร้อมตาขนาดนี้ล่ะคะ? มีเรื่องอะไรรึเปล่า?“ เกิ่งหย่าเฟยถามด้วยความประหลาดใจ
ผู้มาเยือนเหล่านี้ต่างก็เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ครอบครัวเธอดูแลอยู่ ถ้าไม่ใช่วันทำงานพวกเขาก็มักจะไม่มาเยือน แต่วันนี้มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญหรือกล่าวบอก กระทั่งว่ากะทันหันจนน่าสงสัย
“มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ” พ่อของหลี่ปิงยิ้มตอบ “จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็เกี่ยวกับหลานด้วยเหมือนกัน”
“หนูเหรอคะ? เรื่องอะไรกัน?” เกิ่งหย่าเฟยถามด้วยท่าทีประหลาดใจ
แม้เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับหลี่ปิง แต่ครอบครัวทั้งสองต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมานาน เรียกได้ว่าเป็นมิตร ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับครอบครัวของหลี่ปิงดี
พ่อของเกิ่งหย่าเฟยมองพ่อของหลี่ปิงและคณะพลางเกิดความสงสัย ว่าหุ้นส่วนเหล่านี้มาเยือนพร้อมหน้าในกลางดึกหรือจะเป็นเพราะหย่าเฟย? เขานึกถึงเรื่องที่ลูกสาวตัวเองบอกเมื่อครู่ พร้อมกับรู้สึกถึงลางร้ายขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ได้ยินว่าช่วงหลังมานี้หลานไปกินอาหารที่ร้านโลกในแหวนมางั้นเหรอ?” พ่อของหลี่ปิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ยังคงยิ้มแย้ม
เกิ่งหย่าเฟยมองอีกฝ่ายก่อนจะพยักหน้าตอบ “ค่ะ”
เมื่อได้ฟังคำถาม ลางร้ายในใจพ่อของเกิ่งหย่าเฟยก็รุนแรงมากขึ้น
“ร้านโลกในแหวนเปิดโดยคนหนุ่มนามอู๋ฝานใช่รึเปล่า?” พ่อของหลี่ปิงเผยยิ้มกว้างมากขึ้น “หลานรู้ไหมว่าอู๋ฝานคนนั้นมีเรื่องกับวังเมฆาสีชาด ตอนนี้กำลังเกิดปัญหาพัวพันกับทั้งสองฝ่าย?”
“ทราบค่ะ แล้วยังไงคะ?” เกิ่งหย่าเฟยเริ่มขมวดคิ้ว เธอตระหนักได้ว่ากลุ่มคนตรงหน้าที่เมื่อครู่ตนเองเพิ่งเรียกหาเป็นลุง ตอนนี้มาเยือนบ้านของเธอด้วยจุดประสงค์ที่ไม่น่าจะดี
“วังเมฆาสีชาดได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้ว ว่าพวกเขาต้องการจะปิดร้านอาหารนั่น และยังอยากจะลงมืออย่างหนักด้วย แต่หลานก็ยังแวะไปร้านนั่นในช่วงเวลาที่ที่ผ่านมา ทั้งยังใกล้ชิดกับอู๋ฝาน หลานคิดว่าคนของวังเมฆาสีชาดจะคิดยังไง?” พ่อของหลี่ปิงเอ่ยถาม
“อู๋ฝานเป็นเพื่อนร่วมงานของหนู ไปมาหาสู่หรือเจอหน้ากันมีอะไรผิดปกติเหรอคะ? หนูยังไปร้านโลกในแหวนเพื่อทานอาหาร คนของวังเมฆาสีชาดต้องการควบคุมกันถึงขนาดว่าหนูจะต้องทานอาหารตามที่พวกเขาสั่งอย่างนั้นเหรอ?” เกิ่งหย่าเฟยขมวดคิ้วแน่น หญิงสาวจำคำเตือนก่อนหน้านี้ของอู๋ฝานได้ ทว่าตอนนั้นไม่ได้คิดเก็บมาใส่ใจจริงจัง และมองว่าวังเมฆาสีชาดเป็นสำนักใหญ่ ดังนั้นก็ไม่ควรที่จะไร้เหตุผล โดยเฉพาะกับคนตัวเล็กเช่นเธอที่ไม่ควรจะเก็บไปใส่ใจด้วยซ้ำ
“แค่ทานอาหาร? คนของวังเมฆาสีชาดไม่คิดแบบนั้นหรอก” รอยยิ้มบนใบหน้าพ่อของหลี่ปิงเริ่มเลือนหาย ขณะสายตาหยุดมองเกิ่งหย่าเฟย ก่อนจะย้ายไปมองพ่อของเกิ่งหย่าเฟยและเอ่ย “ลูกพี่เกิ่ง วังเมฆาสีชาดคิดจะทำอะไร ผมว่าลูกพี่น่าจะรู้ดีกว่าหลานนะครับ”
พ่อของเกิ่งหย่าเฟยเผยสีหน้าดำมืด ก่อนจะรับคำด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “วันนี้มาทำอะไรที่นี่กันแน่?”
“มาเพราะเรื่องของวังเมฆาสีชาด และเรื่องบริษัทของพวกเราน่ะครับ!” พ่อของหลี่ปิงตอบกลับ “เพราะหลานคนนี้ทำอะไรไม่ยั้งคิด วังเมฆาสีชาดจึงโกรธและไม่พอใจต่อการกระทำ กระทั่งเข้ามาแทรกแซงบริษัทของพวกเรา! ตอนนี้ลูกค้าหลายคนและผู้ผลิตอีกหลายเจ้าต่างได้รับคำเตือนจากวังเมฆาสีชาด พวกเขาจะหยุดให้ความร่วมมือทางการค้ากับพวกเรา ลูกพี่เกิ่งคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ครับ?
……………………………