ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 547 อาวุธที่ชวนให้ต้องริษยา
บทที่ 547 อาวุธที่ชวนให้ต้องริษยา
นอกจากรางวัลเป็นตำแหน่งและที่ดินศักดินาแล้ว รางวัลอื่นเองก็ถือว่ายอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นจวนหรือร้านค้า ทั้งหมดต่างก็เป็นสิ่งที่อู๋ฝานต้องการเพื่อใช้ตั้งรกรากขึ้นที่นี่
“อู๋ฝานคนนี้เป็นใครกัน? ฝ่าบาทดูโปรดปรานเขามาก ช่างดียิ่งนัก”
“ใช่แล้ว ได้รับรางวัลอย่างงามถึงเพียงนั้น มีครบทั้งตำแหน่ง ที่ดิน จวน และเงินทอง”
“ไม่ได้ยินที่ขันทีผู้นั้นกล่าวหรือไร ผู้บัญชาการอู๋เป็นคนที่แสดงความหาญกล้าจากเหตุการณ์ลอบสังหาร จนช่วยชีวิตฝ่าบาทเอาไว้ได้”
“ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง ไม่แปลกใจที่รางวัลดีถึงขนาดนั้น!”
“หากเวลานั้นข้าได้อยู่ในงาน ถ้าสละชีวิตตนเองเข้าช่วยเหลือฝ่าบาท รางวัลเหล่านั้นอาจเป็นของข้าก็เป็นได้”
“เจ้าหรือ? รอจนกว่าพวกเราจะมีโอกาสได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนั้นเสียก่อนเถอะ”
“อย่าได้ปรามาสข้าเชียวนะ! ในห้าปีถัดจากนี้ ข้าจะต้องคว้าคุณสมบัติเข้าไปร่วมดื่มกินกับเหล่าเสนาบดีและฝ่าบาทในโถงหลักให้จงได้!”
“ข้าไม่ขอเชื่อก็แล้วกัน”
เมื่อเผชิญหน้ากับรางวัลอันตระการตาของอู๋ฝาน ไม่ว่าจะคนภายนอกหรือภายในศาลาพักม้าต่างก็พูดคุยกันเสียงดัง บ้างก็แสดงความริษยาออกมา
อู๋ฝานเมินเฉยคำพูดของพวกเขา หลังส่งขันทีผู้นั้นกลับไปแล้ว เขาจึงส่งใบกรรมสิทธิ์จวนพร้อมที่ดิน ม้า และร้านค้าให้กับลั่วหยาง “นำคนไปยังสถานที่ทั้งสองและดูว่ามีอะไรต้องเก็บกวาดหรือไม่ และให้จัดสถานที่พักม้าเป็นอย่างดีด้วย”
“ขอรับนายท่าน” ลั่วหยางตอบรับคำสั่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าสายตาผู้คนมากมาย เขาจะมีอาการค่อนข้างสงบนิ่ง ไม่เหมือนตอนที่ไปเดินเล่นบนท้องถนน
หลังลั่วหยางนำคนออกไปแล้ว อู๋ฝานจึงหันกลับและเดินไปยังห้องของลั่วเยวี่ย ก่อนจะส่งวิชาตรวจสอบเข้าสำรวจกระบี่ที่ได้รับมา
[กระบี่ดาราจันทรา ระดับอำพัน พลังโจมตี+300 ความว่องไว+100 พละกำลัง+50 ความเร็วการโจมตี+20% ความเร็วการเคลื่อนที่+10% ทักษะพิเศษ อำนาจราชวงศ์ มีผลช่วยทำให้ศัตรูอ่อนแอลงโดยมีระยะ 100 เมตรจากผู้ใช้งานเป็นจุดศูนย์กลาง ค่าสถานะทุกรายการของศัตรูในระยะจะลดลง 50% ระยะเวลาส่งผล 3 นาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 24 ชั่วโมง (ระยะเวลาคูลดาวน์ของโลกความเป็นจริงและโลกแห่งเกมนับแยกกันต่างหาก) ความสามารถเพิ่มเติม เพิ่มอัตราการโจมตีคริติคอล 50% ระยะเวลา 3 นาที ระยะเวลาคูลดาวน์ 2 ชั่วโมง จำเป็นต้องมีเลเวล 30]
ของดี!
ยามเมื่อได้อ่านคุณสมบัติของกระบี่ที่จักรพรรดิชรามอบให้มานั้น เขาถึงกับต้องเผยดวงตาลุกวาว กระทั่งเกือบน้ำลายสอออกมา
เดิมเขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับกระบี่เล่มนี้มากนัก เพราะมันคืออาวุธที่ทางราชวงศ์ให้เป็นสัญลักษณ์เสียส่วนใหญ่ ดังนั้นมันจึงมีความหมายมากกว่านำไปใช้งาน อีกทั้งอู๋ฝานยังสามารถสร้างอาวุธขึ้นด้วยตนเองได้ ดังนั้นจึงไม่ได้คิดว่าคุณสมบัติของกระบี่เล่มนี้จะยอดเยี่ยมเลิศล้ำ
แต่พอได้อ่านคำอธิบายของตัวกระบี่ โดยเฉพาะส่วนของทักษะอำนาจราชวงศ์ เขาถึงกับต้องเปลี่ยนแปลงความคิด ลำพังตัวกระบี่ที่เป็นระดับอำพันก็มีค่าสถานะที่ยอดเยี่ยมแล้ว ทว่าเพราะมีทักษะอำนาจราชวงศ์คงอยู่จึงทำให้มันเป็นอาวุธที่เลิศล้ำ
ลดทอนทุกค่าสถานะของศัตรูห้าสิบเปอร์เซ็นต์!
มันหมายความว่าอะไรน่ะหรือ มันเทียบเท่าการทำให้ศัตรูอ่อนแอลงถึงครึ่งหนึ่ง! ผลกระทบของมันใหญ่หลวงอย่างมาก! เพราะไม่ว่าจะเป็นความสามารถส่วนตัวหรือการใช้ทักษะ ทั้งหมดก็ยังต้องอาศัยพื้นฐานเช่นค่าสถานะร่วมด้วย อีกทั้งยังใช้งานได้กับทั้งโลกแห่งเกมและโลกความเป็นจริง ดังนั้นเมื่อใช้ทักษะแล้วความสามารถของศัตรูจะลดเลือนลงครึ่งหนึ่ง หากเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งทัดเทียมกันโอกาสชนะก็แทบจะไม่ต้องสงสัย!
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นทักษะที่ส่งผลเป็นวงกว้าง!
ทักษะที่ส่งผลต่อค่าสถานะจึงถือได้ว่ายอดเยี่ยม! แค่ทักษะนี้มันก็สมควรได้รับคำเรียกขานว่าเป็นกระบี่ล้ำค่า!
‘สมกับเป็นของจากราชวงศ์ ต่อหน้าราชวงศ์คนธรรมดามีแต่จะรู้สึกต้อยต่ำกว่า ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงมีความรู้สึกราวกับอ่อนแอลง’ อู๋ฝานพึมพำอยู่ในใจ
แต่ไม่นานสีหน้าของเขาก็ต้องแข็งทื่อขึ้นมา
‘บ้าฉิบ ติดข้อจำกัดเลเวลอีกแล้ว เลเวลสามสิบอีกแล้ว!’
อาวุธระดับอำพันที่อู๋ฝานเคยได้รับก่อนหน้านี้ก็มีเงื่อนไขอยู่ที่เลเวลสามสิบเช่นกัน ขณะนี้ได้รับกระบี่ที่ยอดเยี่ยมมาครอบครอง แต่เพราะเลเวลไม่ถึงเงื่อนไขการใช้งาน จึงกลายเป็นของที่ทำได้เพียงมองไม่อาจใช้งาน ในใจของเขาเวลานี้รู้สึกนึกเสียดายอย่างถึงที่สุด
“เป็นอะไร? เห็นเดี๋ยวก็ยิ้มเดี๋ยวก็บึ้งตึง?” หลังเข้ามาในห้อง อูหย่าที่เห็นสีหน้าท่าทีของอู๋ฝานจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อาณาจักรหนานปิงของเจ้ามีสถานที่เหมาะสมสำหรับเลื่อนระดับหรือไม่?” อู๋ฝานมองอูหย่าพลางถาม “เป็นที่ที่มีพวกมอนสเตอร์เยอะ ๆ”
“ที่ที่มีพวกมอนสเตอร์งั้นเหรอ? ที่แบบนั้นก็มีอยู่เต็มไปหมดไม่ใช่รึไง?” อูหย่าเผยสีหน้าสับสนตอบกลับมา “มอนสเตอร์เข้ารุกรานโลกมนุษย์มานานหลายปีแล้ว ตอนนี้คนของโลกอสูรก็มาเยือนแล้ว พวกมันเลยยิ่งแข็งแกร่งกันมากขึ้น นอกจากนี้สัตว์ป่ายังได้รับผลกระทบจนกลายเป็นมอนสเตอร์ตามไปด้วย ยุคนี้คิดหาพวกมันไม่ใช่เรื่องยากสักนิด”
“นั่นก็จริง” อู๋ฝานถามออกไปเพียงเพราะอยากเก็บเลเวลอย่างแรงกล้า แท้จริงแล้วเขาก็ทราบดีว่าการเพิ่มเลเวลไม่ใช่เรื่องยากถึงเพียงนั้น เนื่องจากมันมีมอนสเตอร์อยู่เยอะแยะเต็มไปหมด เพียงแต่ตนไม่มีเวลาพอไปเก็บเกี่ยวมาเองต่างหาก
นอกจากการสังหารมอนสเตอร์จะเพิ่มเลเวลได้แล้ว การสังหารคนก็ได้รับค่าประสบการณ์ที่ดีเช่นเดียวกัน
เมื่อคิดถึงการสังหาร ภารกิจลอบสังหารจักรพรรดิแห่งหนานปิงก็ผุดขึ้นมาในใจ
อีกฝ่ายคือจักรพรรดิ ไม่ว่าจะมีกำลังแข็งแกร่งหรือไม่ แต่ที่นี่คือโลกแห่งเกม อีกฝ่ายสมควรเป็นบอสมอนสเตอร์ เมื่อไหร่ฆ่าได้ ตอนนั้นย่อมได้รับค่าประสบการณ์มหาศาล และมีความเป็นไปได้ว่าจะดร็อปของดีออกมาอีกด้วย
เมื่อนึกถึงกระบี่ที่จักรพรรดิชราส่งมาให้เป็นรางวัลราวกับไม่คิดมาก แต่กลับมีค่าสถานะอันแข็งแกร่งยอดเยี่ยม มันก็แสดงออกให้เห็นว่าจักรพรรดิเป็นผู้ที่ร่ำรวยมากมายเพียงใด แม้อาณาจักรหนานปิงคงไม่อาจเทียบอาณาจักรเหยียนเฟิง แต่จักรพรรดิแห่งหนานปิงก็คงไม่ใช่พวกยากไร้
ดังนั้นอู๋ฝานจึงคาดหวังกับภารกิจลอบสังหารจักรพรรดิแห่งหนานปิงขึ้นมา
“จักรพรรดิเฒ่านั่นตกรางวัลให้แก่เจ้าเรียบร้อยแล้วหรือ ตอนนี้ไปจากที่นี่ได้รึยัง?” อูหย่าเอ่ยถาม เนื่องจากนางเฝ้ารอวันที่จะได้เดินทางกลับบ้าน จนถึงขนาดอยากจะโบยบินไปอาณาจักรหนานปิงเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อตรวจสอบว่าเหตุการณ์สังหารหมู่เครือญาติของตนแท้จริงเป็นมาอย่างไร
“ข้าพร้อมจะไปทุกเมื่อ แต่หากต้องนำเจ้าออกไปด้วยคงต้องรออีกสักหน่อย” อู๋ฝานตอบกลับ
“ยังต้องรออีกหรือ?” อูหย่าขมวดคิ้ว
“ใช่” อู๋ฝานตอบรับ “องค์เหนือหัวดูแลข้าเป็นอย่างดีก็จริง แต่หากต้องการออกจากเมืองตอนนี้ก็คงต้องผ่านการตรวจค้นอย่างถี่ถ้วน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพาเจ้าออกไปนอกเมือง”
เพียงเพราะได้รับรางวัลอย่างงามไม่ได้ทำให้อู๋ฝานถือดีจนไม่รู้ความ จักรพรรดิชราไว้ใจเขาก็จริง แต่จากเหตุการณ์ถวายชาตื่นรู้ก่อนหน้านี้ก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่าไม่ใช่ไว้ใจเต็มร้อย การเข้าออกเมืองในปัจจุบันไม่ว่าผู้ใดหรือเป็นขุนนางขั้นใดต่างก็ต้องผ่านการตรวจค้นก่อนเหมือนดังที่เคยเป็น ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่อาจได้รับการยกเว้นใด ๆ
ข้อยกเว้นหนึ่งเดียวที่เป็นไปได้คือองค์หญิงเจ็ดเช่นเจ้าฉี!
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่รอ!
“งั้นข้าควรทำอย่างไร? ไม่ใช่ว่าจะออกไปไม่ได้อีกเลยงั้นหรือ?” อูหย่าเริ่มแสดงความไม่พอใจ
“ไม่ใช่แบบนั้น ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่ามีทางนำตัวเจ้าออกไปนอกเมือง แต่ต้องรอสักหลายวัน ตอนนี้อดทนอดกลั้นเอาไว้ก่อน ขอแค่อีกไม่กี่วันเท่านั้นเอง” อู๋ฝานตอบกลับ