ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 565 กลับเทศมณฑลชิงหยวน
บทที่ 565 กลับเทศมณฑลชิงหยวน
กิจการของร้านค้าดำเนินไปได้ด้วยดีดังเช่นที่คาดเอาไว้ อย่างไรไม่ว่าจะเป็นชาตื่นรู้ ไวน์สุดเหนือเมฆ สัตว์เลี้ยง รวมถึงยาที่เขาเป็นคนปรุงขึ้นมา ทั้งหมดคือของดีที่ร้านค้าอื่นไม่มีวางขาย
นอกจากนี้ คำบอกเล่าแบบปากต่อปากของเหล่าขุนนางเช่นหลี่จื่อหยาง ก็ยิ่งทำให้กิจการดีขึ้นอย่างพุ่งทะยาน
แต่อู๋ฝานไม่คาดคิดว่าร้านค้าจะได้รับความนิยมถึงขนาดนี้ กระทั่งเป็นเหตุให้สินค้าที่เตรียมเอาไว้หมดลงอย่างรวดเร็ว เดิมที่คิดว่าคงส่งสินค้าชุดถัดไปจากหมู่บ้านเร้นลับมาทัน แต่ตอนนี้เหมือนว่าจะสายเกินไปแล้ว
หมู่บ้านเร้นลับค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากนครเหยียนหยาง นอกจากนี้ระหว่างทางก็ยังมีโจรร้ายคอยปล้นชิง ถนนไม่ได้ราบเรียบจนอำนวยแก่การขนส่ง จึงทำให้ต้องใช้ระยะเวลาการขนส่งเพิ่มมากขึ้น
เมื่อเผชิญกับคำถามจากโจวกวง อู๋ฝานถึงกับต้องขมวดคิ้ว
หากร้านที่เพิ่งเปิดได้ไม่กี่วันต้องปิดลงเพราะสินค้าหมด มันจะส่งผลกระทบทางภาพลักษณ์ ทว่าถ้าปิดสักวันหรือสองวันก็ยังพอได้อยู่ แต่ระหว่างนั้นอย่างไรก็ต้องส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง สินค้าที่นำมาจากหมู่บ้านเร้นลับก็ยังคงอยู่ระหว่างทาง และไม่ทราบว่าจะนำมาส่งถึงเมื่อใด จึงทำให้ไม่อาจตัดสินใจได้ว่าควรจะต้องปิดร้านจนถึงเมื่อไหร่
ยิ่งไปกว่านั้น อู๋ฝานยังไม่ลืมเรื่องที่จักรพรรดิชราขอให้นำชาตื่นรู้ไปส่งที่วังหลวง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะช่วยพูดให้หรือไม่ เหล่าขุนนางภายในราชสำนักก็มีแต่จะอยากลองดื่มตามดูบ้าง เป็นไปได้ว่าพอทราบเรื่องราว ภายหน้าจะยิ่งได้รับความนิยมกว่าปัจจุบัน ต่อให้พวกเขาไม่ชอบดื่มชาสำเร็จรูป แต่ในเมื่อเป็นถึงเครื่องดื่มที่จักรพรรดิยังดื่ม ดังนั้นจึงยิ่งต้องได้รับความสนใจ อีกทั้งชาตื่นรู้ก็ยังมีดีทั้งรสชาติและสรรพคุณอย่างครบถ้วน
การถวายชาตื่นรู้แก่จักรพรรดิชราคือการวางแผนโฆษณาอันแยบยล ครั้งนั้นที่เดินทางกลับจากวังหลวง เขาก็ยังได้รับคำขอให้จัดการสินค้าส่งไปถวายที่วังอีกจำนวนหนึ่ง แต่เพราะมัวแต่ปรุงยาจนเกิดความล่าช้า ขณะนี้โกดังของร้านว่างเปล่า อู๋ฝานเองก็ต้องออกเดินทางแล้ว สินค้าชุดถัดไปก็ไม่ทราบว่าจะมาถึงเมื่อใด หากปล่อยให้เสียเวลาออกไปนาน ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจักรพรรดิชราจะไม่เอ่ยตำหนิ
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงต้องบอกกับโจวกวง “เรื่องสินค้าข้าจะจัดการเอง อีกสักครึ่งชั่วยาม ให้ส่งคนไปเตรียมขนย้ายสินค้าจากป่านอกเมืองทางประตูตะวันออกราวสิบลี้”
“ขอรับนายท่าน” โจวกวงตอบรับด้วยอาการยินดี แม้จะยังสับสนว่าเหตุใดจึงต้องขอให้ไปขนย้ายสินค้าจากที่นั่น แต่ในเมื่อมีสินค้าสำหรับจำหน่ายก็นับเป็นเรื่องน่าพึงพอใจแล้ว เรื่องอื่นใดนอกเหนือจากนั้นไม่ใช่หน้าที่ที่เขาต้องรู้หรือรับผิดชอบ
“นอกจากเรื่องสินค้าแล้วยังมีอะไรอื่นอีกหรือไม่?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“ไม่มีแล้วขอรับ” โจวกวงส่ายหน้า “สินค้าของเรามีคุณภาพที่โดดเด่น ไม่ว่าใครที่ซื้อและได้ลองต่างก็ชื่นชม ด้วยมิตรไมตรีจากใต้เท้าหลี่จื่อหยาง จึงทำให้ไม่มีใครจ้องคุกคามพวกเราขอรับ”
“ไม่มีปัญหาก็ดีแล้ว” อู๋ฝานตอบรับ “วันนี้ข้าจะไปจากเมืองหลวง เจ้ารับผิดชอบดูแลจัดการทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ หากมีคำถามอื่นใดก็ติดต่อกับจวนที่เทศมณฑลชิงหยวน เมืองหลวงเช่นนครเหยียนหยางมีความสำคัญมาก มันเกี่ยวพันถึงอนาคตของพวกเรา ดังนั้นจัดการเรื่องราวที่นี่ให้ดี หลี่จื่อหยางและคนอื่นก็อยู่ที่นี่ เมื่อใดข้าเดินทางไปแล้วก็คอยสานสัมพันธ์และติดต่อกับพวกเขาเอาไว้ เมื่อได้รับสินค้าแล้ว ก็เตรียมส่งชาตื่นรู้ไปที่วังจำนวนหนึ่งด้วย”
วันนี้อู๋ฝานจะไปจากนครเหยียนหยาง แต่ก็ทราบดีว่าภายหน้าตนเองจะต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง ส่วนว่าจะเป็นเมื่อไหร่ก็ยังยากที่จะพูดได้ แต่ไม่ว่าด้วยอะไร หากเขาสร้างรากฐานเอาไว้ที่เมืองหลวงได้อย่างมั่นคง เรื่องในอนาคตก็จะราบรื่นเอง
“ขอรับนายท่านข้าเข้าใจแล้ว และจะดูแลเรื่องที่นี่ให้ดีขอรับ” โจวกวงตอบรับอย่างจริงจัง
ในใจของโจวกวงและทหารทั้งหลายที่รับใช้อู๋ฝาน ชายหนุ่มคือคนที่มีความสามารถอันยิ่งใหญ่ ความสำเร็จในอนาคตย่อมไม่ถูกจำกัดเอาไว้เพียงสถานที่เล็กจ้อยเช่นเทศมณฑลชิงหยวน นครเหยียนหยาง หรืออาณาจักรเหยียนเฟิง แต่จะขยายออกไปกว้างไกลกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเมืองใดล้วนแล้วแต่จะเป็นเวทีให้ชายหนุ่มได้ไปแสดงความสามารถ
ขณะนี้อู๋ฝานมอบหมายภารกิจให้ดูแลที่นี่ โจวกวงจึงทั้งรู้สึกเครียด แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นด้วยเช่นกัน
อู๋ฝานอธิบายกับโจวกวงอีกครั้ง ก่อนจะฝากเงินไว้จำนวนหนึ่งและส่งอีกฝ่ายเดินทางกลับไป สถานที่เช่นนครเหยียนหยาง หลายสิ่งอย่างจำเป็นต้องใช้เงินในการดำเนินเรื่องราว โจวกวงที่รับผิดชอบสร้างรากฐานที่นี่ ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
หลังส่งโจวกวงกลับไปแล้ว เขาจึงหันไปพูดคุยกับอูหย่าและลั่วเยวี่ย “ข้าจะออกไปจัดการอะไรสักหน่อย หากเจ้าฉีมาแล้วก็ขอให้นางรอข้าสักครู่หนึ่ง“
“มีเรื่องใดกัน?” วันนี้ค่อนข้างมีความสำคัญกับอูหย่า นางจะออกจากเมืองได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวันนี้ และตอนนี้ก็กำลังจะออกจากเมืองอยู่แล้ว แต่อู๋ฝานกลับขอแยกตัวออกไปกะทันหัน ไม่แปลกหากหญิงสาวจะรู้สึกว้าวุ่นและไม่สบายใจ
“แค่เรื่องเล็กน้อย” อู๋ฝานตอบกลับ “รออยู่ที่นี่ ข้าไปไม่นานก็กลับมาแล้ว”
เมื่อเอ่ยจบ เขาก็เดินออกจากศาลาพักม้าไปเพียงลำพัง จากนั้นจึงออกจากเมืองไปโดยผ่านทางประตูตะวันออก
หลังออกจากประตูตะวันออก อู๋ฝานก็มุ่งตรงไปยังป่าที่อยู่ห่างไกลสิบลี้ เมื่อมาถึงและพบว่าไร้ซึ่งผู้คน เขาจึงนำเอาบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าหลัง
ยันต์เคลื่อนย้ายกำหนดจุดหมาย!
[ยันต์เทเลพอร์ตแบบกำหนดจุดหมาย สามารถใช้เพื่อกำหนดจุดหมายการเทเลพอร์ต (จุดหมายการเทเลพอร์ตจะต้องเป็นสถานที่ซึ่งผู้เล่นเคยไปมาแล้ว) และผู้เล่นสามารถทำการเทเลพอร์ตได้ในทันที จุดหมายการเทเลพอร์ตสามารถเป็นที่ใดก็ได้ หมายเหตุ ผู้เล่นเลเวล 1 สามารถกำหนดจุดหมายการเทเลพอร์ตได้ 1 ตำแหน่ง หลังทุก 10 เลเวลจะสามารถเพิ่มจุดหมายการเทเลพอร์ตได้อีก 1 ตำแหน่ง โดยจุดหมายการเทเลพอร์ตในโลกความเป็นจริงและในโลกแห่งเกมจะไม่ทับซ้อนกัน สามารถใช้การเทเลพอร์ตกำหนดจุดหมายได้ 2 ครั้ง/วัน]
นับตั้งแต่ได้รับมันมาเขาก็ไม่เคยใช้งานมาก่อน จนวันนี้ที่กำลังคิดหาแผนการคลี่คลายปัญหาสินค้าในร้านจึงเกิดนึกถึงมันขึ้นมา
ตอนนี้อู๋ฝานเลเวลสิบสาม จากข้อจำกัดของยันต์เคลื่อนย้ายกำหนดจุดหมาย ก็เท่ากับเขาสามารถกำหนดจุดหมายเคลื่อนย้ายได้สองตำแหน่ง อู๋ฝานจึงกำหนดจุดหมายที่หนึ่งเอาไว้เป็นป่าแห่งนี้ และจุดหมายที่สองคือนอกเทศมณฑลชิงหยวน เนื่องจากเคยไปที่นั่นมาก่อน ดังนั้นจึงสามารถกำหนดเป็นจุดเคลื่อนย้ายได้โดยไม่มีปัญหา
หลังกำหนดจุดเคลื่อนย้ายเรียบร้อย เขาจึงกระตุ้นการทำงานของยันต์ก่อนจะหายตัวไปจากสถานที่ เมื่อการมองเห็นกลับมาอีกครั้งก็พบว่าตนเองอยู่บริเวณภายนอกเทศมณฑลชิงหยวนแล้ว
“ความรู้สึกตอนเทเลพอร์ตเหมือนตอนข้ามโลกไปมาไม่มีผิด” อู๋ฝานพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็รีบมุ่งตรงไปยังประตูเมือง
ขณะผ่านประตูเมืองมา เขาถึงกับต้องลอบขมวดคิ้ว เพราะจำนวนของผู้อพยพภายนอกประตูเมืองมีมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ พวกเขาส่วนใหญ่นิ่งเฉยและดูสิ้นหวังราวกับคนที่ไร้ซึ่งชีวิต
ก่อนหน้านี้เขาทำได้เพียงพยายามลดจำนวนของผู้อพยพ ส่วนคนอื่นที่ไม่อาจช่วยได้นั้น ก็ทำได้เพียงแสร้งทำเป็นมองข้ามไป แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไปแล้ว เทศมณฑลชิงหยวนคือที่ดินศักดินาของเขา อีกทั้งเขายังมีหน้าที่ต้องหารือความร่วมมือเพื่อพัฒนาที่นี่ไปกับประชากรทุกคน ในเมื่อมีทรัพยากรมนุษย์ก็จำเป็นต้องใช้ให้คุ้มค่า จึงจะทำให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด
ดังนั้นไม่ว่าจะทั้งในทางเปิดเผยหรือทางลับ เขาก็จำเป็นต้องหาทางคลี่คลายปัญหาผู้อพยพของเทศมณฑลชิงหยวน