ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 634 นัดทานอาหาร
บทที่ 634 นัดทานอาหาร
อู๋ฝานไม่ทราบแผนการของสำนักตะวันเพ็จ แต่ทราบว่าตระกูลเจียงไม่มีทางเชื่อคำอธิบายของตนเองแน่ ทั้งยังสะกดรอยอย่างต่อเนื่อง แม้จะทำให้สองคนเมื่อเช้าได้รับบาดเจ็บหนักไปเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อออกมาด้านนอกอีกครั้งก็พบว่ามีคนตามสะกดรอยตนเองอีก ส่วนใครเป็นคนสะกดรอย ไม่ต้องคิดก็ทราบได้
จากสถานการณ์ดังกล่าว ชายหนุ่มไม่คิดมากมารยาทด้วยอีกต่อไป ส่งมาเท่าไหร่เขาก็จะส่งกลับไปเท่านั้น เพราะตนมีความลับเรื่องการเทเลพอร์ต ทั้งยังเป็นความลับที่ไม่อาจเปิดเผยให้ใครทราบได้ หากตระกูลเจียงยังคอยจับตามองแบบนี้ บางทีในอนาคตคงมีการโจมตีเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบุกเข้าบ้านหรืออะไรก็ตามแต่ ถ้ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ความลับของเขาก็จะแตกออกเมื่อนั้น
ด้วยเหตุดังกล่าว ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่อู๋ฝานตรวจพบว่าถูกสะกดรอย เขาก็จะลงมือตอบโต้ทันที และทุกครั้งก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น เพื่อเป็นการแสดงท่าทีให้ตระกูลเจียงเห็นและตระหนัก
แม้แบบนั้นเขาก็ยังปรามาสความดื้อด้านของเจียงฟั่นโจวต่ำเกินไป กระทั่งทำให้คนสะกดรอยได้รับบาดเจ็บกลับไปมากมาย แต่เจียงฟั่นโจวยังไม่ยอมถอนกำลังคน ความหงุดหงิดของอู๋ฝานกำลังเพิ่มมากขึ้นจนเริ่มแสดงความดุร้ายและแข็งกระด้างออกมา
“เหมือนจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเร็ว ๆ ซะแล้ว ไม่งั้นดูจากสภาพของเจียงฟั่นโจว บางทีคงพร้อมจะทำอะไรเกินเลยกว่านี้แน่” หลังถูกสะกดรอยอยู่สองวัน อู๋ฝานจึงเกิดความคิดที่จะสังหารเจียงฟั่นโจวทิ้งขึ้นมา
ตอนแรกเขาไม่ได้คิดสังหารอีกฝ่าย เนื่องจากไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน แต่เจียงฟั่นโจวตามสะกดรอยไม่จบไม่สิ้น อู๋ฝานที่เดิมคิดว่าในเมื่อไม่มีหลักฐาน ทางตระกูลเจียงก็คงทำอะไรตนเองไม่ได้ แต่แล้วเขากลับปรามาสอีกฝ่ายต่ำเกินไป ช่วงสองวันมานี้พฤติกรรมของชายคนนั้นรุนแรงและหนักหนามากขึ้น หลังส่งคนมากมายมาตามสะกดรอยครั้งแล้วครั้งเล่า เจียงฟั่นโจวไม่เพียงไม่ยอมแพ้ แต่กลับยิ่งแสดงความรุนแรงออกมา
ก่อนหน้านี้เป็นการแอบสะกดรอย ทว่าตอนนี้เป็นการสะกดรอยแบบเปิดเผย ทั้งยังมีการวางตัวสายสืบไว้รอบบ้านพักของอู๋ฝาน ทั้งหมดนี้ทำให้เขารู้สึกปวดหัว ในขณะเดียวกันก็เกิดความคิดอยากที่จะฆ่าทิ้งให้สิ้นเรื่องราวขึ้นมา
ความลับเรื่องการเทเลพอร์ตไม่อาจเปิดเผยออกไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะนำความตายมาสู่เขาอย่างแน่นอน อู๋ฝานทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี
แต่หากคิดลงมือกับตระกูลเจียง เขาก็ต้องพิจารณาถึงอิทธิพลของสำนักตะวันเพ็จ เพราะเพิ่งจัดการสะสางเรื่องราวกับวังเมฆาสีชาดมา อู๋ฝานจึงไม่อยากมีปัญหากับสำนักตะวันเพ็จในตอนนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วสำนักอื่นในเจียงโจวอาจมีความเห็นเป็นอื่น แม้จะมั่นใจในความสามารถของตนเอง แต่หากต้องเผชิญหน้ากับทุกสำนักในเจียงโจวก็นับเป็นความกดดันครั้งใหญ่
มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสองวันมานี้เขาถึงยอมอดกลั้นไม่ตอบโต้ตระกูลเจียง แต่ในเมื่อพฤติกรรมของเจียงฟั่นโจวเริ่มรุนแรง อุกอาจ และเกินเลยมากขึ้นถึงขนาดนี้ ตนก็มองว่าความอดทนถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน
“อู๋ฝาน ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนคะ? แล้วจะมาถึงเมื่อไหร่?” เสียงของเจ้าหย้าหนานดังออกจากโทรศัพท์
“กำลังไปแล้วครับ ตอนนี้อยู่ระหว่างทาง น่าจะถึงในอีกราวสิบนาที”อู๋ฝานมองกระจกหลังพลางตอบกลับ
“ค่ะ ขับระวังด้วยนะคะ”
“ครับ”
คืนนี้อู๋ฝานจะไปร่วมทานอาหารเย็นที่บ้านของเจ้าหย้าหนาน พ่อของเธอต้องการเลี้ยงอาหารเป็นการตอบแทนที่เขาช่วยเหลือตระกูลเจ้าเอาไว้ เนื่องจากเพราะมีเรื่องต้องทำมากมาย ก่อนหน้านี้เลยยังไม่มีโอกาสได้มา หลังได้รับคำสั่งซื้อจากกลุ่มการค้าจั่งหยาง หญิงสาวก็เป็นฝ่ายยุ่งจนเวลาล่วงเลยมานานเช่นเดียวกัน
จนวันนี้คำสั่งซื้อของกลุ่มการค้าจั่งหยางเสร็จเรียบร้อยดี เจ้าหย้าหนานจึงมีเวลา และบังเอิญว่าเขาเองก็ไม่ได้ติดธุระอื่น ดังนั้นจึงตอบรับการนัดหมาย
ขณะเดินทางไปร่วมทานอาหารเย็นที่บ้านเจ้าหย้าหนาน เขาย่อมไม่คิดให้คนสะกดรอยตามไปด้วย ดังนั้นหลังเลี้ยวโค้ง ชายหนุ่มจึงหาโอกาสจัดการคนสะกดรอยจนหมดสติไปอีกครั้ง จากนั้นจึงขับเดินทางต่อ
เมื่อเกิดเรื่องขึ้น เจียงฟั่นโจวย่อมทราบในเวลาสั้น ๆ และครั้งนี้เขาไม่ส่งคนไปสะกดรอยตามอีกฝ่ายเพิ่มแล้ว แต่กลับโทรหาหร่วนเจี้ยนเฟิงพร้อมเอ่ยถาม “ผู้อาวุโสหร่วน คนของผมคลาดสายตากับอู๋ฝานแถวถนนจั่งหนิง เขาน่าจะไปทำธุระอะไรบางอย่างครับ”
“ได้ รู้แล้ว ส่วนที่เหลือไม่ต้องกังวลไป” หร่วนเจี้ยนเฟิงตอบรับผ่านสายโทรศัพท์
“ผู้อาวุโสหร่วนจะลงมือกับอู๋ฝานแล้วใช่รึเปล่าครับ?” เจียงฟั่นโจวเอ่ยถาม “ต้องเค้นปากคำมันมาให้ได้ว่าฆ่าลูกชายของผมหรือไม่ได้ฆ่านะครับ”
“ฉันบอกแล้วว่าเรื่องที่เหลือนายไม่ต้องห่วง อย่าถามอะไรมากมาย ไว้เสร็จเรื่องแล้วจะมาบอกให้รู้อีกที” หร่วนเจี้ยนเฟิงตอบกลับ
“ครับ ผมจะรอคอยข่าวดีจากผู้อาวุโสหร่วนนะครับ” เจียงฟั่นโจวตอบกลับ
“อืม” ผู้อาวุโสหร่วนตอบรับก่อนจะวางสายไป
เจียงฟั่นโจวมองโทรศัพท์ของตนเองขณะครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตะโกนเสียงดัง “เรียกคนเตรียมรถออกเดินทาง!”
อู๋ฝานยังไม่ทราบว่าตระกูลเจียงและสำนักตะวันเพ็จในขณะนี้กำลังจะทำอะไร หลังจัดการคนสะกดรอยเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจึงขับรถตรงไปยังบ้านของเจ้าหย้าหนาน ในขณะเดียวกันในใจก็กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องของโลกในเกม
ทางด้านโลกแห่งเกม สองวันมานี้ค่อนข้างน่าเบื่อหน่ายพอสมควร เพราะตลอดทางมีเพียงเรื่องเดียว นั่นคือการรีบเดินทาง
หลังพวกอู๋ฝานช่วยเหลือกองกำลังป้องกันเมืองของเทศมณฑลหลิ่วอวิ๋นได้สำเร็จ พวกเขาก็ออกเดินทางตั้งแต่รุ่งสาง แม้ผู้ว่าการเทศมณฑลหลิ่วอวิ๋นและเผิงจวิ้นจะพยายามขอร้องให้อยู่ต่อสักสองวันเพื่อจัดงานเลี้ยงเป็นการขอบคุณ แต่พวกเขาก็ปฏิเสธด้วยดีและออกเดินทางต่อ
ส่วนที่เหลือจึงมีแต่การเดินทางที่น่าเบื่อ โชคดีที่ระหว่างทางยังได้พูดคุยกับอูหย่าและลั่วเยวี่ย พลางฝึกฝนวิชาปรุงยาบ้างเป็นครั้งคราว เรื่องราวจึงไม่ได้น่าเบื่อถึงขนาดนั้น
สองวันที่เร่งเดินทางค่อนข้างราบรื่น ไม่มีการเจอกองทัพกบฏหรือกองทัพโลกอสูรระหว่างทาง มีเพียงมอนสเตอร์ประปราย แต่เพราะไม่ต้องการเสียเวลา รถลากจึงเดินทางต่อเนื่องโดยไม่หยุดข้องแวะ ทั้งหมดก็เพื่อไปให้ถึงอาณาจักรหนานปิงให้เร็วที่สุด
อีกเรื่องหนึ่งที่อู๋ฝานค่อนข้างให้ความสนใจคือไข่สัตว์เลี้ยงที่ได้รับมา สองวันผ่านไปแล้วมันก็ไข่ยังไม่ฟัก แต่เมื่อมองเลขนับถอยหลัง เขาก็ไม่ได้ร้อนใจและรอไม่ได้ถึงขนาดนั้น
ยิ่งเข้าใกล้อาณาจักรหนานปิงเท่าไหร่ อูหย่าก็เริ่มมีท่าทีไม่สบายใจมากขึ้น นางเงียบลงและมีสีหน้าที่หนักอึ้งขึ้น โชคดีที่ได้ลั่วเยวี่ยคอยพูดคุยด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วหญิงสาวคงจมดิ่งอยู่กับความโศกเศร้า
ช่วงเวลาไม่ถึงสิบนาที อู๋ฝานก็มาถึงพื้นที่ใกล้ ๆ บ้านของเจ้าหย้าหนาน จากระยะห่างนี้ เขาสามารถเห็นหญิงสาวที่มารออยู่หน้าประตูได้ และหลังอีกฝ่ายเห็นรถของเขาก็ก้าวออกมาเล็กน้อยพร้อมโบกมือให้เป็นการทักทาย
“เกรงใจกันเกินไปแล้วครับ ถึงกับมารอข้างนอกแบบนี้” ชายหนุ่มยิ้มให้เจ้าหย้าหนานขณะลงจากรถ
“ฉันก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกค่ะ แต่พ่อของฉันรบเร้าให้ออกมาน่ะสิ บอกว่าแขกมาก็ต้องออกมาต้อนรับให้ดี” เจ้าหย้าหนานยิ้มด้วยความจนใจ
ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองในปัจจุบัน ปกติแล้วไม่ควรต้องมาเกรงใจกันถึงขนาดออกมารอต้อนรับนอกบ้าน แต่พ่อของเจ้าหย้าหนานไม่ได้คิดแบบนั้น เนื่องจากมองว่าแขกที่มาเยือนคือคนที่ช่วยทั้งกิจการและครอบครัวเอาไว้ เขาจะยินดีจนระมัดระวังเรื่องมารยาทการต้อนรับเลยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
…………….