ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 581 น่ารังเกียจ
บทที่ 581 น่ารังเกียจ
……….
บทที่ 581 น่ารังเกียจ
สุดท้ายสวี่จื่อฉีก็ไม่อาจเอาชนะพี่จ้าวได้ แม้ภายนอกเธอคือดาราดัง แต่ภายในบริษัทก็เป็นเพียงลูกจ้างที่ต้องทำตามคำสั่งและการจัดการ ต่อให้ไม่ยินดีแค่ไหนก็ต้องทำ
พี่จ้าวไม่ประหลาดใจกับการที่สวี่จื่อฉียอมแพ้และทำตาม เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่หญิงสาวอารมณ์เสียเพราะความหวังดีของบริษัท แต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมรับและเชื่อฟังอยู่ดี
แม้สวี่จื่อฉีจะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เธอก็ทราบดีว่ามีบุญคุณต้องทดแทน พี่จ้าวเองก็ทราบดีเช่นกัน ดังนั้นแม้ความก้าวหน้าทางการงานของเธอจะเป็นเพราะพรสวรรค์และความพยายาม ทว่ามันก็ยังเป็นเพราะบริษัทอีกหลายส่วนเช่นกัน เพราะแบบนั้นในใจของหญิงสาวจึงมีความรู้สึกขอบคุณต่อบริษัทอยู่
อย่างที่สองนั้นเป็นเพราะสัญญาที่หญิงสาวทำเอาไว้กับบริษัท ตอนที่ทำสัญญาเธอยังเด็กและไม่ได้รู้อะไรมากมาย ตนแค่ดื่มด่ำไปกับการร้องเพลงและการแสดง จนไม่ได้ตระหนักว่าสัญญาดังกล่าวกดขี่ถึงขนาดไหน หากเธอต้องการจะลาออกจากบริษัทหรือไม่ฟังการจัดการของพวกเขา มันก็มีราคาที่จำเป็นต้องจ่าย ต่อให้ตลอดหลายปีมานี้เธอทำเงินได้มากมาย มันก็ยังเป็นราคาที่มากเกินไปสำหรับเธออยู่ดี
ดังนั้น แม้สวี่จื่อฉีจะอารมณ์เสียเพราะการจัดการของบริษัท รวมถึงตารางงานที่เต็มแน่น แต่สุดท้ายก็ยังต้องเชื่อฟังอยู่ดี พี่จ้าวที่อยู่กับเธอมานาน จะเข้าใจเรื่องนี้ดีก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“คืนนี้เป็นปาร์ตี้ค็อกเทลที่จัดขึ้นโดยตระกูลเจียง พวกเขาเป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ของเจียงโจว เพื่อเสริมสร้างเส้นสายและความสนิทสนมของสมาชิกรุ่นเยาว์ในตระกูล พวกเขาจึงเชิญแขกมามากมาย รวมถึงคนดังในเจียงโจวด้วยเหมือนกัน คนเหล่านั้นต่างก็มีสถานะที่ดีในระดับประเทศ ดังนั้นงานในคืนนี้จะต้องไม่มีอะไรผิดพลาด ไว้ไปถึงงานเมื่อไหร่ก็ให้เดินวนทั่วเพื่อทำความรู้จักกับคนอื่น” พี่จ้าวบอกกับสวี่จื่อฉีที่กำลังแต่งหน้า
“รู้แล้วค่ะ” สวี่จื่อฉีแม้โกรธแต่ก็ยังตอบรับ เพราะเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ
พี่จ้าวไม่เก็บมาใส่ใจขณะพูดต่อ “ตระกูลเจียงยังเชิญดาราคนอื่นในวงการบันเทิงมาด้วย มีหลันเฉียงด้วยนะ”
“เธอก็มาด้วยเหรอ?” หญิงสาวถามกลับด้วยท่าทีประหลาดใจ
“ใช่” พี่จ้าวพยักหน้ารับเป็นการยืนยัน “เธอต้องแสดงให้ดีไม่มีผิดพลาดนะ”
สวี่จื่อฉีพยักหน้ารับเงียบ ๆ
หลันเฉียงคือดาราที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เธอเดบิวต์ช้ากว่าสวี่จื่อฉีสองปี ทว่ามาแรง และยังมีต้นทุนกับเส้นสายที่หญิงสาวไม่อาจเทียบได้
สวี่จื่อฉีมีบริษัทอยู่ด้านหลัง แม้จะไม่ใช่บริษัทใหญ่ แต่เพราะบริษัทแห่งนี้ปั้นเธอขึ้นมาจนถึงจุดที่ได้รับชื่อเสียง ทว่าทั้งบริษัทนอกจากหญิงสาว ก็ยังไม่มีใครขึ้นมาแสดงตัวบนเวทีได้ ดังนั้นเครือข่ายและต้นทุนจึงมีอย่างจำกัด
แต่หลันเฉียงไม่ใช่ เบื้องหลังของเธอคือตู้ทองเดินได้ พวกเขาใช้จ่ายซื้อหาทรัพยากรที่จำเป็นมา เพื่อสร้างเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบให้แก่หลันเฉียง ในเวลาเพียงสองถึงสามปี แม้เธอจะเคยร่วมมือกับสวี่จื่อฉี ทว่าอีกทางหนึ่งถือเป็นคู่แข่งกัน
วงการบันเทิงเป็นอะไรที่โหดร้าย ขอเพียงมีทรัพยากรและเส้นสายที่ดีกว่า ก็หมายความว่าสามารถตักตวงไปได้มากกว่าคนที่มีน้อย ดังนั้นการแข่งขันโดยคนเพศเดียวกันในช่วงวัยใกล้เคียงกันจึงเกิดขึ้น อีกทั้งแฟนคลับในโลกออนไลน์ก็มักจะโจมตีอีกฝ่ายที่เป็นคู่แข่งอย่างออกหน้า
สวี่จื่อฉีไม่ได้มีพื้นเพดีเท่ากับหลันเฉียง หากไม่ใช่เพราะเธอทำได้ยอดเยี่ยมและมีแฟนคลับที่แข็งแกร่งเปรียบดังปราการเหล็ก ตำแหน่งของตนคงถูกหลันเฉียงคว้าไปนานแล้ว แต่แม้แบบนั้น อีกฝ่ายก็ยังคอยจับตามองตำแหน่งนี้และพร้อมจะขึ้นมาแทนที่อยู่เสมอ
แม้ตอนที่สวี่จื่อฉีโกรธจนบอกกับพี่จ้าว ว่าใครอยากได้ตำแหน่งของเธอก็เอาไป แต่หากตำแหน่งนี้หลุดไปจากตัวเธอจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะรู้สึกยินดี เพราะเธอสู้เพื่อตำแหน่งนี้มานานหลายปี ถ้าสูญเสียไปเพราะเรื่องไร้สาระมันก็ยากจะทำใจยอมรับ
ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอย่างหลันเฉียง สวี่จื่อฉีจึงไม่เคยกล้าคลายความระวัง เพราะเธอทราบดีว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งแค่ไหน หากผ่อนคลายไปครู่หนึ่ง อีกฝ่ายก็พร้อมที่จะขึ้นมาแทนที่
จนกระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สวี่จื่อฉีก็แต่งหน้าเสร็จและพร้อมจะไปยังคฤหาสน์ตระกูลเจียง อันเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้พร้อมพี่จ้าว
“ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนตัว ขอให้แสดงเทียบเชิญด้วยครับ” บอดี้การ์ดทั้งสองคนเรียกพี่จ้าวและสวี่จื่อฉีเพื่อขอตรวจหน้าคฤหาสน์ตระกูลเจียง
แม้ใบหน้าของสวี่จื่อฉีแทบจะเป็นเสมือนบัตรผ่านที่คนทั้งประเทศรู้จัก แต่บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็ยังต้องเรียกหยุดเอาไว้
“นี่ค่ะ” พี่จ้าวส่งเทียบเชิญออกไป อีกฝ่ายรับไว้ตรวจสอบก่อนจะส่งคืนให้
พี่จ้าวและสวี่จื่อฉีจึงเข้าไปในพื้นที่คฤหาสน์ สถานการณ์เมื่อครู่ไม่ได้แปลกใหม่สำหรับคนทั้งสอง ต่อหน้าตระกูลทรงอำนาจ พวกเขาที่อยู่ในวงการบันเทิงแทบไม่มีสถานะใด และคนเหล่านั้นก็ไม่ได้จัดงานเลี้ยงขึ้นมาเช่นการเป็นแฟนคลับเชิดชูศิลปินด้วยเช่นกัน
“คุณหนูสวี่?”
หลังสวี่จื่อฉีและพี่จ้าวเข้ามาในคฤหาสน์และกำลังสำรวจสภาพแวดล้อมก็พบว่ามีเสียงดังขึ้น ตามมาด้วยชายหนุ่มผู้มีใบหน้ายิ้มแย้มที่เดินเข้ามาพบคนทั้งสอง
“จื่อฉี ท่านนี้คือนายน้อยเจียงอวี่แห่งตระกูลเจียง เป็นตัวเอกของงานวันนี้” พี่จ้าวทำการบ้านและเตรียมงานมาเป็นอย่างดี แค่มองก็ทราบตัวตนของอีกฝ่าย พร้อมรีบแนะนำให้สวี่จื่อฉีรู้จัก
“สวัสดีค่ะนายน้อยเจียง” สวี่จื่อฉีเผยยิ้มทางการค้าและเอ่ยทักทาย
“สวัสดีครับคุณหนูสวี่” เจียงอวี่มองสำรวจสวี่จื่อฉี มันเป็นสายตาที่ราวกับจะล้วงลึกจนทำให้เธอเกิดความไม่สบายใจ “ผมรู้มาว่าคุณหนูสวี่งดงามมานานแล้วก็จริง แต่วันนี้เมื่อได้พบด้วยตัวเองมันกลับเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าคำเล่าลือ คุณหนูสวี่สวยกว่าที่เคยเห็นในทีวีมากเลยครับ สมกับเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งวงการบันเทิง ไม่ใช่อะไรที่ใครจะกล้าโต้แย้งได้เลย”
“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะนายน้อยเจียง” สวี่จื่อฉีขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหลบเลี่ยงสายตาของอีกฝ่าย “ในวงการบันเทิงยังมีคนที่สวยกว่าฉันอีกมากค่ะ ฉันไม่กล้าเรียกตัวเองเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน”
“คุณหนูสวี่ถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ” เจียงอวี่ตอบรับ “ไม่รู้ว่าหลังงานเลี้ยงคุณหนูสวี่พอจะมีเวลาให้ผมได้เชิญไปพูดคุยพลางทานอาหารว่างไหมครับ”
“ฉันไม่…” สวี่จื่อฉีคิดจะปฏิเสธออกไปตามตรง แต่พี่จ้าวที่อยู่ข้าง ๆ กลับพูดขึ้นมาแทน “จื่อฉีต้องยินดีอยู่แล้วค่ะ เป็นเกียรติที่จะได้สนทนาพลางทานอาหารว่างมื้อดึกกับนายน้อยเจียงค่ะ”
หญิงสาวถึงกับต้องมองพี่จ้าวด้วยสายตานึกรำคาญ ทว่าอีกฝ่ายหาได้มองเธอไม่ สายตานั้นเอาแต่จับจ้องเจียงอวี่
“งั้นก็ถือว่าตกลงตามนี้นะครับ หลังงานเลี้ยงเลิกผมจะไปรับคุณหนูสวี่เอง หวังว่าจะได้ใช้ช่วงเวลาที่ดีร่วมกันครับ” เจียงอวี่ยิ่งเผยยิ้มกว้าง ราวกับจะแสดงเจตนาและความในใจออกมาผ่านรอยยิ้มนั้นก็ไม่ปาน
หลังสวี่จื่อฉีรับปากเป็นที่เรียบร้อย เจียงอวี่จึงเดินกลับไปด้วยความอิ่มเอม ในใจเขาเวลานี้ถึงขั้นนึกถึงช่วงเวลา ‘เดต’ อันดื่มด่ำหลังงานเลี้ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยซ้ำไป
……….