ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 626 คำถาม
บทที่ 626 คำถาม
“ส่งคนคอยไปจับตาดูเอาไว้!” เจียงฟั่นโจวที่เดินออกมาจากบ้านของอู๋ฝาน หันไปสั่งการกับคนข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ฉันต้องรู้ว่ามันไปที่ไหน เจอใครบ้าง และทำอะไร!”
“ครับ!”
“จำเอาไว้ด้วยว่าต้องระมัดระวัง เขาแข็งแกร่งกว่าพวกนายมาก!” เจียงฟั่นโจวเอ่ยเตือน
แม้เจียงฟั่นโจวไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งของอู๋ฝานกับตาตัวเอง แต่ก็เคยได้ยินมาบ้าง ตั้งแต่เรื่องความตายของหวงถิงเฟิงเกี่ยวข้องกับอู๋ฝาน และยังเรื่องที่วังเมฆาสีชาดไม่อาจทำอะไรได้ ก่อนจะถึงวันนี้เจียงฟั่นโจวค่อนข้างหวาดกลัวชายหนุ่มอยู่พอสมควร เขาทราบว่าลูกชายตนเองมีปัญหากับอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เลือกทำก็ไม่ใช่ช่วยแก้แค้น แต่เป็นคลี่คลายปัญหา
ทว่าตอนนี้เรื่องราวเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ลูกชายคนเดียวของเขาเสียชีวิต อู๋ฝานคือคนที่น่าสงสัยที่สุด ดังนั้นต่อให้รู้ว่าการคิดต่อต้านอีกฝ่ายอันตราย เขาก็ยังเลือกทำเพราะไม่อาจปล่อยให้ลูกชายตายไปแบบนี้ได้ เขาต้องการจะล้างแค้นให้ลูก!
ความรู้สึกของเจียงฟั่นโจวในปัจจุบันค่อนข้างยากจะอธิบาย แต่จะด้วยอะไรก็เป็นความรู้สึกที่ไม่อาจทำใจยอมรับความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกชายได้ ดังนั้นความระมัดระวังที่เคยมีก่อนหน้านี้จึงถูกโยนทิ้ง สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือหาตัวฆาตกรเพื่อล้างแค้นให้กับลูกชาย
แม้จะเห็นได้ชัดว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของอู๋ฝานมีเหตุผล และเขาเองก็ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของที่โรงแรมแล้วเช่นกัน พร้อมพบว่าทุกทางเข้าออกไม่มีอีกฝ่ายปรากฏตัว แต่เจียงฟั่นโจวก็ยังไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แม้หลักฐานจะบอกให้ตนเชื่อว่าพอชายหนุ่มไปถึงหน้าโรงแรมแล้วก็ตัดสินใจกลับอย่างกะทันหัน แต่หลังนึกถึงตัวตนผู้ฝึกตนของอีกฝ่าย ตนก็มองว่ามันอาจจะมีหนทางอื่นให้ใช้เข้าไปในโรงแรมโดยการหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดได้
ด้วยเหตุนี้ในใจของเจียงฟั่นโจวเลยยังสงสัยอู๋ฝานอยู่
แม้ตอนนี้เขาจะร้อนใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ขาดสติ และทราบดีว่าลำพังแค่ตระกูลเจียงไม่อาจจัดการกับอู๋ฝานได้ง่าย ๆ ต่อให้ทราบว่าอีกฝ่ายฆ่าลูกชายตัวเอง ทว่าก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะล้างแค้น เพียงแต่หากทราบแน่ชัด เขาก็ยังมีสำนักตะวันเพ็จอยู่เบื้องหลังให้พึ่งพา!
ก่อนจะมาพบอู๋ฝาน เจียงฟั่นโจวก็ได้ติดต่อหาผู้อาวุโสหร่วนเพื่อขอความช่วยเหลือจากสำนักตะวันเพ็จแล้ว แน่นอนว่าเขาเองก็ทราบดีว่าสำนักผู้ฝึกตนไม่ใช่องค์กรการกุศล การจะช่วยเหลือจำเป็นต้องมีสิ่งตอบแทน และยิ่งขอในเรื่องที่ยากจะทำได้ ราคาที่ต้องจ่ายก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก
แต่ตอนนี้เจียงฟั่นโจวไม่คิดสนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านั้น ขอเพียงได้ล้างแค้นให้ลูกชายและสังหารฆาตกรได้ แม้เป็นราคาอันสูงล้ำเขาก็พร้อมจะยอมรับ
“นายท่าน คุณหนูสวี่จื่อฉีได้สติแล้วครับ” ระหว่างทางกลับ เจียงฟั่นโจวได้รับสายที่โทรมาแจ้งว่าสวี่จื่อฉีตื่นแล้ว
สวี่จื่อฉีคือพยานบุคคลสำคัญ เธออยู่ที่นั่น และเจียงอวี่ไปที่โรงแรมก็เพราะอีกฝ่าย เป็นเพราะเธอถึงทำให้ลูกชายของเขาต้องตาย ส่วนใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง หญิงสาวจะต้องทราบอย่างแน่นอน
ดังนั้นเจียงฟั่นโจวจึงให้การคุ้มกันและคอยเฝ้าจับตามองสวี่จื่อฉีเอาไว้
“รีบไป!” เจียงฟั่นโจวบอกคนขับรถ
สวี่จื่อฉียังอยู่ที่โรงแรมเทียนอวี่จนถึงตอนนี้ เพียงแต่มีการเปลี่ยนห้องเรียบร้อยแล้ว
ช่วงที่เจียงฟั่นโจวรีบเดินทางมายังโรงแรม หญิงสาวก็พูดคุยกับพี่จ้าวจนทราบว่าเจียงอวี่ตายแล้ว
“คุณเจียงมาได้เวลาพอดีเลยค่ะ พวกเรากำลังจะออกไป แต่คนของพวกคุณขวางเราเอาไว้ไม่ให้ออกไปค่ะ” เมื่อเห็นเจียงฟั่นโจวมาถึง พี่จ้าวก็เร่งไปบอกกล่าว
“ผมขอให้พวกเขาทำเองครับ” เจียงฟั่นโจวเดินตรงไปหาสวี่จื่อฉีด้วยใบหน้าเย็นเยือก แม้ตอบคำถามแต่เขาไม่ได้หันกลับมอง
“คะ? คุณเจียงหมายความว่ายังไง?” พี่จ้าวขมวดคิ้ว
“ผมมีเรื่องต้องสอบถามคุณหนูสวี่” เจียงฟั่นโจวยืนอยู่หน้าหญิงสาวด้วยใบหน้าเย็นยะเยือก “คุณหนูสวี่ ผมหวังว่าคุณจะเล่าให้ชัดเจนว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
“คุณเจียงหมายความว่ายังไงคะ? กำลังสงสัยว่าที่นายน้อยเจียงตายเป็นเพราะจื่อฉีงั้นเหรอคะ?” พี่จ้าวเอ่ยถามขึ้นมา
“หุบปาก!” เจียงฟั่นโจวหันไปตะคอกพี่จ้าว “ฉันไม่ได้พูดกับแก ถ้ายังกล้าสอดปากอีก ฉันจะสั่งให้คนโยนแกออกไปจากที่นี่ซะ!”
พี่จ้าวตื่นตระหนกและต้องลอบถอยเท้ากลับไปพร้อมใช้มือปิดปากเอาไว้ด้วยสีหน้าหวาดกลัว
เจียงฟั่นโจวหันไปมองสวี่จื่อฉีอีกครั้งเพื่อรอคำตอบ
สวี่จื่อฉีมองพี่จ้าวที่ยืนอยู่เฉย ๆ และไม่กล้าส่งเสียงอะไรอีก จากนั้นจึงมองเจียงฟั่นโจวและตอบกลับ “เมื่อคืนฉันถูกนายน้อยเจียงวางยา เขาพยายามบุกเข้ามาในห้องของฉัน หลังจากนั้นฉันก็หมดสติไป …ถ้าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นฉันก็ไม่ทราบแล้วค่ะ”
“เธอได้ขอให้ใครมาช่วยรึเปล่า?” เจียงฟั่นโจวเอ่ยถาม
เพราะจากกล้องวงจรปิดที่ล็อบบีของโรงแรม มันเห็นว่าเจียงอวี่วางยาในน้ำชาของสวี่จื่อฉีจริง ๆ และจากกล้องวงจรปิดตรงระเบียงทางเดิน ก็ได้เห็นว่าเจียงอวี่ไปที่ห้องของสวี่จื่อฉี
“ไม่… ไม่ค่ะ” สวี่จื่อฉีสีหน้าเปลี่ยนแปลงไปก่อนจะปฏิเสธ
“ไม่งั้นเหรอ?” เจียงฟั่นโจวเผยสีหน้าเย็นยะเยือก “ฉันรู้นะว่าเธอโทรหาอู๋ฝาน หรือจะบอกว่าโทรไปบอกให้นอนหลับฝันดีรึยังไง?”
“ฉัน… ฉันโทรเรียกอู๋ฝานมาจริง ๆ ค่ะ” หญิงสาวตระหนักว่าเจียงฟั่นโจวได้ตรวจสอบบันทึกการโทรของเธอแล้ว และทราบเรื่องที่ตนโทรหาอู๋ฝาน “ฉันโทรเรียกอู๋ฝานมาเพราะต้องการขอความช่วยเหลือ แต่เจียงอวี่บอกว่าถ้าอู๋ฝานมาที่นี่เมื่อไหร่จะสั่งให้คนฆ่าเขาทิ้ง ฉันกลัวว่าเขาจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับฉันที่ไม่ได้เป็นเพื่อนด้วยซ้ำ เลยขอให้เขากลับไปค่ะ”
“แล้วเขาก็กลับไป?” เจียงฟั่นโจวยังคงถาม
“ค่ะ” เธอตอบรับด้วยสีหน้าที่เริ่มสงบ
“แล้วใครฆ่าลูกชายฉัน?” เจียงฟั่นโจวเริ่มเผยสีหน้าปั้นยาก
“ฉันเองก็ไม่ทราบค่ะ” สวี่จื่อฉีตอบกลับ
“เธอไม่รู้? เธอที่อยู่ในห้องนั่นจะไม่รู้ได้ยังไง!” เจียงฟั่นโจวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มดังขึ้น
“ฉันถูกวางยาจนหมดสติค่ะ” หญิงสาวตอบรับด้วยสีหน้าที่พยายามสงบนิ่ง
เจียงฟั่นโจวจ้องอีกฝ่ายที่ดูมีท่าทีค่อนข้างวิตกกังวล
“เธอกำลังกลัวอะไร?” เจียงฟั่นโจวเอ่ยถาม “หรือเธอกำลังจงใจปิดบังอะไรอยู่กันแน่?”
“ฉันบอกทุกเรื่องที่รู้ออกไปหมดแล้วค่ะ ไม่มีอะไรซ่อนไว้อีก” เธอตอบกลับ “คุณเป็นถึงผู้นำหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ของเจียงโจว แต่ตอนนี้กำลังตั้งคำถามและสงสัยฉันไม่ต่างกับการสอบสวน การที่ฉันจะกลัว มันก็ไม่แปลกนิค่ะ”
เจียงฟั่นโจวมองสวี่จื่อฉีก่อนจะตอบกลับ “ขอให้มันจริงเถอะ! ถ้าฉันรู้ว่าเธอซ่อนอะไรเอาไว้ ฉันจะฝังเธอไปพร้อมกับลูกชายของฉันซะ! ดูเหมือนว่าเขาจะชอบเธอมากนิ ได้ลงโลงไปด้วยกันคงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี”
เจียงฟั่นโจวที่ดูราวกับคลุ้มคลั่งไปแล้ว ทำให้เธอหนาวเย็นถึงขั้วหัวใจ
เจียงฟั่นโจวยังคงมองอยู่อีกครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังกลับและจากไป
“พวกเธออยู่ที่นี่ ฉันไม่อนุญาตให้ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าฉันจะรู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”
…………….