ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 632 สำนักตะวันเพ็จประชุมหารือ
บทที่ 632 สำนักตะวันเพ็จประชุมหารือ
หลังทานอาหาร อู๋ฝานไปส่งหลิ่วเหยียนเอ๋อร์กลับมหาวิทยาลัย ตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดี แม้จะไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากมาย แต่ความรู้สึกลึก ๆ ในใจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างที่เจ้าตัวรับรู้ได้
ในช่วงเย็น เหล่าผู้อาวุโสรวมถึงหร่วนเจี้ยนเฟิงและจ้าวสำนักถงเชียนหวาได้มารวมตัวกันในสำนักตะวันเพ็จ
“เรื่องก็เป็นตามนี้” หร่วนเจี้ยนเฟิงเล่าเรื่องราวของตระกูลเจียงออกมา “ปัจจุบันเจียงฟั่นโจวคลุ้มคลั่งและต้องการล้างแค้นให้ลูกชาย ไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยราคาสูงขนาดไหนก็ยินดี”
“เหอะ! เจียงฟั่นโจวนับวันยิ่งมีความกล้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นกล้าข่มขู่พวกเรา!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“จะยอมทนกับเรื่องนี้ไม่ได้ ถ้าไร้การคุ้มครองของสำนักตะวันเพ็จ ตระกูลเจียงจะพัฒนาอย่างมั่นคงจนถึงทุกวันนี้ได้เหรอ? มันถึงขั้นกล้าคิดทรยศพวกเราอย่างไร้เหตุผลขนาดนี้!” ผู้อาวุโสข้าง ๆ อีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
ในใจเหล่าผู้อาวุโสแห่งสำนักตะวันเพ็จ พวกเขาไม่ได้ใส่ใจตระกูลเจียงอย่างจริงจังแต่อย่างใด เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นเพียงเครื่องมือใช้หาเงินให้พวกเขา ต่อให้เจียงฟั่นโจวเป็นผู้นำตระกูลเจียง ทว่าก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอจะต่อรองกับพวกตน ดังนั้นท่าทีของอีกฝ่ายจึงทำให้พวกเขาโกรธกันขึ้นมา
“แต่ต้องบอกก่อนว่าเจียงฟั่นโจวตัดสินใจไปแล้ว ถ้าพวกเราไม่ตอบรับและให้ความช่วยเหลือ เขาจะไปหาสำนักอื่น และโอกาสเป็นไปได้ก็สูงมากเลยทีเดียว” หร่วนเจี้ยนเฟิงเอ่ย
หากไร้ตระกูลเจียง สำนักตะวันเพ็จของพวกเขาก็จะเสียท่อน้ำเลี้ยงเส้นใหญ่ ความสูญเสียดังกล่าวไม่ใช่อะไรที่สำนักตะวันเพ็จจะสามารถเพิกเฉยได้
“เจียงอวี่ถูกอู๋ฝานฆ่าจริง ๆ เหรอ?” ถงเชียนหวาผู้เป็นเจ้าสำนักและนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะประชุมเอ่ยถาม
“ตระกูลเจียงตรวจสอบและคอยติดตามอู๋ฝานแล้วก็จริง แต่ไม่มีหลักฐานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็น” หร่วนเจี้ยนเฟิงตอบกลับ “ทว่าเขาคือผู้ต้องสงสัยสูงสุด ไม่ว่าจะแรงจูงใจหรือความสามารถก็น่าสงสัยไปหมด ทางเราเองก็ไปตรวจสอบที่ห้องในโรงแรมมาแล้ว และพบว่าคนธรรมดายากที่จะทำลายกระจกห้องเข้าไปได้ ต่อให้ใช้อุปกรณ์ช่วยก็ยังยาก แต่ด้วยความสามารถของอู๋ฝาน การจะทำลายกระจกนั่นคงไม่ใช่ปัญหา”
ถงเชียนหวาพยักหน้าตอบ จากนั้นจึงมองกลุ่มคน “คำถามตอนนี้คือตระกูลเจียงมีค่าพอให้พวกเราลงมือต่อต้านอู๋ฝานรึเปล่า แม้พวกเราจะไม่รู้เรื่องระหว่างอู๋ฝานกับวังเมฆาสีชาดอย่างแน่ชัด แต่ก็ได้ทราบมาไม่น้อยเหมือนกัน ทางวังเมฆาสีชาดเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และมันเกี่ยวข้องกับอู๋ฝานทั้งนั้น มันเป็นเรื่องยากที่จะพูดว่าสำนักตะวันเพ็จของพวกเรามีความสามารถพอจัดการเขารึเปล่า”
วังเมฆาสีชาดและสำนักตะวันเพ็จต่างก็เป็นสำนักชั้นหนึ่งในเจียงโจว ทั้งสองสำนักมีอำนาจทัดเทียมกัน เพราะปัญหาเรื่องทรัพยากรและผลประโยชน์ สองสำนักเคยมีปัญหาพิพาทกันมาบ้าง มันเป็นการผลัดกันช่วงชิงความได้เปรียบไปมา พวกเขามีอำนาจทัดเทียมไม่ต่างกัน และเมื่อวังเมฆาสีชาดยังไม่อาจทำอะไรอู๋ฝาน งั้นสำนักตะวันเพ็จของพวกเขาก็อาจทำอะไรไม่ได้เช่นกัน
“เจ้าสำนัก ผมไม่คิดว่าพวกเรามีความจำเป็นอะไรที่ต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับอู๋ฝานเพราะตระกูลเจียงเลย ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังชายหนุ่มคนนั้นมีอำนาจลึกล้ำแค่ไหน อีกฝ่ายลึกลับเกินไป อีกทั้งตัวเขายังมีความสามารถ แค่ผลประโยชน์ของตระกูลเจียง แลกกับการต้องเปิดศึกกับอู๋ฝาน เกรงว่าจะเป็นการได้ไม่คุ้มเสีย พวกเราไม่อาจมองข้ามบทเรียนที่วังเมฆาสีชาดได้รับ” ผู้อาวุโสที่นั่งตรงกลางเอ่ยกับถงเชียนหวา
“ผมไม่เห็นด้วย” ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “อู๋ฝานอาจจะมีพลังและอำนาจ แต่สำนักตะวันเพ็จของพวกเราก็ไม่ใช่สำนักเล็ก ๆ ที่ไร้ชื่อเสียง พวกเราต้องกลัวเขาด้วยเหรอ? เพราะอะไรวังเมฆาสีชาดต้องเจ็บช้ำและสูญเสียนั้น ในความเห็นของผมมองว่าเพราะพวกเขาขาดความระวังและไม่ได้เตรียมการให้ดี อู๋ฝานนำคนบุกไปถึงที่ตั้งสำนักโดยไม่ทันรู้ตัวต่างหาก เรื่องที่ลือออกมาจนพวกเราทราบคงไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด และอู๋ฝานคงไม่มีทางรู้ว่าพวกเรากำลังจะลงมือจัดการมัน หมายความว่าพวกเราสามารถเลือกเวลาลงมือได้อย่างอิสระ ขอเพียงมันไม่ระวังตัว การคิดจะฆ่ามันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”
“ถูกต้องแล้ว ขอแค่พวกเราหาโอกาสตอนที่อู๋ฝานอยู่ตามลำพัง ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าพวกเราส่งยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งไปจัดการ มันไม่มีทางรอดชีวิตแน่” ผู้อาวุโสข้าง ๆ ตอบรับเป็นการเห็นพ้อง
“ก็อาจจะไม่ใช่แบบนั้น วังเมฆาสีชาดเคยส่งคนไปตามฆ่าอู๋ฝานมาก่อน แต่สุดท้ายก็ทำพลาด อีกฝ่ายคือคนที่ไม่อาจปรามาสได้ทั้งในด้านมันสมองและความสามารถ เมื่อไหร่ที่มีโอกาสให้มันหลบหนีไปได้ เมื่อนั้นมันจะกลับมาล้างแค้นสำนักตะวันเพ็จของพวกเราอย่างแน่นอน“
“มันจะล้างแค้นแล้วยังไง? ตราบใดที่พวกเราเตรียมตัวให้ดี ยังไงก็ไม่มีทางเดินซ้ำบนรอยเท้าของวังเมฆาสีชาด”
กลุ่มผู้อาวุโสสำนักตะวันเพ็จมีความเห็นแตกต่างกันออกไป เพราะเรื่องราวของอู๋ฝานและวังเมฆาสีชาดไม่มีการประกาศให้คนนอกทราบ ว่าในที่ตั้งสำนักวันนั้นแท้จริงแล้วเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น แม้จะเป็นสำนักท้องถิ่นของเจียงโจวที่มีความสัมพันธ์ดี ๆ ต่อกัน แต่การจะสืบหาความจริงจากอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาได้ทราบเพียงว่า ตอนเขาลงมือมีคนข้างกายคอยช่วยเหลือ แต่พวกเขาเหล่านั้นปรากฏขึ้นมาอย่างไรไม่มีใครทราบ เดาได้แค่ว่าชายหนุ่มให้คนมาดักรอในพื้นที่ใกล้ ๆ วังเมฆาสีชาดอยู่ก่อนแล้ว เพราะความประมาทจึงถูกเล่นงานจนย่อยยับ
แน่นอนว่าจนถึงปัจจุบัน แม้เป็นวังเมฆาสีชาดก็ยังไม่ทราบว่าเหล่าผู้ช่วยเหลือของอู๋ฝานปรากฏตัวขึ้นได้ยังไง
เพราะความคิดที่คาดเดากันไปเองว่ามันอาจจะเป็นแบบนั้นและแบบนี้ กลุ่มผู้อาวุโสสำนักตะวันเพ็จจึงมองว่าขอเพียงเป็นฝ่ายลงมือก่อนในช่วงที่อีกฝ่ายไม่ทันระวัง เมื่อใดที่ไม่มีผู้ช่วยอยู่ข้าง ๆ ต่อให้ตัวชายหนุ่มแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางรอดไปจากวงล้อมของยอดฝีมือสำนักตะวันเพ็จ
ทว่าอีกหลายคนก็ระมัดระวังและกังวล เพราะอู๋ฝานคือคนที่หัวเราะคนสุดท้ายในศึกเผชิญหน้ากับวังเมฆาสีชาด ทั้งยังนำความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่มาสู่สำนัก อีกฝ่ายไม่มีทางใช่คนธรรมดา การจะต่อกรกับตัวตนเช่นนั้นนับว่าเป็นเรื่องอันตรายจนเกินไป
“เจี้ยนเฟิง เสนอความเห็นมา” ถงเชียนหวามองหร่วนเจี้ยนเฟิงที่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงเงียบ “นายคือคนที่ออกไปใช้เวลาในโลกเบื้องหน้ามากที่สุด และยังเคยพบอู๋ฝานมาแล้ว นายมีความคิดเห็นยังไง”
“จ้าวสำนัก ผมเคยพบอู๋ฝานมาแล้วจริง ๆ ครับ” หร่วนเจี้ยนเฟิงตอบกลับ “อีกฝ่ายดูเหมือนคนธรรมดา ถ้าไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงคงคิดแค่ว่าเป็นคนทั่วไปของโลกเบื้องหน้า เพราะผมไม่อาจรับรู้ได้ถึงความอวดดีของผู้ฝึกตนจากเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เรียกได้ว่าเป็นคนที่เก็บซ่อนอารมณ์เอาไว้ได้อย่างลึกล้ำ คนแบบนี้จะต้องเจ้าแผนการอย่างแน่นอน”
ถ้าอู๋ฝานรู้ความเห็นของหร่วนเจี้ยนเฟิงขึ้นมา เขาคงไม่ทราบว่าจะยิ้มยินดีหรือยิ้มขื่นขมตอบกันแน่ เหตุผลที่ชายหนุ่มแตกต่างจากผู้ฝึกตนคนอื่น ก็เพราะอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหลายที่มีค่าสถานะ รวมถึงทักษะวิชาต่าง ๆ ไม่ใช่การฝึกฝนเหมือนผู้ฝึกตนปกติ ดังนั้นสภาพของเขาจึงไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดา มันไม่ใช่ว่าเพราะมีเหตุผลต้องเก็บซ่อนอะไรทั้งนั้น
“พูดต่อสิ” ถงเชียนหวาตอบรับ
“หากสำนักตะวันเพ็จของพวกเราต้องการลงมือกับอู๋ฝาน พวกเราก็ต้องเตรียมแผนการที่มั่นใจว่าจะสังหารได้ในการลงมือเพียงครั้งเดียว! พวกเราต้องไม่ให้โอกาสมันหลบหนีหรือตั้งหลัก ไม่งั้นแล้ว …พิจารณาจากวิธีการที่มันใช้ตอบโต้วังเมฆาสีชาด มันจะต้องมาล้างแค้นสำนักตะวันเพ็จทีหลังแน่ และคงจะใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่าครั้งก่อน” หร่วนเจี้ยนเฟิงตอบกลับ